ด้านนอกเมืองชิงจิง
กระเรียนฝูงหนึ่งกำลังเร่งมุ่งหน้าสู่เมืองชิงจิง โดยกระเรียนั์ที่นำหน้าขบวนมีขนาดใหญ่กว่าที่เหลือหลายเท่า
“าากระเรียน เ้าเร่งอีกได้ไหม?” จางหลี่เอ๋อร์ส่งเสียงอย่างกังวลจากบนหลังกระเรียนั์
าากระเรียนสะบัดปีกสร้างม่านสายลมออกมาเป็ระลอก ความเร็วของฝูงกระเรียนที่รายล้อมรอบมันทะยานสูงขึ้นอีก บนหลังกระเรียนทั้งหลายคือศิษย์พรรคอีกาทองคำ พวกมันทุกคนต่างล้วนมีสีหน้าวิตกกังวล ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาโกรธเกรี้ยวไปยังกระเรียนตัวหนึ่งที่รั้งท้ายอยู่
บนหลังกระเรียนตัวนั้น มีจางเจิ้งเต้าที่โดนจับมัดปั้นหน้าเศร้าอยู่
“ท่านย่า ที่ข้าพูดเป็เื่จริงนะ ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์ ข้าแค่ถูกไอ้หวังเค่อหลอกให้กินเนื้อกระเรียนเข้าไป ข้าไม่ได้ตั้งใจ ถ้าข้าหลอกลวงท่าน ข้าไปจะรนหาที่ตายถึงพรรคอีกาทองคำหรือ ข้าพยายามช่วยชีวิตศิษย์พรรคอีกาทองคำอยู่ต่างหาก ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์!” จางเจิ้งเต้าปั้นหน้าจ๋อย
ข้าอุตส่าห์วิ่งแจ้นไปแจ้งข่าวแก่พรรคอีกาทองคำ แต่พวกเ้ากลับตอบแทนข้าแบบนี้?
“จางเจิ้งเต้า หากเ้ากล้าหลอกพวกเราล่ะก็! รอไว้ไปถึงเมืองชิงจิง พวกเราจะฆ่าเ้าซะ!” จางหลี่เอ๋อร์จ้องเขม็ง
“ข้าจะกล้าหลอกได้ยังไง หวังเค่อต่างหากที่หลอกพวกท่าน!” จางเจิ้งเต้ายังคงปั้นหน้าเศร้าปนโกรธแค้น
ไกลออกไป สามารถมองเห็นเมืองชิงจิงได้แล้ว ก่อนที่วังหลวงเมืองชิงจิงจะปรากฏข่ายปราณขนาดั์กางคลุมไว้ ขณะเดียวกันก็เหมือนมีอสนีบาตสายฟ้านับไม่ถ้วนฟาดแผ่อยู่ภายในข่ายปราณ
“กลอสนี์ปะามาร? แล้วนั่นก็กระจกสะกดแสง?” จางหลี่เอ๋อร์ตาสาดประกาย
ทั้งกลุ่มเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นอีกขั้น
วังหลวงต้าชิง
อสนีบาตนับไม่ถ้วนฟาดผ่าลง มารร้ายทั้งหลายถูกพายุสายฟ้ากลืนหายไป เพียงไม่นานก็มีผู้าเ็มากมาย มารอสูรล้มตายหายไปเกือบครึ่ง
“ไม่นะ ข้าไม่อยากตาย อย่า!” เหล่ามารพากันะโอย่างสิ้นหวัง
ทว่าะโไปก็เปล่าประโยชน์ ตราบใดที่เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยยังควบคุมกลอสนี์ปะามารอยู่ วันนี้พวกมันทุกคนล้วนต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
จูหงอีก็ถูกเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยแลกชีวิตไปแล้ว วันนี้มารกลุ่มนี้ไม่รอดแน่
์คล้ายปรารถนาสังหารมารเหล่านี้อย่างแท้จริง นอกจากกลอสนี์ปะามารที่ชวนให้สิ้นหวังแล้ว ด้านนอกข่ายปราณยังมีฝูงกระเรียนปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันอีก
“เป็ศิษย์พี่หญิง นั่นาากระเรียนนี่” ศิษย์พรรคอีกาทองคำคนหนึ่งที่ถูกมัดไว้เอ่ยอย่างแปลกใจ
“หวังเค่อไม่ได้หลอกพวกเรา มันไปแจ้งข่าวแก่ศิษย์พี่หญิงจริงๆ?” ศิษย์พรรคอีกาทองคำอีกคนก็ถามอย่างแปลกใจ
จางเสินซวีพอได้เห็นพี่สาวด้านนอกข่ายปราณก็ดีใจเช่นกัน วันนี้เลวร้ายเหลือเกิน ในที่สุดข้าก็รอดแล้ว?
