พระอาทิตย์ในวันนี้ลอยสูงส่องสว่าง นกกำลังส่งเสียงร้องอย่างมีความสุข
ต้นผลไม้ป่าที่อยู่ไม่ไกลถูกแสงอาทิตย์อาบจนส่องแสงบางๆ ออกมา
สภาพแวดล้อมสวยงามเช่นนี้เป็สถานที่ที่ไม่เลวเลยจริงๆ
ทว่าท่ามกลางสถานที่ที่มีทิวทัศน์สวยงามกลับมีเสียงม้าควบกุบกับดังมา
แม่นมกรีดร้องออกมา“คงไม่บังเอิญเช่นนั้นจริงๆ หรอกใช่หรือไม่ ที่นี่มีโจรูเาหรือ!”
เฉินเนี้ยนหรานก็กรีดร้องในใจมีเพียงสาวใช้ฝูที่ไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมา
นางกลัวว่าตนเองจะเป็คนปากเสียส่วนเด็กเสี่ยวถวนถวนก็จ้องไปข้างหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น ชัดเจนว่าเขาถูกเสียงควบม้าตรงหน้าทำให้ใ
“ฮี้…”
เสียงฝีเท้าม้าหยุดลงพร้อมกับบุรุษทั้งสิบคนที่มาพร้อมกับม้า ตอนที่เห็นว่ามีเพียงรถม้าคันเดียวของพวกนางคนที่เป็หัวหน้าก็แสดงสีหน้าไม่พอใจออกมาชัดเจน
“ท่านหัวหน้าขอรับเป็แค่รถม้าคันหนึ่ง”
“ไปเอามา…”
ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเนือยๆดังมา เสียงนี้ ให้ความรู้สึกว่ายังเยาว์
หนุ่มมากทั้งยังเป็เสียงหนุ่มที่เพิ่งจะแตกเสียงหนุ่ม
หรือก็คือหัวหน้าของกลุ่มโจรพวกนี้ก็คือเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะเสียงแตก!
เฉินเนี้ยนหรานทำหน้าหน่ายนางจ้องกลุ่มโจรที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้านิ่ง ในใจต่อว่าหนิงเซียงจนเืสาด
“ฮือไม่เอานะเ้าคะ ข้าจะไม่พูดจาไม่คิดอีกแล้ว คุณหนูช่วยด้วย ข้าต่อสู้ไม่เป็ ฮือ…”
แม่นมใจนขดตัวเป็ก้อนกลมตัวสั่นอยู่ในรถม้า
เฉินเนี้ยนหรานที่อุ้มถวนถวนอยู่กลับเป็คนที่นิ่งสงบที่สุดความจริงแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ทว่าจะหวาดกลัวตอนนี้ย่อมแก้ไขปัญหาไม่ได้เพื่อลูกแล้ว อย่างไรก็ต้องลุกขึ้นยืนมาให้ได้!
ม้าของโจรูเาล้อมรถม้าเอาไว้คนขับรถม้าใจนกอดหัวทำหน้าตาน่าสงสาร
ตอนที่ม้าทุกตัวแหวกทางแล้วเปิดช่องทางตรงกลางไว้ เฉินเนี้ยนหรานจึงเห็นใบหน้าที่ดูเด็กมากปรากฏออกมา
อายุราวสิบสามสิบสี่ปีเป็อายุที่กำลังเฉิดฉาย
แต่บนใบหน้าของเขากลับมีความเกียจคร้านที่ไม่เหมาะสมกับอายุปรากฏอยู่
เด็กหนุ่มเดินมาอยู่ตรงหน้าของนางราวกับกำลังตรวจสอบสินค้า “อืม ยังมีความสวยอยู่บ้าง คงจะขายได้ราคาดี”
สายตาเหลือบไปมองถวนถวนที่อยู่ในอ้อมกอดของนางปากของเด็กหนุ่มแย้มยิ้มดีใจ
“ไม่เลวไม่เลว ยังมีกระต่ายน้อยตัวหนึ่ง พอดีนัก หัวหน้าสามกำลัง้าลูกหนึ่งคนก็เอาเด็กนี่ให้เขาแล้วกัน”
เฉินเนี้ยนหรานกอดถวนถวนในอ้อมกอดแน่นจ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาเ็า “ลูกของข้า ข้าเลี้ยงเอง”
เด็กหนุ่มคงคาดไม่ถึงว่าตอนนี้ยังมีคนกล้าย้อนตนเองจึงเงยหน้าขึ้นมาพิจารณามองนางอย่างจริงจัง
ตอนนี้เองถึงได้พบว่าแม้จะเผชิญหน้ากับคนมากมายมล้อมโจมตี สตรีคนนี้ยังคงนิ่งสงบมาก
“เอ๋เ้าไม่กลัวหรือ?”
