หลังจากที่จ้าวเถี่ยจู้กลับมาถึงบ้านก็โดนซูเหยียนหนีและเฉาจื่ออี๋ลากขึ้นห้องทันทีเฉาจื่ออี๋ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าาแที่ตัวเขาเริ่มฉีกขาดอีกรอบ ส่วนซูเหยียนหนีก็มองเขาอย่างเป็ห่วงระคนไม่พอใจ “นายนี่เป็คนยังไงกันแน่นะยังไม่หายดีเลยยังจะออกไปข้างนอกอีกแล้วนี่ดูท่าออกไปตีกับเขามาอีกแล้วใช่ไหมนึกว่าตัวเองเป็พวกฮีโร่หรือไง” เขาได้ฟังประโยคนี้ของซูเหยียนหนีถึงกับหัวเราะออกมาด้วยแรงอันน้อยนิดมีคนรังแกหลีหลิงเอ่อร์แล้วเขาจะไม่ช่วยได้ยังไงกัน
หลีหลิงเอ่อร์ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ได้แต่ยืนนิ่งๆพร้อมทั้งถือกะละมังใส่น้ำใบหนึ่งเท่านั้น
“ก่อนที่แผลจะหายดี คุณก็อย่าเพิ่งออกไปไหนเลย” เฉาจื่ออี๋ถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาถึงแม้ว่าเขาคิดจะปฏิเสธแต่เมื่อดูจากสีหน้าของเฉาจื่ออี๋และซูเหยียนหนีที่หน้าตาเหมือนอยากจะฆ่าเขาให้ตายเขาจึงเลือกวิธีที่ฉลาดอย่างนิ่งเงียบแทน เฉาจื่ออี๋เมื่อเห็นเขาไม่เถียงก็เริ่มดึงผ้าพันแผลที่ตัวเขาออกผ้าพันแผลที่พันติดอยู่กับแผลที่เริ่มฉีกขาดอีกรอบของเขาทำให้เขาเจ็บจนเหงื่อเย็นๆถึงกับไหลซึมออกมาเลยทีเดียว
“ตอนนี้รู้จักเจ็บแล้วใช่ไหมล่ะ ดูสิว่ายังจะกล้าออกไปไหนอีกหรือเปล่า” ซูเหยียนหนีต่อว่าเขาอย่างไม่จริงจังนัก
“ถ้าคุณถูกรังแก ผมก็ไปช่วยเหมือนกัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
“เชอะ พี่สาวไม่้าให้นายมาปกป้องหรอกน่า จะบอกอะไรให้พี่สาวเป็ตำรวจเชียวนะ รู้จักไหมตำรวจที่ปกป้องประเทศนะ”
“ปกป้องประเทศไม่ใช่หน้าที่ทหารหรอกเหรอ” เขาพูดพลางกลอกตาไปมา
“ทหารมีหน้าที่ปกป้องประเทศ งานของพวกเราก็คือรักษาความสงบ มันก็อย่างเดียวกันนั่นแหละห้ามมาดูถูกอาชีพตำรวจนะ” ซูเหยียนหยีพูดพลางชกกำปั้นไปมาทำทีเป็ขู่
เวลาที่ทั้งสองเถียงกันมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอยังไม่ทันให้ทั้งสองเถียงกันอย่างหนำใจผ้าพันแผลที่พันอยู่รอบตัวจ้าวเถี่ยจู้ก็ถูกเปลี่ยนใหม่เรียบร้อยแล้ว
“พักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปต้มสมุนไพรมาให้” เฉาจื่ออี๋พูดพร้อมทั้งเก็บเศษผ้าพันแผลไปด้วย
เพียงแค่ได้เห็นสีหน้าของจ้าวเถี่ยจู้ก็เปลี่ยนเป็หม่นหมองทันทีหมู่นี้เขาทานยาสมุนไพรของเฉาจื่ออี๋จนเข็ดขยาดแล้ว สมุนไพรเ่าั้เหมาะจะอยู่บนฟ้ามากกว่าให้คนธรรมดาดื่มเสียอีก
เฉาจื่ออี๋มองเขาแค่แวบเดียวก็เดินออกจากห้องไปโดยมีซูเหยียนหนีเดินตามออกไปด้วย
“พี่เถี่ยจู้ พักผ่อนเถอะ” หลีหลิงเอ่อร์พูดกับเขาไม่กี่คำก็เดินตามสองคนนั่นออกจากห้องไปเช่นกัน