ศิษย์พรรคอีกาทองคำยินดีปรีดา มารร้ายยิ่งมายิ่งสิ้นหวัง
ลำพังกลอสนี์ปะามารก็ชวนสิ้นหวังพออยู่แล้ว ด้านนอกยังมียอดฝีมือฝ่ายธรรมะมากมายอีก?
“์หวังฆ่าข้า!” เหล่ามารได้แต่ร่ำร้องอย่างเศร้าโศก
ตอนนี้เอง พลันมีเสียงดังสนั่นแว่วมา กลอสนี์ปะามารหยุดชะงักกะทันหัน สายฟ้าไม่ได้ฟาดผ่าลงมาอีก มารที่เหลือรอดล้วนต่างอยู่รอดปลอดภัย
หยุดผ่าแล้ว? ทำไมกัน?
“เปรี๊ยะ กริ๊ก แกร๊ก!”
ไม่เพียงเท่านั้น ตัวกลอสนี์ปะามารยังบังเกิดรอยปริร้าวนับไม่ถ้วนขึ้นมา คล้ายพร้อมแตกสลายได้ทุกเมื่อ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“กลอสนี์ปะามารไม่เสถียร? หรือคนควบคุมเกิดทำอะไรพลาดขึ้นมา?”
“เกิดอะไรขึ้นกับเนี่ยเมี่ยเจวี๋ย? นางตายแล้วหรือไร?”
“ไม่หรอก เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยสมควรกำลังถูกโจมตี มีคนช่วยพวกเราเอาไว้?”
………
“เป็ผู้ใด? ใครช่วยพวกเราไว้?”
……
………
...
………
เหล่ามารพากันมองไปยังตำหนักบรรทมราชินีอย่างตื่นเต้น เมื่อกลอสนี์ปะามารแตกสลาย พลังของกระจกสะกดแสงพลันอ่อนโทรมลงกะทันหัน มารบางตนเริ่มจะขยับตัวได้บ้างแล้ว
พวกมันเห็นกระจกสะกดแสงลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะพุ่งหายไปทางสิบหมื่นมหาบรรพต
“ฟุ่บ!”
“พวกเรารอดแล้ว!” เหล่ามารร่ำร้องยินดี
มารตนหนึ่งโบกแขนเสื้อขณะสะอื้นไห้ด้วยความยินดี สายลมแรงหอบหนึ่งพัดพาฝุ่นผงหมอกควันรอบตำหนักราชินีออกจนมองเห็นสภาพภายในได้
พวกมันเห็นหวังเค่อกุมด้ามกระบี่ที่แทงทะลุหัวใจเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเอาไว้ แทงเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจนตาย?
มารทั้งหลายต่างนึกภาพความเป็ไปได้มากมายหลายแบบ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคนที่ลงมือสังหารเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยจะเป็คนแปลกหน้า ไม่สิ ไม่ใช่คนแปลกหน้า พวกเราล้วนจำมันได้ ก็หวังเค่อพวกเราเองไม่ใช่รึ?
