ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นเล็กๆ ชั้นหนึ่งกลับสามารถะเิผลึกิญญาเบื้องต้นไปถึงสามชิ้น ข่าวนี้ทำให้ทั้งโรงเรียนเซิ่งหลันสั่นะเืแล้ว
ยังจะมีสัตว์ประหลาดโผล่ออกมาจากชั้นเรียนนี้อีกคนหรือไม่? พวกนักเรียนในชั้นนี้กินอะไรเป็อาหารกัน?
การทดสอบนักเรียนชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นผ่านไปหลายคน คนที่ได้ระดับต่ำสุดคือผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว นี่เป็ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นแน่หรือ?
ภายในตึกทดสอบ ทุกคนตะลึงลานกับพร์อันน่าอัศจรรย์ใจของเซียวหนิงเอ๋อร์และเยี่ยจื่ออวิ๋น
สองโฉมสะคราญต่างมองตากัน ในดวงตาของคนทั้งสองต่างมีร่องรอยของการเปรียบเทียบกัน
ตลอดมาเยี่ยจื่ออวิ๋นอยากกลับมาเป็เพื่อนที่ดีกับเซียวหนิงเอ๋อร์เสมอ ในขณะเดียวกันนางมีพร์ที่สูงส่งกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน นางไม่เคยถูกเพื่อนวัยเดียวกันเอาชนะได้ ดังนั้นต่อให้เป็เซียวหนิงเอ๋อร์ ในใจของเยี่ยจื่ออวิ๋นก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด
พลังยุทธ์ของทั้งสองไม่ห่างกันมากนัก พวกนางรู้ดีว่าพวกตนได้รับความช่วยเหลือจากเนี่ยหลี ไม่เช่นนั้นพลังยุทธ์ของพวกนางคงไม่เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้ นอกจากความรู้สึกสำนึกรู้คุณต่อเนี่ยหลีแล้ว พวกนางยังอดบังเกิดความรู้สึกซับซ้อนบางอย่างขึ้นมามิได้
เยี่ยจื่ออวิ๋นเม้มปาก แม้เวลานี้นางยังไม่มีความรู้สึกรักใคร่เนี่ยหลีนัก ทว่าเมื่อได้รับรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเนี่ยหลีกับเซียวหนิงเอ๋อร์แล้ว นางกลับบังเกิดความรู้สึกเคืองใจเนี่ยหลีขึ้นมาเล็กน้อยมิได้ ‘ในเมื่อเ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเซียวหนิงเอ๋อร์ถึงปานนี้แล้ว เหตุใดยังคอยมาไล่ตามข้าอีก?’
ส่วนสำหรับเซียวหนิงเอ๋อร์ ั้แ่แรกนางก็รู้อยู่แล้วว่าคนที่เนี่ยหลีชอบคือเยี่ยจื่ออวิ๋น ทว่านางยังไม่อาจห้ามตัวเองให้หยุดชอบเนี่ยหลีได้ สิ่งที่นาง้าทำก็คือคาดหวังว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า นางจะสามารถทำให้เนี่ยหลีหันมาสนใจนางและชอบนางได้
สองโฉมสะคราญผู้โดดเด่นยืนอยู่เคียงกันราวกับดาวคู่มิถุนที่เจิดจ้า
“ใครจะเป็ผู้รับการทดสอบคนต่อไป?” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบมองตรงมาทางพวกนักเรียนจากชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้น อารมณ์ของเขาตื่นเต้นอย่างไม่อาจควบคุมได้ นักเรียนอัจฉริยะหลายคนนี้ อนาคตข้างหน้าคงเติบใหญ่ขึ้นเป็เสาหลักแก่เมืองกวงฮุย!
“ข้าเอง!” เนี่ยหลีขยับไปหน้าเสาหินแห่งการทดสอบพละกำลัง
เมื่อได้ยินคำพูดของเนี่ยหลี สายตาของทุกคนก็ตกอยู่บนร่างของเนี่ยหลี
พวกผู้บริหารระดับสูงของโรงเรียนมีสีหน้าตื่นเต้นอย่างยิ่ง ยังมีคนเริ่มขันอาสาพาตัวเข้ารับการทดสอบ หรือนี่จะเป็นักเรียนที่มีพร์น่าใอีกผู้หนึ่งรึ?