เด็กหนุ่มแปลกตอนนั้นเองที่ในดวงตามีความอยากรู้อยากเห็นปรากฏขึ้นมาอย่างสมอายุของเขา
“เหตุใดจะต้องกลัว? กลัวเ้า? หรือกลัวพวกเ้า?”
เฉินเนี้ยนหรานหัวเราะออกมา
อย่าได้พูดเลยจริงๆหลังจากที่เห็นกลุ่มโจรพวกนี้ นางไม่กลัวแล้วจริงๆ
เพียงกลุ่มเด็กไม่ใช่หรือมีค่าให้ใดให้กลัว
“เ้ากล้าดูถูกพวกข้า?” เด็กหนุ่มถูกยั่วโทสะ
“ดูถูก? เ้ายังไม่มีค่ามากพอให้ข้าดูถูกเด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเช่นเ้า ต่างอะไรกับลูกในอ้อมกอดของข้า?”
เด็กหนุ่มโกรธมากแล้วจริงๆ
จินหรูฉาวเกลียดมากนักที่ถูกคนพูดว่าตนนั้นยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแม้เขาจะหน้าเด็ก ทั้งตอนนี้ยังอยู่ใน่เสียงเปลี่ยน แต่เพราะเป็เช่นนี้เขาถึงอ่อนไหวยามที่ถูกคนพูดว่าเป็เด็ก
“สตรีไม่รู้เื่เช่นเ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเ้าหรือ”
เสียงชิ้งดังขึ้นมาก่อนที่คอของเฉินเนี้ยนหรานจะถูกคมมีดจี้
ดวงตากลมใสแจ๋วของถวนถวนน้อยไม่ได้รู้ตัวว่าตอนนี้มารดาของตนเองมีความเป็ไปได้ว่าจะถูกคนตัดหัวแล้ว
สาวใช้ฝูใจนแทบจะปัสสาวะราดแต่เมื่อหันไปมองเฉินเนี้ยนหราน นางกลับตบหลังลูกชายในอ้อมกอดนิ่ง
แล้วเชิดหน้ามองจินหรูฉาวนิ่ง
“บุรุษที่โตแล้วเขาไม่พึ่งพามีดกันหรอกนะ พึ่งมีดก็สามารถเติบโตได้แล้วเ้าหดหัวเป็โจรอยู่ในูเาแห่งนี้ อย่างมากก็ถูกคนพูดว่าเป็บุรุษที่มีจิตสังหารแต่ยังห่างจากการเติบโตเป็ผู้ใหญ่อีกไกลมิใช่หรือ?”
ประโยคแปลกๆทำเอาคนฟังไม่เข้าใจมาก
แต่ดวงตาของจินหรูฉาวกลับยิ่งฟังยิ่งวาวขึ้น
เขาอยากจะออกไปอยากจะออกไปตลอด
แต่ท่านพ่อไม่ยอมปล่อยให้เขาไป
สตรีคนนี้เหตุใดถึงได้มองสิ่งที่เขาคิดออกกันเล่า!
