ทำอีท่าไหนถึงได้โง่ขนาดเสียเงิน 19,800 หยวนไปกับการซื้อกรอบรูปคริสตัลหนึ่งอันได้? วันนี้เสิ่นิได้ััถึงความมึนๆ งงๆ ราวกับโดนป้ายยา
“แม่คะ หนูขอโทษด้วยนะที่ต้องให้แม่อาศัยอยู่ในห้องธรรมดาๆ อย่างนี้ เอาไว้วันไหนหนูมีเวลาว่าง หนูจะเปลี่ยนกรอบดีๆ ให้แม่อีกรอบนะคะ” หญิงสาวนั่งอยู่บนม้านั่งริมทางเดิน ฟางหยวนใส่ภาพของเธอกับแม่เข้าไปในกรอบรูป
“หิวแล้ว หาอะไรทานกันเถอะ!” เสิ่นิเสนอ
“เดี๋ยวหนูโทร.ไปจองโต๊ะที่อ้าวกวนไห่เอง” ฟางหยวนว่าพลางหยิบโทรศัพท์ออกมา
“ไม่ต้องหรอก กว่าจะไปถึงภัตตาคารก็บ่ายพอดี ทานที่นี่แหละ” เสิ่นิคว้าโทรศัพท์ฟางหยวนไป
“ที่นี่?” ฟางหยวนมองไปยังร้านอาหารฝั่งตรงข้าม ล้วนแต่เป็ร้านอาหาร Fast-foodที่ต้องเลือกบริการตนเอง “ว่ากันว่าร้านที่นี่ใช้น้ำมันทอดซ้ำกันหลายรอบเลยนะ กินแล้วจะตายไหม?”
“อย่างมากก็พิการ จะไปตายง่ายๆ ได้ยังไง” เสิ่นิลากฟางหยวนตรงเข้าไปในร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
บะหมี่ร้านนี้ขายกันชามละ 20 ถึง 30 หยวน แต่คนก็ยังเยอะ เป็เพราะตอนนี้เป็่ที่คนรับประทานอาหารกันพอดี พนักงานเสิร์ฟ พนักงานเก็บโต๊ะต่างก็ยุ่งกันจนหัวหมุน
เสิ่นิเดินไปนั่งยังโต๊ะสี่ที่นั่งตรงมุมด้านในสุดของร้าน แต่ก้นยังไม่ทันร้อน คู่สามีภรรยาวัยรุ่นก็เดินตามเข้ามา
“ขอโทษครับ มีคนนั่งหรือเปล่า?” คนพ่อถาม
เดิมทีฟางหยวนไม่คุ้นกับการร่วมโต๊ะกับผู้อื่น แต่เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังตั้งครรภ์ท้องโตอยู่ ด้วยความมีมารยาท เธอจึงยอมให้พวกเขานั่งด้วย
“ไปซื้อสิ ครูเลี้ยงเอง” เสิ่นิหยิบเงินให้ฟางหยวนหนึ่งร้อยหยวน
“หนูไม่เคยทำงานเป็เด็กเสิร์ฟ อีกอย่าง 100 หยวนสำหรับสองคน ครูคิดว่าเราอยู่แอฟริกากันหรือยังไง?” สามัญสำนึกของฟางหยวนช่างบิดเบี้ยวเหลือเกิน
“ไหนบอกว่าจะใช้ชีวิตแบบชาวบ้านทั่วไปวันหนึ่งไง? ไปลองััประสบการณ์การต่อแถวสั่งอาหารซะสิ แม่คุณนายสาว” เสิ่นิคร่ำครวญ
“ครูเก็บเงินไว้เถอะ หนูไม่จับเงินจากกระเป๋าของคนอื่นหรอก สกปรก” ฟางหยวนชูนิ้วกลางให้พร้อมกับเดินจากไป
คู่สามีภรรยานั่งลงพร้อมกล่าวทักทาย สามีเลือกนั่งข้างๆ เสิ่นิ ภรรยาท้องโตนั่งฝั่งตรงข้าม
เสิ่นิถอดแว่นตากรอบพลาสติกสีดำออกด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “ผมไม่เคยดูถูกพวกมือปืน แต่คุณทั้งคู่ช่วยรอบคอบกันหน่อยได้ไหม ดูท้องของภรรยาคุณสิ อย่างน้อยๆ ก็ปาเข้าไป 6 เดือนกว่าแล้ว ยังใส่ส้นสูง 10 เซ็นฯ เดินชอปปิ้งอยู่เลย พวกคุณติ๊งต๊องหรือเปล่า? หรือว่าอยากตาย?”