เมื่อเห็นว่าทุกคนออกจากห้องไปกันหมดแล้วเขาจึงหยิบมือถือออกมากดหาเล่ยจื่อ
“เล่ยจื่อ พรุ่งนี้บอกให้ตานายพากลุ่มทหารฝีมือดีๆ มาให้พี่หน่อยพี่จะทำอะไรเพื่อประเทศชาติสักหน่อย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย
“ได้เลยพี่เถี่ยจู้ เดี๋ยวผมบอกกับคุณตาให้ อ่อแล้วก็่นี้พี่ทำตัวเงียบๆหน่อยนะ สกุลหลีกำลังประกาศจับตัวพี่อยู่น่ะ พี่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ใช่ไหม”
“พี่นายดูเหมือนคนที่ไม่เป็มืออาชีพขนาดนั้นเลยเหรอ แค่นี้แหละ”
“ได้พี่ งั้นผมไปบอกคุณตาก่อน ถ้ายังไงเดี๋ยวโทรกลับนะพี่” หลังจากวางสายเล่ยจื่อก็รีบลุกจากเตียงแล้วเดินไปหาผู้บัญชาการเฉินที่ห้องหนังสือทันทีที่หน้าห้องเขาเห็นชายแก่หลังค่อมกำลังถือบัวรดน้ำกำลังยืนรดน้ำกระถางต้นไม้อยู่หน้าห้อง
“คุณตาอยู่ในห้องใช่ไหมครับ?”
“ผู้บัญชาการอยู่ในห้องครับ” ชายแก่ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมามองสักนิดเล่ยจื่อจึงเคาะห้องแล้วเดินเข้าไปข้างในทันทีอย่างไม่สนใจเช่นกันในห้องผู้บัญชาการเฉินกำลังดูการฝึกภายในของทหารอยู่เมื่อหันมาเห็นเขาจึงเอ่ยถามขึ้นมา “มีเื่อะไร”
“คุณตาผมของยืมทหารที่ฝีมือดีๆ กลุ่มหนึ่ง” เขาแจ้งความประสงค์ของเขาทันที
“จะเอาไปทำไม? คงไม่ใช่ว่าจ้าวเถี่ยจู้อยากได้หรอกใช่ไหม”
เล่ยจื่อไม่ได้พูดอะไรออกมาได้แต่พยักหน้า ผู้บัญชาการเฉินหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบก่อนจะพูดขึ้นมาอีกรอบ “ครั้งนี้เขาทำเื่ที่น่าใจริงๆ ลูกชายของหลีหลงป้ายังกล้าฆ่าเขาบอกไหมว่าจะเอาไปทำไม”
“บอกว่าจะทำอะไรเพื่อประเทศชาติสักหน่อยนะ”
“ก็ได้ เดี๋ยวอีกสักครู่ค่อยไปเลือกคนจากทีมหน่วยคอมมานโดัเธอก็ต้องไปด้วยนะ”
“ได้ครับ” เล่ยจื่อรับคำก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องเพื่อไปที่ตั้งค่ายของหน่วยคอมมานโดั
เช้าวันที่สอง จ้าวเถี่ยจู้รอให้ทุกคนออกจากบ้านไปกันหมดจึงค่อยๆออกมาจากห้องแล้วกดโทรหาเล่ยจื่อ “เล่ยจื่อพาคนไปรอที่หน้ามหาลัยฝูเจี้ยนนะ เดี๋ยวพี่ตามไป”
“ได้พี่”
ใช้เวลาไม่นานเขาก็เดินทางมาถึงหน้ามหาลัยที่ตอนนี้มีรถบรรทุกทหารจอดอยู่หนึ่งคันโดยมีเล่ยจื่อกำลังยืนพิงที่ข้างรถรอเขาอยู่ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่และรูปร่างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อทำให้คนที่อยู่รอบๆต่างก็หันมามองเป็ตาเดียวกัน ต่อมาก็มีทหารกลุ่มหนึ่งเดินมาสมทบ ผู้คนที่อยู่รอบๆจึงสงสัยว่าจะมาฝึกทหารให้กับมหาลัยนี้งั้นหรือ ผู้คนที่มองดูอยู่รอบๆล้วนไม่รู้ว่าทำไมถึงมีรถทหารโผล่มาที่หน้ามหาลัยอีกคันได้ทำให้พวกเขาต่างก็มองด้วยความสงสัยแต่เมื่อเห็นข้างรถที่มีสัญลักษณ์รูปฝ่ามือั หน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
