ภายในเรือนชุ่ยฮวาของฮูหยินผู้เฒ่ามารดาของแม่ทัพใหญ่เจียง มีทั้งเสียงหัวเราะและความเอ็นดูสงสารบุตรหลานที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางป่าเขาที่แสนอันตราย ไม่ว่าสิ่งใดก็ต้องลงมือทำด้วยตนเองเท่านั้นไม่มีบ่าวไพร่คอยรับใช้ แม้สายตาของทุกคนในเรือนแห่งนี้จะรื้นไปด้วยน้ำตา แต่น้ำเสียงที่บอกเล่าประสบการณ์ชีวิตของตนอย่างอวี้จิ่น กลับไม่มีการเรียกร้องความสงสารจากผู้ใดสักนิด นางเล่าด้วยความภูมิใจที่มีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรจากยายเฒ่าลิ่ว ฝีมือการทำอาหารที่นางสัญญาว่าจะเข้าครัวทำให้ทุกคนได้ทาน ทุกเื่ที่ออกจากปากของนางเต็มไปด้วยความสุขจริง ๆ
“หลานย่าช่างเป็สตรีที่เข้มแข็งมากจริง ๆ แม้หมอตำแยคนนั้นจะพาเ้าไป แต่อย่างน้อยนางก็ยังเลี้ยงดูเ้าให้เติบโตแม้จะลำบากไปสักหน่อยก็ตาม ถือว่านางได้ทำคุณไถ่โทษพวกเราอโหสิกรรมให้นางเถิด ยามนี้นางคงจะไปรับโทษทัณฑ์ในปรโลกแล้วล่ะ แค่ก ๆ ๆ” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดจบก็มีอาการไอเล็กน้อยนางเป็เช่นนี้มาสักพักแล้ว
“ท่านแม่!!/ท่านย่า!!”
“ไม่เป็ไร ๆ พวกเ้าไม่ต้องใไปหรอก น่าจะเป็หวัดเท่านั้นดื่มยาสักสองสามเทียบก็หายแล้วล่ะ”
“แม่นมฮวนเ้าคะท่านย่ามีอาการไอบ่อยแค่ไหนในหนึ่งวัน” อวี้จิ่น้าแน่ใจว่านี่เพิ่งจะเป็อาการเริ่มต้นยังพอมีทางรักษาได้
“เรียนคุณหนูอาการไอของฮูหยินผู้เฒ่าเพิ่งจะเป็มาก่อนหน้าเพียงไม่กี่วันเ้าค่ะ หลังจากไอจะเหนื่อยอยู่บ้างเล็กน้อยบ่าวให้ท่านหมอมาตรวจแล้ว ท่านหมอบอกว่าเป็อาการของไข้หวัดเท่านั้นและได้ยามาสามเทียบ แต่บ่าวคิดว่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่ายังไม่ดีขึ้นเลยเ้าค่ะคุณหนู” แม่นมฮวนบอกเล่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่าต่ออวี้จิ่น
อวี้จิ่นนิ่งเงียบเมื่อได้รับการยืนยันจากแม่นมฮวน เกี่ยวกับระยะเวลาของการกำเริบที่ท่านย่าของนางเกิดอาการไอขึ้น มีผู้ต้องสงสัยเป็สาวใช้คนหนึ่งที่ยกยาต้มมาให้ที่เรือนแห่งนี้ ขณะที่อวี้จิ่นกำลังคิดว่าท่านย่าของตนจะถูกวางยาพิษหรือไม่อยู่นั้น ในมือของนางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชายเสื้อก็ปรากฏห่อยาสมุนไพรทันที
“วูบ...”
“...!!!”