คู่รักสามีภรรยาพากันตกตะลึง เดิมทีเป้าหมายของพวกเขาคือฟางหยวน แต่เห็นทีจะเก็บหมอนี่ไว้ไม่ได้แล้ว สามีจึงดึงมีดสั้นออกมาจากด้านหลังข้างลำตัว ส่วนภรรยาก็ควักปืนพก G18 ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์เก็บเสียงออกมาจากครรภ์ปลอม
“ดูนั่น! เมิ่งฉี!” จู่ๆ เสิ่นิก็ะโขึ้นมา ลูกค้าและพนักงานในร้านต่างก็พากันมองออกไปนอกร้าน มีดของชายที่อยู่ข้างๆ เขายังไม่ทันได้ชักออกมาจนหมดด้าม เขาก็ถูกเสิ่นิผลักใบหน้าให้หันกลับไปด้านหลัง แรงกระแทกทำเอากระดูกคอแทบหัก ศีรษะกระทบเข้ากับกำแพงอิฐจนตาเหลือก
ในขณะเดียวกัน ที่ใต้โต๊ะ เสิ่นิก็ใช้ขาเตะไปที่ครรภ์ปลอมๆ ของภรรยา กระทั่งปืนตกลงบนพื้น ชั่ววินาทีที่เธอคิดจะกรีดร้อง ด้านหลังศีรษะก็ถูกเสิ่นิคว้าเอาไว้ จากนั้นก็จับกระแทกกับโต๊ะไม้ด้านหน้าจนหมดสติไป กระบวนการทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในเสี้ยววินาที ต้องถ่ายภาพแบบ Slow motion เท่านั้นถึงจะเห็นการกระทำทั้งหมดของเสิ่นิได้
“เซี่ยวอี๋ คุณอยู่หรือเปล่า?” เสิ่นิกรอกเสียงเข้มผ่านเข้าไปในหูฟัง
“เฮ้ ฝักบัวที่นี่ไม่เลวเลยนะ ไว้เอาไปติดอ่างอาบน้ำที่บ้านเราได้เลย” เซี่ยวอี๋มัวแต่ชื่นชม
“ไว้ค่อยซื้อคราวหน้าแล้วกัน เกิดเื่แล้ว มือปืนเข้ามาในห้าง เตรียมอพยพ” เสิ่นิพูดพลางคว้าปืนขึ้นมาเก็บไว้ที่หลังเอว ส่วนมีดเขาไม่เอาแล้ว ณ ตอนนี้ ฟางหยวนซื้ออาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเดินมาพร้อมกับสีหน้าที่ไม่พอใจ
“ถูกเกินไป ก๋วยเตี๋ยวเนื้อชามหนึ่งแค่ 20 หยวน? ครูนึกสภาพออกไหม? คราวก่อนที่หนูไปทานสเต๊กเนื้อโกเบ เขาให้เนื้อปริมาณเยอะเท่านี้เหมือนกัน ต้องจ่ายถึง 3,000 หยวนแน่ะ ถึงจะได้ทาน” ฟางหยวนขมวดคิ้ว “ที่นี่ต้องใช้เนื้อจากวัวที่เป็โรควัวบ้าแน่ๆ”
“ไม่ใช่วัวทุกตัวเกิดมาแล้วจะได้ฟังเพลงซิมโฟนีนี่ อีกอย่าง เธอบอกเองว่าร้านนี้มีปัญหา ถ้างั้นเราก็อย่ากินกันเลย ไปหาที่อื่นทานกันเถอะ” จู่ๆ เสิ่นิก็เกิดตามใจฟางหยวนขึ้นมา
“อื้อ หนูชอปพอแล้ว ไปกันเถอะ อ้าว พวกคุณเป็อะไรไปคะ?” ฟางหยวนเห็นว่าเมื่อครู่นี้คู่สามีภรรยาข้างๆ ยังเจื้อยแจ้วกันอยู่เลย แต่ตอนนี้พากันสลบไปอย่างกับหมูโดนเชือด
“อาจจะชอปจนเหนื่อย เราอย่าไปรบกวนพวกเขาเลย” เสิ่นิพูดพลางโอบเอวอันบอบบางของฟางหยวน เดินออกไปนอกร้าน
“ครูทำอะไรน่ะ? อยากตายหรือไง?” ฟางหยวนไม่คิดว่าจู่ๆ เสิ่นิจะทำเื่ไร้สาระเช่นนี้ เธอตะคอกจนหน้าแดง
“ครูน้ำตาลในเืตก ไม่ค่อยมีแรง ให้ครูพิงหน่อย ถือว่าทำบุญก็แล้วกัน” เสิ่นิแก้ตัวน้ำขุ่นๆ