หน่วยคอมมานโดั! ในใจของคนที่อยู่รอบๆล้วนตกตะลึงไปตามๆ กัน หน่วยคอมมานโดัเป็หน่วยที่ดีที่สุดในกองทัพทหารทุกคนที่อยู่ในหน่วยต่างก็เป็สุดยอดด้วยกันทั้งนั้นซึ่งไม่ใช่ทหารหน่วยเล็กๆจะเทียบได้ ในใจของพวกเขาทุกคน คนที่อยู่ในหน่วยล้วนแล้วแต่เป็ไอดอลของพวกเขาทั้งนั้นหนิวเิที่พาทีมมาฝึกทหารให้นักศึกษาเมื่อเห็นสัญลักษณ์นี้เข้าก็ถึงกับตกตะลึงไปเช่นเดียวกันเขาไม่ได้รับข่าวเลยสักนิดว่าวันนี้หน่วยคอมมานโดันี่จะมาที่มหาลัยในวันนี้ด้วยเขามองไปที่เล่ยจื่อที่ยืนพิงอยู่ด้านข้างรถ จากคนๆนี้เขาสามารถััได้ถึงความแข็งแกร่งที่ออกมาจากตัวของผู้ชายคนนี้ได้เลยทีเดียว
จ้าวเถี่ยจู้ลงจากรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ไม่ไกลจากรถทหารมากนักด้วยสีหน้าเรียบเฉยเมื่อเขาเห็นรถทหารที่จอดรออยู่ก็เดินตรงเข้าไปทันที
หนิวเิเห็นจ้าวเถี่ยจู้กำลังเดินตรงมาทางนี้ตอนแรกเขาหวังไว้มากว่าคนตรงหน้าจะเป็สุดยอดในการฝึกทหารครั้งนี้ของเขาแต่ต่อมาคนตรงหน้ากลับลาหยุด ทำให้เขาอดเสียใจไม่ได้มาตอนนี้เห็นอีกฝ่ายเดินมาเขาจึงบอกให้ทีมของเขาหยุดเดินก่อนจากนั้นเขาก็เดินตรงไปหาอีกฝ่าย
“จ้าวเถี่ยจู้ นายลาหยุดไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมาที่นี่ได้” หนิวเิถามอย่างสงสัย
“มาจัดการเื่อะไรนิดหน่อยน่ะครับ” จ้าวเถี่ยจู้ตอบด้วยรอยยิ้ม
“เื่อะไร? นายทำแบบนี้ไม่ดีต่อทีมเลยนะ” หนิวเิพูดต่อว่า
จ้าวเถี่ยจู้ได้แต่ยักไหล่อย่างจนปัญญาขณะนั้นเองเล่ยจื่อที่เห็นเหตุการณ์เข้าก็เดินตรงเข้ามาด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตของเล่ยจื่อทำให้หนิวเิที่ยืนอยู่ถึงกับโดนบังจนมิดเลยทีเดียว
“พี่เถี่ยจู้ มีเื่อะไรงั้นเหรอ” เล่ยจื่อถามเสียงเบา
“ไม่มีอะไรหรอก ครูฝึกหนิว วันนี้ผมมีเื่ต้องไปจัดการจริงๆผมคงต้องไปก่อนแล้วอีกไม่กี่วันผมจะกลับไปเข้าทีมแน่นอน” เขาไม่รอให้อีกฝ่ายได้พูดอะไรออกมาอีกก็เดินไปทางรถทหารส่วนเล่ยจื่อยังคงมองไปที่หนิวเมิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉยทำเอาคนที่ถูกมองถึงกับพูดอะไรไม่ออกเมื่อหนิวเิเห็นว่าจ้าวเถี่ยจู้เดินไปขึ้นรถทหารแล้วตามมาด้วยเล่ยจื่อหนิวเมิ่งก็คาดเดาได้ทันที
“ถึงว่าทำไมถึงยิงปืนแม่นขนาดนั้น เขาต้องเป็คนในหน่วยคอมมานโดัแน่นอน!” หนิวเิยิ่งคิดก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตนหลังจากนั้นจึงคิดได้ว่าคนตรงหน้าเขาเมื่อสักครู่คงจะมีภารกิจพิเศษอะไรสักอย่างและหวังว่าเขาคงไม่สร้างผลกระทบอะไรให้กับภารกิจนั้นหรอกนะไม่งั้นเขาคงรู้สึกผิดแย่