บทที่ 13 : รูมเมตผู้น่ารัก(แร้) และการปฐมนิเทศสุดปั่น
"กรี๊ดดดดด! ไอ้ผีลามก! ปล่อยนะ!"
เสียงกรีดร้องของ แป้งหอม ดังลั่นยอดเขาวิเวกจนนกกาแตกตื่น
มือเน่าเฟะสีเขียวคล้ำที่ทะลุพื้นไม้ขึ้นมากำข้อเท้าเธอแน่นราวกับคีมเหล็ก กลิ่นเหม็นสาบสางโชยคลุ้งจนแทบอาเจียน
"ปล่อยเซ่!"
ด้วยความใบวกกับสัญชาตญาณการป้องกันตัว (และพลังช้างสารที่เพิ่งได้มา) แป้งหอมไม่ได้แค่ร้อง แต่เธอยกเท้าอีกข้างขึ้นแล้วกระทืบลงไปที่มือนั้นเต็มแรง!
ผัวะ! กร๊อบ!
เสียงกระดูกหักดังชัดเจน มือนั้นปล่อยข้อเท้าเธอทันที แป้งหอมไม่รอช้า เธอหมุนตัวเตะเสยเข้าไปที่ศีรษะเน่าๆ ที่กำลังจะโผล่พ้นพื้นขึ้นมา
"รับไป! ลูกเตะตัดขาจากสตรีมเมอร์สาว!"
ตูม!
ร่างของ 'ผีดิบ' ตนนั้นกระเด็นหลุดจากพื้นไม้ ลอยละลิ่วทะลุฝาผนังกระท่อมออกไปข้างนอกราวกับลูกฟุตบอลที่ถูกเตะโดยโรนัลโด้
ต้นกล้า ที่ยืนถือไม้ไผ่อยู่ถึงกับอ้าปากค้าง
"โห... พลังขาโหดมาก เตะทีเดียวบ้านทะลุเลยเหรอแป้ง!"
"ก็คนมันในี่หว่า!" แป้งหอมหอบแฮ่กๆ ยกขาขึ้นมาดู "อี๋... รองเท้าเลอะน้ำเหลืองหมดเลยอะ"
แต่ทว่า... เื่ยังไม่จบแค่นั้น
ครืด... แฮ่...
เสียงคำรามต่ำๆ ดังระงมมาจากรอบทิศทาง
ไม่ใช่แค่ตัวเดียว... แต่เงาตะคุ่มๆ นับสิบกำลังล้อมกระท่อมของพวกเขาไว้!
แสงจันทร์สาดส่องให้เห็นร่างของซากศพในชุดศิษย์เก่าๆ ขาดวิ่น ิัแห้งกรังสีเขียวคล้ำ ดวงตาโบ๋ลึก เดินโซซัดโซเซเข้ามาด้วยท่าทางบิดเบี้ยว
"เชี่ย... นี่มัน Train to Busan หรือ Kingdom วะเนี่ย!" แป้งหอมหน้าซีด ขยับไปยืนพิงหลังต้นกล้า
"ดูจากชุด... น่าจะเป็ 'ศิษย์พี่' รุ่นก่อนๆ ที่ตายแล้วศพไม่เน่าเปื่อย" ต้นกล้าวิเคราะห์ (ทั้งที่เหงื่อตก) "หรือไม่ก็เป็หุ่นเชิด... แป้ง ระวังข้างหลัง!"
ผีดิบสองตัวพังประตูเข้ามาพร้อมกัน กางเล็บยาวโง้งพุ่งใส่ต้นกล้า
ชายหนุ่มไม่ถอย เขากระชับไม้ไผ่ในมือแน่น ั์ตาสีทองวาวโรจน์
‘จุดศูนย์ถ่วงอยู่่บน... ข้อต่อดูแข็งทื่อ... ถ้าใช้แรงงัดที่ข้อพับ...’
"ย้าก!"
ต้นกล้าแทงไม้ไผ่สวนเข้าไปที่่ท้องของผีดิบตัวแรก แล้วใช้มันเป็จุดหมุน เหวี่ยงร่างผีดิบตัวนั้นไปกระแทกกับอีกตัวที่ตามมา
โครม!
