อวิ้นกุ้ยเฟยมององค์หญิงหวายหนิงด้วยความลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่ได้ไปห้าม
“ปล่อยให้หวายหนิงเสียเปรียบไปก่อน เปิ่นกงไม่เชื่อว่ากูเฟยเยี่ยนจะดื่มเอาชนะผู้ชายอย่างพวกเ้าได้! ”
นางกระซิบแ่เบาพร้อมกับหันไปมององค์ชายแปดจวินฮั่นหยิ่นที่เมาหัวราน้ำแล้ว ดวงตาของนางในตอนนี้เต็มไปด้วยแผนการชั่วร้าย
กูเฟยเยี่ยนมององค์หญิงหวายหนิงไปพร้อมกับให้ความสนใจแม่ลูกกุ้ยเฟย นางมองออกถึงวิธีการที่ชั่วช้าของแม่ลูกคู่นี้
ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง [1] พวกเขาคิดว่านางคือตั๊กแตนที่ถูกจับ แต่ที่จริงแล้วนางคือนกขมิ้นที่รอจับตั๊กแตนอยู่ด้านหลัง! นางเคยพูดเอาไว้ว่าในครั้งนี้นางจะจัดการให้พวกเขายอมอย่างราบคาบ นางจะทำให้ได้อย่างแน่นอน!
องค์หญิงหวายหนิงฝืนใจดื่มจนหมด เมื่อวางเหยือกสุราลงนางก็เริ่มคลื่นไส้สะอิดสะเอียน แต่ไม่ได้อาเจียนออกมา ไม่ช้านางก็หลับตาสลบเหมือดทันที
กูเฟยเยี่ยนไม่แม้แต่จะเหลือบตามอง นางกอดอกนั่งลงบนโต๊ะแล้วเลิกคิ้วมองบุรุษสูงใหญ่ที่ล้อมวงดู “เลิกมองได้แล้ว ใครจะเริ่มก่อน! ”
ต่อให้เห็นถึงความกล้าได้กล้าเสียของกูเฟยเยี่ยนแล้ว ผู้คนก็แค่ชื่นชมแต่ไม่ได้หวาดกลัว พวกเขาพบกับหญิงสาวที่ดื่มสุราได้เก่งที่สุด ความสามารถในการดื่มสุราไม่เกินสามเหยือก
พวกเขาล้วนฮึกเหิมจนอดใจรอไม่ไหว พวกเขาล้วนอยากจะเห็นว่าหญิงสาวที่กล้าได้กล้าเสียตอนเมาจะมีท่าทีอย่างไร
“มาๆ เปิ่นกงจื่อเริ่มก่อน! ”
ทายาทตระกูลขุนนางคนหนึ่งหยิบชามขนาดใหญ่ก้าวเดินขึ้นมาแล้วพูดด้วยความจอมปลอม “แพทย์หญิงกู เ้าดื่มไปหนึ่งเหยือกแล้ว เปิ่นกงจื่อจะยอมถอยให้เ้า จะได้ไม่มีคนพูดว่าเปิ่นกงจื่อรังแกสตรี เอาอย่างนี้ดีไหม เ้าหนึ่งชาม เปิ่นกงจื่อหนึ่งเหยือก”
รังแก?
เมื่อสักครู่นี้ที่กลั่นแกล้งและบีบบังคับทำไมถึงไม่รู้สึกว่าเป็การรังแก?
ชายกลุ่มนี้เดิมทีก็สารเลวอยู่แล้ว เมื่อดื่มสุราลงไปจึงเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกมา!
กูเฟยเยี่ยนยิ้มด้วยความเกรงใจ “ข้าจะกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร? ”
“ก็ได้ เช่นนั้นเอาเป็ เ้าหนึ่งเหยือกข้าหนึ่งเหยือกก็แล้วกัน! ”
ชายหนุ่มเปลี่ยนคำพูดแล้วหัวเราะดังลั่นทันที ผู้คนรอบข้างรู้ว่าเขาแกล้งกูเฟยเยี่ยน ดังนั้นจึงหัวเราะไปด้วย
กูเฟยเยี่ยนรู้ว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดีขนาดนั้นจึงจงใจแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา “เ้าที่เป็บุรุษร่างใหญ่ทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน? พวกเราเปลี่ยนวิธีดื่มได้หรือไม่? ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ผู้คนก็ยิ่งมั่นใจว่ากูเฟยเยี่ยนดื่มต่อไปได้ไม่เยอะแล้ว อวิ้นกุ้ยเฟยจึงเผยยิ้มของความเหยียดหยามออกมา นางจะรอดูว่ากูเฟยเยี่ยนจะปลีกตัวออกอย่างไร
ชายหนุ่มหัวเราะเยาะแล้วเอ่ยถาม “ได้แน่นอน เพียงแต่ให้ข้ายินยอมคนเดียวไม่ได้ ต้องให้ทุกคนยินยอมด้วย เ้าอยากจะดื่มอย่างไร ไหนพูดออกมาซิ”
กูเฟยเยี่ยนไม่รีบตอบ นางไปหาสุราที่มีอยู่ในตำหนักใหญ่มาทั้งหมดแล้ววางเรียงเป็แถวบนโต๊ะตัวยาว ทุกแถวมีมากกว่าสิบเหยือก ทุกเหยือกล้วนถูกเปิดออก
จากนั้นนางจึงพูดกับชายคนนั้นอย่างไม่สุภาพนัก “เ้าเป็ถึงผู้ชาย ดื่มช้าๆ แบบนี้จะไปสนุกได้อย่างไร? พวกเรามาแข่งกันดื่มสุราเหล่านี้ คนที่หยุดก่อน แพ้! ”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนในที่นี้ล้วนตกตะลึงตาค้าง
ทุกคนล้วนคิดว่ากูเฟยเยี่ยนไม่อยากจะดื่มสุราทั้งเหยือก แต่ใครจะไปรู้ว่านอกจากนางจะดื่มทั้งเหยือกแล้ว นางยังดื่มรวดเดียวเยอะขนาดนี้!
