"กุ๊กกุ๊กกุ๊กกุ๊ก"
เสียงอะไรเนี่ย ฉันกำลังหลับสบายเลยหลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเจียงเหยี่ยนเมื่อคืนนี้ ฉันก็นอนแทบไม่หลับพอเพิ่งจะได้หลับก็ดันมีเสียงแปลกๆ นี่ดังขึ้นมาซะงั้น
"กุ๊กกุ๊กกุ๊กกุ๊ก" ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเย็นๆ มาอยู่บนหน้าฉันฉันใตื่นขึ้นมาทันที ทำให้รู้สึกปวดหัวจนหน้ามืดนิดหน่อย ฉันนั่งนิ่งๆ และมองเห็นก้อนอะไรสีเหลืองๆนั่งทับอยู่บนผ้าห่ม
เมื่อสายตาค่อยๆ ปรับสภาพให้มองเห็นชัดขึ้นฉันก็เห็นลูกเจี๊ยบตัวอ้วนสีเหลืองตัวหนึ่งที่สวมใส่เปลือกไข่ไว้กำลังนั่งทับอยู่บนผ้าห่มและฉันก็ถูกความน่ารักนี้พุ่งเข้าใส่ทันทีเลย น่ารักมากกกกกกก
"กุ๊กกุ๊กกุ๊กกุ๊ก ฉันคือจีจี"
ฉันที่โดนความน่ารักพุ่งเข้าใส่เต็มๆ นั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนสีในทันทีตั้งชื่อได้แบบว่า...
"เ้านายของฉันมอบหมายให้ฉันมาเป็ไกด์ชั่วคราวคนใหม่ของเธอ" เสียงของเขาเล็กแหลมเป็เอกลักษณ์มาก เขานั่งอยู่ในเปลือกไข่ใช้สายตาที่ดูเท่ๆ กวนๆ มองหน้าฉัน เหมือนกับจะบอกว่า การที่ฉันมีเขาเป็ไกด์ให้นั้นเป็สิ่งที่โชคดีมากในชีวิตนี้
ฉันยกมือขึ้นลูบหน้าพลางมองไปที่หน้าต่างแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้าส่องทะลุเข้ามา หน้าต่างยังคงเปิดอยู่ ดูท่าเ้าลูกเจี๊ยบตัวนี้จะเข้ามาทางหน้าต่างนั่นสินะฉันหันกลับมามองเขา "เ้านายเธอเป็ใคร"
"เ้านายของฉันคือเฟิงหลิงซ่านไงล่ะ" เขาพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ"เขาเป็คนที่ใจดีที่สุดในดินแดนเทพแห่งนี้และก็ยังเป็เ้านายที่หล่อที่สุดในสายตาของจีจีด้วย" เขาปิดหน้าพูดด้วยความประทับใจร่างสีเหลืองนั้นเปลี่ยนเป็สีชมพูทันที
ฉันมองเขาด้วยความมึนงง "ถ้างั้น...เธอก็เป็...ไก่น้อยของเฟิงหลิงซ่านงั้นเหรอ"
"ก็ใช่นะสิ" เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความภาคภูมิใจอีกครั้งแล้วร่างสีชมพูนั้นกลับมาเป็สีเหลืองเหมือนเดิม สีหน้าฉันเปลี่ยนมากกว่าเดิมอีก "โอเค ฉันเข้าใจแล้ว"
"ทำไมเธอถึงเ็าขนาดนั้นล่ะ" เ้าลูกเจี๊ยบยังคงไม่พอใจร่างน้อยที่อยู่ในเปลือกไข่ยกปีกคู่นั้นขึ้นมาไขว้ไว้ด้านหน้า "เธอรู้ไหมว่าเ้านายฉันอยู่ในฐานะอะไร เธอมีเขาคอยดูแลแบบนี้นับว่าเป็ความโชคดีของเธอเลยนะ"
อย่างกับบทพูดในละครเลย
"เหอะ เอาไป" เขาล้วงเข้าไปในเปลือกไข่และทันใดนั้นก็หยิบแผนที่ที่ใหญ่มากกว่าตัวเขาสองเท่าออกมาหนึ่งแผ่น บ้าไปแล้วเ้าไก่ตัวนี้ซ่อนอวกาศเอาไว้รึไงเนี่ย ขนาดแค่อาวุธติดตัวในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ฉันยังเทียบเ้าไก่ตัวนี้ไม่ได้เลย
เขากางแผนที่ลงตรงหน้าฉัน "เ้านายฉันบอกว่าเธอน่าจะต้องใช้มัน"
ฉันมองไปที่แผนที่นั้นทันทีแผนที่นี้มันมีชีวิต! เป็แผนที่แบบสามมิติและบ้านหลังเล็กแต่ละหลังที่อยู่ในแผนที่นั้นก็กำลังคุยกัน
"เธอดูสิ เธอดูสิยัยคนโง่เง่านั่นกำลังมองพวกเราอยู่"
หนอย! ใครโง่เง่า!
