บทที่ 103 เธอลำบากใจจริงๆ
เหอเสวี่ยฉินอยากแกล้งนอนตายไปซะ
เธอก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงกลายเป็แบบนี้?
เธอยังสาวอยู่แท้ๆ ทำไมถึงกลั้นฉี่กลั้นอึไม่อยู่เร็วขนาดนี้?
แต่เมื่อกี้ตอนที่เธอโมโห ตรงนั้นมันทนไม่ไหวจนหลุดออกมา! แถมยังรู้สึกเหมือนหยุดไม่ได้อีก
“คุณ...” เสียงของสวี่จือจือยังดังอยู่ข้างหู แฝงด้วยความจนปัญญา “เมื่อกี้ฉันถามคุณแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เธอลำบากใจจริงๆ!
“ยุวชนอัน พูดถึงเื่นี้ ฉันอิจฉาเธอจริงๆ นะ” สวี่จือจือหันไปพูดกับอันฉินทันที “ดูสิ น้าเหอชอบเธอแค่ไหน ห่วงเธอแค่ไหน เมื่อกี้หล่อนอยากเข้าห้องน้ำชัดๆ แต่ยังไม่อยากให้เธอต้องลำบาก”
“แน่นอน ฉันก็รู้ ใครใช้ให้จิ่งซานบ้านฉันไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของน้าเหอล่ะ?”
“แต่น้าเหอคะ ลูกสะใภ้คนนี้ยังไงก็เหมือนลูกแท้ๆ แต่เจอสถานการณ์แบบนี้ของคุณน้าเนี่ย ถึงเวลาต้องใช้ก็ต้องใช้ค่ะ”
“เลี้ยงลูกมาเพื่ออะไร? ไม่ใช่เพื่อตอนนี้เหรอคะ?” สวี่จือจือพูดอย่างจริงจังแล้วสั่งโจวเป่าเฉิงที่ยืนงงอยู่ “นายยังไม่รีบไปหยิบกะละมังมา ให้เมียนายมาช่วยเปลี่ยนชุดให้น้าเหอสักหน่อย?”
“ฉันกับพี่หยวนหยวนจะไปขอผ้าปูที่นอนสะอาดจากพยาบาลก่อน”
“อ๊ะ ไม่รู้ว่ามีผ้ากันน้ำแบบนั้นไหม?” สวี่จือจือพูดไปพลาง ขอโทษคนอื่นในห้องผู้ป่วย “ขอโทษนะคะ ป่วยแบบนี้ ทุกคนช่วยอดทนหน่อยนะ”
“น้าเหอ อย่ากังวลไปค่ะ พวกเราจะไปคุยกับพยาบาลดีๆ ดูว่ามีผ้าปูสำรองอะไรแบบนั้นไหม” แล้วหันไปพูดกับโจวเป่าเฉิง “นายรีบหน่อยนะ เดี๋ยวอย่าลืมซักผ้าปูให้สะอาดด้วย ไม่งั้นเขาอาจจะไม่ให้อยู่ต่อ”
“พี่หยวนหยวน พวกเราไปขอพยาบาลกัน” พูดจบไม่รอให้อันฉินหรือคนอื่นตอบโต้ ก็จูงมือลู่ซือหยวน เดินออกไป
“พวกเราจะไปขอพยาบาลจริงๆ เหรอ?” ออกมาจากห้องผู้ป่วย ลู่ซือหยวนก็ถามเบาๆ
“พี่นี่ซื่อบื้อจริงๆ” สวี่จือจือจิ้มหน้าผากอีกฝ่าย “ข้างในอากาศไม่ดี พวกเราไปสูดอากาศที่เคาน์เตอร์พยาบาลกันค่ะ”
แน่นอนว่าต้องไปบอกพยาบาลด้วย
“พวกคุณวางใจเถอะ ลูกชายลูกสะใภ้หล่อนอยู่ด้วยกันทั้งคู่ ต้องซักสะอาดแน่นอน” สวี่จือจือพูด “มีผ้าปูแบบแข็งๆ ไหมคะ? จะดีต่อการฟื้นตัวด้วย”
พยาบาลโมโหจนแทบตาย แต่บังเอิญมีผ้าปูหนึ่งชุด กำลังจะหยิบมาให้ แต่ได้ยินสวี่จือจือพูดเบาๆ “อายุก็ไม่มาก ทำไมถึงกลั้นฉี่กลั้นอึไม่อยู่ได้นะ?”