‘เกิดอะไรขึ้นห่อยาสมุนไพรมาจากไหนข้าไม่ได้ถือสิ่งใดมานี่นา แล้วห่อยามาจากหรือว่า!! จะเป็ร้านสมุนไพรในมิติของนางที่ส่งมันออกมางั้นรึ ตอนนี้ต้องรักษาท่านย่าก่อนเื่ร้านสมุนไพรค่อยว่ากัน’
“เช่นนั้นข้าว่าแม่นมฮวนพาท่านย่าไปนอนพักก่อนเถิดเ้าค่ะ และข้าไม่มีของฝากมีค่าอันใดติดตัวมาเลย มีเพียงยาสมุนไพรที่เก็บจากบนเขาเท่านั้นรบกวนแม่นมฮวนนำไปต้มให้ท่านย่าดื่มด้วยนะเ้าคะ ที่สำคัญแม่นมฮวนต้องเป็คนทำั้แ่ต้นจนจบอย่ามอบให้ใครทำแทนท่านอย่างเด็ดขาดเ้าค่ะ” อวี้จิ่นกำชับแม่นมฮวนเสียงเข้ม
“เ้าค่ะบ่าวจะทำตามที่คุณหนูกำชับเป็อย่างดีเ้าค่ะ”
“ท่านแม่ต้องพักผ่อนให้มากนะขอรับไม่ต้องกังวลสิ่งใดแล้ว ตอนนี้ครอบครัวของพวกเราอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา เื่ทุกอย่างปล่อยให้เป็หน้าที่ของพวกเราเถิดขอรับ” แม่ทัพใหญ่เกรงว่าอาการป่วยของมารดานั้นมาจากบ้านรองเป็แน่
“อืม อย่าได้ประมาทศัตรูจะทำสิ่งใดจงระมัดระวังให้มาก แม่ขอตัวไปเอนหลังหน่อยก็แล้วกันนะเ้าก็พาหลานสาวของแม่ กลับไปพักผ่อนที่เรือนของนางได้แล้วเพิ่งเดินทางมาถึงคงเหนื่อยไม่น้อย” ฮูหยินผู้เฒ่ายังมีใจห่วงใยสุขภาพของอวี้จิ่น
“ขอรับท่านแม่”
แม่ทัพใหญ่มองมารดาเดินกลับเข้าเรือนจนลับสายตา จึงหันมาชักชวนฮูหยินของตนรวมถึงบุตรทั้งสองกลับเรือนหน้าด้วยกัน แต่ว่าพวกเขายังไม่ทันได้พูดคุยเื่ที่อวี้จิ่นรู้เกี่ยวกับอาการของฮูหยินผู้เฒ่า ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญจากตระกูลเจียงสายรองที่เดินเข้ามาถึงด้านหน้าห้องรับแขก โดยด้านหลังยังมีพ่อบ้านเจียงวิ่งตามสีหน้าไม่สู้ดีนัก และแม่ทัพใหญ่ก็รู้ดีว่ามันมีสาเหตุมาจากใคร
“โอ้ คารวะพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ขอรับ” เจียงกุ้ยฉินทำเป็อ่อนน้อมถ่อมตน
“คารวะพี่สามีกับพี่สะใภ้เ้าค่ะ” เย่จือเหมยทำตามสามีของตน
“คารวะท่านลุงท่านป้าและพี่ชายเจียงเ้าค่ะ”
เจียงซูลี่ทำความเคารพแบบขอไปทีมิได้มีท่าทางงดงาม ดังเช่นยามออกไปร่วมงานเลี้ยงน้ำชาหรือพบปะสหายสักนิด ไม่เพียงเท่านั้นนางยังใช้สายตามองอวี้จิ่นอย่างดูถูก คนถูกมองยังคงยืนนิ่งมองเจียงซูลี่กลับอย่างไม่เกรงกลัว
“มาที่จวนของข้ามีธุระอันใดรีบพูดมาข้ายังมีเื่ให้ต้องจัดการอีกมาก หากไม่มีเื่สำคัญเชิญกลับจวนของเ้าไปเสียเจียงกุ้ยฉิน”
“แหมมม พี่ใหญ่ที่ข้ามาก็เพราะเื่สำคัญของพวกท่านนะ เพราะข้าได้ยินผู้คนร่ำลือกันว่าอาหยวนพาสตรีกลับมา นางคงจะเป็ว่าที่สะใภ้ของท่านกับพี่สะใภ้กระมัง” บ่าวในเรือนของเขานำข่าวลือมาเล่าให้ฟังถึงห้องทำงาน