"แฮะ แฮะ แฮะ แฮะดูสีหน้าโง่ๆ นั้นสิ"
ให้ตายเถอะ
"เป็คนธรรมดาจริงๆด้วย ฉันพนันได้เลยว่าเธออยู่ที่นี่ได้ไม่พ้นหนึ่งวันหรอก"
"งั้นเธอแพ้แล้วละเพราะเมื่อวานเธอก็ยังอยู่"
"อ๋า...ทำไมเ้านายต้องส่งพวกเราให้ยัยคนโง่คนนี้ด้วย"
"อือ...พวกเราไม่ต้องไปติดตามเขาหรอก"
"ปึก!" ฉันพับแผนที่นั้นลงด้วยสีหน้าเรียบนิ่งลุกออกจากเตียงนอนพลิกตัวไปหยิบปืนจุดไฟที่ใช้เมื่อคืนขึ้นมาจุด "พรึบ!"
"เธอจะทำอะไร" เ้าลูกไก่สีเหลืองะโลุกขึ้นทันที
ฉันมองเขาด้วยสีหน้านิ่งขรึม "ฉันไม่้าของที่ปากดีแบบนี้" ฉันถือปืนจุดไฟเดินเข้าไปใกล้ๆ แผนที่นั้น
"อย่านะช่วยด้วยยยยยย"
"คนสวยปล่อยพวกเราไปเถอะนะ"
เสียงร้องไห้ดังระงมออกมาจากแผนที่นั้นฉันกระตุกริมฝีปากยกยิ้ม "พรึบ!" ฉันสะบัดแผนที่นั้นให้เปิดออกอีกครั้งอาคารหลังเล็กๆ แต่ละหลังในแผนที่นั้นขยับเข้าไปเบียดติดกันฉันมองพวกเขานิ่งๆ "เฟิงหลิงซ่านยกพวกเธอให้ฉันแล้วพวกเธอก็ต้องเป็ของฉัน ถ้ายังพูดมากอีกฉันจะเผาพวกเธอทิ้งซะ"
"ฮือๆๆๆๆๆ" พวกเขาขยับมาเบียดติดกันและเริ่มร้องไห้
ฉันเงยหน้าขึ้นไปมองเ้าไก่ตัวนั้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งมันชะงักยืนตัวแข็งทื่อทันที "เธอ...นี่เธอจะทำอะไรจีจี"
"หุบปาก! ชื่อบ้าบออะไร" ฉันมองมัน แลบลิ้นเลียริมฝีปาก "ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าพอดี" ฉันเดินเข้าไปหาเขาทีละก้าวๆเงาสีดำตกกระทบลงบนเตียงปกคลุมทั้งร่างของเขา
เขาถอยหลังไปทีละก้าว ทีละก้าว ด้วยอาการสั่นเทาและทันใดนั้นก็มุดกลับเข้าไปในเปลือกไข่ทันที
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"
เขาโผล่หัวออกมาดูใช้ดวงตาที่เหมือนเมล็ดถั่วเขียวนั้นจ้องมองฉันอย่างโกรธจัด "ฉันจะไปฟ้องเ้านาย เหอะ!" เขาลุกขึ้นยืนแล้วกระพือปีกสีเหลืองทองเล็กๆ นั้นขึ้นมาและบินออกไปทางหน้าต่างแถมยังหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ฉันอีก "แบร่ "
"ปัง" ฉันปิดหน้าต่างลง เขายังคงบินขึ้นบินลงอยู่ด้านนอกหน้าต่างด้วยความโมโหฉันหันกลับมากางแผนที่ออกอย่างใจเย็น ตอนนี้อาคารหลังเล็กพวกนี้ทำตัวดีขึ้นแล้วรุ่นพี่เฟิงหลิงซ่านนี่ช่างดีจริงๆ เลย แผนที่อันนี้มันมีประโยชน์กับฉันมาก
"สถานที่ที่จะไปหางานอยู่ที่ไหน" ฉันถาม