พยาบาล “...”
ผ้าปูผืนใหม่นี่เธอจะไม่หยิบออกมาแล้ว เดี๋ยวสกปรกอีก
ทันใดนั้นมือหยุดชะงัก หยิบผ้าปูเก่ามากๆ จากอีกด้านมา “เหลือแค่นี้แหละ พวกเธอเอาไปให้หล่อน”
“อีกอย่าง ถ้าทำสกปรกอีก จะไม่มีให้แล้ว” พยาบาลพูด
“แล้ว...” สวี่จือจือ ตาโต “แล้วจะทำยังไงดีคะ?”
“ไม่ใช่ว่าลูกชายลูกสะใภ้อยู่ด้วยเหรอ ดูแลให้ดีๆ สิ” พยาบาลพูด
“งั้นต้องรบกวนคุณช่วยดูให้หน่อยนะคะ” สวี่จือจือพูดด้วยความซาบซึ้ง “ฉันว่าถ้าลูกชายกับลูกสะใภ้หล่อนอยู่ด้วยกัน จะไม่เกิดเื่แบบนี้อีกแน่นอน”
พยาบาลเห็นด้วยอย่างยิ่ง
เดิมทีให้คนเฝ้าได้แค่คนเดียว แต่เปิดช่องทางพิเศษให้เหอเสวี่ยฉิน ให้โจวเป่าเฉิงกับอันฉินอยู่เฝ้าด้วยกันเลย
“ข้อมือฉันเจ็บ” อันฉินแน่นอนว่าไม่อยากอยู่โรงพยาบาล แถมต้องดูแลคนที่อาจกลั้นฉี่กลั้นอึไม่อยู่ได้ทุกเมื่อ จึงพูดทันที “ฉันอยู่ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี”
“ช่วยอะไรไม่ได้?” พยาบาลหน้าบึ้งทันที “เธอเจ็บมือไม่ใช่เจ็บปาก มือขวาก็ยังดีอยู่ไม่ใช่เหรอ? ช่วยหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“ใช่สิ” น้าหวังพูด “เธอยังเป็สะใภ้ใหม่นะ แบบนี้ต่อไปจะพึ่งพาได้ยังไง?”
อันฉิน “...”
“แผลเธอ ฉันขอดูหน่อย” หมอดูแลผู้ป่วยในพูดขึ้น “ถ้าสาหัสจริงๆ อยู่โรงพยาบาลพอดี เดี๋ยวฉันทายาให้”
อันฉิน “...”
เธอจะพูดอะไรได้อีก?
ยังไม่ทันตอบสนอง พยาบาลกับหมอถอดผ้าพันแผลที่ข้อมือเธอออกแล้ว “แค่นี้? ยังต้องพันผ้าอีกเหรอ?”
ถึงขนาดนั้นเลย!
แค่รอยเล็บจิกค่อนข้างลึกเท่านั้น
“เดี๋ยวเธอไปหาพยาบาล ให้เขาทายาให้” หมอพูด “แผลแบบนี้พันทิ้งไว้ไม่ได้ ไม่ระบายอากาศจะอักเสบ”
“จะยิ่งหนักกว่าเดิม”
“แต่ไม่ต้องกังวล ช่วยยกของยังไหวอยู่” หมอพูด “แค่ผิวถลอก ไม่มีผลอะไร”
ดูจากที่พันมา เธอนึกว่าเป็กระดูกหักซะอีก
อันฉิน “...” อับอายจนแดงก่ำ
เธอจงใจให้หมอที่สถานีอนามัยพันให้ดูรุนแรง เพื่อให้โจวเป่าเฉิงรู้สึกผิด แต่ไม่คิดว่าจะถูกตบหน้าซะงั้น
ได้แต่พูดเจื่อยๆ “อาจจะเป็...หมอที่สถานีอนามัยของพวกเราไม่รู้มั้งคะ”
หมอมองเธอแวบหนึ่งไม่พูดอะไร แล้วชี้ไปที่โจวเป่าเฉิง “พวกเธอสองคนอยู่กันต่อไป ปูผ้าปูผืนนั้นด้วย”
ผ้าปูแค่ดูสีก็รู้ว่าใช้มานานหลายปี แข็งทื่อ เทียบกับอันก่อนหน้าไม่ได้เลย
เหอเสวี่ยฉิน “...”