ต่อให้เป็ผู้ชายที่คอแข็งมาก เมื่อเห็นสุรามากมายขนาดนี้ก็ต้องขี้ขลาดกันบ้าง! นางเป็ถึงผู้หญิง ล้อเล่นใช่หรือไม่? ขู่ขวัญใช่หรือไม่?
นอกจากจวินจิ่วเฉินกับเฉิงอี้เฟยจะใแล้ว พวกเขากังวลมากกว่าเดิมเสียอีก เรียวคิ้วภายใต้หน้ากากของจวินจิ่วเฉินขมวดเป็ปมแน่น ทางด้านของเฉิงอี้เฟยที่ใกล้จะหลับตาลงแล้วก็ได้กัดตัวเองอย่างแรงเพื่อให้ตัวเองยืนหยัดต่อไป
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครพูดอะไรออกมา กูเฟยเยี่ยนจึงยิ้มถากถางแล้วเอ่ยยั่วอารมณ์ “หากเขาไม่ไหวแล้ว พวกเ้าก็มารับไม้ต่อเลย ใครที่เล่นไม่ไหวก็ออกไปตอนนี้เลย! ”
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนโมโหมาก และชายคนนั้นคือคนที่โมโหที่สุด
“ไม่ไหว? อีนังหนู สร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาแล้วคิดว่าเปิ่นกงจื่อจะกลัวเ้าหรือ? มา ดื่ม! ”
เขาถือเหยือกสุรามากระดกอึกใหญ่ กูเฟยเยี่ยนจึงโอบอุ้มเหยือกสุรามาดื่มด้วยความสนุกสนานครื้นเครง
เหยือกที่หนึ่ง
ความเร็วของชายหนุ่มไม่ช้า แต่ความเร็วของกูเฟยเยี่ยนเร็วยิ่งกว่า เมื่อชายหนุ่มเห็นเช่นนี้จึงเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น
เหยือกที่สอง เหยือกที่สาม เหยือกที่สี่…
ผู้คนบริเวณโดยรอบมองกูเฟยเยี่ยนด้วยความตกตะลึงตาค้าง แม้แต่อวิ้นกุ้ยเฟยกับองค์ชายใหญ่ยังตื่นตระหนกใ พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าความสามารถในการดื่มสุราของกูเฟยเยี่ยนจะดีขนาดนี้!
ทันใดนั้น “เพล้ง” ชายหนุ่มทำเหยือกแตกจนสุรากระเด็นไปทั้งตัว วินาทีนั้นเขากระหืดกระหอบยืนไม่มั่นคงแล้วล้มลงไปกองบนพื้น เขาแพ้แล้ว
กูเฟยเยี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอก นางไม่มองเขาต่อแต่หันหน้าไปมองคนอื่นๆ แทน “คนที่สอง! ”
แม้ว่าทุกคนจะใแต่ก็ยังมีคนก้าวเดินไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
ต่อให้คอแข็งมากแค่ไหนแต่จะรับมือกับศัตรูมากมายด้วยตัวคนเดียวได้อย่างไร?
แม้ว่าทุกคนจะดื่มไปไม่น้อย แต่เมื่อนับดูแล้วกูเฟยเยี่ยนดื่มไปมากกว่า หากดื่มแบบนี้ต่อไปกูเฟยเยี่ยนจะเสียเปรียบแน่!
ทว่าคนที่สองก็ยังพ่ายแพ้ต่อกูเฟยเยี่ยน ในคราวนี้ทุกคนตกตะลึงมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ไม่ช้าก็มีคนที่สามมารับไม้ต่อ “เหอะๆ อย่าหยุดสิ ต่อเลย! ”
คนที่สามดื่มไปสองเหยือกก็ล้มลงแล้ว ทว่ากูเฟยเยี่ยนเหมือนกับคนปกติ นางหัวเราะดังลั่นแล้วถามต่อ “ยังมีใครอีก? ”
คนที่สี่ยังคงขึ้นไปอย่างไม่ลังเล เขาไม่เชื่อว่ากูเฟยเยี่ยนจะยังยืนหยัดต่อไปได้!