ผีดิบสองตัวล้มกลิ้งระเนระนาดเป็ลูกโบว์ลิ่ง
"แป้ง! หาอาวุธเร็ว! ไม้ไผ่นี่เปราะเกินไป!" ต้นกล้าะโเมื่อเห็นไม้ไผ่ในมือเริ่มร้าว
"อาวุธเหรอ..." แป้งหอมมองซ้ายมองขวา
สายตาไปสะดุดเข้ากับ 'ครกหิน' เก่าๆ ที่วางอยู่มุมห้อง (น่าจะเป็ของเ้าของเดิม)
"อันนี้แหละ!"
เธอวิ่งไปยกครกหินหนักอึ้งขึ้นมาด้วยมือเดียวราวกับถือแก้วน้ำ
"เข้ามาเลยไอ้พวกซากเดน! แม่จะตำให้แหลกคาครก!"
การต่อสู้ตะลุมบอนเริ่มขึ้น
ต้นกล้าใช้ทักษะฟิสิกส์คำนวณทิศทางแรง เหวี่ยงไม้ไผ่สกัดจุดตาย (แม้พวกมันจะตายอยู่แล้ว) อย่างแม่นยำ
ส่วนแป้งหอม... ใช้สไตล์ 'Tank' สายบู๊ ไล่ทุบหัวผีดิบด้วยครกหินทีละตัวเหมือนเล่นเกมตีตุ่น
โป๊ก! ผัวะ! ตูม!
"อย่าเข้ามานะเว้ย! นี่แหน่ะ!"
ผ่านไปสิบนาที...
สภาพรอบกระท่อมเต็มไปด้วยซากผีดิบที่นอนกองระเกะระกะ แขนขาหลุดกระเด็นไปคนละทิศละทาง
"แฮ่ก... แฮ่ก... หมดหรือยัง?" แป้งหอมวางครกหินลง (สภาพครกบิ่นไปครึ่งซีก) ปาดเหงื่อที่หน้าผาก
ต้นกล้าเดินไปเขี่ยซากผีดิบตัวหนึ่งที่ยังขยับดุ๊กดิ๊กอยู่
เขาสังเกตเห็นแผ่นยันต์สีเหลืองเก่าๆ แปะอยู่ที่กลางหลังของมัน
"ยันต์ควบคุม?"
เขาดึงยันต์ออก ฟุ่บ!
ผีดิบตัวนั้นหยุดนิ่งทันที กลายเป็เพียงซากศพธรรมดา
"อ๋อ... เข้าใจแล้ว" ต้นกล้าถอนหายใจ "พวกนี้ไม่ใช่ผีอาฆาต... แต่น่าจะเป็ 'หุ่นเชิดเฝ้ายาม' ที่เ้าของเก่าน่าจะทิ้งไว้ แต่ระบบมันคงรวนเลยโจมตีมั่วซั่ว"
"หุ่นเชิดบ้าอะไร โหดขนาดนี้!" แป้งหอมบ่นอุบ "รู้งี้ตอนตาแก่นั่นมาส่ง น่าจะขอคู่มือการใช้งานบ้านมาด้วย"
ทั้งสองช่วยกันลากซากหุ่นเชิดไปกองรวมกันไว้หลังบ้าน (เพื่อความสบายตา)
คืนนั้น... ทั้งคู่ต้องนอนเบียดกันตรงกลางห้องที่พื้นยังดีอยู่ โดยผลัดกันเฝ้ายามคนละกะ
แม้จะเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ความใกล้ชิดในกระท่อมแคบๆ ท่ามกลางบรรยากาศสยองขวัญ กลับทำให้หัวใจของทั้งคู่เต้นแรงด้วยความรู้สึกแปลกใหม่... ที่ไม่ใช่ความกลัว
...
เช้าวันต่อมา : วันรายงานตัว
"ตื่นเร็วแป้ง! สายแล้ว!"
ต้นกล้าเขย่าตัวปลุกหญิงสาวขี้เซา แสงแดดส่องลอดรูโหว่บนหลังคาแยงตา
"อือ... ขออีกห้านาทีนะแม่..."
"แม่ที่ไหนเล่า! นี่สำนักเซียน! วันนี้มีปฐมนิเทศศิษย์ใหม่นะ!"
แป้งหอมดีดตัวผึง "จริงด้วย! ลืมไปเลย!"
