สีหน้าของเถี่ยโส่วไม่น่าดูนักขณะที่มือดึงบุหรี่ที่กำลังสูบอยู่ทิ้งลงพื้นพร้อมทั้งใช้เท้าขยี้จนไม่เหลือซาก “ยังไงก็มาแล้ว งั้นก็ไม่ต้องกลับออกไปหรอก” พูดจบเถี่ยโส่วก็พุ่งเข้าใส่จ้าวเถี่ยจู้ในทันทีแต่เป้าหมายไม่ใช่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแต่เป็หลีหลิงเอ่อร์ที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างหากเพียงไม่กี่นาทีก็สามารถจัดการกับลูกน้องตนจนลงไปนอนกองกับพื้นได้ถึงแม้ว่าเขาจะทำได้เช่นกันแต่เขาก็ไม่อยากทำอย่างนั้นหรอกขอแค่จับตัวหญิงสาวกลับมาได้ ชายหนุ่มอีกคนก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เถี่ยโส่ววาดแผนไว้ในใจอย่างสวยหรูแต่ในความเป็จริงมันมักจะตรงข้ามกันเสมอ
จ้าวเถี่ยจู้เมื่อเห็นเถี่ยโส่วพุ่งเข้าใส่ตนจึงดึงตัวหลีหลิงเอ่อร์ให้หลบอยู่ด้านหลังตนจากนั้นใช้มือเพียงข้างเดียวรับการโจมตีจากหมัดของอีกฝ่าย แรงโจมตีจากอีกฝ่ายเกือบจะเท่าแรงของเล่ยจื่อเลยทีเดียวสีหน้าของจึงเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมในทันทีแรงโจมตีจากอีกฝ่ายทำให้เขาเริ่มรู้สึกเจ็บแผลจากการต่อสู้ก่อนหน้านี้
ดูท่าเขายังไม่ค่อยหายดีเท่าไหร่ จ้าวเถี่ยจู้คิดพลางขมวดคิ้วเขาปัดหมัดอีกฝ่ายออกไปข้างตัวทำให้ตัวของอีกฝ่ายเซไปด้านข้างจากนั้นเขาเตรียมยกเท้าขึ้นมาจะถีบไปที่คางของอีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายพลิกตัวกลับมาอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งใช้มือจับเท้าของเขาเอาไว้แต่แรงส่งจากเท้าของเขาทำให้อีกฝ่ายกระเด็นลอยไปไกลหลายเมตร
เถี่ยโส่วมองชายหนุ่มที่ตนเพิ่งสู้เมื่อสักครู่ด้วยแววตาสงสัยไอ้หนุ่มคนนี้แรงเยอะไม่ใช่น้อยอีกทั้งยังรวดเร็วใช้ได้ ใบหน้าของเถี่ยโส่วจึงเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมคนที่แข็งแกร่งแบบนี้เขาไม่ได้เจอมานานแล้ว
จ้าวเถี่ยจู้รู้สึกได้ว่าาแของตนเริ่มจะมีเืซึมออกมาดังนั้นเขาต้องทำให้การต่อสู้ครั้งนี้จบลงให้เร็วที่สุดคิดได้ดังนั้นเขาจึงพุ่งหมัดใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เถี่ยโส่วเมื่อเห็นดังนั้นก็รีบใช้มือรับเอาไว้สำหรับการต่อสู้โดยใช้มือแบบนี้ เขาค่อนข้างมั่นใจเลยทีเดียวตอนนั้นที่เขาขึ้นไปทางเหนือ มียอดฝีมือคนหนึ่งถูกใจเขาจึงรับเขาเป็ศิษย์โดยเขาเลือกเรียนเกี่ยวกับการต่อสู้โดยใช้มือเขาฝึกทั้งสองมือของเขาจนแข็งเหมือนกับเหล็กดังนั้นนี้จึงกลายเป็สมญานามของเขาในเวลาต่อมา