“นั่นน่ะสิพี่สะใภ้อีกไม่นานนางต้องมีหลานชายหลานสาว ให้ท่านช่วยเลี้ยงดูอีกหลายคนแล้วนะจะได้ลืมเื่เก่า ๆ พวกนั้นไปบ้างน่ะ” เย่จือเหมยเริ่มพูดตอกย้ำให้จางฮูหยินเ็ปแต่มันกลับไม่ใช่อีกต่อไป
“ชิ ท่านป้าเ้าคะหากลูกสะใภ้ของท่านคลอดลูกออกมา ท่านจะต้องอบรมสั่งสอนด้วยตัวของท่านนะเ้าคะ ถ้าปล่อยให้สตรีจากชนบทเช่นนี้สั่งสอนพวกเด็ก ๆ คงจะโง่ทำให้ตระกูลเสียชื่อได้เ้าค่ะ” เจียงซูลี่ตั้งใจพูดกระทบที่มาของอวี้จิ่นโดยตรง
“หึ ดูท่าพวกเ้าสามคนจะเป็กังวลกับเื่ของครอบครัวข้าเสียเหลือเกิน เย่ฮูหยินเ้าจะพูดถึงเื่อดีตของฮูหยินข้าไปทำไม เจียงซูลี่คำแนะนำของเ้าข้าคิดว่าควรเป็เ้าที่ต้องได้รับการอบรมสั่งสอน”
เมื่อบิดาพูดตอกหน้าพวกสายรองมีหรือเจียงหยวนจะอยู่เฉย เขาย่อมตอกย้ำให้พวกบ้านรองหน้าแตกวิ่งหางจุกตูดกับจวนไปเสีย
“ทำไมท่านแม่จะต้องลืมเื่เก่าที่มีคนจิตใจชั่วร้ายคิดวางแผนสังหารน้องสาวของข้าทั้งที่นางเพิ่งจะคลอด แต่คนสันดานชั่วจะคิดเื่ดี ๆ ได้อย่างไรเย่ฮูหยินคิดเช่นข้าหรือไม่ นี่คงเป็ด่านเคราะห์ของท่านแม่ของข้าที่ต้องผ่านมันไปให้และมันก็สำเร็จเพราะยามนี้น้องสาวของข้ายังมีชีวิตอยู่ ซึ่งก็คือสตรีที่เจียงซูลี่ใช้สายตามองอย่างดูถูกไปเมื่อกี้อย่างไรเล่า” เจียงหยวนตอบกลับแทนมารดาทำเอาเย่จือเหมยพูดไม่ออกทีเดียว
“ห๊า!! นังคนบ้านนอกจากชนบทนี่คือน้องสาวของท่าน จะเป็ไปได้อย่างไรก็ไหนว่านางตายั้แ่เกิดแล้วมิใช่รึ ท่านลุงพวกท่านปล่อยวางไม่ได้ถึงกับหาสตรีมาเป็ตัวแทนบุตรสาวเลยหรือ” เจียงซูลี่ไม่เชื่อว่าอวี้จิ่นจะเป็น้องสาวของเจียงหยวนจริง ๆ
“ข้าคงต้องขอบคุณหมอตำแยที่ทำคลอดนางออกมา ที่ไม่ลงมือสังหารนางตามคำสั่งของคนจ้างวานในวันที่ฮูหยินคลอด แต่กลับพานางหลบซ่อนตัวในชนบทเลี้ยงดูจนบุตรสาวของข้าเติบโต และวันนี้นางได้กลับมาสู่อ้อมกอดของครอบครัวแล้ว อีกสามวันจะทำการประกาศอย่างเป็ทางการให้ผู้คนรับรู้อีกครั้ง” แม่ทัพใหญ่กำมือแน่นเมื่อได้ยินคำพูดไม่น่าฟังทั้งหลายจากบ้านรอง จึงพูดถึงเื่ของหมอตำแยที่มาทำคลอดให้กับจางฮูหยินขึ้นมาต่อหน้าสามคนพ่อแม่ลูกนั่น
“ตายจริง!! มีเื่เช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไรเ้าคะ พี่สะใภ้เพิ่งจะคลอดบุตรสาวเ็ปร่างกายยังไม่ทันหาย ก็ต้องเ็ปหัวใจเสียใจที่เห็นบุตรสาวตัวปลอมตายต่อหน้าต่อตาน่ะสิเ้าคะ พวกเราบ้านรองขอแสดงความยินดีกับพวกท่านด้วยที่ได้บุตรสาวกลับมาเ้าค่ะ” แม้ในใจจะก่นด่าสาปแช่งยายเฒ่าลิ่วแค่ไหน แต่ท่าทางของเย่จือเหมยยังต้องเล่นงิ้วต่อไป
