“โก่วต้าน?” เห็นได้ชัดว่าผีหนุ่มผงะไปหลังจากเห็นโก่วต้าน
“เ้ารู้จักหรือ?” ชิงอีเลิกคิ้วขึ้น
โก่วต้านพยักหน้าหงึกๆ “พี่สาว ลุงหวังเป็ชาวบ้านในหมู่บ้านผี”
"ฮึ ที่แท้ก็เป็ลุงหวังข้างบ้าน[1]นี่เอง”
“โก่วต้าน เหตุใดเ้าถึงอยู่กับพวกเขา แล้วเด็กคนอื่นๆ ล่ะ?” ลุงหวังรีบดึงโก่วต้านมาอยู่ข้างกายและมองชิงอีและเ้าแมวอ้วนด้วยความกลัวจนเห็นได้ชัดว่าฟันที่ขบไว้นั้นยังกระทบกันดังกึกๆ เขาจับมือแน่นพร้อมบอกว่า “โก่วต้านเ้าไม่ต้องห่วงนะ ลุงหวังไม่ยอมให้แมวปิศาจตัวนี้กลืนเ้าได้แน่นอน ถ้าพวกท่านอยากจะฆ่าใครก็มาฆ่าข้า ปล่อย ปล่อยเด็กไป...”
โอ๊ย ชายผู้นี้เปลี่ยนบทบาทหรือไงกัน?
“ลุงหวัง พี่สาวเป็คนดี” เมื่อเขาเห็นสายตาอันตรายของชิงอี โก่วต้านรีบอธิบายด้วยกลัวว่าองค์หญิงเ้าอารมณ์จะหมดความอดทนลงก่อนแล้วลุงหวังจะหายไปจริงๆ
ลุงหวังมองอย่างระแวดระวังตัวมากพลางกอดโก่วต้านแน่น แล้วกระซิบว่า “เ้าดูสิ นางดุร้ายจนกระทั่งผีก็ไม่กล้าสู้ แถมยังมีแมวปีศาจอีก นางดูเป็คนดีตรงไหนกัน?”
เฮ้ย เ้าผีโง่นี่
เ้าแมวอ้วนเลียลิ้น “จะให้ข้ากลืนเ้าลงไปในคำเดียวตอนนี้เลยไหมล่ะ?!”
ชิงอีที่ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ
แต่แค่นั้นก็ทำให้ลุงหวังตัวสั่นมากยิ่งขึ้น
“ลุงหวัง ลุงรีบบอกข้ามาตามตรงเถอะ พวกพี่สาวจะได้จัดการเ้าคนชั่วเพื่อช่วยให้พวกเรากลับมาเกิดใหม่เป็คนอีกครั้ง!”
“ไปเกิดใหม่อะไรกัน!” ลุงหวังส่ายหน้าพูดอย่างประหม่าว่า “โก่วต้านนี่เ้าทรยศเหรองั้นหรือ หากท่านปรมาจารย์รู้เข้าเขาต้องโกรธแน่นอน เ้าเด็กโง่ เราตามท่านปรมาจารย์ไปน่ะดีแล้ว รอวันที่เขาประสบความสำเร็จแล้วมีชื่อเสียง เราก็จะสามารถอยู่กับเขาได้ตลอดไปชีวิต”
พรูด
ชิงอีหลุดขำออกมาอย่างไม่เกรงใจและยกมือขึ้น “โม้ต่อสิ โม้ต่อเลย”
“ข้าไม่ได้โม้! ท่านปรมาจารย์มีพลังแห่ง์ เขาบอกว่าถ้าเขาทำสำเร็จจะเป็ะไม่มีวันตายอย่างแน่นอน”
“ยังมีหน้ามาบอกว่ามีไม่วันตายอีกทั้งที่เ้าก็ตายไปแล้ว? เขาจะช่วยชุบชีวิตเ้าหรืออย่างไง?” ชิงอีเยาะเย้ย
“ต้องทำได้สิ ท่านปรมาจารย์คือพญามัจจุราชผู้พิพากษาชุดแดงที่เดินทางมายังโลกมนุษย์! ความสามารถนี้เป็เพียงเื่เล็กน้อยสำหรับเขา!”