แรงปะทะจากหมัดของทั้งคู่ที่ซัดเข้าหากันทำให้แขนเสื้อของเถี่ยโส่วขาดจนไม่เหลือชิ้นดี
“แกเป็ใครกันแน่!” เถี่ยโส่วถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
“มีบางคนที่คุณไม่สมควรยุ่งด้วย” เขาตอบกลับเสียงต่ำ “บอกมาใครใช้ให้คุณมาลักพาตัวหลิงเอ่อร์”
“เหอะ อย่าอวดดีไปหน่อยเลย ถ้าอยากรู้ล่ะก็ หลังจากหมัดนี้แกได้รู้แน่” เถี่ยโส่วพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมทั้งมองคู่ต่อสู้ของตนที่มองตัวเองอย่างดูถูกจนทำให้ความมั่นใจที่มีอยู่ถูกทำลายแรงจากหมัดและความร้อนของอีกฝ่ายที่ส่งมาทำให้แขนของเถี่ยโส่วได้รับาเ็จนเืไหลออกมาราวกับน้ำป่าไหลหลากก็ไม่ปาน
“อย่าทำให้ตัวเองต้องเจ็บตัวเลยน่า” จ้าวเถี่ยจู้หัวเราะเยาะอีกฝ่ายแต่แววตากลับมีแต่ความเคร่งขรึมร่างกายของเขาตอนนี้ยังไม่หายสนิทดีออกแรงได้เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของแรงที่มีทั้งหมดเท่านั้นแล้วตอนนี้ร่างกายเขาก็เริ่มเจ็บแผลขึ้นมาทีละน้อยแล้วด้วยทำให้เวลาที่เขาออกแรงราวกับมีมีดหลายเล่มแทงมาที่ตัวเขาอย่างไรอย่างนั้น อีกทั้งคนตรงหน้ายังเรียนการต่อสู้โดยใช้มือมาโดยเฉพาะอีกด้วยทำให้แรงจากทุกส่วนของร่างกายมาอยู่ที่มืออย่างเดียวแรงจากหมัดของเขาตอนนี้จึงเริ่มจะเสียเปรียบอีกฝ่าย
“เดี๋ยวฉันจะทำให้แกได้รู้ซึ้งถึงสมญานามของเถี่ยโส่วคนนี้” พูดจบเถี่ยโส่วก็ชักหมัดกลับก่อนจะพุ่งหมัดใส่อีกฝ่ายอีกรอบอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
“ก็มาสิ ดูสิว่าหมัดใครจะแข็งกว่ากัน” จ้าวเถี่ยจู้ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ใครง่ายๆยิ่งรู้สึกว่าหมดหวังก็จะยิ่งฮึดสู้
หมัดของทั้งสองพุ่งเข้าหากันอีกรอบ แรงปะทะครั้งนี้ทำให้เท้าของเขาถอยไปสองก้าวส่วนของอีกฝ่ายถอยไปถึงสามก้าว
ทั้งสองยังคงพุ่งหมัดใส่กันไม่หยุดจนทำให้เกิดเสียงสนั่นหวั่นไหวไปทั่วห้องใต้ดิน
“ดี มันส์ดี อีกรอบล่ะกัน” เถี่ยโส่วพูดพร้อมกับแสยะยิ้มนานแล้วที่ตนไม่ได้เจอคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีหมัดที่หนักแน่นแค่ไหนแต่จากที่เขาพุ่งหมัดใส่อีกฝ่ายหลายรอบติดต่อกันทำให้รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายมีอะไรบางอย่างแปลกๆซึ่งทำให้เขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องหมดแรงในไม่ช้านี้แน่
และก็เป็อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด อีกฝ่ายเริ่มมีแผลตามตัวอีกทั้งเืยังไหลออกมาจนทำให้เสื้อผ้าเปียกชุ่มไปหมด