“ลูกพี่ไม่จำเป็ต้องฟังคำของสตรีที่ไม่รู้สิ่งใดเลยนางนี้นางคนนี้ก็แค่พูดจาเลื่อนเปื้อน” มีคนะโออกมา
เฉินเนี้ยนหรานกลับทำท่าทางพอใจที่ทุกอย่างเป็ไปอย่างที่คิด
ความจริงแล้วนางกำลังวางเดิมพัน
หลังจากเห็นการแต่กายของเด็กหนุ่มคนนี้ยังมีสีหน้าเกียจคร้าน…
นางจึงคิดถึงปัญหาหนึ่งได้ว่าสิ่งใดจะทำให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตางดงามเปลี่ยนมาเป็เช่นนี้ได้
ละครน้ำเน่าที่เคยดูเมื่อชาติก่อนปรากฏขึ้นมาในหัวราวกับปาฏิหาริย์
ละครเื่นั้นบอกว่าเป็บุรุษที่ถูกบิดาขังเอาไว้ให้เป็หัวหน้าโจรอยู่บนูเา
เนื่องจากไม่มีความปรารถนาอะไรและไม่มีความฝัน ดังนั้นเขาจึงใช้ชีวิตอย่างเรื่อยเปื่อยมาโดยตลอด
บนโลกใบนี้เขาก็คือโลกใบนี้
จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่งได้เจอกับนางเอกตัวร้าย…
เอาล่ะวันนี้นางจะลองเดิมพันสักครั้งพนันว่าเด็กหนุ่มคนนี้เป็คุณชายที่ถูกหัวหน้าโจรเลี้ยงเอาไว้
อย่างมากหากแพ้ก็ถูกพาตัวไปเป็ทาสแล้วขายออกไป จุดจบคงคล้ายกัน สู้เดิมพันสักครั้ง บางทีอาจจะสามารถหาทางจากเด็กหนุ่มคนนี้ได้จริงๆ
บางทีคงจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริงๆ
“นี่สตรีคนนั้น เ้ากำลังพูดเื่ตลกกับข้าหรือ!”
“ข้าเปล่าข้าแค่้าพูดความจริงออกมาอย่างจริงใจ ที่นี่เ้าเป็ลูกพี่ แต่ภายนอกไม่ได้เป็อะไรสักอย่าง”
คำพูดนี้แทงใจของจินหรูฉาว
เขาเกลียดที่สุดคือการเป็โจรอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเช่นนี้ในใจปรารถนาจะออกไปจากที่นี่ตั้งนานแล้ว
“ลูกพี่อย่าฟังที่นังนี่พูดจาไร้สาระนะขอรับ” จินจื่อคนติดตามพูดโน้มน้าวอีกครั้ง
“จินจื่อเ้าถอยไป ข้าจะพูดกับสตรีนางนี้ วางใจเถิด คนคนนี้ไม่มีความสามารถอะไรนางสู้ข้าไม่ได้หรอก”
จินจื่อถอยไปเมื่อรู้ว่าคุณชายอารมณ์ไม่ดี
ทุกคนจึงถอยออกไปเฉินเนี้ยนหรานเผยรอยยิ้มใจดีออกมา
“เ้าปรารถนาจะเป็ผู้ใหญ่อยากจะเติบโตแล้วเจอโลกที่กว้างใหญ่ขึ้น เหตุใดไม่ออกไปข้างนอกด้วยกันกับข้าเล่า? ดีกว่าถูกบิดาของเ้าปกป้องไปจนโตสู้ออกไปด้านนอกด้วยตนเอง บุรุษน่ะ ย่อมตัดสินใจจากสถานการณ์ว่าจะทำหรือไม่ทำเพื่อให้ได้ประโยชน์มาซึ่งตนเองดูท่าทางเ้าก็นับเป็บุรุษที่หล่อเหลาและชาญฉลาดไม่จำเป็ต้องอยู่ที่นี่รอความตายหรอกใช่หรือไม่?”