พญามัจจุราช?
ชิงอีขมวดคิ้ว “พญามัจจุราชไหนกัน?” จู่ๆ นางก็มีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีนัก
ลุงหวังเงยหน้าและกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็มันดาลาเปลวเพลิงปกคลุมนภา พญามัจจุราชน้องสาว ราชินีชิงอีเตี้ยน!”
ชิงอีที่เพิ่งยกถ้วยชาขึ้นมาจิบชาถึงกับดื่มต่อไม่ลง
“ฮะ...ฮ่าๆๆๆ”
ลุงหวังและโก่วตานมองหน้ากันก่อนจะหันกลับไปดูหญิงสาวที่หัวเราะราวกับเป็ลมชัก
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชิงอีก็หยุดหัวเราะและยกมือขึ้นมาเช็ดหางตา เฮอะ นางขำจนน้ำตาเล็ดเลย
ั้แ่มาโลกมนุษย์ นี่เป็เื่ที่น่าขันที่สุดเท่าที่นางเคยได้ยินมา
“วิเศษ วิเศษมาก นี่มันน้ำเชี่ยวชนปะทะวังพญาัจริงๆ ด้วย”
นัยนตคู่งามทอประกายอย่างมีความสุข กระนั้น รอยยิ้มแปลกๆ ตรงมุมปากนั่นกลับให้ความรู้สึกขนพองสยองเกล้า
“ข้าไม่รู้จริงๆ นะเนี่ยว่าข้าลูกน้องที่เก่งขนาดนี้ด้วย” ชิงอีพูดลอดไรฟัน
เ้าแมวอ้วนบิดคอ “ข้าชักอยากจะเห็นหน้าว่าเทพองค์ไหนที่กล้ามาขโมยงานข้า”
สองผีน้อยใหญ่ยืนจังงังอยู่กับที่
ชิงอีที่เดินออกจากห้องมาก็มององครักษ์สองคนที่ยืนเฝ้าประตู
ทั้งสองคนรู้สึกขนลุกเล็กน้อยจากการจ้องมองของชิงอี “องค์หญิงทรงมีพระประสงค์อะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
“พวกเ้าสองคนเฝ้าอยู่ข้างนอกตลอดไม่พบสิ่งผิดปกติอะไรเลยหรือ?”
ทั้งสองมองหน้ากัน สิ่งผิดปกติ?
มีไหมนะ?
ทันใดนั้นพวกเขาก็คอแห้งและประหม่ามากขึ้น
หนึ่งในนั้นถามอย่างระมัดระวังว่า “องค์หญิง...นะ ในวัดจะมีสิ่งสกปรกเช่นนั้นด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ชิงอีเหลือบมองเขาด้วยรอยยิ้ม ซึ่งข้างกายผีน้อยใหญ่ยืนอยู่
“เฮอะ”
“ถ้าข้าบอกว่าไม่มี เ้าจะเชื่องั้นหรือ?”
องครักษ์ทั้งสองแทบจะร้องไห้กับการสัพยอกของนาง แล้วสรุปมันมีหรือไม่มีกันเล่า?
เมื่อเห็นชิงอีกำลังจะออกไป พวกเขาก็รีบเตรียมตัวตามนางไปแต่คาดไม่ว่าจะถูกนางไล่ด้วยทางสายตา
ชิวอวี่กำลังลาดตระเวนพอดีผ่านมาเห็นจึงปรี่เข้ามาหาทันที
“เ้ามาพอดีเลย ข้าอยากจะไปเดินรอบๆ วัดเสียหน่อย เ้าช่วยทำหน้าที่อารักขาให้ข้าหน่อยสิ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ชิงอีเดินไปได้สองก้าวก็หยุดฝีเท้าลงแล้วหันกลับมาบอกว่า “เถาเซียงกับต้านเสวี่ยหลับอยู่ในโรงครัว พวกเ้าไปพาสองคนนั้นกลับมาที”
องครักษ์ทั้งสองพยักหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากก้าวเท้ามาได้สองก้าวถึงรู้สึกแปลกๆ
องค์หญิงประทับอยู่ในห้องตลอด แล้วนางทรงรู้ได้เช่นไรว่าเถาเซียงกับต้านเสวี่ยหลับอยู่ในโรงครัว?