วังหลวงต้าชิง
ภายในตำหนักราชินีที่ปกคลุมไปด้วยม่านหมอกฝุ่นควัน เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยฝืนทนเดินโซเซไปทีละก้าว ในใจเนี่ยเมี่ยเจวี๋ย องค์หญิงโยวเยว่ถูกมัดติดกับเสาเอาไว้แล้ว ต่อให้ตัวนางเวลานี้จะอ่อนแรงสุดเปรียบก็ยังสามารถสังหารได้ในกระบี่เดียว
ทว่าเมื่อเดินเข้าไปในตำหนัก เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเป็ต้องหยุดเท้านิ่งค้าง
“อ๊า!” “หยุดผ่าที!” “อั่ก!” “ท่านอาทวด ช่วยข้าด้วย!”…
เสียงกรีดร้องดังมาจากเสาต้นหนึ่ง จูเยี่ยน? จูเยี่ยนที่ถูกโซ่ล่ามติดกับเสาเอาไว้โดนสายฟ้าผ่าใส่ไม่หยุด ถ้าหากไม่ใช่ว่าตรวนแดงช่วยคุ้มครองมันเอาไว้บางส่วน มันคงถูกฟ้าผ่าตายไปแล้ว แม้กระนั้น คนก็ยังเือาบท่วม สภาพน่าอดสูยิ่ง!
“จูเยี่ยน? เ้า ทำไมเ้าถึงมาอยู่ที่นี่? แล้วองค์หญิงโยวเยว่อยู่ไหน?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยถามด้วยสีหน้าไม่อาจเข้าใจ
“นางเซียนชิง ช่วยข้าด้วย ข้าไม่รู้ว่าองค์หญิงโยวเยว่อยู่ที่ไหน ข้ามาถึงก็โดนลอบวางยาแล้ว ข้าแค่ขโมยถุงมือไหมทองมาจากท่านอาทวดเท่านั้น ข้าไม่รู้เื่ด้วย นางเซียนชิง ช่วยข้าด้วย!” จูเยี่ยนส่งเสียง
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ย “???”
ข้าย่อมรู้จักถุงมือไหมทองอยู่แล้ว เป็เ้าเองที่ปล่อยองค์หญิงโยวเยว่ไป? ปล่อยเสร็จแล้วก็ล่ามตัวเองไว้? จูเยี่ยนผู้นี้สติไม่สมประกอบหรือไร?
“แค่กแค่กแค่ก องค์หญิงโยวเยว่อยู่ที่ไหน?” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยถามจูเยี่ยนเสียงเข้ม
จูเยี่ยนถูกฟ้าผ่าเป็เครื่องบ่งชี้ว่ามันเป็มาร ในเมื่ออีกฝ่ายเป็มาร นางย่อมไม่มีทางช่วยเหลือมัน
“ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้จริงๆ ช่วยข้าด้วย!” จูเยี่ยนร่ำร้องอย่างเ็ป
“ช่วยเ้า? เ้าตกต่ำเข้าสู่วิถีมาร สมควรตายแล้ว!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยสะบัดกระบี่ออก
“เปรี้ยง!”
แสงกระบี่อ่อนแรงหนึ่งสายถูกตรวนแดงป้องกันไว้เสียส่วนใหญ่ แต่พลังตกค้างก็ทำให้จูเยี่ยนที่เพิ่งฟื้นต้องสลบเหมือดไปอีกครั้ง
“ตูม!”
สายฟ้ายังคงฟาดผ่าอย่างต่อเนื่อง จูเยี่ยนได้สติก่อนจะสลบซ้ำไปซ้ำมา เ็ปเหลือแสน
“แค่ก แค่ก แค่ก!”
