เมื่อทั้งสองคนจัดการหนูเข็มทองคำพวกนั้นเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เดินเข้าป่าอย่างรวดเร็วอีกครั้ง หลังจากที่ผ่านกลุ่มหนูเข็มทองคำมาแล้ว หานรุ่ยและจุนเช่อก็ได้พบกับสัตว์อสูรอีกหลายตัวที่มีระดับไม่ได้สูงมาก ยังไม่ทันที่หายรุ่ยจะออกแรง จุนเช่อก็จัดการพวกมันไปแล้ว สัตว์อสูรที่อาศัยอยู่รอบ ๆ ป่าหลานอู โดยส่วนใหญ่จะมีระดับพลังลมปราณอยู่ต่ำกว่าขั้นที่สี่ สำหรับหานรุ่ยและจุนเช่อที่เป็นักพรตลมปราณขั้นที่สี่แล้วนั้น ไม่ถือว่าเป็ปัญหา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงเข้าสู่อาณาเขตที่เสาะแสวงหาในวันนี้ได้อย่างง่ายดาย
สัตว์อสูรที่เป็เป้าหมายในการทดลองยาของหานรุ่ย คือ ‘วานรขนทองตาขาว’ ซึ่งมีขนยาวสีเหลืองทอง บริเวณโดยรอบดวงตาเป็สีขาวที่เลื่องชื่อ วานรขนทองตาขาวเป็สัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติธาตุไม้ หานรุ่ย้าสัตว์อสูรประมาณขั้นที่สี่ถึงขั้นที่ห้ามาใช้ในการทดลองยา เขารู้สึกว่า ยิ่งมีระดับลมปราณสูง ฤทธิ์ของยาก็จะยิ่งดีขึ้น ทั้งสองคนไม่กล้าลงมือในฝูง พวกเขาอยากหาแค่สักสองตัว เพื่อทำตามใบสั่ง ทว่าทั้งสองคนรอมากว่าครึ่งวันแล้ว ก็ยังไม่มีตัวไหนแตกฝูงออกมาเลย ในฝูงมีวานรขนทองตาขาวประมาณ 10 กว่าตัว พลังปราณของแต่ละตัวไม่อ่อนแอ หากหานรุ่ยและจุนเช่อจะต่อสู้แบบตัวต่อตัวกับลิงฝูงนี้ จะต้องพ่ายแพ้และาเ็เป็แน่ พวกเขาแค่อยากจะทดลองยา ไม่คุ้มเลยที่จะทำการเคลื่อนไหวใหญ่โต แต่ทว่าเหตุการณ์ไม่ได้เป็ไปดังคิด ไม่รู้ว่าจ่าฝูงของลิงกลุ่มนี้ บุญหนักศักดิ์ใหญ่หรือมีความน่าเชื่อถือขนาดไหน ถึงได้ไม่มีลิงแตกฝูงออกมาเลย แม้แต่ตัวเดียว
“น้องสะใภ้ เราควรทำอย่างไรกันดี? พวกมันมีวินัยกันมาเหลือเกิน ไม่มีสักตัวที่แตกฝูงออกมาเลย” จุนเช่อพูดกระซิบกับหานรุ่ยที่อยู่ข้างกาย
“ใช่ พวกมันไม่แตกฝูงออกมาเลย ดูท่าเื่นี้จะไม่ง่ายเสียแล้ว” หานรุ่ยกล่าว พลางเหล่มองไปทางฝูงลิงกลุ่มนั้น
“ต่อให้พวกเราเข้าปะทะ แผนการที่จะชนะก็มีไม่มาก มีหลายตัวทีเดียวที่ทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงอันตราย” จุนเช่อเอ่ยพลางมองไปทางฝูงวานรขนทองตาขาวเช่นกัน
“เข้าปะทะไม่ได้ เพราะพวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมัน ข้าขอใช้ความคิดสักหน่อย ข้าว่าต้องมีวิถีทางอื่นเป็แน่ ถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเราคงต้องหาคู่ของสัตว์อสูรที่อาศัยอยู่ที่นี่ตามลำพังแทน เป็เพราะข้าคิดไม่รอบคอบเอง การลงมือกับสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็ฝูงนั้นไม่ง่ายเลย” หานรุ่ยกล่าว