“ใช่แล้วล่ะข้าต้องเ็ปเสียใจร่างกายผ่ายผอมไปมาก เพราะพวกขี้อิจฉาริษยามันจิตใจคับแคบไม่อยากให้บุตรสาวข้าได้ดี ถึงคิดจะสังหารนางั้แ่แบเบาะจากนี้ไปใครที่คิดลงมือกับบุตรสาวข้าอีก ข้าสาบานว่าจะตาต่อตาฟันต่อฟันให้ตกตายกันไปข้างนึง ในเมื่อเป็คนดีมีน้ำใจแล้วถูกรังแกข้าคงต้องกลายร่างเป็สตรีปากร้ายบ้างก็แล้วกัน หึ” จางฮูหยินใช้สายตาแข็งกร้าวจ้องมองไปยังเย่จือเหมยไม่ยอมกระพริบตาจนพูดจบ
อวี้จิ่นเห็นท่าทางโกรธแค้นของบิดามารดาก็นึกเห็นใจ ที่วันนี้แม้นางจะกลับมาคนพวกนี้ก็ยังมิวายมาตอกย้ำเื่แต่เก่าก่อน นางจึงลองเอ่ยขอยาบำรุงเกี่ยวความงามจากร้านสมุนไพรในมิติ และครั้งนี้มันก็ปรากฏขึ้นในมือของนางอย่างที่คิดจริง ๆ
“ท่านพ่อท่านแม่เ้าคะอย่าเอาแต่พูดเื่เดิม ๆ กันอีกเลยเ้าค่ะ หลานเจียงอวี้จิ่นคารวะท่านอาและท่านอาสะใภ้เ้าค่ะ สวัสดีซูลี่พวกเราเกิดวันเดียวกันอายุก็เท่ากันเรียกแบบสหายจะดีกว่าเ้าว่าจริงไหม”
“ฮึ ใครอยากจะเป็สหายกับคนบ้านนอกเช่นเ้ากัน แค่อย่าทำให้ตระกูลเจียงขายหน้ายามออกไปด้านนอกจวนก็พอ สหายของข้าแต่ละคนเป็ถึงบุตรหลานขุนนางเชียวนะ” เจียงซูลี่พูดอย่างไม่เกรงใจเ้าของจวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ บุตรสาวสักนิด
“อ่อ เื่นี้เ้าอย่าห่วงไปเลยซูลี่ประเดี๋ยวท่านแม่จะเริ่มสอนข้าแล้วล่ะ ไหน ๆ ท่านอาทั้งสองก็มาเยี่ยมถึงจวนแล้วอวี้จิ่นมาจากชนบท บ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ติดูเาจึงตามหาสมุนไพรหายากหลายอย่าง ซึ่งมันเป็ยาบำรุงชั้นยอดตามตำราเก่าแก่ช่วยเื่ผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็บุรุษหรือสตรีล้วนดื่มได้ทั้งนั้นไม่กี่วันพวกท่านลองสังเกตใบหน้าดูได้ ว่ามี
การเปลี่ยนแปลงหรือไม่แต่ข้าเก็บไว้เพียงสองห่อที่เหลือก่อนหน้า ได้นำไปขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายซื้ออาหารและค่าเดินทางไปแล้ว หวังว่าท่านอาจะไม่รังเกียจของฝากจากหลานสาวคนนี้นะเ้าคะ” อวี้จิ่นถือห่อยาสมุนไพรและเดินเข้าไปหาเจียงกุ้ยฉิน เพื่อจะฉวยโอกาสตอนที่เขารับห่อยาสมุนไพรนางจะได้แอบััมือ เนื่องจากนางอยากรู้ว่าท่านอาของนางกำลังมีแผนการอันใด และสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ตระกูลเจียงสายรองจะเป็อย่างไร
‘หึ นางมีความรู้เื่สมุนไพรด้วยงั้นรึข้าคงต้องบอกสาวใช้คนนั้นให้ระวังตัวมากขึ้นเสียแล้ว’
“ไอหยา หลานสาวมีสมุนไพรดี ๆ มาฝากอาทั้งทีจะรังเกียจได้อย่างไรเล่า ขอบใจเ้ามากนะ หมับ!” เขาทำใจรับมาเป็พิธีเท่านั้น
“......”
“เ้าค่ะท่านอา” อวี้จิ่นเงียบไปเพียงอึดใจกับสิ่งที่นางได้เห็น ก่อนจะได้สติตอบเจียงกุ้ยฉินคล้ายไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
สิ่งที่อวี้จิ่นเห็นนั้นทำเอานางแอบยิ้มเมื่อรู้ว่าบิดาของนาง กำลังจะลงมือสั่งสอนคนบ้านรองให้นางด้วยวิธีการบางอย่าง ดังนั้นไม่ว่าเจียงกุ้ยฉินจะซุกซ่อนอะไรไว้ในกรมขุนนาง อวี้จิ่นคิดว่าจะบอกกับบิดาให้หมดเพื่อให้คนบ้านรองได้รับโทษนาน ๆ และไม่อาจกลับมาเมืองหลวงได้อีกตลอดชีวิต
“ในเมื่อพวกเ้าหมดธุระแล้วก็เชิญกลับจวนไปเถิด บุตรสาวของข้ายังต้องพักผ่อนจากการเดินทางไกลมานาน ทางที่ดีแม้จะมีธุระก็ไม่ควรมาเหยียบที่จวนของข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก มีสิ่งใด้าพูดให้ฝากเื่ไว้กับพ่อบ้านเจียงเท่านั้น” แม่ทัพใหญ่ไล่แขกที่เดินเข้าจวนอย่างไร้มารยาทตรง ๆ
“หึ ไป กลับจวน!!” เจียงกุ้ยฉินไม่พอใจอย่างมากที่ได้ยินเช่นนั้น
“ไม่ส่ง เชิญ!” เจียงหยวนก็ไม่ไว้หน้าคนบ้านรองเช่นกัน
เมื่อเจียงกุ้ยฉินพาฮูหยินและบุตรสาวกลับไป พวกเขาจึงกลับเข้าไปนั่งในห้องรับแขกโดยเหลือเพียงคนในครอบครัวอีกครั้ง จึงถึงเวลาที่แม่ทัพใหญ่จะทำการสอบถามกับสองพี่น้อง เื่ที่เขาสงสัยเกี่ยวกับการส่งสัญญาณบางอย่าง และอยากรู้ว่ามีเื่ไม่ดีเกิดขึ้นกับมารดาของเขาหรือไม่
“อะแฮ่ม ๆ ๆ พวกเ้าสองคนจงบอกเื่ที่เกิดขึ้นในเรือนชุ่ยฮวามาเสียดี ๆ อย่าคิดว่าพ่อไม่เห็นนะอาหยวนว่าเ้ากับจิ่นเอ๋อร์พยักหน้าให้กันน่ะ หืม” แม่ทัพใหญ่ถามบุตรทั้งสองเสียงเข้ม
“ท่านพี่มีเื่อะไรหรือเ้าคะข้าก็นั่งอยู่กับท่าน ในเรือนชุ่ยฮวาก็ปกติไม่มีเหตุการณ์แปลก ๆ เลยนะเ้าคะ” จางฮูหยินไม่เข้าใจว่าสามีพูดเื่อะไรกับบุตรทั้งสองกันแน่
“จิ่นเอ๋อร์เ้าบอกท่านพ่อไปเถิดว่าเ้าเห็นสิ่งใดบ้าง จะได้อธิบายให้ท่านแม่ได้รู้ด้วยเพราะคงจะมีเหตุการณ์เช่นนี้บ่อย ๆ” เจียงหยวนหันไปบอกกับอวี้จิ่นผู้เป็น้องสาว
“แล้วจิ่นเอ๋อร์เห็นอะไรกันแน่ล่ะลูกบอกทุกคนมาเถิด ถ้าร้ายแรงจะได้ช่วยกันจัดการให้มันเบาบางลงได้”