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยส่งเสียงไอแ่เบา เวลานี้ตัวนางเป็ตะเกียงไร้น้ำมันแล้ว ไม่เหลือกำลังค้นหาองค์หญิงโยวเยว่ได้อีก หากนางยังััได้ว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาหานาง
“อาหญิงทวด นี่ข้าเอง เนี่ยเทียนป้า!” คนผู้นั้นส่งเสียง
ผู้มากลับเป็หลานของนางเอง? เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยคลายความระแวงระวังไปในพริบตา หากชั่วขณะนั้นนางพลันรู้สึกว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง ทำไมเนี่ยเทียนป้ากับจูเยี่ยนถึงได้โดนสายฟ้าไล่ผ่าเหมือนกัน?
“ไม่ได้การ แค่ก!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยส่งเสียงไออย่างอ่อนล้า
แต่สายเกินไปแล้ว
เนี่ยเทียนป้าเร่งรุดเข้ามา มันฉวยกระบี่ยาวในมือเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยมาก่อนจะแทงทะลุอกนางอย่างดุดัน
กระบี่แทงเข้าไปจนมิดด้าม
“ตูมมม!”
บังเกิดเสียงดังสนั่น กลอสนี์ปะามารสั่นะเือยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สายฟ้าทั้งมวลจะหยุดลง
“ข้าว่าแล้ว ข้าว่าแล้วเชียว อาหญิงทวด เป็ท่านควบคุมกลอสนี์ปะามารนั่นสิท่า? ท่านเป็คนควบคุมค่ายกล เมื่อท่านตาย กลอสนี์ปะามารก็จะหยุดทำงาน ค่ายกลหยุด สายฟ้าก็หยุด!” เนี่ยเทียนป้าทำท่าดีใจที่รอดตายมาได้
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยยังไม่ตาย แต่ก็คงอยู่ได้อีกไม่นานเพราะนางถูกหลานตัวเองใช้กระบี่แทงทะลุหัวใจไปแล้ว
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเวลานี้าเ็สาหัสซ้ำซ้อน ปากกระอักโลหิตไม่หยุด สายตายังคงจ้องมองเนี่ยเทียนป้าตรงหน้าเขม็ง
“เ้าเป็มาร? แค่กแค่กแค่ก เนี่ยเทียนป้า เ้ากลับเป็มารจริงๆ? แค่กแค่กแค่ก!” สายตาเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยสาดประกายโกรธเกรี้ยว
“ใช่แล้ว ข้าเป็มาร และข้ายังสามารถอำพรางไอมารของตัวเองได้ด้วย! ทำไมกัน? เพราะอะไร? อาหญิงทวด ท่านเองก็กลายเป็มารแล้ว ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ด้วย? ท่านเป็เ้าตำหนักห้าของลัทธิมารไม่ดีตรงไหน? ข้ากำลังจะมีอนาคตอันสดใส แต่เป็ท่านเอาแต่ใจจนทุกอย่างพินาศป่นปี้หมด ถ้าหากท่านอยากปะามารก็บอกข้าล่วงหน้าหน่อยก็ได้ นี่ท่านเล่นจะปะาข้าไปด้วย ข้าไม่อยากตาย ข้าไม่อยากถูกลงทัณฑ์ ข้าเสียใจ แต่ท่านตายยังดีกว่าข้าตาย!” เนี่ยเทียนป้าแทงกระบี่ในมือซ้ำอีกรอบ
“เปรี้ยงงง!”
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยถูกแทงจนโซเซถอยหลัง ปากกระอักโลหิตคำโต
“ฮ่าฮ่าฮ่า เนี่ยเทียนป้า เ้าโกหกข้า? เ้ารู้หรือไม่ว่าข้าจะให้อะไรเ้า? ในกระจกสะกดแสงข้าได้ทิ้งข้อความเอาไว้ ว่าขอมอบกุศลปราบมารทั้งหมดในครั้งนี้ให้กับเ้า ทั้งหมดล้วนให้เ้า ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้เดรัจฉาน เ้ากลับเป็มาร? เ้ากลับเป็มาร!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยไม่ทราบควรหัวเราะหรือร่ำไห้ ในใจโศกเศร้าเหลือแสน
“มอบกุศลให้ข้ามีประโยชน์อะไร? ข้าเกือบถูกฟ้าผ่าตายอยู่แล้ว ตอนนี้ท่านตายก็โทษตัวเองเถอะ!” เนี่ยเทียนป้าแทงกระบี่ในมือใส่ทรวงอกเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยอีกครั้ง
ยามนี้เอง เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยพลันสะบัดมือตบฟาดออก
“อะไร?” เนี่ยเทียนป้าหน้าเปลี่ยนสี
“บรึ้มมมมมมมม~~~~~~~~~~~~!"