ส่วนเสิ่นซิ่ว สองมือของนางกำจนแน่น นางจ้องมองเนี่ยหลีด้วยสายตาชิงชังยิ่งนัก หากเนี่ยหลีเลื่อนขึ้นถึงระดับทองแดงหนึ่งดาว นางก็ต้องทำตามคำพูด ลาออกจากโรงเรียนเซิ่งหลัน! นางรู้สึกได้ลางๆ ดวงตาของเนี่ยหลีแฝงแววดูแคลน
การออกจากโรงเรียนเซิ่งหลันไม่นับเป็อะไรได้ แต่นางไม่อาจกลืนคำพูดตนเอง และมีความรู้สึกอับอายที่จะถูกขับออกจากโรงเรียนเพราะใครบางคน!
สายตาของนักเรียนทุกคนในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นตกอยู่ที่เนี่ยหลี ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อนยิ่ง เมื่อครั้งที่เนี่ยหลีอยู่ในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นและเกิดความขัดแย้งกับเสิ่นซิ่ว พวกเขาบางคนรู้สึกเห็นใจเนี่ยหลี บางคนก็เยาะเย้ยเนี่ยหลี ทว่าพวกเขาทุกคนต่างคิดว่าเนี่ยหลีจะไม่สามารถทะลวงถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวได้ภายในเวลาสั้นๆ เพียงสองเดือน เว้นแต่ว่าเนี่ยหลีจะแสดงพร์พิเศษน่าอัศจรรย์ใจออกมาสักอย่างหนึ่ง
ทว่าเวลานี้ ขณะเฝ้ามองพวกที่ติดตามเนี่ยหลีแต่ละคนนั้น ทุกคนล้วนก้าวหน้าไปได้จนน่าอัศจรรย์ใจ พวกเขาอดที่จะยอมรับพวกเนี่ยหลีมิได้ พัฒนาการของคนเหล่านี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนี่ยหลีอย่างแน่นอน
เพื่ออนาคตข้างหน้า หลายๆ คนเริ่มคิดหาวิธีใกล้ชิดกับเนี่ยหลีแล้ว หากเนี่ยหลีสามารถช่วยพวกเขาเฉกเช่นที่ช่วยตู้เจ๋อ ลู่เพียว เว่ยหนัน และพวกที่เหลือได้ ก็ย่อมคุ้มค่าที่จะทำ
ในฐานะเป็ผู้ที่มีผลกระทบต่อทุกคน ผลการทดสอบของเนี่ยหลีจึงกลายเป็ความคาดหวังของทุกคนอย่างช่วยไม่ได้
เนี่ยหลียิ้มบางและเดินตรงไปหน้าเสาหินทดสอบพละกำลัง เขาชำเลืองมองตรงไปยังระเบียงสังเกตการณ์ที่อยู่ไกลออกไป เห็นเสิ่นซิ่วขณะนี้กำลังมองมาทางเขาด้วยใบหน้าหมองคล้ำ ดวงตาของเนี่ยหลีฉายแววเ็า
เวลานี้เยี่ยจื่ออวิ๋นและพวกทุกคนล้วนพุ่งสายตามาจดจ่ออยู่ที่เนี่ยหลี พวกนางใสุดขีดกับผลการทดสอบของตนในการสอบครั้งนี้ เมื่อครุ่นคิดถึงตนเองว่าได้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย์ใจถึงเพียงนี้ในเวลาอันสั้น ในใจของแต่ละคนก็รู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
เป็เนี่ยหลีที่สร้างพวกเขาให้เป็คนใหม่ ผู้ที่สามารถสร้างอัจฉริยะเหล่านี้ขึ้นมาได้ พลังยุทธ์ของเนี่ยหลีจะต้องก้าวถึงระดับที่น่าตื่นตะลึงยิ่งอย่างแน่นอน ใช่หรือไม่?
สีหน้าของเนี่ยหลีดูสงบ ชกหมัดๆ หนึ่งใส่เสาหินทดสอบพละกำลัง
ตูม!