ชิงอีก้าวนำ ส่วนชิวอวี่ที่ก้าวตามสังเกตการย่างเท้าที่เร่งรีบ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปชั่วขณะ
“อยากจะถามอะไรก็ถาม อย่ามัวแต่จ้องแผ่นหลังข้าแล้วคิดเพ้อเจ้อเอาเอง”
ชิวอวี่อึ้งไปเพราะนางไม่ได้หันกลับมาสักนิด เหตุใดถึงรู้ว่าเขากำลังมองอยู่?
เขาไม่กล้าเอ่ยถามสิ่งที่คิดออกไปแต่ถามอีกเื่ไปตรงๆ แทน
“องค์หญิงทรงพบอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ชิงอีไม่ตอบแต่ถามกลับว่า “มาพูดถึงสิ่งที่เ้าเจอกันก่อนเถอะ”
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมพาคนของกระหม่อมตระเวนบริเวณรอบๆ วัดตงหวาแล้วก็ไม่พบคนน่าสงสัย อย่างไรก็ตาม เมื่อไปหลังูเาของวัดตงหวากลับมีบ้านอยู่หลายหลัง กระหม่อมถามภิกษุในวัดจึงรู้ว่าบ้านเ่าั้เป็คนขอทานที่เ้าอาวาสเจี้ยชือดูแลทั้งหมด”
“ไม่เลว” ชิงอีมองเขาอย่างชื่นชมที่ข้างกายยังพอจะมีคนที่มีความสามารถอยู่
ชิวอวี่ที่ได้รับคำชมก็ในิดหน่อยด้วยความที่คาดไม่ถึง
มันไม่ใช่เื่ง่ายที่องค์หญิงใหญ่จะมีคำพูดดีๆ ออกมาจากปากร้ายๆ ของนาง
“องค์หญิง ตอนนี้เ้าชั่วนั่นถูกขังไว้ในห้องฟืน ทุกคนในวัดตงหวาแห่งนี้ต่างร้องเรียนและไม่เชื่อในสิ่งที่เราพูด เหล่าลูกน้องของกระหม่อมกังวลว่าจะมีคนจับปลาในน้ำขุ่น[2]จงใจสร้างปัญหาขึ้นมา”
“งั้นก็ปล่อยให้ทำไป” ชิงอียิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
ชิวอวี่ขมวดคิ้วด้วยความลำบากใจ เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าองค์หญิงองค์นี้ทรงดำริสิ่งใดอยู่
สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการลากบรรดาพวกพ้องของเ้าคนชั่วนั่นออกมาไม่ใช่หรือ?
“องค์หญิง เ้าอาวาสเจี้ยชือผู้นั้น...”
“ตอนนี้ไม่ต้องไปสนใจพระอาจารย์นั่น” ชิงอีส่ายหน้า ชิวอวี่ยังอยากจะถามต่อแต่ถูกนางจ้องอย่างเหลืออด เขาจึงทำได้แค่กลืนความสงสัยลงในท้องไปเท่านั้น
พอมองทางเดินข้างหน้าชิวอวี่ก็ต้องขมวดคิ้ว องค์หญิงจะไปที่ใดกัน?