“หนู...ก็พอจะใจบุญอยู่บ้าง” ฟางหยวนหันไปมองทางด้านข้าง บริเวณเอวััได้ถึงไออุ่นจากฝ่ามือของเสิ่นิ มันช่างอบอุ่นและสบาย แม้ว่าเธอจะไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้ก็ตาม
พวกเขาเดินเลาะบันไดเลื่อนจากชั้น 5 ลงมาถึงชั้น 4 เมื่อหันไปมองบริเวณทางเดิน ที่เก้าอี้ไม้ระหว่างทาง มีคุณลุงคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์และกำลังสอดมือเข้าไปในซอกอก
“ฟางหยวน เธอดูสิว่านั่นใคร?” เสิ่นิทำท่าประหลาดใจพลางชี้ไปยังที่ไกลๆ ครู่หนึ่งที่ฟางหยวนหันไปมองตามทิศทางนั้น เสิ่นิก็ออกหมัดชกหนังสือพิมพ์จนทะลุเป็รู หน้าของลุงมือปืนโดนหมัดเข้าอย่างจัง ผู้คนที่เดินผ่านไปมาไม่ทันได้สังเกตเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับลุงซึ่งจู่ๆ ก็ผล็อยหลับไปบนม้านั่ง เขาคงงีบไปอีกครู่ใหญ่เลย
“เจ๊โหด? เธอมาทำอะไรที่นี่?” ฟางหยวนเห็นว่าเซี่ยวอี๋กำลังเดินเข้ามา
“ฝักบัวที่บ้านเสียน่ะ เลยมาหาซื้ออันใหม่ ครูน่าจะถามเธอมากกว่าว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ลูกคุณหนูอย่างเธอ น่าจะไปเดินร้านหรูไม่ใช่เหรอ?” เซี่ยวอี๋กล่าวพลางเขย่าเช็กฝักบัวในมือ
“อยากััชีวิตคนธรรมดาดูบ้าง หนูชอบ ครูยุ่งอะไรด้วย?” แม้จะไม่ได้เป็อริกันอีกต่อไปแล้ว แต่ฟางหยวนกับเซี่ยวอี๋ก็ยังไม่ค่อยถูกชะตากัน
“พอแล้ว ในเมื่อบังเอิญเจอกันได้ วันนี้ครูเป็เ้าภาพเอง เชิญพวกเธอทานข้าวด้วยกันสักมื้อ ไป ไป ไป!” เสิ่นิผลักเธอทั้งคู่ซึ่งส่วนสูงพอๆ กันให้ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า
“ขอถามหน่อย อ่างอาบน้ำยี่ห้อXX...” เดินไปได้ไม่ถึงสองเมตร คุณลุงท่านหนึ่งก็หยุดฟางหยวนไว้ด้วยใบปลิวโฆษณา ชายชราเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มอันเป็มิตร
“หาไอ้นั่นอยู่เหรอ? ผมรู้ทาง เดี๋ยวผมบอกทางให้ลุงเอง!” เสิ่นิก้าวขึ้นไปด้านหน้าพร้อมกับโอบไหล่ของชายชราไว้ ราวกับเป็ลูกชายสุดที่รัก เขารีบพาผู้เฒ่าเดินไปที่กำแพงด้านหลังเสาด้วยความกระตือรือร้น 5 วินาทีผ่านไป เขาก็ออกมาแล้ว
“คุณลุงนี่ก็จริงๆ เลย อยู่ฝั่งตรงข้ามแท้ๆ ก็ยังมองไม่เห็น เราไปกันเถอะ” เสิ่นิเดินปัดมือกลับมา
ชายชราคนนั้นฟุบลงกับพื้น ลูกค้าโดยรอบต่างก็พากันเดินอ้อม ไม่กล้าเข้าไปช่วย ฮ่าๆ
ตลอดทางจากชั้น 5 ลงมาที่ชั้น 1 เสิ่นิมักจะหายตัวไปอย่างลึกลับตลอดทาง เขาเข้าห้องน้ำชายไปถึง 4 รอบ จนฟางหยวนสงสัยว่าไตเขามีปัญหาหรือเปล่า?