เสาหินทดสอบพละกำลังกระจายเสียงเบาๆ ออกมาคราหนึ่ง
“ระดับทองแดงหนึ่งดาว ผลการทดสอบพละกำลัง หนึ่งร้อยแต้ม!” อาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบจ้องมองผลลัพธ์และประกาศขึ้นเสียงดัง น้ำเสียงของเขาอดแฝงแววผิดหวังมิได้ อันที่จริงนักเรียนในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นสามารถทะลวงถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวได้เช่นนี้ ก็ถือเป็ผลลัพธ์ที่ดีมากแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เห็นผลการทดสอบของเยี่ยจื่ออวิ๋น เซียวหนิงเอ๋อร์ ตู้เจ๋อ และพวก ผลทดสอบของเนี่ยหลีจึงไม่เป็ที่เตะตาเอาเสียเลย
“การทดสอบครั้งที่สอง ผลการทดสอบพละกำลัง หนึ่งร้อยแต้ม!”
“การทดสอบครั้งที่สาม ผลการทดสอบพละกำลัง หนึ่งร้อยแต้ม!”
อาจารย์ผู้ควบคุมการสอบพึมพำกับตน “ประหลาดนัก นักเรียนทุกคนได้ผลการทดสอบพละกำลังในแต่ละครั้งขึ้นๆ ลงๆ แตกต่างกันบ้าง นักเรียนคนนี้เหตุไฉนจึงได้หนึ่งร้อยแต้มทุกครั้งไป นับว่าหาได้ยากนัก หรือบางทีพละกำลังสูงสุดที่เขาจะสามารถใช้ออกมาได้มีเพียงหนึ่งร้อยแต้มจริงๆ!”
เห็นผลการทดสอบของเนี่ยหลี ใบหน้าของเสิ่นซิ่วเขียวคล้ำเสียแล้ว หากพลังของเนี่ยหลีสูงกว่าระดับทองแดงหนึ่งดาวไปไกลก็ยังไม่ว่า แต่นี่กลับอยู่ที่ระดับทองแดงหนึ่งดาวพอดิบพอดี ไม่มากไม่น้อยไปกว่านี้ เสิ่นซิ่วแทบบ้าแล้ว
เนี่ยหลีมิได้สนใจผลการทดสอบครั้งนี้ เขายักไหล่และยิ้มบางๆ พูดว่า “โชคของข้าช่างดีจริงๆ ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวพอดี!”
ตู้เจ๋อ ลู่เพียว และพวกมองหน้ากัน นี่เป็ไปไม่ได้ พละกำลังของเนี่ยหลีไม่มีทางอยู่แค่หนึ่งร้อยแต้ม สิ่งนี้อธิบายได้เพียงอย่างเดียวว่าเนี่ยหลีปิดบังพลังที่แท้จริงของตน! ในใจของตู้เจ๋อและลู่เพียวอดยอมรับมิได้ แม้พลังของพวกเขายังอยู่เหนือเนี่ยหลี ทว่าความสามารถในการควบคุมพลังนั้นด้อยกว่าเนี่ยหลีมากนัก หากเป็พวกเขา ย่อมไม่สามารถออกหมัดสามครั้งได้ร้อยแต้มเท่าๆ กันเช่นนี้!
“เ้าบ้าเนี่ยหลีร้ายกาจเกินไปแล้ว เสิ่นซิ่วเห็นเนี่ยหลีได้ระดับทองแดงหนึ่งดาวพอดิบพอดีสามครั้งติดๆ กันเช่นนี้ เดาว่าปอดของนางคงต้องะเิแน่!” ลู่เพียวแอบหัวเราะหึๆ
ผู้บริหารระดับสูงหลายคนเห็นภาพนี้แล้วต่างมองหน้ากันไปมา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
“ระดับทองแดงหนึ่งดาวก็ไม่เลวแล้ว!”
“เสียดาย เทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้แล้ว...”
“รอดูพลังิญญาของเขากันดีกว่า อาจจะสามารถทำให้พวกเราแปลกใจก็เป็ได้!”
หลังการทดสอบพละกำลัง เนี่ยหลีก้าวไปข้างหน้าอีกสองสามก้าว ในที่สุดก็รับผลึกิญญาเบื้องต้นชิ้นหนึ่งมาจากอาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบ เขาถ่ายเทพลังิญญาเข้าไปในผลึกิญญานั้น แสงสว่างจุดหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นในผลึกิญญา
“พลังิญญาหนึ่งร้อยแต้ม ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว!” สีหน้าของอาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบฉายแววแปลกใจและประกาศดัง ครุ่นคิดว่านักเรียนผู้นี้ประหลาดเกินไป ไม่ว่าจะเป็พละกำลังหรือพลังิญญา เหตุใดจึงหยุดอยู่ที่หนึ่งร้อยแต้มพอดิบพอดี ช่างประหลาดเหลือเกิน อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดสงสัยอันใดอีก การทดสอบด้วยผลึกิญญาไม่มีทางผิดพลาดได้ เนี่ยหลีคงไม่ได้โกง อีกทั้งการโกงเช่นนี้ก็ไม่ให้ประโยชน์อันใดกับเนี่ยหลีเลย
ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาว!