ประโยคสั้นๆกลับทำให้จินหรูฉาวที่ฟังอยู่รู้สึกเืในตัวของเขาร้อนปะทุขึ้นมา
ช่วยไม่ได้เดิมทีเขาก็้าออกไปข้างนอกอยู่แล้ว
เด็กหนุ่มที่พึ่งพาไม่ได้เงียบไปไม่พูดสิ่งใดเพิ่มอีก
“ได้ข้าจะออกไปกับพวกเ้า เท่ากับว่าเ้าให้ข้าปล่อยเ้าไป ซึ่งข้าออกไปกับเ้าในครั้งนี้ค่าใช้จ่ายค่าอาหารเ้าจะต้องเป็คนออกทั้งหมด”
ก็ได้เดิมทีนางนึกว่าเด็กคนนี้จะเป็คนโง่ ไม่เคยคิดเลยว่าเ้าเด็กคนนี้ยังไม่ใช่คนโง่
ขอแค่พวกนางทุกคนปลอดภัยแล้วดูแลอาหารการกินของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เฉินเนี้ยนหรานไม่มีปัญหาอะไร
ได้พบอุปสรรคระหว่างการเดินทางจะต้องมีวิธีมาแก้ไขเื่นั้นให้ได้ การเก็บผู้คุ้มกันมาเลี้ยงดู ถือเป็เื่เล็ก
ดังนั้นคนขับรถม้าจึงเปลี่ยนเป็เด็กหนุ่มจินหรูฉาว
ทว่าตอนที่เดินทางมาได้ครึ่งทางกลับมีเด็กหนุ่มเพิ่มมาอีกคน
เด็กหนุ่มนามว่าจินจื่อที่จะเป็จะตายอย่างไรก็จะตามจินหรูฉาวผู้เป็ลูกพี่ออกเดินทางมาด้วยให้ได้
ช่วยไม่ได้เขาเองก็อยู่ในูเามานานมากแล้วเช่นกัน
ความคิดที่อยากจะออกไปเจอโลกภายนอกออกไปเผชิญกับความลำบาก ล้วนเป็ความปรารถนาอย่างหนึ่ง
สำหรับการเปลี่ยนแปลงราวกับปาฏิหาริย์ทำให้สาวใช้ฝูและแม่นมรู้สึกเพียงว่าทั้งหมดคล้ายกับไม่ใช่ความจริง
รอจนกระทั่งจินหรูฉาวและจินจื่อไปพักผ่อนด้านข้างแล้วสาวใช้ฝูถึงได้ใช้สายตานับถือมองไปยังเฉินเนี้ยนหราน “ฮูหยิน ท่านเก่งกาจมากจริงๆสามารถหลอกคนพามาด้วยกันได้ เื่นี้ หากโจรทั้งโลกหลอกลวงเก่งเหมือนท่านบนโลกใบนี้จะต้องมีเื่รุนแรงเืตกยางออกน้อยลงมากเ้าค่ะ”
ดวงตาของแม่นมแวววาวราวกับได้เห็นเทพ์
เฉินเนี้ยนหรานปาดเหงื่อความจริงแล้วนาง้าพูดจริงๆ ว่าไม่ใช่เพราะปากของนางพูดเก่ง
แต่เป็เด็กสองคนนั้นที่ไม่ต้องพูดโน้มน้าวทั้งคู่ย่อมพากันวิ่งออกไปด้านนอกอยู่แล้ว
ครั้งนี้เพียงแค่บังเอิญมาเจอเด็กสองคนที่อยากจะหนีจากนั้นนางจึงทำการดึงตัวคนเบาๆ เด็กพวกนั้นก็ยอมตามมาด้วยแล้ว
แต่พวกนางไม่รู้เลยหลังจากที่พวกนางเดินทางออกไป ในรังโจรบนูเา มีบุรุษหลายคนยืนอยู่บนที่สูง
บุรุษตัวอ้วนคนหนึ่งถอนหายใจยาว“เสี่ยวฉาวจื่อไปแล้วสินะ”
“พี่ใหญ่ท่าน้าปล่อยให้เขาออกไปมาตลอด ครั้งนี้ปล่อยไปแล้วจริงๆ ท่านกลับเริ่มไม่วางใจหรือ”