แต่ว่ากูเฟยเยี่ยนยืนหยัดได้จริงๆ
คนที่สี่ คนที่ห้า คนที่หก ล้วนล้มลงไปกองที่พื้นทีละคน ในตอนนี้เหลือเพียงองค์ชายใหญ่แล้ว
อวิ้นกุ้ยเฟยกับองค์ชายใหญ่มองแผ่นหลังของกูเฟยเยี่ยนที่ยังคงตั้งตรงด้วยความตกตะลึงจนตาค้าง พวกเขาใสุดขีดจนยืนแข็งทื่อราวกับไม้แกะสลัก! พวกเขาเหมือนกับได้รู้จักกูเฟยเยี่ยนวันนี้เป็วันแรก
ตำแหน่งของจวินจิ่วเฉินด้านนอกหน้าต่างเห็นใบหน้าของกูเฟยเยี่ยนพอดิบพอดี เขามองเห็นใบหน้าเมาสะลึมสะลือของกูเฟยเยี่ยนได้อย่างชัดเจน ในตอนนี้นอกจากเขาจะใแล้ว ในดวงตายังเต็มไปด้วยความไม่พอใจอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบให้นางดื่มเยอะขนาดนี้
แต่อย่างไรก็ตามเฉิงอี้เฟยที่ฟุบตัวลงกลับยิ้มแหยๆ ขึ้นมาอีกครั้ง เขายิ้มไปยิ้มมาจนในที่สุดยืนหยัดไม่ไหวนอนหลับไป ในเวลานี้รอยกัดบนแขนของเขามีเืไหลเขย่าขวัญเหลือเกิน
ท่ามกลางความเงียบจู่ๆ กูเฟยเยี่ยนก็เรอสุราออกมา จากนั้นนางจึงหยุดครู่หนึ่ง แล้วหันไปมององค์ชายใหญ่
องค์ชายใหญ่ถึงกับหวาดกลัวอย่างควบคุมไม่อยู่ อันที่จริงแล้วความสามารถในการดื่มสุราของเขาแย่ที่สุดในบรรดาเหล่าองค์ชาย เขาดื่มได้ไม่เกินสามเหยือกเท่านั้น สุราบนโต๊ะมีไว้เพื่อสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตาเท่านั้น ปกติเขามักจะให้คนดื่มแทน
กูเฟยเยี่ยนดูเหมือนสะลึมสะลือ แต่แท้จริงแล้วนางเจตนายั่วยุ “องค์ชายใหญ่ ท่านจะมาดื่มต่อหรือออกไปดี? ”
เมื่อเห็นว่ากูเฟยเยี่ยนเมาสะลึมสะลือและเห็นกองเหยือกสุราด้านข้างที่ถูกนางเขวี้ยงแตก องค์ชายใหญ่จึงประเมินเอาไว้ว่ากูเฟยเยี่ยนน่าจะไม่สามารถดื่มต่อไปได้อีกสามเหยือกแล้ว ดังนั้นเขาจึงก้าวเดินขึ้นไปพร้อมกับเหยือกสุรา “เหอะ พูดจาไร้สาระให้มันน้อยๆ หน่อย ดื่มต่อ! ”
กูเฟยเยี่ยนไม่พูดไร้สาระ นางหยิบเหยือกสุรามาดื่มต่อไปอึกใหญ่
หนึ่งเหยือก
สองเหยือก
สามเหยือก
องค์ชายใหญ่ยืนหยัดไม่ไหวจนต้องใช้มือทั้งสองข้างกดลงไปบนโต๊ะ อวิ้นกุ้ยเฟยปวดใจมาก ในขณะที่นางกำลังจะพูดออกมาก็เห็นว่ากูเฟยเยี่ยนใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่เช่นกัน ดังนั้นนางจึงเงียบต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามกูเฟยเยี่ยนแกล้งทำเท่านั้น นางจงใจนำมือทั้งสองข้างกดลงไปบนโต๊ะด้วยท่าทางที่ยืนไม่มั่นคง แล้วหัวเราะองค์ชายใหญ่ “เ้า กับข้ายัง…เหอะๆ ยังแพ้แล้ว เริ่มใหม่อีกครั้ง กล้าหรือไม่? ”
“มา! ”
องค์ชายใหญ่ยังคงฝืนเอาไว้ ไม่สำคัญว่าเขาจะเมา ขอเพียงแค่กูเฟยเยี่ยนเมาด้วยก็พอแล้ว
เมื่อนางเมาแล้วล้มลง หมู่เฟยก็จะจัดการนางแน่!
———————-
เชิงอรรถ
[1] ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง หมายถึง สำนวนที่เปรียบเปรยถึงผู้ที่มักจะเล็งผลระยะสั้นและไม่ระวังว่าจะมีผลกระทบในระยะยาว