พลังิญญาก้าวขึ้นเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวพอดิบพอดี!
เสิ่นซิ่วโกรธจนแทบบ้าแล้ว ทำไมกัน ทำไมจึงกลายเป็เช่นนี้ไปได้! หากพร์ของเนี่ยหลีขาดน้อยลงกว่านี้อีกเพียงนิด ก็จะไม่มีทางก้าวถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวได้แล้ว!
เห็นผลการทดสอบของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์ต่างก็เข้าใจดี เนี่ยหลีตั้งใจให้เป็เช่นนั้น ทว่าพวกนางยังแอบสงสัยอยู่บ้าง หากในการทดสอบพละกำลัง เนี่ยหลีสามารถควบคุมพละกำลังของเขาได้ นั่นก็ยังไม่นับว่าเป็อะไร ทว่าผลึกิญญานั้นเป็สิ่งที่ไม่มีทางผิดพลาดได้ ดังนั้นเนี่ยหลีทำได้อย่างไร?
เื่ที่ผู้อื่นทำไม่ได้ ก็ไม่จำเป็ว่าเนี่ยหลีจะทำไม่ได้
ความลับในตัวของเนี่ยหลียังคงมีอยู่มากมายเกินไป!
ภายใต้สายตาของทุกคน เนี่ยหลีเดินไปทางเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์ หยุดยืนอยู่ระหว่างพวกนาง เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์เทพธิดาทั้งสอง คนหนึ่งอยู่ด้านขวา อีกคนหนึ่งอยู่ด้านซ้าย นี่ทำให้ทุกคนในสนามอดที่จะอิจฉาขึ้นมาเต็มอกมิได้ เหตุใดเนี่ยหลีจึงมีวาสนาถึงปานนี้?
เยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์ ไม่ว่าเป็ผู้ใด หากหนึ่งในพวกนางสามารถกลายเป็เพื่อนหญิงของพวกเขาได้ พวกเขาคงยิ้มั้แ่ในฝันกระทั่งถึงยามตื่นแล้ว!
เวลานี้เยี่ยเซิ่งซึ่งกำลังนั่งอยู่บนระเบียงสังเกตการณ์จ้องมองเนี่ยหลีที่กำลังยืนอยู่ตรงกลางระหว่างเยี่ยจื่ออวิ๋นและเซียวหนิงเอ๋อร์ สีหน้าท่าทางครุ่นคิด เขารู้สึกได้ลางๆ ว่าเื่นี้ค่อนข้างประหลาด แม้เนี่ยหลียังเยาว์วัยอยู่มาก แต่ท่าทางสงบนิ่งของเขากลับทำให้เกิดความรู้สึกโดดเด่นเป็พิเศษอย่างหนึ่ง
“ส่งเนี่ยหลีผู้นี้ไปชั้นเรียนสำหรับผู้มีพร์!” เยี่ยเซิ่งพูดขึ้นหลังจากนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ท่านรองอาจารย์ใหญ่ เกรงว่าจะขัดต่อกฎระเบียบ เขาเป็เพียงผู้ควบคุมจิตอสูรระดับทองแดงหนึ่งดาวเท่านั้น!”
