“อะนิกิ1 เ้านี่เหรอที่เป็าาแห่งความตาย? ดูไก่อ่อนมากเลยนะ?” คิงต้าลี่กล่าวกับเ้าหน้าบากตาเดียวไขมันบนใบหน้านั้นดูเหมือนว่าจะสั่นและร่วงลงพื้นได้ทุกเมื่อ
“อย่าประมาทมัน ระหว่างที่ฉันโทร.ตามแกมามันชนะไปแล้วกว่าพันคนด้วยมือข้างเดียว ดูที่แขนของมันสิ อย่างกับเหล็กดำทะมึน”ถึงเ้าหน้าบากตาเดียวจะไม่ชินกับเสิ่นิแต่ชายหนุ่มก็เอาชนะได้อย่างชอบธรรมมาโดยตลอดจนกระทั่งถึงขณะนี้สิ่งนี้ทำให้ผู้คนอดที่จะชื่นชมไม่ได้
“จริงหรือ? แต่มือข้างนั้นจะมีปัญญาสู้ฉันได้เหรอ?”ต้าลี่ฉีกยิ้มและนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเสิ่นิเก้าอี้ที่น่าสงสารถูกไขมันที่สะโพกของเ้าซูโม่ทับจนเยินผิดรูป
“ไอ้ตัวแสบ ฉันเป็นักมวยปล้ำซูโม่ระดับโยโกสุนะ อิจิสึกิผู้คนให้ฉายาฉันว่าคิงต้าลี่ ฉันเห็นว่ามือขวาของแกกำลังจะขาดแล้วฉันไม่อยากเอาเปรียบ มาสู้กันด้วยมือซ้ายเถอะ!” แม้ว่าอิจิสึกิจะเป็สมาชิกแก๊งมาเฟียแต่เขาก็มีน้ำใจนักกีฬา
“แกจะเก็บมือขวาไว้ชักว่าวล่ะสิ? ทำเป็เฉไฉ”เสิ่นิซึ่งเหงื่อโทรมกายยังคงหยิ่งผยอง เขาตั้งแขนดำเมี่ยมขึ้นบนโต๊ะ
เมื่อถูกสบประมาทอิจิสึกิก็มีสีหน้าที่ดุร้ายขึ้นมาทันที “ไอ้แสบ แกหาเื่ตายหรือยังไง?”
“อุ่นเครื่องเสร็จแล้ว นับจากแกเป็ต้นไป ฉันจะเอาจริงแล้วนะ”เสิ่นิกล่าวเสียงเรียบในขณะที่ยิ้มเยาะ
“ขี้โม้ หน้าไม่อาย พวกคนจีนชอบพูดจามั่วซั่วไปเรื่อยอย่างนั้นน่ะเหรอ?”เ้าหน้าแผลเป็กล่าวประชดประชัน
“พอ! ไม่ต้องแข่งแล้ว!” ในที่สุดคานาโกะก็ทนไม่ไหวเธอออกหน้ากล่าวยุติการประลอง สุนทรพจน์ที่อยู่ในหัวนั้นถูกลืมจนหมดสิ้นสิ่งที่เธอกังวลใจในตอนนี้ก็คือท่อนแขนเหล็กของเสิ่นิ “เราไปกันเถอะงานจบแล้ว!”
“ไปเหรอ? ได้ แต่ทิ้งมือกับทองคำเอาไว้”เ้าหน้าบากตาเดียวยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
“ไม่เป็ไร คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะ ผมก็ทำงานของผม จะไม่ให้รบกวนคุณ”เสิ่นิซึ่งเหนื่อยล้าจนหน้าซีดแต่กลับยิ้มให้ แววตาของเขาไม่ได้มีความกลัวหรือความเสียใจเลยแม้แต่น้อยเขาจะผิดคำสัญญาที่ให้กับคานาโกะไม่ได้
คานาโกะรู้สึกเสียใจที่เธอดึงดันที่จะมาที่นี่ทำให้เสิ่นิต้องเข้าไปพัวพันกับภัยซึ่งไม่ได้เป็ของเขาเลย
“ไอ้แสบ ดูถูกคนอื่นซะขนาดนี้ งั้นก็มาเล่นใหญ่กันหน่อยดีกว่า!”อิจิสึกิดึงมีดสั้นสองเล่มออกมาจากหลังเอว เขาปักมันลงที่สองด้านของโต๊ะใบมีดทะลุแผ่นโต๊ะลงไป ง่ายดายเหมือนกับการเจาะกระดาษหน้าต่าง ใครก็ตามที่พ่ายแพ้จะต้องถูกแทงที่แขนด้วยมีดสั้นภาพนองเืทำให้เ้าหน้าที่เซนเซอร์ที่เตรียมงานมานานรู้สึกหิวกระหาย
“เ้าอ้วนเอ๋ย แกสร้างบรรยากาศได้ครึกครื้นทีเดียว” เสิ่นิกล่าวยกย่อง
“ถ้ากลัวก็เรียกฉันว่าพ่อสิ แล้วฉันจะยอมให้แกแพ้อย่างไม่ต้องลำบากใจ”อิจิสึกิยิ้มจนตัวสั่น
“เร็วหน่อยได้ไหม ฉันรีบ”เสียงเร่งเร้าของเสิ่นิขัดจังหวะความเย่อหยิ่งของคิงต้าลี่มือที่ใหญ่เหมือนกับเสาโทรศัพท์วางอยู่บนโต๊ะเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังขึ้นจากมุมโต๊ะโลหะ ทนเอาคืนไม่ไหวแล้ว
มือสีดำเมี่ยมของเสิ่นิประกบเข้ากับมือของเ้าอ้วนประหนึ่งมือของผู้ใหญ่กับมือของทารก
“ทำไม? ทำไมถึงต้องทำขนาดนี้?” คานาโกะสับสน
“ใจถึง มันเป็นิสัย” เสิ่นิยิ้มเ้าเล่ห์
“ฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนสับมือนาย ต่อให้ต้องฆ่าหมดทุกคนที่นี่”เซี่ยวอี๋เตรียมก่อฏ
“เริ่มได้!” การประลองแห่งศตวรรษได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็ทางการคิงต้าลี่ทำเสียงเห่าหอน กล้ามเนื้อใต้ชั้นไขมันะเิพลังกดปลายแขนของเสิ่นิให้ไปยังจุดที่อยู่ห่างจากมีดสั้นไปแค่เพียงไม่กี่มิลลิเมตรหากมองดูจากด้านข้าง ดูเหมือนว่าแขนของเสิ่นิกำลังจะหัก
แขนของคนทั้งคู่สั่นสะท้านเส้นเืของเสิ่นิปูดขึ้นทั้งแขน
“ไอ้แสบ แรงดีนี่!” ตลอดชีวิตของคิงต้าลี่เคยงัดข้อมานับครั้งไม่ถ้วนแต่เขาก็ไม่เคยพบคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังเช่นนี้ อย่างที่รู้ๆ ว่าเขาเป็สัตว์ประหลาดที่สามารถยกนักมวยปล้ำซูโม่หนักร้อยกิโลกรัมได้ด้วยมือเดียวแต่กลับหมดปัญญาดันแขนของเสิ่นิให้ลงไปอีก 1 มิลลิเมตร
“เข้าใจแล้วว่าแกไม่ใช่ขยะชั่งกิโล ที่แท้ก็พอมีแรงอยู่บ้าง”เสิ่นิหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวว่า “จะให้โอกาสแกอีกสักครั้ง ถ้าแกบอกว่าเกาะเซ็งกากุ2เป็ของประเทศจีน ฉันก็จะให้แกได้แพ้อย่างไม่ลำบากใจ”
การยั่วยุครั้งนี้ทำให้เส้นเืสีเขียวบนใบหน้าของคิงต้าลี่ปูดขึ้นมาก็รู้อยู่ว่าเขาอ้วนแค่ไหน ทำให้เส้นเืบนใบหน้าของเขาปูดขึ้นมาได้นั่นหมายความว่าเขาโมโหจนเส้นเืแทบจะะเิแล้ว
“ไปตายซะไอ้ไชน่าด็อก! ไปลงนรกซะ! ไปลงนรกซะ! ไปลงนรกซะ! ไปลงนรกซะ!”คิงต้าลี่กระทืบพื้นและคำราม เขาะเิแรงขึ้นทีละนิดแขนของเสิ่นิถูกกดลงไปอีกสองสามมิลลิเมตร ปลายมีดบาดิัของเขาเืไหลลงตามใบมีด
ผู้ชมที่หน้าโทรทัศน์พากันโห่ร้องพิธีกรภาคสนามส่งเสียงเชียร์ คานาโกะปิดปากน้ำตาคลอเบ้าเซี่ยวอี๋เตรียมพร้อมก่อจลาจล
แต่ทันใดนั้นเสิ่นิก็สูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง พลังถูกส่งขึ้นมาจากฝ่าเท้าเทคนิคการควบคุมกล้ามเนื้อถูกเปิดใช้งานขึ้นอีกครั้งเสิ่นิเหมือนกับสัตว์ประหลาดจู่โจมแขนของคิงต้าลี่บนโต๊ะ
แรงกดย้อนกลับอย่างรุนแรงและรวดเร็วเกินคาดคิงต้าลี่ยังคงยิ้มหน้าบาน ในขณะที่แขนหมุนไป 180 องศามีดสั้นเจาะเข้ากับท่อนแขนของคิงต้าลี่แต่นี่ไม่ใช่ที่มาของความเ็ปของเขาอีกต่อไป
ความแข็งแกร่งของเสิ่นิทำให้กระดูกที่ต้นแขนของเขาบิดเบี้ยวกระดูกหักทะลุชั้นไขมันและกล้ามเนื้อของเขากระทั่งโผล่พ้นออกมาที่ด้านนอกของิั แขนของเขาสามารถกลายร่างอย่างไม่น่าเชื่อ
“เฮ้...นี่มันเื่ตลกอะไรกัน?” คิงต้าลี่เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อที่แขนขวาของเขาไร้ความรู้สึกไปแล้ว ความเ็ปอย่างรุนแรงทำให้เขารู้สึกช้าไป 3วินาที ก่อนจะร้องลั่นและล้มตัวลงกับพื้น
เสียงดัง“ปัง” โต๊ะแตกเป็เสี่ยงเหมือนกองขี้เลื่อยที่เกิดเหตุน่าใมากจนกระทั่งเ้าหน้าที่ลืมเบลอภาพมือที่ถูกตัด
“น่าเสียดาย โต๊ะพังแล้ว”เสิ่นิยิ้มพลางเอนตัวไปหยิบทองคำสิบแท่งขึ้นมาจากพื้นเขามองไปยังเหล่านักเลงที่รอคิวอยู่ที่ด้านหลังของคิงต้าลี่อย่างยั่วยวน“เปลี่ยนเป็โต๊ะเหล็กแล้วเราค่อยมาต่อกัน แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะฉันอุ่นเครื่องเสร็จแล้ว คนต่อไปจะไม่มีการออมแรงให้อีกพวกแกรักษามือขวาของตัวเองไว้ให้ดีล่ะ”
เสิ่นิเหมือนปีศาจที่หลุดออกมาจากขุมนรกเหล่านักเลงพากันตกตะลึง พูดไม่ออกจิ๊กโก๋หลายรายที่อยู่ด้านหลังได้แต่แอบหนีหายไปอย่างเงียบๆ ทองแท่งนั้นดีแต่พวกเขาคงไม่ต้องถึงขนาดแลกมาด้วยแขนข้างหนึ่งใช่ไหม? อย่างไรเสีย ก็ต้องเก็บแขนเอาไว้ทำมาหากิน!