ฝ่ามือรุนแรงฟาดใส่ร่างเนี่ยเทียนป้า เพียงชั่วพริบตากระดูกทั่วร่างของมันก็แหลกเป็ชิ้นเล็กชิ้นน้อย เืเนื้อสาดกระเซ็น
ต่อให้เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยาเ็สาหัสหากก็ยังเป็ชนชั้นทารกแกนิญญา เนี่ยเทียนป้าถูกตบฝ่ามือเดียวยังเกือบสิ้นลมในพริบตา
“เนี่ยเทียนป้า ข้าไม่อาจทำความปรารถนาสุดท้ายได้สำเร็จก็เพราะเ้า ข้าไม่อาจลากมารฝูงนี้ลงนรกไปพร้อมข้า ไอ้หลานอกตัญญู! พรวด!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยกระอักโลหิต
“อ้อก!”
ตรงจุดที่เนี่ยเทียนป้าปลิวกระแทกพื้น พลันมีเสียงร้องแ่เบาดังขึ้น
เสียงร้องนี้ทำให้เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยชะงักไป ในห้องโถงยังมีคนอื่นอยู่อีก?
แต่เมื่อมองไปยังจุดที่เนี่ยเทียนป้าร่วงกระแทกพื้น กลับบังเอิญเป็จุดที่หวังเค่อแอบดูอยู่พอดี บนพื้นพลันบังเกิดหลุมลึกขนาดใหญ่ หวังเค่อถูกเปิดโปงแล้ว
“หวังเค่อ แค่กแค่ก!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยอุทานอย่างไม่อยากเชื่อ
ใบหน้าหวังเค่อแข็งทื่อ มันไหนเลยจะคาดคิดว่าเนี่ยเทียนป้าจะถูกซัดกระเด็นมาโดนตนเองได้?
“เ้า เ้าตำหนักเนี่ย? ฮ่าฮ่า ข้าแค่ผ่านทางมาเท่านั้น เื่นี้ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง! เชิญท่านต่อเลย เชิญเลย ข้าไปก่อนล่ะ!” หวังเค่อรีบวิ่งแจ้นทันที
“หยุดก่อน แค่ก!” แววตาของเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยพลันทอแววตื่นเต้นยินดี
“เ้าตำหนักเนี่ย ไอ้เนี่ยเทียนป้ามันยังไม่ตาย มันกำลังจะหนีแล้ว ข้าจะช่วยท่านไล่จับมันเอง! ข้าไปล่ะ!” หวังเค่อชี้นิ้วไปทางเนี่ยเทียนป้าที่คืบคลานอยู่บนพื้นพลางส่งเสียงะโ
เนี่ยเทียนป้าทั้งถูกฟ้าผ่า ทั้งกระดูกทั่วร่างแตกละเอียดบอบช้ำสาหัส มันรั้งอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว มันจำต้องคลานหนีไปยังวังใต้ดินที่อยู่ไม่ไกล ทำไมชีวิตข้าถึงได้น่าอดสูปานนี้!