ทันทีที่ฉันถามตรงมุมตะวันออกเฉียงใต้ของแผนที่ก็ปรากฏว่ามีอาคารอ้วนๆ หลังหนึ่งที่อยู่ข้างใต้สะพานประตูเมืองและเป็สถานที่ที่ฉันผ่านเข้ามาในครั้งแรกค่อยๆยกมือขึ้นมา "ฉันเองแต่เธอต้องพยายามมาให้เร็วหน่อยนะ เพราะทุกวันจะมีงานจำกัด มาก่อนก็ได้ก่อน"
มาก่อนได้ก่อนงั้นเหรอ
ฉันหมุนตัวพุ่งเข้าไปในห้องน้ำและเริ่มอาบน้ำทันที
"แปรง แปรง แปรง"
"เช็ด เช็ด เช็ด"
อื้ม จะต้องดูดีเข้าไว้
ฉันหวีผมให้เรียบร้อยแล้วยิ้มกับกระจก
"วันนี้เธอสวยจังเลย" กระจกพูดออกมา
ฉันตอบกลับ "ขอบใจ...ซวย!" ฉันตั้งสติได้หันกลับไปหยิบแปรงสีฟันขึ้นมาถือไว้ทันที" เธอพูดได้ด้วยเหรอ"
มีใบหน้าหนึ่งปรากฏขึ้นมาในกระจก "ก็ใช่สิและฉันก็ยังเป็ที่ปรึกษาให้เธอได้ด้วยนะ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับมหาลัยนี้เธอสามารถถามฉันได้"
ฉันยกแปรงสีฟันขึ้นมาดูหันกลับไปมองชักโครกและอ่างอาบน้ำ และหันกลับมามองเขาด้วยสายตาดุอีกครั้ง "ตอนที่ฉันเข้าห้องมาอาบน้ำ ห้ามแอบดูนะ"
"โอเค" เขายิ้มตาหยี แล้วยังมีมือที่โผล่ขึ้นมายกปิดตาไว้อีกด้วย
"ฟู่ " ฉันวางแปรงสีฟันลง ฉันจะต้องคอยระวังสิ่งของทั้งหมดที่อยู่ในนี้ซะแล้ว "จริงสิ หลังจากที่ผ่านการทดสอบแล้วจะเปิดเทอมเมื่อไหร่"
เขาปล่อยมือที่ปิดตานั้นออกมองฉันยิ้มๆ "อิงตามปฏิทินจันทรคติก็คือวันที่เก้าเดือนกันยายนนักศึกษาใหม่ต้องมาล่วงหน้าเพื่อเข้ามาเริ่มใช้ชีวิตในมหาลัยและปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในมหาลัยหลังจากที่เปิดเทอม ค่าเทอมทุกอย่างก็จะฟรี แต่อุปกรณ์การเรียนแล้วก็อาวุธต่างๆนักศึกษาจะต้องหาซื้อเอง"
"มีอาวุธด้วยเหรอ" ใบหน้าฉันหงิกงอขึ้นมาทันที อย่างกับเล่นเกมเลย
เขายิ้มตาจนตาหยีและมองฉัน "แน่นอนว่ามันต้องมีอาวุธนี่คือมหาลัยเทพและปีศาจนะ นักศึกษาจะต้องให้ความสำคัญกับการต่อสู้และก็มักจะมีภารกิจให้ทำบ่อยๆ เช่นจับผี จับปีศาจ สร้างค่ายกล ตั้งเขตแดนพวกนี้มันก็ต้องใช้อาวุธสร้างขึ้นมาทั้งนั้นและแน่นอนว่าคนที่เก่งที่สุดก็จะได้รับรางวัลในการทำภารกิจได้ควบคุมคนทำผิดในทั้ง ‘หกปรโลก’"
ฟังดูเท่ดีแฮะ
"ดังนั้นทั้งหมดนี้ก็เลยต้องขึ้นอยู่กับเงิน ไม่อย่างนั้นเธอก็จะซื้ออาวุธอะไรไม่ได้"
ฉันตีหน้าขรึม "เื่นี้ยังต้องให้เธอเตือนอีกเหรอกินข้าวก็ต้องใช้เงินเหมือนกันนั่นแหละ ฉันไม่เสียเวลากับเธอแล้ว ไปหาเงินดีกว่า"