“แกชื่ออะไร? พ่อหนุ่มจีน…”เ้าหน้าบากตาเดียวให้ลูกน้องพยุงคิงต้าลี่ขึ้นมาก่อนจะมองไปที่เสิ่นิด้วยความทึ่ง แม้แต่คำเรียกชื่อก็ยังเปลี่ยนไป
“เสิ่นิ จากบริษัทรักษาความปลอดภัยตระกูลเสิ่น เมืองหลินไห่ ประเทศจีน”เสิ่นิใช้ภาษาญี่ปุ่นแบบทางการในการกล่าวพลางหันศีรษะไปทางกล้องที่อยู่บนไหล่ของช่างภาพซึ่งอยู่ข้างๆ เขา “ฟังชื่อของผมไว้ให้ชัดๆจำหน้าผมไว้ให้แม่นๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ผมจะไปหาคุณ ต่อให้คุณตายผมก็จะขุดคุณขึ้นมาจากหลุมศพ ใช้เืของคุณชำระหนี้โลหิตให้กับบ้านเสิ่น!”
เจตนาฆ่าของเสิ่นิถูกเผยแพร่ไปทั่วทั้งญี่ปุ่นเขาเป็เพียงแค่คนคนหนึ่งที่ปลุกปั่นคนทั้งประเทศ และในขณะนี้ ณระเบียงลานญี่ปุ่นโบราณ ดอกซากุระกำลังร่วงหล่น ชายชราสองคนกำลังเล่นโกะกันอยู่เสินหวั่นในชุดกิโมโนนั่งอยู่ข้างพวกเขา น้องสาวตัวน้อยของเสิ่นิกำลังชงชาเขียวอย่างสงบนิ่ง
“ลูกบุญธรรมของเสิ่นฉงหยาง...ไม่คิดเลยว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ดูจากเทคนิคการควบคุมกล้ามเนื้อแล้ว น่าจะเป็พวกนิพพานนั่นแหละ”ชายชราผิวคล้ำหันศีรษะไปมองที่โทรทัศน์แล้วยิ้ม “หวั่นไหนลองแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับพี่ชายที่ไม่ได้ความของเธอหน่อยสิ?”
“ฉันเคยพบพี่ที่เมืองจีน รู้สึกว่าพี่แข็งแกร่งจริงแต่ยังไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ของตนเอง ด้วยความเกลียดชังเล็กน้อยเขารีบมายังแผ่นดินของเรา รนหาที่ตายชัดๆ” มุมคิ้วของเสินหวั่นไม่กระตุกเลยด้วยซ้ำเธอวางถ้วยชาที่ชงแล้วสองถ้วยลงตรงหน้าผู้เฒ่าทั้งสองอย่างใจเย็น
“ผู้นิพพานนั้นหาได้ยากจริงๆ แต่สำหรับ ‘ผลงาน’ ตรงหน้าฉันแล้วเขาก็เป็เพียงการดำรงอยู่ของยุคโบราณอันคร่ำครึ”ชายชราผิวขาวที่สวมชุดกาวน์สีขาวของนักวิทยาศาสตร์เผยรอยยิ้มออกมา
“ช่างไม่รู้ความ ปล่อยให้เขาได้ใจไปสักพักก่อนเถอะ พอเขาเสียชีวิตแล้วฉันจะยอมให้หวั่นฝังเขากับมือ” ชายชราผิวดำกล่าวอย่างใจกว้าง
“ขอบคุณค่ะท่านประธาน” เสินหวั่นโค้งคำนับอย่างสุภาพ
เสิ่นิโด่งดังขึ้นจากศึกครานั้นคุราชินะคานาโกะและสโลแกนรณรงค์การต่อต้านแก๊งมาเฟียของเธอแพร่กระจายไปทั่วทุกหนแห่งในเมืองาสนธิสัญญาทองคำยุติลงที่พวกอันธพาลหนีหายไปกันหมด ช่างน่าขายหน้า
สิ่งที่ทุกคนเห็นไม่ใช่แค่จุดอ่อนของแก๊งมาเฟียเท่านั้นแต่ยังเห็นถึงความหวังของกฎหมายต่อต้านมาเฟียด้วย ปรากฏว่าคนที่ดุร้ายเ่าั้ผู้ไม่กลัวเกรงต่อผู้ใด เมื่อเผชิญหน้ากับอำนาจที่แท้จริงพวกมันก็เป็เพียงแค่ขยะสังคมที่ดูน่ารังเกียจ
อัตราในการชนะเลือกตั้งของคานาโกะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณความเ็ปของเสิ่นิก็เช่นกัน
มือขวาของเขาไม่สามารถขับเ้าSMARTได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงยกให้อาคิตะและลีอาห์ขับเสิ่นิที่นั่งอยู่ในรถตู้มีอาการกระตุกไปทั้งตัว
“เอามีดมาให้ผม!” เสิ่นิกัดฟันพูดกับเซี่ยวอี๋
เซี่ยวอี๋ยื่นมีดผลไม้ไปให้เสิ่นิเสิ่นิฟันแผลที่แขนขวาอันดำเมี่ยมกว่า 30 แผลต่อหน้าทุกคน
ความดันสูงทำให้เืคั่งในรอยช้ำนั้นแทบจะกระเด็นออกมามันถึงขนาดพุ่งใส่หน้าคานาโกะ
เืไหลเป็สายไปตามแขนเสิ่นิได้แต่เอนตัวบนเบาะเหมือนไม่ได้สนใจ เขายกถุงกลูโคสดื่มเข้าปากไปจากนั้นก็แขวนถุงเื ถ่ายเืจากแขนข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง
หลังจากถ่ายเือยู่3นาที ในที่สุดความดำคล้ำที่แขนของเขาก็จางหายไปเืไม่ไหลออกมาอีกแล้ว แต่ใบหน้าของเขากลับซีดขาว
“นายเล่นหนักเกินไปแล้ว!” เซี่ยวอี๋มัดแขนของเสิ่นิในขณะที่ปากก็บ่นไปด้วย“ดูสิ นายาเ็ขนาดนี้ ถ้าเมื่อครู่พวกนักเลงไม่ได้ใกลัวแล้วหนีไปนายคิดว่าจะยังรักษามือข้างนี้เอาไว้ได้อีกหรือเปล่า?”
“ถ้ารักษาเอาไว้ไม่ได้ อย่างน้อยก็น่าจะจัดการได้อีกสัก 10 คน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว” แผนของเสิ่นิไม่มีอะไรการันตีทุกอย่างใช้โชคช่วยล้วนๆ
“คุณเสิ่นิ อาริกาโตะโกะไซมัส!” คานาโกะน้ำตาเอ่อล้นทั้งสองข้างเธอขอน้อมรับและขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจขอขอบคุณเสิ่นิสำหรับความช่วยเหลือในการประชาสัมพันธ์และยังรู้สึกขอบคุณที่เขาเกือบจะสูญเสียแขนของเขา เนื่องด้วยความรับผิดชอบที่มีต่อคำขอของตน
“ไม่เป็ไร บอดี้การ์ดมีหน้าที่ทำสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว” เสิ่นิยิ้ม
******************************
1 อะนิกิ = ลูกพี่
2 หมู่เกาะเซ็งกากุหลังการส่งมอบพื้นที่คืนฐานทัพสหรัฐในปี พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972)ก็ถือว่าเกาะเป็ส่วนหนึ่งของจังหวัดโอกินาวะ ญี่ปุ่น โดยมีการโต้แย้งจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐจีน ที่อ้างว่าดินแดนนี้เป็ของจีนมาั้แ่คริสต์ศตวรรษที่ 14เป็ส่วนหนึ่งของเทศมณฑลอี๋หลาน