ทั้งสองรีบวิ่งไปล้างหน้าล้างตาที่ลำธารหลังบ้าน (น้ำเย็นเฉียบจนตาสว่าง)
ปัญหาต่อมาคือ... ชุด
ตาแก่ยาจกทิ้งชุดศิษย์ฝ่ายนอกไว้ให้ เป็ชุดผ้าฝ้ายสีเทาหยาบๆ ดูทรงแล้วเหมือนกระสอบใส่ข้าวสารมากกว่าเสื้อผ้า
"ใส่ๆ ไปเถอะ ดีกว่าใส่ชุดนักเรียนขาดๆ" ต้นกล้าบอก พลางสวมเสื้อคลุมสีเทาทับเสื้อยืดสีขาวของตัวเอง
แม้จะเป็ชุดกระสอบเก่าๆ แต่พออยู่บนร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้าง และใบหน้าหล่อเหลาของเขา มันกลับดูเหมือนแฟชั่นแนว Minimalist ราคาแพงซะงั้น
แป้งหอมสวมชุดกระสอบเช่นกัน เธอเอาผ้าคาดเอวสีน้ำเงินของหลิวชิงชิงมาผูกทับเพื่อเน้นสัดส่วนเอวคอด แล้วเกล้าผมทรงดังโงะยุ่งๆ
"สภาพเป็ไง?" เธอหมุนตัวเช็กความเรียบร้อย
"เหมือนเ้าแม่แฟชั่นวีคที่หลงมาเดินป่า" ต้นกล้ายกนิ้วโป้งให้ "ไปกันเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน"
...
ลานกว้างหน้าหอประชุมใหญ่
ศิษย์ใหม่นับพันคนยืนเข้าแถวกันอย่างเป็ระเบียบ แบ่งแยกตามสีของชุด
ชุดขาว = ลูกหลานตระกูลใหญ่ / ผู้มีพร์
ชุดฟ้า = ศิษย์ทั่วไปที่สอบผ่าน
ชุดเทา = ศิษย์แรงงาน / ผู้ไร้พร์ (ชนชั้นต่ำสุด)
แน่นอนว่า... แป้งหอมและต้นกล้าที่เดินอาดๆ เข้ามาในชุดสีเทาเก่าๆ แถมยังมาช้ากว่าคนอื่น จึงตกเป็เป้าสายตาของทุกคนทันที
"ดูนั่นสิ... พวกศิษย์ฝ่ายนอกมาช้าแฮะ"
"หน้าตาดีซะเปล่า ทำไมถึงได้ใส่ชุดสีเทาล่ะ? หรือว่าไม่มีรากิญญา?"
"ยี้... ดูเสื้อผ้าสิ เก่าจนฝุ่นเกาะเชียว สงสัยพวกบ้านนอกเข้ากรุง"
เสียงซุบซิบดังระงม แป้งหอมเชิดหน้าขึ้น ไม่สนโลก เดินควงแขนต้นกล้าผ่ากลางวงล้อมเข้าไปยืนต่อแถวท้ายสุด
บนเวทียกพื้นสูง มีแท่นหินแกะสลักัตั้งอยู่ เหล่าอาจารย์และผู้าุโนั่งเรียงราย
และคนที่ยืนเด่นเป็สง่าอยู่หน้าสุด คือชายหนุ่มรูปงามในชุดขาวขลิบทอง ใบหน้าหล่อเหลาแต่เย่อหยิ่ง ถือพัดจีบโบกเบาๆ
'ไป๋หลง' ศิษย์พี่ใหญ่แห่งฝ่ายใน ผู้คุมกฎระเบียบ
"เงียบ!" ไป๋หลงตวาดก้อง พลังปราณแผ่ออกมากดดันจนศิษย์ใหม่หน้าซีด เงียบกริบในพริบตา
"ยินดีต้อนรับสู่สำนักฟ้าคำราม... ที่นี่เรานับถือผู้แข็งแกร่ง ผู้อ่อนแอเป็ได้เพียงบันไดให้คนอื่นเหยียบย่ำ"
ไป๋หลงกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะมาหยุดที่คู่หนุ่มสาวชุดเทาท้ายแถวที่ดูโดดเด่นผิดปกติ (เพราะหน้าตาดีเกินเบอร์)
"พวกเ้าสองคนนั่นน่ะ... มาช้าแถมยังยืนคุยกันกะหนุงกะหนิง คิดว่าที่นี่เป็สวนสนุกหรือไง?"
ต้นกล้าและแป้งหอมชี้มาที่ตัวเอง "เรียกเราเหรอครับ?"
"ใช่! ออกมาข้างหน้า!"
ทั้งสองเดินออกไปยืนหน้าเวที ท่ามกลางสายตาเยาะเย้ยของศิษย์ชุดขาว
"บอกชื่อแซ่ และสังกัดมา!" ไป๋หลงถามเสียงเข้ม
"ข้าชื่อ เทียนกล้า"
"ข้าชื่อ ไป๋หอม"
"สังกัด... เอ่อ..." ต้นกล้าหันไปมองแป้งหอม "เราสังกัดไหนนะ?"
"ยอดเขาวิเวก... มั้ง?" แป้งหอมตอบไม่เต็มเสียง
"ฮ่าๆๆๆ!"
เสียงหัวเราะดังครืนไปทั่วลาน
"ยอดเขาวิเวก? ยอดเขาร้างผีสิงนั่นน่ะนะ?"
"มิน่าล่ะถึงใส่ชุดขอทาน ที่แท้ก็เป็ลูกศิษย์ของตาแก่เพี้ยนนั่นเอง"
ไป๋หลงแสยะยิ้มมุมปาก "อ๋อ... ที่แท้ก็ศิษย์ของท่านอาจารย์อาเมามายนี่เอง... มิน่าล่ะ กลิ่นตัวถึงได้... แปลกๆ"
เขาแกล้งทำท่าปิดจมูก
"ในเมื่อมาช้า ก็ต้องโดนลงโทษ... ข้าขอสั่งให้พวกเ้าไปทำความสะอาดคอกสัตว์อสูร 500 คอก ให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน! ถ้าไม่เสร็จ อดข้าวเย็น!"
แป้งหอมตาโต "500 คอก! บ้าไปแล้ว! นี่กะจะให้ดมขี้สัตว์ตายเลยหรือไง!"
"หรือจะขัดขืนคำสั่งศิษย์พี่?" ไป๋หลงปล่อยแรงกดดันระดับ 'สร้างรากฐาน' ออกมาข่มขวัญ
ต้นกล้าขยับตัวมาบังแป้งหอมไว้ สีหน้าเรียบเฉยไม่สะทกสะท้านกับแรงกดดันนั้น (เพราะรากิญญาทองคำของเขาแข็งแกร่งกว่านั้นมาก)
"ศิษย์พี่ไป๋..." ต้นกล้าพูดเสียงนิ่ง "การทำโทษควรสมเหตุสมผล... พวกข้ามาช้าเพราะมีเหตุจำเป็ (สู้กับซอมบี้) การสั่งให้ล้างคอกสัตว์ 500 คอก มันเกินไปหน่อยไหมครับ?"
"กล้าต่อปากต่อคำ?" ไป๋หลงคิ้วกระตุก "ดี! งั้นข้าจะให้โอกาส... หากเ้ารับฝ่ามือข้าได้หนึ่งกระบวนท่า ข้าจะยกเลิกโทษให้!"
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง
"ศิษย์พี่ไป๋จะลงมือเองเลยเหรอ!"
"ไอ้หนุ่มนั่นตายแน่ ศิษย์พี่ไป๋อยู่ขั้นสร้างรากฐานแล้วนะ!"
ต้นกล้าถอนหายใจ หันไปมองแป้งหอม
"เอาไงดี?"
แป้งหอมยักไหล่ ยิ้มร้าย
"ก็จัดไปสิพ่อ... โชว์ให้เด็กมันดูหน่อย ว่าฟิสิกส์ ม.ปลาย มันน่ากลัวแค่ไหน!"
ต้นกล้าหันกลับมา พยักหน้า
"ตกลงครับ... เชิญศิษย์พี่ชี้แนะ"
เขาตั้งท่าเตรียมพร้อม... ไม่ใช่ท่ามวยจีน
แต่เป็ท่ายืนแบบ 'บรูซ ลี' ผสม 'นักมวยสากล'
ฟุตเวิร์กเริ่มขยับเบาๆ สายตาจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อไหล่คู่ต่อสู้
การปะทะกันระหว่าง 'เซียนหนุ่มขี้เก๊ก' กับ 'เด็กวิทย์สายบวก' กำลังจะเริ่มขึ้นกลางลานปฐมนิเทศ!