ไม่นานนัก เขาก็ได้คำตอบ
ศาลเ้ามันดาลาเปลวเพลิงปกคลุมนภา
ชิวอวี่มองรูปปั้นช้างภายในศาลเ้า ดวงตาราวกับระฆังทองสัมฤทธิ์ หน้าตาหน้าบึ้งตึงจนน่าเกลียดน่ากลัว มีมีดยาวอยู่ในมือซ้ายและแส้กระดูกเปื้อนเือยู่มือขวาประหนึ่งปีศาจที่มีชีวิต
กลุ่มพระอาจารย์นั่นถูกประตูบีบจนมีความคิดบิดเบี้ยวหรือไร ถึงได้บูชาสิ่งที่น่าเกลียดในวัดเช่นนี้ “พญามัจจุราชสาวคนนี้ช่างน่าเกลียดจริงๆ”
“พญามัจจุราชเป็ผู้หญิงจริงๆ ใช่ไหม?”
“หรือว่าพญามัจจุราชและบรรดาภูตผีิญญาในนรกล้วนมีลักษณะน่ากลัวเช่นนี้กันหมด?”
ชิวอวี่พูดจบหนาวจนขนลุกอย่างไม่มีทราบสาเหตุ
เมื่อหันไปก็พบว่าองค์หญิงจ้องตนด้วยแววตามีเลศนัยและลึกลับ มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยของนางสร้างความหวาดผวา
เขา...พูดอะไรผิดอีกแล้วเหรอ?
หัวหน้าองครักษ์ชิวคงไม่รู้ว่าชื่อของเขาถูกจดจำอย่างแม่นยำโดยพญามัจจุราชเป็ที่เรียบร้อยแล้ว
“พญามัจจุราชในปรโลกหน้าตาไม่น่าเกลียดขนาดนั้นหรอก” ชิงอีกัดฟันพูดอย่างเ็า นางเชิดคางขึ้นพยายามควบคุมอารมณ์และเอ่ยว่า “เ้าไปจุดเครื่องหอมและบูชาพระเ้า”
“องค์หญิง กระหม่อม...” ชิวอวี่อยากจะบอกว่าตนเองไม่เชื่อเื่พวกนี้เลย
“ข้าสั่งให้เ้าไปก็ไปสิ!” ชิงอีจ้องเขม็งอย่างเ็า
ลิ้นของชิวอวี่ราวกับถูกใบมีดตัดผ่านไป มันเ็ปที่ยากจะบรรยายจนเขาต้องรีบหุบปากและทำตามคำสั่ง
นำเครื่องหอมออกมาและจุดเทียน
ชิวอวี่โค้งคำนับรูปปั้นช้างสามครั้ง
ควันสีน้ำเงินปกคลุมเต็มไปทั่วศาลเ้าระหว่างที่เขาก้มคำนับจึงรู้ว่าควันนั้นลอยไปทางใด
ชิงอียืนนิ่งด้วยสีหน้าเรียบอยู่หน้ารูปปั้น สายตามองตามควันไปจนพบเข้ากับดวงตาสีเืและปากขนาดใหญ่ราวกับอ่างโลหิต[3] ซึ่งกำลังกินเครื่องหอมอย่างตะกละตะกลาม...
************************
[1] ลุงหวังข้างบ้าน (隔壁老王) เป็การมุกขำๆ ในภาษาจีนมาจากการ์ตูนเื่ “Happy Dad and Son” ที่พ่อหัวเล็กแต่ลูกกลับหัวโต ซึ่งหัวโตๆ นั้นดันไปเหมือนคุณหวังเพื่อนบ้านที่แม่ของเด็กน้อยเชิญมากินข้าวที่บ้าน ชาวเน็ตจีนเลยมักใช้คำข้างต้นหรือ “ชู้เมียชาวบ้าน” หรือ “พ่อแท้ๆ ของลูก” เพื่อใช้ล้อว่าลุงหวังข้างบ้านเป็พ่อแท้ๆ ของเด็กคนนี้ต่างหาก โดยจะใช้ในเชิงล้อเลียนแบบขำๆ ไม่ใช้เป็คำด่าหรือประชดประชัน
[2] จับปลาในน้ำขุ่น เปรียบว่า ฉวยโอกาสใน่ที่ชุลมุน
[3] อ่างโลหิต คือ อ่างที่เต็มไปด้วยเืและเครื่องบูชาโบราณ