“ไม่มีอันมากหรอกเ้าค่ะท่านแม่เพียงแต่ตอนที่ข้าขึ้นไปบนูเา เพื่อหาสมุนไพรมาทำยาเกิดเหตุไม่คาดคิดเล็กน้อย ทำให้ข้าสลบไปพอฟื้นขึ้นมาถึงได้รู้ว่าสามารถเห็นเื่ราวชีวิตของคน ๆ หนึ่ง ผ่านการััร่างกายและคนแรกทำให้รู้ถึงความสามารถนี้ ก็คือยายเฒ่าลิ่วที่สารภาพเื่ของข้าก่อนที่นางจะตายเ้าค่ะ” อวี้จิ่นเลี่ยงที่จะพูดคำว่าตายเพราะนางกลัวมารดาจะรับไม่ไหว
“โธ่ จิ่นเอ๋อร์ลูกแม่เ้าต้องลำบากมากเพียงใดตลอดสิบกว่าปี ูเาป่าทึบเช่นนั้นอันตรายจากสัตว์ร้ายและสัตว์มีพิษมากมายเชียวนะ” จางฮูหยินมิได้สนใจเื่อื่นนางเอาแต่คิดถึงความลำบากของอวี้จิ่น
“ไม่เป็ไรเ้าค่ะท่านแม่ที่นั่นยังมีคนที่ลำบากกว่าข้าอีกมาก ส่วนเื่ที่เห็นหลังจากได้ััมือของท่านย่า มีบางอย่างไม่ถูกต้องเพราะสาวใช้ที่นำยาบำรุงมาส่ง นางมีพิรุธยามยื่นถาดวางถ้วยยาให้กับแม่นมฮวน ยิ่งไปกว่านั้นท่านย่าดื่มยามาหลายเทียบแต่อาการกลับไม่หาย ยังคงมีอาการคล้ายไข้หวัดและยิ่งเริ่มไอติดต่อกันมากกว่าเดิมด้วยเ้าค่ะ” อวี้จิ่นพูดเพียงเื่ที่น่าสงสัยเท่านั้น
“จิ่นเอ๋อร์เ้ากำลังจะบอกพวกเราว่าว่ายาบำรุงที่ท่านย่าดื่มมีบางอย่างไม่ถูกต้องใช่หรือไม่” แม่ทัพใหญ่ถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“ใช่เ้าค่ะท่านพ่อและสิ่งที่ข้าคิดไว้ก็คือ..ยาพิษเ้าค่ะ”
“ยาพิษ!!/ยาพิษ!!” จางฮูหยินกับเจียงหยวนถึงกับพูดขึ้นพร้อมกัน แม้แต่คนสนิทของพวกเขา ยังคาดไม่ถึงว่าเจียงกุ้ยฉินจะใจกล้าเช่นนี้
“จิ่นเอ๋อร์!! เ้ามั่นใจแค่ไหนว่ามันคือยาพิษงั้นรึ” แม่ทัพใหญ่แม้ไม่แสดงอาการอันใดแต่มือของเขากลับกำเอาไว้แน่นจนเห็นเส้นเื
“เต็มสิบส่วนเ้าค่ะท่านพ่อ แต่พวกท่านอย่าได้ห่วงไปเลยยาบำรุงที่มอบให้แม่นมฮวน อันที่จริงมันคือยาถอนพิษไม่ใช่ยาบำรุงแต่อย่างใดเ้าค่ะ ข้าไม่ได้ถนัดแค่เื่ยาบำรุงร่างกายนะเ้าคะแต่ยาพิษสำหรับใช้ฆ่าคน ยายเฒ่าลิ่วสอนให้ข้าด้วยตนเองทุกขั้นตอนเช่นยาบำรุงสองห่อ ที่ได้มอบให้กับบ้านเจียงสายรองนั่นอย่างไรเล่า หึ ๆ ๆ” อวี้จิ่นหัวเราะ
ด้วยความสาแก่ใจที่ได้เริ่มลงมือเอาคืน
“จิ่นเอ๋อร์น้องข้าก็เ้าพูดเองมิใช่รึว่ามันคือยำบำรุง” เจียงหยวนงง
