หลี่ลั่วเดินไปข้างหน้าหยางเหล่าฮูหยิน คารวะตามธรรมเนียมในฐานะผู้น้อยอย่างน่ารักน่าชัง “ท่านยาย”
“ดีๆๆ ช่างเป็เด็กดีเสียจริง” หยางเหล่าฮูหยินลูบไล้ใบหน้าของหลี่ลั่วแล้วหยิบถุงเงินออกมาใบหนึ่งมอบให้หลี่ลั่วเป็ของขวัญพบหน้า “รับไปใช้เล่นเถิด”
“ขอบคุณท่านยายขอรับ” หลี่ลั่วส่งถุงเงินให้กับผิงอัน
“ลั่วเกอเอ๋อร์ ข้าเป็ป้าสะใภ้ฝั่งแม่ของเ้า” หยางฮูหยินเอ่ยขึ้น นางในยามนี้ไม่มีความเฉียบคมดั่งเช่นในวันนั้น วันนี้ดูๆ ไปแล้วกลับเป็สตรีที่สุภาพอ่อนโยน
“สวัสดีขอรับจิ้วหมู่[1]” หลี่ลั่วยืนอยู่ตรงนั้นแต่ไม่ได้คารวะตามธรรมเนียม เพียงแค่เรียกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวานยิ่ง ในรัชสมัยปัจจุบันจะแต่งตั้งฮูหยินตราให้ตั้งเริ่มจากขุนนางขั้นสี่ สามีของนางเป็เพียงขุนนางขั้นห้า ภรรยาขุนนางขั้นห้าจึงเรียกได้แค่ว่าเป็ฮูหยินขุนนางขั้นห้า ทว่าหลี่ลั่วเป็โหวเหฺยขั้นหนึ่ง และไม่ใช่เป็หลานชายสายตรงแท้ๆ ของหยางฮูหยิน ดังนั้นการคารวะตามธรรมเนียมนั้นจึงงดเว้นได้
“เด็กคนนี้หน้าตาช่างหล่อเหลาชวนมองยิ่งนัก ต่อไปน้องสาวคงจะมีแต่โชคลาภวาสนายิ่งๆ ขึ้นไปเสียแล้ว” หยางฮูหยินพูดแล้วหยิบถุงเงินออกมาใบหนึ่ง “นี่คือของเล่นที่จิ้วหมู่ให้ เอาไปใช้เล่นเถิด”
“ขอบคุณจิ้วหมู่ขอรับ” หลี่ลั่วพูด
หยางฮูหยินแนะนำลูกสะใภ้ของตนเอง “ลั่วเกอเอ๋อร์ นี่คือพี่สะใภ้ของเ้า”
“สวัสดีขอรับพี่สะใภ้”
ลูกสะใภ้ของหยางฮูหยินนั้นมิได้มีหน้าตางดงามนัก แต่มองดูแล้วมีความเป็กันเองยิ่ง
ถัดมาจึงเป็การแนะนำหลี่จิง “กูมา[1]” เมื่อเปรียบเทียบกับภรรยาของขุนนางทั้งหลายแล้วนั้น หลี่จิงมีอายุมากกว่าพวกนางเล็กน้อย วัยขนาดหลี่ลั่วเป็หลานของนางได้ เมื่อครั้งยังเป็แม่นางน้อยนางค่อนข้างเงียบขรึม เพราะต้องคอยปกป้องหลี่ซวี่ผู้เป็น้องชาย แล้วยังต้องคอยป้องกันข้ารับใช้ในเรือน ต่อมาหลี่ซวี่ไปเข้าร่วมกับกองทัพ จึงเหลือเพียงนางคนเดียวที่อยู่ในเรือน จนกระทั่งนางออกเรือนไปหลี่ซวี่ก็ยังไม่ได้กลับมา นางปฏิบัติต่อบุตรสาวที่เกิดจากอดีตภรรยาของสามีเป็อย่างดี พวกนางต่างก็สูญเสียมารดาผู้ให้กำเนิดเหมือนกัน เมื่อเห็นแม่นางน้อยคนนั้นก็ให้คิดถึงตนเอง ดังนั้นหลังจากออกเรือนไปชีวิตของนางในครอบครัวสามีจึงถือว่ามีความสุขดี
แต่โรคที่สามีนางเป็อยู่ในสองปีนี้กำเริบทรุดหนักลง เงินของครอบครัวต่างนำมารักษาโรคให้แก่สามี ด้วยเหตุที่เงินกองกลางของเรือนนั้นมีน้อย เสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมมายังจวนโหวในครั้งนี้เป็ชุดที่ดีที่สุดและใหม่ที่สุดของนางชุดหนึ่ง แต่ทว่าก็ยังคงดูออกว่าเป็รูปแบบการตัดเย็บที่เป็ที่นิยมของเมื่อปีที่แล้ว