แววตาของเถี่ยโส่วเริ่มเป็ประกาย ที่แท้คนตรงหน้าเขาได้รับาเ็นี่เองเห็นดังนั้นเขาจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีพุ่งหมัดใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม
จ้าวเถี่ยจู้จำใจรับหมัดของอีกฝ่ายที่ชกมาที่ตนติดต่อกันจนต้องถอยหลังไปหลายก้าวถ้าเป็เวลาปกติเขาใช้แค่ห้าหมัดเท่านั้นก็สามารถล้มคนตรงหน้าได้แล้วตอนนี้เขาเหนื่อยที่จะต้องรับมืออีกฝ่ายแล้ว เขาจึงรวบรวมแรงที่มีทั้งหมดขึ้นมาเพราะเสือยังไงก็ยังเป็เสืออยู่วันยันค่ำ
เขารู้สึกได้ว่าความเ็ปในร่างกายเริ่มลดน้อยลงและเริ่มรู้สึกว่าแรงที่มีเริ่มมากขึ้นแรงจากท้องที่ส่งขึ้นมาทำให้เขาเริ่มมีแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
เกิดอะไรขึ้น เถี่ยโส่วคิดพลางมองคนตรงหน้าเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเริ่มหมดแรงแล้วนี่ ทำไมถึงยังมีแรงเหลืออยู่มากมายขนาดนี้ เขาคิดอย่างตกตะลึงจนไม่ทันได้ตั้งตัวจึงโดนแรงจากหมัดของอีกฝ่ายที่ซัดเข้ามาอย่างจัง
ตัวของเถี่ยโส่วลอยกระเด็นไปไกลอีกทั้งมือที่ใช้รับหมัดเมื่อสักครู่ยังเปลี่ยนรูปร่างไปอีกด้วยเขาโดนอีกฝ่ายซัดจนแขนหัก!
หลังจากที่เถี่ยโส่วกระเด็นตกลงมาที่พื้นเขาก็ใช้มืออีกข้างยันตัวลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งยืนหอบหายใจอยู่อย่างนั้นเขาสงสัยเหลือเกิน คนตรงหน้าเป็ใครกันถึงสามารถทำให้แขนเขาหักได้
“ตอนนี้คงบอกได้แล้วสินะว่าใครใช้ให้คุณลักพาตัวหลิงเอ่อร์มา” จ้าวเถี่ยจู้ถามด้วยสีหน้าราบเรียบ
“ถ้าฉันไม่พูดละ”
“ผมสาบานว่าจะไม่มีใครรอดออกจากที่นี่ไปได้” รอบตัวเขามีแต่รังสีแห่งการฆ่าฟันราวกับปีศาจก็ไม่ปานขณะพูด
เหงื่อเย็นๆ ของเถี่ยโส่วเริ่มซึมออกมาตามหน้าผาก แววตาแบบนี้! แววตาแบบนี้!! ราวกับหลุดออกมาจากนรกก็ไม่ปานสมัยนี้ต้องผ่านเื่ราวมามากขนาดไหนถึงจะทำให้มีแววตาแบบนี้ได้คนตรงหน้าเขาต้องเคยฆ่าคนมาแล้วเป็แน่ และต้องเคยฆ่ามาไม่น้อยเลยด้วย
ช่างเถอะ เขาไม่คิดจะทิ้งชีวิตของเขาเพื่อคนญี่ปุ่นคนหนึ่งหรอกเขาถอนหายใจก่อนจะพูดออกไป “เป็ฝีมือคนญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ชื่อจายเถิง”
“คนญี่ปุ่น?” จ้าวเถี่ยจู้พึมพำเสียงเบาดูท่าตัวตนของหลีหลิงเอ่อร์จะโดนคนญี่ปุ่นรู้เข้าเสียแล้ว
“คนที่ชื่อจายเถิงนั่นอยู่ที่ไหน” เขาถามต่อ
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมโทรหาเขาแล้ว เขาบอกจะมารับคนพรุ่งนี้” เถี่ยโส่วพูดตอบกลับ
“คุณเป็คนจีน ทำไมถึงทำเพื่อคนญี่ปุ่นนั่นด้วย มันให้อะไรตอบแทนงั้นเหรอ?”
“เขาบอกถ้าทำเื่นี้ให้จะมอบปืนให้ผมห้าหกกระบอก” เถี่ยโส่วบอกอย่างรู้สึกผิดเขาช่วยคนญี่ปุ่นแถมยังเป็การช่วยคนญี่ปุ่นทำร้ายคนจีนด้วยกันเองอีกต่างหากถ้าไม่เป็เพราะปืนห้าหกกระบอกนั่นล่ะก็ พูดยังไงเขาก็ไม่ทำเื่เช่นนี้หรอก
“อืม...” จ้าวเถี่ยจู้ตอบรับเสียงเบาก่อนจะพูดขึ้นมาอีกรอบ “ปืน ผมหาให้คุณได้ แต่คุณต้องจัดการเื่ให้ผมเื่หนึ่ง”
“เื่อะไร?” เถี่ยโส่วถามด้วยน้ำเสียงคล้ายไม่เชื่อ
“พรุ่งนี้นัดให้คนที่ชื่อจายเถิงมาที่นี่แล้วคุณอยากได้ปืนกี่กระบอกผมก็จะหาให้แล้วก็จะทำให้แก๊งของคุณเป็แก๊งที่ถูกกฎหมายด้วยจะทำหรือไม่ทำแล้วแต่คุณนะ” เขาพูดอย่างตกเหยื่อ
“คุณเป็ใครกันแน่” เถี่ยโส่วเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
“ผมเป็คนของสำนักงานปฏิบัติการพิเศษ” เขาพูดถึงตัวตนอีกตัวตนหนึ่งของเขาซึ่งเป็ตัวตนที่ผู้บัญชาการเฉินมอบให้เขา เขาจึงดึงเอาตัวตนนี้ขึ้นมาอ้าง
“คนของสำนักงานปฏิบัติการพิเศษ!” เถี่ยโส่วตาโตด้วยความใถึงว่าทำไมคนตรงหน้าถึงได้มีฝีมือร้ายกาจถึงเพียงนี้แล้วไหนจะยังสัญญาแบบนั้นอีก
“ได้ ผมจะช่วยคุณและหวังว่าคุณจะทำตามคำพูดที่ให้ไว้ด้วยนะ” เถี่ยโส่วใช้เวลาคิดไม่กี่นาทีก่อนจะตอบตกลงถึงยังไงอยู่ในโลกมืดก็ไม่ใช่วิถีที่ดีนัก คนตรงหน้าบอกว่าจะทำให้แก๊งเขาถูกกฎหมายนั่นถือว่าเป็โอกาสที่ดี เขาจะยอมพนันกับคำพูดของคนตรงหน้าสักตั้งตอนนี้มือเขาก็หักไปแล้วด้วย แรงที่มีถือว่าลดลงไปถึงสองในสามเลยทีเดียวและข้อเสนอที่คนตรงหน้ายืนให้ก็ถือว่าเป็ทางเลือกที่ดี
“ร่วมมือกับผมมีแต่ข้อดีทั้งนั้น” จ้าวเถี่ยจู้พูดด้วยรอยยิ้มพร้อมทั้งมองอีกฝ่ายก่อนจะพาหลีหลิงเอ่อร์เดินออกจากห้องไป
“พี่เถี่ยจู้ เมื่อกี้พี่เก่งมากๆ เลย” หลีหลิงเอ่อร์พูดอย่างตื่นเต้นหลังจากที่พวกเขาขึ้นมานั่งบนรถแท็กซี่เรียบร้อยแล้ว
จ้าวเถี่ยจู้ยิ้มรับคำชมเมื่อครู่เขาเกือบจะหมดแรงอยู่แล้วดังนั้นจึงต้องวางแผนดึงอีกฝ่ายมาเป็พวกไม่งั้นเขาคงต้องสู้จนตัวตายเป็แน่ ถ้าเป็ก่อนที่เขาจะได้รับาเ็คงไม่เป็แบบนี้แน่จัดการให้หมดง่ายกว่าเยอะเลย แต่ถ้ามาคิดดูอีกที เขารู้สึกชื่นชมตัวเองเหลือเกินนี่ก็เท่ากับเป็การยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวน่ะสิเขาไม่สามารถอยู่ปกป้องคุ้มครองหลีหลิงเอ่อร์ได้ตลอด ถ้าให้เถี่ยโส่วร่วมมือกับเขาคอยดูแลหลีหลิงเอ่อร์เื่มันก็จะยิ่งง่ายขึ้น เขานี่ฉลาดจริงๆ จ้าวเถี่ยจู้คิดพร้อมทั้งยิ้มออกมา