“อ้อ ก็มันเป็ยาบำรุงผิวพรรณจริง ๆ นี่เ้าคะพี่ใหญ่ เพียงแต่สองห่อนั่นข้าผสมยาพิษที่จะเริ่มทำลายิัของพวกเขา หลังจากดื่มมันไปแล้วเจ็ดวันจากผิวพรรณที่เต่งตึงงดงาม มันจะเริ่มเหี่ยวย่นไปเรื่อย ๆ หากมิใช่หมอที่เก่งด้านพิษไม่มีทางรักษาให้เป็เช่นเดิมได้แน่เ้าค่ะ” ถ้าองค์ชายหกอะไรนั่นรู้ว่าเจียงซู่ลี่กลายเป็หญิงชราจะทำเช่นไร
“ฮ่า ๆ ๆ ท่านพ่อท่านแม่พวกเราลงมือช้ากว่าจิ่นเอ๋อร์เสียแล้วขอรับ ข้าชักอยากจะให้ถึงวันที่อาการพวกนั้นกำเริบเร็ว ๆ เสียแล้วสิ” เจียงหยวนชื่นชอบวิธีการเอาคืนของอวี้จิ่นมาก
“แม่ก็อยากเห็นเช่นกันถึงตอนนั้นดูสิว่าพวกนางสองแม่ลูก จะยังกล้าออกจากจวนไปทำตัวอวดดีต่อหน้าผู้คนอยู่หรือไม่”
“แต่ยังมีเื่ที่ข้าเห็นตอนยื่นห่อยาให้กับเจียงกุ้ยฉินอีกนะเ้าคะ ดูเหมือนว่าท่านพ่อกำลังมีแผนจะเอาคืนคนผู้นี้ เพราะภาพที่เห็นคือบ้านรองทุกคนต้องระเห็จออกจากเมืองหลวง เดินทางไปชายแดนที่มีปัญหามากมายข้าพูดถูกหรือไม่เ้าคะท่านพ่อ” อวี้จิ่นหันไปให้ความสนใจกับบิดาอย่างแม่ทัพใหญ่
“อืม เ้าพูดถูกแล้วพ่อกำลังหาทางให้เจียงกุ้ยฉินถูกฮ่องเต้ลงโทษ ปลดจากขุนนางขั้นสี่เหลือเพียงขุนนางขั้นหกเพื่อรับตำแหน่งเ้าเมือง และฮ่องเต้ย่อมส่งไปเมืองที่อยู่ห่างไกลสำหรับขุนนางที่กระทำผิด” แม่ทัพใหญ่ต้องยอมรับว่าเื่ที่บุตรสาวของตนพูดมานั้นเป็ความจริง เพียงแค่ยังคิดไม่ออกว่าจะให้เจียงกุ้ยฉินรับโทษใด
“จริอหรือนี่!” เจียงหยวนยังไม่ทันได้คิดแผนการอันใดกับเื่นี้ด้วยซ้ำ
“เช่นนั้นข้าจะช่วยให้ท่านพ่อลงมือได้เร็วขึ้นอีกหน่อย ส่งลูกน้องที่มีวรยุทธ์เก่งกาจวิชาตัวเบาเหนือผู้ใดยิ่งดีเ้าค่ะ เพราะลูกน้องของท่านพ่อคนนี้ต้องเข้าไปที่กรมขุนนาง เพื่อนำสมุดรายชื่อที่เจียงกุ้ยฉินทำไว้เมื่อคราวเสนอชื่อขุนนางในการเลื่อนตำแหน่ง เขาเรียกรับเงินจำนวนมากจากขุนนางที่ไม่มีผลงานแต่อยากเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น โดยสมุดบัญชีนี้ถูกซ่อนไว้ในช่องลับบนพื้นที่เก้าอี้วางทับอยู่เ้าค่ะ” อวี้จิ่นเห็นเจียงกุ้ยฉินซ่อนไว้หลายเล่มเกี่ยวกับเื่เงินสินบน