“เฮ้อ ลั่วเกอเอ๋อร์ช่างน่ารักเฉลียวฉลาดยิ่งนัก มา ให้ป้าอุ้มหน่อย” หลี่ซวี่นั้นลูกหลานน้อย บัดนี้มีหลี่ลั่วเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน หลี่จิงนั้นยินดีจากใจของนางจริงๆ บนโลกใบนี้ หากจะมีผู้ที่เอาใจใส่และชมชอบการมาถึงของหลี่ลั่วจากใจจริง แน่นอนว่าคนผู้นั้นก็คือหลี่จิง
หลี่ลั่วรับรู้ได้ถึงความเป็กันเองและความเอาใจใส่จากตัวของหลี่จิง มาถึงเมืองหลวงหลายวันนี้ นอกจากหลี่จงิแล้ว หลี่จิงถือเป็คนเพียงผู้เดียวที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงความเป็คนในครอบครัวเดียวกัน
“ท่านป้า” หลี่ลั่วมองสตรีที่เส้นผมเปลี่ยนเป็สีขาวซึ่งอยู่เบื้องหน้า
“ดีจริง...ช่างดีจริงๆ” หลี่จิงอุ้มหลี่ลั่ว น้ำตาไหลไม่หยุด “หากท่านพ่อของเ้าสามารถมองเห็นเ้าได้ก็คงดี”
หลี่จิงเพิ่งจะพูดจบ สีหน้าของหลี่เหล่าไท่ไท่ก็ดำทะมึนลงทันที “วันนี้เป็วันดี หากกูหน่ายนายรู้สึกไม่ค่อยสบายก็ไปพักผ่อนสักครู่เถิด”
หลี่จิงเอ่ยถึงหลี่ซวี่ขึ้นมาในยามนี้ ให้หลี่เหล่าไท่ไท่รู้สึกว่าเป็การตบหน้านางนัก หลี่ซวี่ต้องเร่ร่อนออกจากบ้านไปเข้าร่วมกับกองทัพในวัยเพียงสิบกว่าขวบ มีบางคนรู้ว่าความสัมพันธ์แม่ลูกระหว่างนางและหลี่ซวี่นั้นไม่ดีนัก ดังนั้นหลี่เหล่าไท่ไท่จึงคิดว่าหลี่จิงเจตนาที่จะเอ่ยวาจาเช่นนี้ ส่วนที่หลี่เหล่าไท่ไท่พูดจาเช่นนี้ ก็เจตนาที่จะไม่ให้หน้าหลี่จิงเช่นกัน
หลี่หยางซื่อเอ่ยขึ้น “สุขภาพพี่เขยไม่ดี พี่สาวต้องคอยดูแลย่อมลำบากอยู่แล้ว มิสู้ไปพักผ่อนที่เรือนของข้าสักครู่ดีหรือไม่เ้าคะ?”
“ข้าไม่ไป” หลี่จิงพูดอย่างแข็งกร้าว “ขอบคุณมารดาและน้องสะใภ้ที่ใส่ใจในสุขภาพของข้า วันนี้เป็วันดีของลั่วเกอเอ๋อร์ ต่อให้ข้ารู้สึกไม่สบายจริงๆ ข้าก็จะอยู่ที่นี่” อุปนิสัยของนางเป็คนแข็งกร้าวมาโดยตลอด ก่อนที่จะออกเรือนนั้นความสัมพันธ์ของนางกับหลี่เหล่าไท่ไท่ย่ำแย่ยิ่ง บัดนี้บุตรสาวบุตรชายต่างก็ออกเรือนไปแล้ว นางยังต้องเกรงกลัวหลี่เหล่าไท่ไท่อีกเช่นนั้นหรือ?
พูดขึ้นมาแล้วจวนโหวก็มิได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับสกุลหลี่ คฤหาสน์แห่งนี้เป็น้องชายร่วมอุทรของนางใช้ชีวิตแลกมา บัดนี้หลานชายแท้ๆ ของนางเป็ผู้นำครอบครัว เป็เ้าของคฤหาสน์แห่งนี้
“หากว่าเ้าไม่สบายแล้วยังจะฝืนดื้อดึงอยู่อีก เมื่อถึงคราวสุขภาพย่ำแย่ผู้คนรอบข้างจะนำไปพูดเอาได้ว่าเป็ลั่วเกอเอ๋อร์ที่ไม่กตัญญู” หลี่เหล่าไท่ไท่กล่าว
คำพูดประโยคนี้ของหลี่เหล่าไท่ไท่ทำให้หลี่จิงเอ่ยปากลำบาก เพราะหญิงชราผู้นี้ยกหลี่ลั่วมาข่มขู่นาง
[1] จิ้วหมู่ (舅母) เป็คำเรียกภรรยาของพี่ชายมารดา หรือเรียกได้ว่าป้าสะใภ้ฝั่งแม่ หรืออาจจะใช้เรียกป้าสะใภ้ที่เป็ญาติห่างๆ กัน โดยที่ไม่ได้ใช้สกุลเดียวกันก็ได้
[2] กูมา (姑妈) เป็คำเรียกพี่สาวของพ่อ หากเป็น้องสาวของพ่อจะเรียกว่า “กูกู” ในที่นี้หมายถึงหลี่จิง ซึ่งในปัจจุบันมีอายุได้ 42 ปีแล้ว