จนกระทั่งเมื่อหานรุ่ยเห็นวานรขนทองตาขาวกินผลไม้ป่า ดวงตาของเขาก็เป็ประกายและเอ่ยขึ้นว่า “ได้การละ พวกเรายัดยาิญญาเข้าไปในผลไม้ิญญา จากนั้นก็ขว้างเข้าไปในเขตของวานรขนทองตาขาวไหม แม้ว่าฤทธิ์ของยาจะลดลง แต่ก็ถือว่าเป็อีกวิธีหนึ่ง จุนห่าวให้ยาข้ามา 20 ขวด 1 ขวดสามารถยัดใส่ในผลไม้ิญญาได้ 5 ผล จากนั้นก็ขว้างยาิญญาอีก 3 ขวดเข้าไป ส่วนอีก 1 ขวดก็เปิดปากออก สัตว์อสูรจะไวต่อสิ่งที่มีพลังปราณเป็พิเศษ เรามาลองดูกันว่าได้ไหม หากไม่ได้ เราค่อยเปลี่ยนสถานที่ก็แล้วกัน”
“ก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ถ้าอย่างนั้นมาลองดูกันก่อนเถอะ” จุนเช่อไม่ค่อยชอบวิธีนี้ของหานรุ่ยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ลองดูสักหน่อยก็คงไม่เป็ไร
เมื่อทั้งสองบอกว่าจะทำก็ต้องทำ และร่วมมือกัน “น้องสะใภ้ ข้าพร้อมแล้ว เราจะเริ่มเมื่อไหร่ดี” จุนเช่อถามพลางถือผลไม้ิญญาในมือ จุนเช่อมองดูผลไม้ิญญาอย่าลังเล พลางคิดในใจว่า ‘น้องสะใภ้ ช่างกล้าหาญชาญชัยนัก ผลไม้ที่เต็มไปด้วยพลังิญญาแบบนี้ ย่อมไม่ถูกอย่างแน่นอน’
หานรุ่ยมองดูเหล่าวานรที่เอ้อระเหยและกระหยิ่มยิ้มย่อง ก็เอ่ยขึ้นมาว่า “ตอนนี้แหละ ถ้าเสร็จเร็ว ก็จะได้กลับเร็ว”
เมื่อหานรุ่ยพูดจบ ทั้งสองคนจึงเตรียมการโยนผลไม้และยาิญญาเข้าไปในอาณาเขตของฝูงวานรขนทองตาขาว จากนั้นก็เปลี่ยนที่หลบซ่อนตัวในทันที
เมื่อเหล่าวานรขนทองตาขาวเห็นยาิญญาและผลไม้ิญญาถูกขว้างเข้ามา พวกมันก็มองไปรอบ ๆ อย่างระแวดระวัง เมื่อไม่พบสิ่งใด จึงหยิบมันขึ้นมา วานรขนทองตาขาวไม่ได้มีสติปัญญาที่เปิดกว้างมาก พอเห็นของดี ก็ไม่คิดอะไร มันดื่มยาิญญาไป 1 ขวด เมื่อรู้สึกว่าไม่เลว มันก็ดื่มต่ออีกหนึ่งขวด มันดื่มยาที่เปิดแล้วจนหมดเกลี้ยง จากนั้นก็กินผลไม้ิญญาต่อจนหมด เมื่อหานรุ่ยและจุนเช่อเห็นถึงตรงนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี จ่าฝูงโลภมากเกินไปแล้ว กินทุกอย่างอยู่ตัวเดียว และยังเก็บไว้ให้ตัวมันเองตัวเดียวอีก เหล่าวานรขนทองตาขาวตัวอื่น ๆ ก็ไม่กล้าหมางใจกับจ่าฝูง จึงทำได้แค่เฝ้าดูจ่าฝูงกินของเ่าั้เข้าไปในท้องของมัน เมื่อจ่าฝูงวานรกินเสร็จไปสักพัก ยาก็เริ่มออกฤทธิ์ ก่อนที่สัตว์อสูรจะมีสติปัญญา ต่างก็เป็สัตว์ป่ามาก่อนทั้งนั้น เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอะไรให้รู้สึกละอาย มันดึงวานรเพศเมียที่อยู่ข้าง ๆ มันมา หลังจากนั้นจ่าฝูงก็คึกราวกับลิงโลด เปิดศึกติดต่อกันสามวันสามคืน กว่าจะหยุด ก็หลังจากเสร็จกิจเรียบร้อย จ่าฝูงไม่เพียงแต่ไม่มีอาการเซื่องซึม ซ้ำยังกระปรี้กระเปร่าและมีชีวิตชีวา ส่วนวานรเพศเมียนั้นแทบตาย!
หานรุ่ยและจุนเช่อซ่อนตัวอยู่ตรงต้นไม้ไม่ไกล พวกเขาต้องซ่อนตัวอยู่สามวันสามคืน จนกระทั่งจ่าฝูงเสร็จกิจ ทั้งสองคนจึงกลับบ้านไปอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนว่าฤทธิ์ของยานี้ไม่เลวเลยทีเดียว