ระหว่างทางจะพบเห็นลูกค้าซึ่งจู่ๆ ก็เป็ลมหมดสติไป เสิ่นิเป็เหมือนกับนกอินทรีซึ่งแม่นยำเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าพวกมันจะปลอมตัวอย่างไร ใช้อาวุธอะไร ก็ถูกเสิ่นิสกัดไว้ได้ก่อนที่จะลงมือเสมอ
ภายในรถบัญชาการของซินเหลียนเซิ่ง ผู้รับผิดชอบแผนการไล่ฆ่าในครั้งนี้ก็คือลูกน้องมือหนึ่งของตงชวน ที่มีฉายาว่า ‘าาผู้เผด็จศึก’ หรือ หวังจง เขาไม่เหมือนกับโล้นซ่า หวังจงมีเส้นผมที่หยิกหนา เ้าเล่ห์เพทุบาย รูปร่างผอมสูง มีฝีมือในการประมือในระยะประชิด แต่กลับชอบยิงปืน เขายิงแม่น ะุไม่มีเสียเปล่า บนหน้าอกของเขาแขวนะุจริงไว้หนึ่งนัด เขาบอกว่ามันเป็เครื่องราง ยามคับขัน มันจะช่วยปัดเป่าศัตรูตัวฉกาจได้
ในภารกิจนี้ เขาได้คัดเลือกนักเลงคุณภาพมา 60 คน ทุกคนล้วนยิงปืนได้ สังหารคนได้โดยที่ไม่กะพริบตา
หนึ่งในสี่ของพวกมันยังติดตั้งอุปกรณ์เก็บเสียง เนื่องจาก่นี้เป็เวลากลางวันแสกๆ และเป็แหล่งชุมชน หวังจงกำชับว่าจะต้องทำอย่างลับๆ และนั่นทำให้คนของเขาถูกสอยไปทีละคน ทีละคน
“มัวทำบ้าอะไรกันอยู่? ไม่ตอบกันสักคน! ยังมีใครหายใจอยู่ไหม!” หวังจงคำรามใส่วิทยุสื่อสาร ั้แ่คู่สามีภรรยาเบอร์ 3 เบอร์ 4 เริ่มเข้าประชิดกับฟางหยวนเป็ต้นมา มือสังหารที่เขาจัดเตรียมไว้ก็ทยอยขาดการติดต่อไปทีละคน
การลอบสังหารในครั้งนี้เป็ความริเริ่มของเขาเอง เพื่อที่จะสร้างผลงานเอาหน้า แต่ในเมื่อสถานการณ์มันกลายเป็เช่นนี้ ชายหนุ่มจึงแตกตื่น เขาหลั่งเหงื่อกระทั่งสูท Armani ของเขาเปียกโชก
“เฮียหวัง! ผมเห็นนังฟางหยวนนั่นแล้ว! ตอนนี้พวกมันกำลังจะไป...” มือสังหารเบอร์ 40 ยังไม่ทันได้พูดจบดี เสียงดังตึงเหมือนกับเสียงแผ่นเหล็กกระแทกกันก็ดังขึ้น จากนั้นก็เป็เสียงปิดฝาถังขยะ
ผ่านไปได้ไม่นาน ฟางหยวนก็เดินมาถึงประตูลานจอดรถพร้อมกับเซี่ยวอี๋ เสิ่นิตามมาติดๆ
“เธอยังอยากจะนั่งรถ Alto ของครูอยู่หรือเปล่า?” เสิ่นิอมยิ้มพลางถาม
“ครูอยากให้หนูตายหรือไง?” ฟางหยวนแสดงท่าทีขุ่นเคืองใจ รถซึ่งไม่มีเครื่องปรับอากาศขับไปภายใต้อุณหภูมิสูงถึง 35 องศานั้นอย่างกับอยู่ในห้องซาวน่าเคลื่อนที่
