วันที่สองจ้าวเถี่ยจู้ตื่นขึ้นมาตอนห้าโมงเย็นเขามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นว่าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสเป็วันที่ดีอีกวันหนึ่ง เขารู้สึกใเล็กน้อยเมื่อพบว่าอาการเจ็บของเขาหายเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วเหลือแค่ตอนขยับตัวเท่านั้นที่รู้สึกเจ็บคาดว่าอีกไม่กี่วันอาการของเขาน่าจะดีขึ้นจนหายเกือบเป็ปกติห้าโมงกว่าแล้วเขาเดินลงมาชั้นล่างหาใครไม่เจอเลยสักคน ทันใดนั้นเขาคิดได้ว่าเขายังมีภารกิจอีกหนึ่งอย่างที่ต้องทำนั่นก็คือคุ้มครองหลีหลิงเอ่อร์การฝึกทหารเลิกตอนห้าโมงครึ่งเขาเลยคิดว่าน่าจะไปมหาลัยฝูเจี้ยนเพื่อรับหลีหลิงเอ่อร์สักหน่อยคิดได้ดังนั้นเขาจึงเดินออกจากบ้านเรียกรถแท็กซี่ไปมหาลัย
ที่มหาลัยขณะนี้การฝึกทหารเพิ่งจบลง ทำให้นักเรียนต่างก็ทยอยเดินออกมาที่หน้ามหาลัยหลีหลิงเอ่อร์และเพื่อนนักศึกษาก็กำลังเดินออกมาพร้อมทั้งพูดคุยและหัวเราะไปด้วยเช่นกันทันใดนั้นมือถือของหลีหลิงเอ่อร์ก็ส่งเสียงขึ้นมา เป็สายเรียกจากเขานั่นเองเมื่อได้ยินว่าจ้าวเถี่ยจู้จะมารับ หลีหลิงเอ่อร์ก็ร้องออกมาอย่างดีใจแล้วยืนรอชายหนุ่มอยู่ตรงถนนหน้ามหาลัย
จ้าวเถี่ยจู้เห็นหลีหลิงเอ่อร์ยืนอยู่หน้ามหาลัยั้แ่ไกลขณะที่รถแท็กซี่ใกล้จะถึงหน้ามหาลัยเขากำลังจะบอกให้คนขับรถขับไปจอดที่ด้านหน้าหลีหลิงเอ่อร์แต่ทันใดนั้นเองมีรถตู้สีขาวคันหนึ่งขับออกมาจากซอยอย่างรวดเร็วรถตู้คันนั้นขับมาจอดที่ด้านหน้าหลีหลิงเอ่อร์และโดยไม่ทันให้หญิงสาวได้ตั้งตัวคนสองสามคนก็ลงมาจากรถตู้แล้วอุ้มหญิงสาวบังคับขึ้นรถไปทันที
“พี่คนขับครับ ตามรถคันหน้าไปเลยครับ” ใบหน้าของเขาเคร่งเครียดขณะพูดกับคนขับรถ
คนขับรถแท็กซี่สีหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นเหตุการณ์ลักพาตัวตรงหน้าตามพวกนี้ไปก็จะกลายเป็หาเื่ใส่ตัวนะสิ
“ตามไปก็พอครับแล้วเงินนี้ก็จะเป็ของพี่” เขายื่นเงินปึกหนึ่งส่งให้คนขับ
“พี่ชายนั่งดีๆ นะครับ” เมื่อคนขับเห็นแบงค์สีแดงอย่างน้อย 1,000 หยวนเห็นจะได้ก็เกิดความกล้าขึ้นมาทันทีจากนั้นจึงเหยียบคันเร่งตามไปอย่างรวดเร็ว
รถตู้คันหน้าขับด้วยความเร็ว รถแท็กซี่ที่ขับตามมาก็ขับด้วยความเร็วที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันประเดี๋ยวเปลี่ยนเลนไปทางซ้ายทีเปลี่ยนไปทางขวาทีก่อนจะหยุดที่หน้าผับแห่งหนึ่ง
หลีหลิงเอ่อร์ถูกคนบนรถตู้ใช้มีดจ่อที่เอวบังคับให้ลงจากรถคนขับรถแท็กซี่ที่ขับตามหลังมาจึงจอดรถห่างจากรถตู้ไปไม่กี่เมตรเขาหยิบเงินส่งให้คนขับรถแล้วลงจากรถทันที