"ฉันแนะนำว่าให้เธอไปอัปซิมโทรศัพท์ใหม่ก่อนดีกว่า "เขายิ้มแล้วพูดต่อ "เพราะว่าโทรศัพท์ที่นี่ก็เหมือนกับบัตรเอทีเอ็มของพวกเธอนั่นแหละฝากเงินได้ กดเงินได้ ใช้ซื้อของก็สะดวกมากๆและอีกอย่างที่ที่เธอทำงานก็จะโอนเงินเข้าในซิมโทรศัพท์ของเธอเลย"
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแบบนี้มันก็สะดวกจริงนั่นแหละนะ ฉันมองเขายิ้มๆ "ขอบใจนะ บ๊ายบาย" ฉันหมุนตัวเดินออกไปข้างหลังคือเสียงหัวเราะของเขาที่ดังมา "ฉันดีใจมากเลยนะที่ในที่สุดก็มีคนแบบเธอมาอยู่ในบ้านของฉันแล้ว"
ฉันชะงักเท้าที่กำลังจะก้าวในทันทีนี่เขาคิดว่าเหมาเหมาแล้วก็สามคนนั้นไม่ได้เหมือนคนอื่นทั่วไปอย่างนั้นสินะนี่มันกระจกที่สนแค่หน้าตาจริงๆ เลย!
เช้าตรู่ขนาดนี้ เหมาเหมาและคนอื่นๆ ยังไม่ตื่นฉันสะพายกระเป๋าแล้วลงมาข้างล่างคนเดียว เดินออกไปที่ประตูพร้อมจัดของไปด้วยแต่พอเปิดประตูออกมาฉันก็ยืนอึ้งทันทีเพราะมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าประตูบ้าน
ฉันยืนสังเกตแผ่นหลังของเขาผมสั้นสีเทาดูสะอาดสะอ้านและใบหูสีเทาที่คล้ายกับหูสุนัขตั้งตรงอยู่บนหัว ในตอนที่ฉันหมุนประตูเปิดกว้างออกต่างหูเพชรสีขาวที่อยู่บนหูของเขาก็สะท้อนแสงเปล่งประกายอยู่ท่ามกลางแสงแดดยามเช้า
เขารู้แล้วว่าฉันเดินออกมาแล้วแต่เขาก็ยังคงนั่งหันหลังนิ่งๆ อยู่ตรงบันไดหน้าประตูบ้านให้ฉันอยู่อย่างนั้นไม่ขยับเขยื้อนไปไหนชุดที่อยู่บนร่างกายของเขาเป็เสื้อเชิ้ตสีฟ้าสลับขาวที่ดูเป็เอกลักษณ์เฉพาะตัวการออกแบบเสื้อที่เข้ารูปไปกับเอวของเขานั้นทำให้เห็นเลยว่ารูปร่างของผู้ชายคนนี้ดีมาก
ฉันยกคิ้วขึ้น ที่นี่มีแต่คนแปลกๆ เต็มไปหมดฉันรีบไปดีกว่า
ฉันปิดประตูและเดินผ่านเขาออกไป
"หยุด!" จู่ๆ เขาก็ตะคอกขึ้นมา ฉันใและหันกลับไปหาเขาและในตอนนั้นใบหน้าที่สะอาดหล่อเหลาก็สะท้อนเข้ามาในแววตาของฉันดวงตาสีเขียวดั่งหยกของเขาดึงดูดสายตาของฉันในทันที
ดวงตาสีเขียวคู่นั่นกำลังจ้องมองหน้าฉันนิ่งๆใบหน้าที่ขาวใสสะอาดนั้นขึ้นสีแดงจางๆ จมูกที่ได้รูปและริมฝีปากที่บางเป็เส้นตรงนั้นทำให้เขาดูแข็งแกร่งเด็ดเดี่ยวเป็พิเศษเขานั่งอยู่ตรงนั้น ใบหูตั้งยาวเหมือนสุนัขจิ้งจอกทะเลทรายและเขากำลังจ้องมองฉันด้วยสายตาเ็า ทำให้คนที่เห็นเกิดความรู้สึกสั่นกลัว
"นาย...มาหาใครเหรอ" ฉันถามเขาออกไปอย่างระมัดระวัง
เขายกมือมาประสานกันไว้ใต้คางและยังคงจ้องหน้าฉันไม่ขยับไปไหน "เหมาเหมาเป็..."