“ไปรถครูก็แล้วกัน ถึงแอร์จะไม่ค่อยเย็น แต่รถพี่สาวเปิดประทุนได้ รับลมได้โดยที่ไม่ต้องใช้เงิน” เซี่ยวอี๋ติดเครื่องรถจี๊ป
“งั้นก็ได้ เจอกันที่โน่น” เสิ่นิโบกมือลา รถจี๊ปเหยียบคันเร่งพุ่งออกจากที่จอดรถไป ฟางหยวนแค่รู้สึกว่าครูเจ๊โหดคนนี้คงจะหิวมากแน่ๆ เธอถึงได้ควบรถเร็วอย่างกับลมพายุ
ส่วนเสิ่นิ เขายังไม่ได้ติดเครื่องรถ Alto ของเขา แต่กลับยืนนิ่งอยู่กลางถนนบริเวณทางออกของลานจอดรถ สีหน้าของเขาแขวนไว้ด้วยรอยยิ้ม หวังจงซึ่งโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เมื่อรู้ว่าเป้าหมายหนีไปแล้ว เขาจึงออกคำสั่งให้รถเก๋ง 5 คัน และรถบรรทุกอีก 1 คัน ขนมือสังหารร่วม 20 นายมุ่งตรงไปยังทางออก
“เฮียหวัง! ไอ้หมอนี่แหละที่เล่นงานคนของเรา” คนที่ขับรถอยู่เป็คนที่หนีออกมาจากห้างนั้นได้ มันโชคดีมากที่เห็นตัวเสิ่นิ แต่ไม่ได้ถูกเสิ่นิเล่นงาน
“ชนมันให้ตาย!” หวังจงกล่าวอย่างโเี้
เมื่อได้รับสัญญาณจากพี่ใหญ่ คนขับก็เหยียบคันเร่งจนมิด เขาควบรถบรรทุกด้วยความเร็วเกินพิกัด
เสิ่นิซึ่งใบหน้ามีแต่รอยยิ้มคว้าปืนพกเก็บเสียงออกมาจากด้านหลังเอว ในขณะที่รถอยู่ห่างออกไปไม่ถึง 10 เมตร
“ผุ!” เสียงเบาอันนุ่มนวล ลูกะุพุ่งผ่านลำกล้อง บินเข้าไปปะทะกับยางล้อหน้าขวาของรถบรรทุก ทันใดนั้น รถบรรทุกก็เสียหลักตะแคงลงโดยฉับพลัน เสิ่นิไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขายิงนัดที่สองไปยังยางซ้ายหลังจนกระทั่งยางะเิ
รถบรรทุกขนาดมหึมาพลิกกระแทกลงกับพื้น ก่อนจะกระดอนขึ้นเหนือศีรษะ ระยะห่างจากเสิ่นิไม่ถึง 2 เมตร มันลอยข้ามศีรษะของชายหนุ่มไปอย่างฉิวเฉียด
หวังจงซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับอ้าปากค้างพร้อมกับทำท่าทางที่มีนัยว่า ฉันตายแน่ ฉันตายแน่ เสิ่นิยืนนิ่งไม่ไหวติง เขายิงต่อไปอีก 15 นัด จนกระทั่งะุหมดแม็กจึงได้หยุด
ปลายกระบอกเก็บเสียงมีควันจางๆ ลอยขึ้น ความร้อนระอุจากกระบอกปืนค่อยๆ เย็นลง
รถเก๋ง 5 คันที่ไล่ตามหลังรถบรรทุกมา ไถลชนทั้งซ้ายและขวาจนเกิดประกายไฟลุกโชน สัญญาณระบบป้องกันอัคคีภัยทำงาน ฝนที่คนสร้างขึ้นมากระหน่ำเทลงมาจากฟากฟ้า
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้