เถี่ยโส่วนั่งอยู่ที่ห้องชั้นใต้ดินของผับขณะที่ลูกน้องเปิดประตูเข้ามาแล้วลากหญิงสาวคนหนึ่งเข้ามาในห้องเมื่อเขาเห็นหญิงสาวที่ถูกลากเข้ามา แววตาก็พลันส่องประกายขึ้นมาวูบหนึ่งผู้หญิงที่เขาถูกใจมีไม่มากนักหรอกและเขาก็ไม่เคยเจอผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยแบบนี้มาก่อนเลยด้วยหัวใจจึงอดเต้นแรงไม่ได้ แต่เมื่อเห็นแก่เื่ใหญ่ที่กำลังทำอยู่เขาจึงต้องสั่งให้ลูกน้องมัดหญิงสาวเอาไว้ให้ดีๆ จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องข้างๆแล้วโทรหาจายเถิง
จ้าวเถี่ยจู้เมื่อเห็นว่าหลีหลิงเอ่อร์ถูกพาเข้าไปในผับเขาจึงเร่งฝีเท้าตามไปให้เร็วขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดทำการ เขาจึงถูกพนักงานสาวสวยคนหนึ่งขวางเอาไว้ “คุณผู้ชาย ผับของเรายังไม่เปิดค่ะ สองทุ่มค่อยมาใหม่นะคะ”
“แล้วคนที่เพิ่งเข้าไปเมื่อกี้ล่ะ” เขาที่หยุดยืนอยู่ด้านหน้าพนักงานสาวสวยถามขึ้น
พนักงานที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อได้ยินประโยคที่เขาถามก็ลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเหมือนพร้อมจะเอาเื่ทันที
“เมื่อกี้ไม่มีใครเข้าไปทั้งนั้นแหละ” พนักงานสาวสวยตอบพร้อมกับหลบตา
“คุณแน่ใจเหรอ?”
“ผมว่าคุณมาหาเื่พวกเรามากกว่ามั้ง” พนักงานชายที่ยืนด้านข้างพนักงานสาวพูดขึ้น
“ถ้าคิดว่ามาหาเื่งั้นผมก็มาหาเื่ก็ได้” เขาพูดจบก็ะโถีบพนักงานชายจนกระเด็นลอยไปไกลโดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว
แรงเขากลับมาพอสมควรแล้วนี่ เขาคิดในใจ
เมื่อเห็นว่าเขาเริ่มลงไม้ลงมือพนักงานชายสามคนที่ยืนอยู่แถวนั้นต่างก็ถือไม้และขวดเหล้าเบียร์เดินตรงเข้ามาหาเขาทันทีเขาเดินไปข้างหน้าช้าๆ พร้อมทั้งส่งรังสีคุกคามไปให้พนักงานชายสองสามคนเพียงแค่เงื้อมือเท่านั้นก็โดนเขาซัดฝ่ามือใส่จนล้มลงไปกองกับพื้นเหลือเพียงแค่พนักงานผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้จะบอกได้หรือยังว่าคนพวกนั้นไปไหน” เขาถามพร้อมกับรอยยิ้ม
“พวกเขาเข้าไปทางนั้น” พนักงานสาวตัวสั้นด้วยความหวาดกลัวพลางชี้ไปที่ประตูที่อยู่ด้านข้าง
“แบบนี้สิค่อยดีหน่อย”
เขาเดินไปเปิดประตูที่พนักงานสาวบอกแล้วเดินเข้าไปด้านใน
ลูกน้องของเถี่ยโส่วใช้เชือกมัดรอบตัวของหลีหลิงเอ่อร์ไว้อย่างแ่าเชือกที่รัดแน่นทำให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้งอันสวยงามของหญิงสาวได้อย่างชัดเจนจนลูกน้องของเถี่ยโส่วน้ำลายไหลกับความสวยงามที่อยู่ตรงหน้าโดยเฉพาะหน้าอกที่ใหญ่เกินตัวนั้น ทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด
“นางผู้หญิงคนนี้นี่หุ่นดีใช้ได้เหมือนกันนะ” ลูกน้องคนที่หนึ่งพูดกับคนที่สอง
“จริงด้วย ดูหน้าอกของมันสิใหญ่กว่าพวกดาราเสียอีก ผมคิดว่าขนาดน่าจะ 36E”ลูกน้องคนที่สองตอบกลับ
“นายรู้เหรอว่า 36E คือขนาดเท่าไหร่” ลูกน้องคนที่หนึ่งถามอย่างดูถูก
“ไม่รู้เหมือนกัน พวกเราลองดูหน่อยไหมละ” ลูกน้องคนที่สองถามด้วยรอยยิ้มลามกพร้อมทั้งเอามือยืนไปตรงหน้าอกของหลีหลิงเอ่อร์ตอนที่จ้าวเถี่ยจู้มาถึงห้องใต้ดินลูกน้องคนที่สองก็ใช้มือลูบไปที่หน้าอกของหลีหลิงเอ่อร์ครั้งหนึ่งพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงเคลิบเคลิ้ม“ยืดหยุ่นดีจริงๆ” ส่วนหลีหลิงเอ่อร์ได้แต่มองดูลูกน้องทั้งสองโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