“มีอันใดไม่ถูกต้องตามกฎรึ? ข้าคาดหวังในตัวเขา ไม่ได้หรือไรกัน?” สองคิ้วของเยี่ยเซิ่งเลิกสูงพูดเสียงต่ำ
เห็นท่าทางของเยี่ยเซิ่ง ผู้คนที่อยู่ข้างๆ เขาแต่ละคนมองหน้ากัน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พวกเขาก็ไม่พูดอะไรอีก ในเมื่อท่านอาจารย์ใหญ่ไม่อยู่ ท่านรองอาจารย์ใหญ่ย่อมมีอำนาจสูงสุด พวกเขาไม่อาจขัดแย้งกับเ้านายของตนเพียงเพื่อเื่เล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ได้
การทดสอบต่อๆ ไปของนักเรียนจากชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นไม่มีผู้ใดสามารถทำให้ผู้คนตะลึงได้อีก ทุกคนก้าวไม่ถึงระดับทองแดงหนึ่งดาว แม้คณาจารย์ทุกคนจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง แต่เมื่อคิดดูจนถี่ถ้วนแล้ว เยี่ยเซิ่งและคณะต่างก็พึงพอใจ ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นกลับสามารถมีนักเรียนอัจฉริยะหลายคนโผล่ออกมา นี่ก็นับว่าเกินความคาดหมายของพวกเขาแล้ว
การทดสอบสำหรับชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นสร้างความแตกตื่นไปทั่วโรงเรียนเซิ่งหลัน ชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของผู้คนกลับกลายเป็ที่จับตามองไปในพริบตา
ขณะที่การทดสอบยังคงดำเนินต่อไป เสิ่นซิ่วเดินไปข้างกายเยี่ยเซิ่ง นางรู้สึกอับอายยิ่ง
“ท่านรองประทานเยี่ยเซิ่ง ข้าขอลาออก นับจากวันนี้ข้ามิใช่อาจารย์ของโรงเรียนเซิ่งหลันอีกต่อไป!” เสิ่นซิ่วพูด ข้อพนันระหว่างนางกับเนี่ยหลีเป็ที่รู้กันไปทั่วโรงเรียนเซิ่งหลัน หากไม่ทำตามสัญญา เกรงว่าคงต้องถูกผู้คนดูแคลน และกระทั่งส่งผลต่อชื่อเสียงของตระกูลเสินเซิ่งอีกด้วย!
“อาจารย์เสิ่นซิ่ว เหตุใดเ้าจึงจะลาออกรึ?” เยี่ยเซิ่งยิ้มๆ พูดต่อว่า “เ้ามีนักเรียนอัจฉริยะตั้งหลายคนในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้น ทางโรงเรียนกระทั่งตระเตรียมที่จะมอบรางวัลแก่เ้า! ข้าอยากให้นักเรียนในชั้นเรียนเบื้องต้นทุกคนได้มีอาจารย์ที่ปรึกษาที่ดีเยี่ยมเยี่ยงเ้า!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเยี่ยเซิ่ง เสิ่นซิ่วมิได้รู้สึกยินดีอันใด ตรงกันข้าม นางกลับรู้สึกราวถูกตบหน้าไปฉากหนึ่ง ร้อนผะผ่าวไปหมด เพราะนางรู้ดีว่าอัจฉริยะหลายคนนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนางแต่อย่างใด บางคนกระทั่งไม่สนใจเข้าเรียนมาเกือบสองเดือนแล้ว นางแกล้งปิดตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่ง (แกล้งมองไม่เห็น) คิดรอคอยการทดสอบเพื่อดูว่านักเรียนเหล่านี้จะทำอะไรน่าอับอายออกมาบ้าง ทว่าคิดไม่ถึง ตนกลับกลายเป็คนที่ถูกตบหน้าเสียเอง
นักเรียนเหล่านี้ไม่เพียงมิได้ทำอะไรน่าเกลียดดังคาด ทว่ายังกลายเป็อัจฉริยะที่โดดเด่นที่สุด!
“ข้าตัดสินใจแล้ว ขอท่านรองอาจารย์ใหญ่โปรดอนุญาต!” เสิ่นซิ่วยืนกราน
อันที่จริง เยี่ยเซิ่งรู้เื่พนันระหว่างเสิ่นซิ่วและเนี่ยหลีอยู่ก่อนแล้ว เขายิ้มและพูดว่า “หากเป็เช่นนั้น ข้าก็ไม่ฝืนใจเ้าแล้ว!”
ได้ยินคำพูดของเยี่ยเซิ่ง เสิ่นซิ่วหันไปมองเนี่ยหลีที่อยู่บนสนามด้วยสายตาชั่วร้ายยิ่งนัก จากนั้นหมุนตัวจากไปไม่เหลียวกลับมาอีก
ถูกนักเรียนตัวเล็กๆ ในชั้นเรียนการต่อสู้เบื้องต้นบีบบังคับให้ต้องลาออก นี่เป็ความอับอายที่สุดในชีวิตของนาง ต้องมีสักวันหนึ่ง ข้า เสิ่นซิ่ว จะต้องกลับมาชำระความแค้นอย่างแน่นอน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้