“ถูกต้องพี่ใหญ่ ท่านที่เป็เช่นนี้ไม่ดีนะ หากเสี่ยวลิ่วจื่ออยากจะไปเติบโตจำเป็ต้องออกไปด้านนอก อีกอย่างครั้งนีู้เาของพวกเราจะหนีรอดหรือไม่ล้วนพูดยากให้เสี่ยวลิ่วจื่อกับจินจื่อออกไปด้วยกันถือเป็เื่ดี”
“ใช่เป็เื่ดี พวกเราสกุลจิน ได้แต่ยินยอมล้างมือให้เด็กสองคนนั้นให้สะอาด”
ไม่มีผู้ใดยินยอมที่จะเกิดเป็โจรคนของสกุลจินก็ยิ่งเป็เช่นนั้น
“ไม่เสียใจภายหลังหรอกไม่มีทางเสียใจภายหลังแน่ ขังเสี่ยวลิ่วจื่อมานานเพียงนี้ถึงเวลาที่จะปล่อยให้นกอินทรีได้สยายปีกบินออกไปแล้ว” ลูกพี่ร่างอ้วนถอนหายใจออกมา
มองไปยังทิศทางที่เด็กหนุ่มไปในแววตาเต็มไปด้วยความรักของบิดาที่ลบออกไปไม่ได้
เมื่อมีเสี่ยวลิ่วจื่อมาเข้าร่วมการเดินทางของพวกนางแม้จะมีโจรล้อมเข้ามาสิบคน ก็สู้พวกเขาไม่ได้
ที่ทำให้เฉินเนี้ยนหรานแปลกใจคือความสามารถของเสี่ยวลิ่วจื่อ ถือเป็ยอดฝีมือที่เพียงลงมือก็สามารถล้มคนพวกนั้นได้
ระหว่างที่เดินทางขึ้นเหนือแม้จะมีคนไม่ฉลาดพอเข้ามาท้าทาย ล้วนถูกพวกเขาสองคนจัดการจนสิ้น
เพราะเหตุนี้เฉินเนี้ยนหรานจึงให้ความชื่นชมเสี่ยวลิ่วจื่อเป็จินลิ่วฝู [1]
“ท่านพี่อย่าเรียกข้าว่าจินลิ่วฝูอีกเลย ข้าเกลียดชื่อนี้นัก”
“ลิ่วฝูเอ๋ยวันนี้พักที่นี่แล้วกัน น้องชายของเ้าคงไม่ชินกับอากาศที่นี่ จะต้องพักผ่อนให้ไวเสียหน่อย”
เฉินเนี้ยนหรานที่อุ้มลูกอยู่ไม่สนใจการโต้แย้งของจินหรูฉาว ยังคงเรียกเขาว่าจินลิ่วฝูต่อไป
ช่วยไม่ได้ต้องโทษประสิทธิภาพของโฆษณาเมื่อชาติที่แล้ว นางถึงได้ยังคิดถึงเหล้าจินลิ่วฝูอยู่
จินหรูฉาวดันมีชื่อเล่นว่าคุณชายลิ่วจื่อ
หลังจากที่ถูกเฉินเนี้ยนหรานรู้ว่าเขามีชื่อเล่นว่าลิ่วจื่อชื่อที่แสนมีเกียรตินี่ก็ถูกแปะอยู่บนหัวของเขาทันที
“เฮ้อก็ได้ ท่านพี่ ท่านฟังข้านะ ข้ามีชื่อ ชื่อว่าจินหรูฉาวอย่ามาเปลี่ยนชื่อข้ามั่วซั่วได้หรือไม่ ข้าต่อต้านชื่อจินลิ่วฝูของท่านมากนะรู้สึกเหมือนพวกกงกงในวังอย่างไรอย่างนั้น เสี่ยวฝูจื่อ…”
จินหรูฉาวพูดพร้อมทั้งบีบเสียงเลียนแบบขันทีทำเอาจินจื่อหัวเราะจนเกือบลงไปกลิ้ง
“พี่ลิ่วจื่อชื่อนี้ไพเราะนัก ข้ารู้สึกว่ามันดีจริงๆ ลิ่วฝู เื่นี้คนอื่นเขาบอกว่าอู่ฝูมาถึงบ้านแล้วพี่ลิ่วจื่อยังเป็ลิ่วฝูผู้เบียด์โผล่ออกมาเชียวนะ ชื่อที่ดีเช่นนี้ท่านพี่ของพวกเราเก่งกาจเสียจริงๆ อย่าเสียน้ำใจท่านพี่เลยใช้ชื่อนี้ไปก็จบเื่แล้ว”
เชิงอรรถ
[1] ลิ่วฝูแปลว่าโชคดีที่เข้ามา ความโชคดี