“เ้าบอกว่าเจียงกุ้ยฉินเรียกรับเงินสินบนงั้นรึ!! หึ ฮ่า ๆ ๆ ขอบคุณ์ที่มอบความสามารถนี้ให้กับบุตรสาวของข้า ถึงเวลาที่คนชั่วจะได้รับผลกรรมแล้วสินะ” แม่ทัพใหญ่หัวเราะด้วยความสะใจ
“ยอดเยี่ยมไปเลยเมื่อมีหลักฐานมัดตัวเช่นนี้ เจียงกุ้ยฉินคงไม่รอดจากโทษที่จะได้รับอย่างแน่นอนขอรับท่านพ่อ” เจียงหยวนอยากให้ได้หลักฐานมาอยู่ในมือไว ๆ จะได้ทูลถวายฮ่องเต้ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย
“ใช่พวกบ้านรองดิ้นไม่หลุดแน่ความใฝ่ฝันที่จะเกี่ยวดองกับเชื้อพระวงศ์ ด้วยการส่งเจียงซูลี่ไปเป็พระชายารองก็ต้องดับลงด้วยเช่นกัน ต้องขอบใจจิ่นเอ๋อร์ที่ความสามารถของเ้านั้น ได้ช่วยทั้งท่านย่าให้รอดจากยาพิษและยังช่วยจัดการกับบ้านรองอีก” แม่ทัพใหญ่จะส่งลูกน้องฝีมือคนใดได้นอกจากเจียงเล่อลูกน้องคนสนิทของตนเล่า
“เช่นนั้นข้ารบกวนท่านพ่อให้พ่อบ้านเจียงเรียกบ่าวไพร่ทั้งหมด มารวมตัวกันที่หน้าเรือนใหญ่ในวันพรุ่งนี้ปลายยามเฉินนะเ้าคะ พวกเราจะมาจับไส้ศึกที่บังอาจช่วยบ้านรองทำร้ายท่านย่ากันเ้าค่ะ”
“อืม ได้สิพ่อจะสั่งการพ่อบ้านเจียงไว้ให้เ้าเอง”
“ขอบคุณเ้าค่ะท่านพ่อ”
“เอาล่ะ ๆ วันนี้พูดคุยกันเพียงเท่านี้ก่อนเถิดท่านพี่ ข้าขอพาจิ่นเอ๋อร์ไปนอนพักก่อนนะเ้าคะ แล้วค่อยเจอกันตอนรับสำรับมื้อเย็นเ้าค่ะ” จางฮูหยินรอให้พ่อลูกคุยกันให้จบและจะได้พาบุตรสาวกลับเรือนไปพักเสียที
“นั่นสินะพี่เกือบลืมเื่นี้ไปเสียได้น้องหญิงพาลูกกลับเรือนเถิด อาหยวนก็เช่นกันไปพักเสียหน่อยแล้วค่อยมาช่วยพ่อทำงาน”
“ขอรับท่านพ่อ”
สองพ่อลูกยืนส่งสตรีที่เป็ดั่งดวงใจสองคนกลับเรือนก่อนจะมองหน้าแสยะยิ้มเหี้ยมเป็ที่รู้กัน เมื่อได้หลักฐานมายามอยู่ในท้องพระโรงต้องทำอย่างไร แต่จะไม่มีเพียงพวกเขาสองพ่อลูกที่จะช่วยกันเพียงลำพัง เพราะปลายยามเฉินของวันพรุ่งนี้ฟู่หลงเหยียนได้แวะยังจวนตระกูลเจียง ก่อนที่จะไปยังกรมอาญาเขาอยากพูดคุยกับอวี้จิ่นสักเล็กน้อย นอกจากนี้ยังคิดแผนดูแลอวี้จิ่นด้วยการมอบตงลู่ให้เป็องครักษ์ส่วนตัว คอยติดตามดูแลอวี้จิ่นไปทุกที่ที่นางอยากไปแม้แต่ม้าที่นางอยากได้ ฟู่หลงเหยียนยังรับปากกับแม่ทัพใหญ่ว่าจะหามาให้นางด้วยตนเอง