"อ๋อ...นายมาหาเหมาเหมาเหรอ เธออยู่นี่แหละ ฉันต้องไปหางานแล้วไม่ได้อยู่เป็เพื่อนนายนะ ลาก่อน" ฉันโบกมือให้เขาฉันพูดตัดบทจนเขามึนงงไปเล็กน้อย
ฉันรีบไปดีกว่า
แต่ทันใดนั้น ลมหอบใหญ่ก็พัดผ่านตัวฉันจนผมฉันปลิวไสวขึ้นเส้นผมสีเทาพัดผ่านหน้าฉันไป และเขาก็มายืนอยู่ข้างหน้าฉันอีกครั้งสายตาสีเขียวคู่นั่นจ้องมองฉันนิ่งๆ "ฉันมาหาเธอ"
ฉันชะงักค้าง ชี้นิ้วมาที่ตัวเอง "มาหาฉัน"
"อืม มาหาเธอ"
ฉันมองเขาด้วยความสงสัย "นายบอกว่ามาหาเหมาเหมาไม่ใช่เหรอ"
เขาก้มหน้าลงมามองฉัน "ฉันเป็พี่ชายของเหมาเหมา ชื่อโม่ิ"
"อ๋อ...พี่ชาย...อะไรนะ! พี่ชาย" ฉันมองเขาอย่างใ "ทำไมนายไม่มีขนล่ะนายเป็พี่ชายเหมาเหมาจริงๆ เหรอ ลูกพี่ลูกน้องเหรอ"
และตอนนั้นเองใบหน้าเขาก็เปลี่ยนสีและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเ็า "ฉันเป็พี่ชายแท้ๆ ของเหมาเหมา"
ฉันอ้าปากค้างในทันที นี่พวกเขา...เป็พี่น้องกันจริงๆ เหรอ
สีหน้าของเขากลับมาเรียบนิ่งอีกครั้ง "เหมาเหมามียีนพันธุกรรมแฝงในกลุ่มมนุษย์หมาป่าหนึ่งหมื่นตัวจะมีลักษณะแบบเหมาเหมาแค่ตัวเดียว"
"อ๋อ" พอเขาอธิบายมาแบบนี้ฉันก็เข้าใจแล้วละ "แล้วนายมาหาฉันมีธุระอะไร"
ในดวงตาสีเขียวดั่งหยกของเขามีประกายสดใสพาดผ่านเขามองฉันนิ่งๆ "ฉัน้าให้เธอมาเป็เ้านายฉัน"
ฉันตกตะลึงตาค้างอีกครั้ง
เขาพูดอะไร
เขา้าให้ฉันไปเป็เ้านายของเขางั้นเหรอ
แต่ว่า สายตาของเขา น้ำเสียงของเขาแบบนั้นมันคือคำสั่งชัดๆ
แบบนี้มันเหมือนจะให้ฉันไปเป็เ้านายของเขาซะที่ไหนเหมือนจะให้ฉันไปเป็คนรับใช้เขามากกว่า
"ฮึฮึ ฮึฮึ" ฉันกระตุกริมฝีปาก "มาล้อฉันเล่นั้แ่เช้าแบบนี้สนุกมากไหมเลิกกวนได้แล้วน่า ฉันต้องรีบไปหางาน" ฉันยื่นมือออกไปผลักอกเขาและเดินผ่านเขาไป
เ้าพวกเทพปีศาจพวกนี้นี่น่าเบื่อกันจริงๆ
"ฟู่!" ฉันเดินออกมาได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นเงาสีเทาร่างหนึ่งก็ผ่านตัวฉันไปอีกครั้งพร้อมกับลมแรง ฉันชะงักเท้าด้วยความโกรธ "ล้อฉันเล่น สนุกมากไหมฮะ!..." ฉันยืนอึ้งอยู่กับที่คำพูดที่จะพูดต่อติดอยู่ในลำคอ เพราะสิ่งที่ฉันเห็นไม่ใช่นายโม่ิคนนั้นอีกแล้วแต่เป็หมาป่าสีเทาตัวใหญ่
ดวงตาสีเขียวคู่นั้นจ้องมองฉันนิ่งๆ "ขึ้นมา ฉันจะพาเธอไปเอง" น้ำเสียงนั้นยังคงเป็คำสั่งอยู่เหมือนเดิมทั้งร่างของเขาเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของาาหมาป่าผู้น่าเกรงขาม