“ไม่ต้องตาม มานี่ มานี่ก่อน!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยส่งเสียง
หวังเค่อหน้าบูดอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ยังเดินไปหาเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยอยู่ดี
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยคว้ามือขวาหวังเค่อเอาไว้ ก่อนจะกรีดแผลรีดโลหิตออกมาหนึ่งหยด
“ท่านเ้าตำหนัก ท่านเฉือนนิ้วข้าทำไม? ข้าเป็ผู้บริสุทธิ์นะ” หวังเค่อเอ่ยอย่างกังวล
“แค่กแค่ก วิถีฟ้าเป็พยาน กระจกสะกดแสงเป็เครื่องพิสูจน์ ด้วยบัญชาของข้าเนี่ยชิงชิง กุศลปราบมารครั้งนี้ไม่ใช่ให้แก่เนี่ยเทียนป้า แต่มอบให้หวังเค่อ! ขอโลหิตหยดนี้เป็เครื่องนำทาง! ไม่มีผิดพลาด!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยขยับมือเล็กน้อย
“หึ่ง!”
โลหิตของหวังเค่อหยดนั้นคล้ายถูกลงอาคม เพียงพริบตาก็ทะยานขึ้นสูงฟากฟ้า จมหายไปในกระจกสะกดแสง
“เ้าตำหนักเนี่ย นี่ท่าน…?” หวังเค่อกล่าวอย่างใ
“เนี่ยเทียนป้ากลายเป็มารไปแล้ว จะมอบกุศลให้มันไปก็เสียของเปล่าๆ เ้าเป็ศิษย์ของท่านประมุข ให้เ้ายังประเสริฐกว่า! ต่อจากนี้เ้าต้องหาทางหลบหนีด้วยตัวเอง!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยเอ่ย
กล่าวจบ นางก็คล้ายรีดเค้นแรงเฮือกสุดท้ายชี้นิ้วขึ้นสู่ฟ้า
“กระจกสะกดแสง กลับสู่พรรคเทพหมาป่า์ ไป~~~~~~!" เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยสั่ง
“ซูม!”
บนท้องนภา กระจกสะกดแสงพลันกลายเป็คลื่นแสงสีฟ้าสายหนึ่งทะยานออกไปจากวังหลวงต้าชิง มุ่งหน้าสู่ทางเหนือของสิบหมื่นมหาบรรพต ด้านหลังมันคล้ายมีกระเรียนตัวหนึ่งคิดไล่ตามไปแต่ไม่ทัน
หวังเค่อมองอย่างสับสน นี่ นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“เร็วเข้า รีบหนี!” เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยกล่าวปิดท้าย ก่อนดวงตาของนางจะปิดลง
เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยตายแล้ว?
หวังเค่อมองเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยอย่างตื่นตะลึง เมื่อกี้ก็คือคำสั่งเสีย?
“เ้าตำหนักเนี่ย ท่านรอก่อนอย่าเพิ่งตาย ท่านบอกทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ไม่อย่างนั้นกลับไปแล้วข้าจะอธิบายให้ท่านอาจารย์ฟังได้ยังไง!” หวังเค่อเอ่ยอย่างหดหู่
นี่มันเื่อะไรกันแน่?
“ฟุ่บ!”
ยามนี้เอง สายลมแรงหอบหนึ่งพลันพัดโหม กวาดเอาฝุ่นผงหมอกควันไปจากตำหนักบรรทมราชินี หวังเค่อที่เห็นฝูงมารร้ายด้านนอกเป็ต้องสะดุ้งโหยง
ขณะหวังเค่อกำลังจะหลบหนี ก็เห็นเหล่ามารต่างพากันชี้นิ้วมาทางตนอย่างปลื้มปีติ
“เป็มัน เป็มันสังหารเนี่ยเมี่ยเจวี๋ย?”
“มันเป็คนคลายกลอสนี์ปะามาร?”
“เ้าหนูนั่น ข้าจำมันได้ มันชื่อว่าหวังเค่อ?”
.........
“มันช่วยพวกเราไว้!”
......
“หวังเค่อช่วยพวกเราไว้?”
...
.........
ฝูงมารอสูรต่างแหกปากร้องะโอย่างผู้รอดชีวิต
หวังเค่อ “??????”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้