เธอไม่อยากนอนบนผ้าปูแบบนี้
“แล้วก็สหายผู้สูงวัยคนนี้” กำลังจะพูด แต่ได้ยินหมอพูดอย่างจริงจัง “เื่กลั้นฉี่กลั้นอึไม่อยู่แบบนี้ ต้องบอกพวกเราล่วงหน้านะ เื่แบบนี้มีอะไรต้องปิดบัง แถมปิดยังไงก็ปิดไม่ได้”
“ครั้งหน้าอย่าทำแบบนี้อีก” หมอพูดต่อ “รู้สึกอะไรรีบให้สองคนนี้จัดการให้”
ผู้สูงวัย!
เหอเสวี่ยฉิน “...ฉันเปล่านะ!”
“เข้าใจแล้วค่ะ” สวี่จือจือยิ้มแล้วพูด “คุณหมออย่าโมโหนะคะ น้าเหอของฉันเป็ครูโรงเรียนประถมในประชาคม เป็ปัญญาชน ชอบรักษาหน้า”
“เข้าใจ เข้าใจแล้ว”
เข้าใจอะไรกัน!
เหอเสวี่ยฉินอยากด่า แต่คิดว่าตัวเองโมโหเมื่อกี้ถึงได้เป็แบบนั้น ตอนนี้เลยไม่กล้า
ทำได้แค่มองหมอพูดกับเธอสีหน้าดำคล้ำ “ป่วยแล้วต้องรักษา การปิดบังอาการป่วยและกลัวหมอจะทำร้ายตัวเองและผู้อื่น”
เหอเสวี่ยฉินอ้าปาก
เธออยากบอกว่าเธอเปล่านะ แต่หมอไม่สนใจเธออีก
แม้แต่ลูกชายแท้ๆ โจวเป่าเฉิง ยังพูดกับเธอด้วยสีหน้าลำบากใจ “คุณแม่ ถ้าจะมีอะไรแบบนี้อีก รีบบอกนะครับ”
เมื่อกี้ทั้งเปลี่ยนเสื้อผ้า ซักผ้าปูที่นอน แทบทำให้เขาเหนื่อยแทบตาย
โจวเป่าเฉิงโตมาจนป่านนี้ไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน
แต่ตอนนี้คนที่ทำงานได้อย่างเหอเสวี่ยฉินนอนอยู่บนเตียง อันฉินข้อมือเจ็บ ถ้าเขาไม่ทำ พยาบาลจะยอมเหรอ? หน้าบึงตึงดูเขาซักให้สะอาดตลอด
อยากี้เีเหรอ? ไม่มีทาง!
เหอเสวี่ยฉิน อยากจะพ่นเืที่ติดอยู่ในคอออกมา
นี่คือลูกชายแท้ๆ!
ทำไมตอนนี้มองแล้วขัดหูขัดตามากขนาดนี้?
แต่ที่ขัดหูขัดตามากกว่านั้นคืออันฉินที่ยืนอยู่ข้างๆ ไม่มีวี่แววของไหวพริบเลย
“ไปเทน้ำให้ฉัน” เหอเสวี่ยฉินพูดกับอันฉินหน้าดำคล้ำ
“เป่าเฉิง คุณแม่อยากดื่มน้ำ” อันฉินยิ้มหวานพูดกับโจวเป่าเฉิง พร้อมสะบัดแขนตัวเองให้เห็น
“อ้อ” โจวเป่าเฉิงขานรับ
“เธอนั่งลง” เหอเสวี่ยฉินพูดด้วยความโมโห “อะไรกัน? ถูกแม่เธอข่วนหน่อย มาบ้านฉันก็จะเป็คุณหนูใหญ่แล้วเหรอ?”
อันฉินหน้าซีด
สุดท้ายก็ไปเทน้ำด้วยความโมโห
เพียงแต่
“ร้อนมาก เธออยากลวกฉันให้ตายเหรอ?”
“น้ำนี้มีอะไรลอยอยู่?”
“ไอ๊หยา เธอถือน้ำยังไงของเธอ? ไม่อยากเทให้ฉันก็ไม่ต้องมาราดน้ำใส่ฉัน”
.............................