จ้าวเถี่ยจู้ทันเข้ามาเห็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นพอดี จึงอดโมโหไม่ได้ขนาดเขายังไม่กล้าจับเลยแล้วมันกล้าจับได้ยังไงเขาคิดพร้อมทั้งเดินไปถีบสองคนนั้นจนกระเด็นลอยไปไกลก่อนจะตกลงบนพื้นกระตุกอยู่ไม่กี่ทีแล้วแน่นิ่งไปลูกน้องของเถียโส่วที่เหลือเมื่อเห็นเขาลงมือก็เดินเข้ามาหาเขาพร้อมทั้งถือมีดและกระบองเหล็กมาด้วยแต่ก็โดนเขาถีบกระเด็นตกลงบนพื้นนอนหมดสภาพกันหมด
เขาเดินไปหยุดอยู่ด้านหน้าหลีหลิงเอ่อร์ก่อนจะแกะเชือกที่มัดหญิงสาวออก “พี่มาช้าไป”
“ไม่เป็ไรค่ะ” หลีหลิงเอ่อร์ยิ้มออกมา “แค่พี่เถี่ยจู้มาช่วยหลิงเอ่อร์ หลิงเอ่อร์ก็ดีใจแล้ว” พูดจบหลีหลิงเอ่อร์ก็เดินไปหยิบมีดที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าลูกน้องคนที่สองแล้วทรุดนั่งลงด้านลูกน้องคนที่สองเมื่อเห็นหญิงสาวทำแบบนั้นก็จ้องมองอีกฝ่ายราวกับเห็นปีศาจก็ไม่ปานแล้วจึงถามขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว “จะทำอะไร”
หลีหลิงเอ่อร์ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่มองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าเ็าก่อนจะเงื้อมือที่ถือมีดขึ้นแล้วฟันลงไปที่แขนของลูกน้องคนที่สองด้วยแววตาเด็ดเดี่ยวและเต็มไปด้วยรังสีแห่งการฆ่าส่วนจ้าวเถี่ยจู้ก็ได้แต่มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริก
เืของลูกน้องคนที่สองไหลออกราวกับน้ำพุและกระเด็นมาโดนตัวหลีหลิงเอ่อร์แต่หญิงสาวก็ยังคงจ้องคนตรงหน้าตาไม่กะพริบแล้วจึงลุกขึ้นยืนเธอโยนมีดออกไปข้างตัวก่อนจะเดินไปหาจ้าวเถี่ยจู้แล้วใช้มือเล็กๆ ลากแขนชายหนุ่ม
“สาวน้อยทำไมถึงเืเย็นขนาดนี้วันหลังเื่แบบนี้ปล่อยให้เป็หน้าที่พี่เถอะ” หลีหลิงเอ่อร์ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ส่งยิ้มอ่อนโยนให้อีกฝ่ายเท่านั้น
เถี่ยโส่วที่เพิ่งคุยธุระเสร็จได้ยินเสียงจากด้านนอกห้องจึงเดินออกมาดูก็พบว่าลูกน้องของตนลงไปนอนกองกับพื้นกันหมดและยังพบอีกว่าที่ด้านข้างหญิงสาวที่ตนให้ลูกน้องไปจับมามีชายหนุ่มรูปร่างผอมยืนอยู่ข้างๆจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “คุณเป็ใคร”
“คุณไม่มีคุณค่าพอที่จะรู้จักชื่อผมหรอก” จ้าวเถี่ยจู้มองอีกฝ่ายอย่างดูถูกเขามองราวกับอีกฝ่ายเป็แค่แมลงตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งก็ไม่ปาน
“พี่เถี่ยจู้” หลีหลิงเอ่อร์ที่ยืนอยู่ข้างเขาเรียกเสียงไม่ดังนัก
“หืม?”
“พี่ไม่ต้องทำเป็เก็กหล่อต่อหน้าหลิงเอ่อร์หรอก มันไม่มีประโยชน์”
เมื่อฟังจบเขาก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปในทันที