เย่เฟิงก้าวขึ้นมาบนฝั่ง ทันทีที่เงยหน้าขึ้นก็เห็นคนสองคนสวมหมวกฟางและชุดสีเทาภายใต้แสงดาวส่องสว่าง เขาใชั่วขณะ จากการประเมินศักยภาพของตัวเองก่อนหน้านี้ ตนอาจพอรับมือพวกเขาคนใดคนหนึ่ง แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามเข้ามาพร้อมกัน เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่นอน
คู่หูผู้ชายแสยะยิ้มพร้อมแลบลิ้นสีแดงยาวเลียริมฝีปากตัวเองขณะมองหลงหว่านเอ๋อร์ซึ่งเปียกโชกไปทั้งตัว สายตาคล้ายผู้ล่าจดจ้องเหยื่อ
“นายคือโม่จิ่วเกอคนนั้น... ดูเหมือนนายกับคุณหนูตระกูลหลงกำลังเล่นสนุกกันอยู่ ฉันร่วมสนุกด้วยได้ไหม?” ดวงตาคล้ายงูพิษของชายคนนั้นมองเย่เฟิงด้วยความสนใจ
“ให้ผมเล่นสนุกกับผู้หญิงของคุณจะไม่ดีกว่าเหรอ คุณคิดว่าไง?” เย่เฟิงสบถเสียงเบาแล้วยืนขวางหน้าหลงหว่านเอ๋อร์เพื่อบังสายตาของอีกฝ่าย จากนั้นไล่สายตามองคนทั้งสองซึ่งอยู่ห่างออกไปสามสิบกว่าเมตรอย่างพินิจพิเคราะห์
ข้างกายชายคนนั้นคือหญิงสาวทรงเสน่ห์ในชุดสีเทา ภายใต้ชุดเก่าล้าสมัยเผยรูปร่างเย้ายวนและผิวเนียนละเอียดเป็บางครั้ง ความสวยหยาดเยิ้มสะกดสายตาล่อลวงผู้คน
“ก็ไม่เลวนะ” ชายคนนั้นเลียริมฝีปาก ดวงตาฉายแววชั่วร้าย “งั้นพวกเราสี่คนมาเล่นสนุกกันเถอะ เกมนี้ต้องสนุกมากแน่ๆ แต่ยังไงผลลัพธ์ก็ถูกกำหนดไว้แล้ว...”
“พวกเขาเป็ใคร?” เย่เฟิงกระซิบถามหลงหว่านเอ๋อร์
“ผู้ชายคนนั้นชื่อหลีฮวา ส่วนผู้หญิงชื่อไห่ถาง ถูกขนานนามว่าคู่รักดาบ์แห่งวิหารดาบ์... พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกมันหรอก รีบไปกันเถอะ!” น้ำเสียงร้อนรนของหลงหว่านเอ๋อร์แฝงความวิตก
“เธอบินไม่ได้นะ แล้วจะหนีไปที่ไหนได้?” เย่เฟิงเงยหน้ามองรอบด้าน หุบเขาทั้งสามด้านล้วนเป็หน้าผาสูงชัน ทางออกมีทางเดียวเท่านั้นแต่ตอนนี้ถูกอีกฝ่ายขวางไว้ นอกจากบินได้หรือมีท่าร่างที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม เขาก็ไม่มีวิธีอื่น ถ้าเทียบความเร็วชั่วพริบตา พลังย่างก้าวไร้เงาของเย่เฟิงก็ไม่อาจเทียบกับผู้ชายที่ชื่อหลีฮวาคนนั้นได้เลย!
เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมทั้งสองคนถึงถูกเรียกด้วยชื่อนี้ หรือหลีฮวาควบคุมไห่ถางอยู่งั้นหรือ?
“เ้าหนุ่มหน้ากากถอดกางเกงแกออกซะ แล้วให้คุณปู่คนนี้ส่งแกไปเป็ขันที บางทีอาจเป็ทางรอดทางเดียวของแกก็ได้นะ” หลีฮวาเหยียดยิ้มพลางเอื้อมมือจับห่อผ้าใบยาวด้านหลังช้าๆ เย่เฟิงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นคือดาบยาว!
“...” เย่เฟิงพูดไม่ออก ดูท่าชายคนนี้จะเป็โรคจิตในระดับหนึ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นกับสาวสวยอย่างหลงหว่านเอ๋อร์เหมือนจะทำให้อีกฝ่ายอิจฉา ตามที่เขาคาด ภายใต้สถานการณ์นั้นหากเย่เฟิงไม่ได้มีสัมพันธ์กับหลงหว่านเอ๋อร์ ไม่ใช่ว่าเขาเป็หลิวเซี่ยฮุ่ย*หรอกเหรอ?
(*ผู้ชายที่มีคุณธรรมและจิตใจแน่วแน่มั่นคง)
“รีบหาวิธีเรียกพ่อเธอมาที่นี่ จะโทรศัพท์หรือส่งเสียงพันลี้ก็ได้ ฉันจะช่วยถ่วงเวลาให้เอง” เย่เฟิงพูดกับหลงหว่านเอ๋อร์โดยไม่หันหน้ากลับมา พลังชี่ก่อตัวอยู่ในมือแล้วกระบี่เจินชี่สีส้มก็ปรากฏอีกครั้ง!
กระบี่ขนาดสามฟุตเจ็ดนิ้ว รูปร่างแปลกตาคล้ายั!
เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็คิดจะใช้โทรศัพท์ แต่โทรศัพท์มือถือเพิ่งจะเสียเพราะน้ำเข้า ส่วนส่งเสียงพันลี้เธอก็ยังฝึกไม่ถึงขั้นนั้นเลย
คนสามคนต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นกระบี่เจินชี่สีส้มในมือเย่เฟิง ในที่สุดครั้งนี้หลงหว่านเอ๋อร์ก็เห็นชัดเจนแล้วว่าเขาซ่อนกระบี่เล่มนี้ไว้ที่ไหน!
“พวกเราต้องกลับไป ต่อให้จมน้ำตายก็ยังดีกว่าตายด้วยมือพวกมัน...” หลงหว่านเอ๋อร์รั้งเย่เฟิงให้กลับไปที่สุสานโบราณด้วยกัน
หากเป็คนอื่น เธอคงไม่สนใจ หลังเกิดเื่แบบนั้นแล้ว ถ้าจะตายก็ต้องตายด้วยกัน แน่นอนว่าก่อนตายต้องลากเขามารับโทษร่วมกัน แต่ต่อหน้าหลีฮวากับไห่ถางคู่รักโรคจิต หลงหว่านเอ๋อร์ไม่อยากตาย! พวกวิปริตสองคนนี้ ต่อให้เธอตายไปแล้ว ผู้ชายคนนั้นก็คงไม่ปล่อยร่างเธอไว้... ดังนั้นเธอเต็มใจกลับไปที่สุสานโบราณ แม้มันจะถล่มลงมาแล้วหรือจะจมลงก้นทะเลสาบก็ยังดีกว่าถูกเหยียดหยาม
“หุบปาก ถ้าอยากรอดก็หาทางติดต่อให้พ่อเธอมาที่นี่!” เย่เฟิงตวาด ไม่นึกเลยว่าร่างชีพจรเซียนที่สง่างามจะไม่มีความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ แค่เจอพวกวิปริตสองคนนี้ถึงกับจะยอมทิ้งชีวิตของตัวเอง
เย่เฟิงเงยหน้าแล้วกุมกระบี่แน่น สายตามองด้านหลังของหลีฮวาและไห่ถาง ก่อนหัวเราะเสียงดัง “ฮ่าๆ หว่านเอ๋อร์ เธอไม่ต้องกังวลไป พ่อเธอมาแล้ว...”
อะไรนะ? หลงโม่หรานเหรอ?
สีหน้าของพวกเขาสามคนเปลี่ยนไปเกือบจะพร้อมกัน ต่างตวัดสายตาไปทางเข้าของหุบเขา นอกจากต้นไม้ที่ถูกทำลายแล้ว มีร่างคนที่ไหนกัน?
“แย่แล้ว!” เมื่อหลีฮวากับไห่ถางรู้ตัวแล้วก็รีบหันกลับมา
หลีฮวายกดาบเล่มยาวเหนือศีรษะขวางกระบี่เจินชี่ของเย่เฟิง หนึ่งดาบหนึ่งกระบี่ปะทะกันใต้แสงดาว
คาดไม่ถึงเลยว่าจะตัดไม่ขาด ดาวยาวเล่มนี้นับเป็อาวุธชั้นยอด
“จุ๊ๆ เด็กดี ปลิ้นปล้อนนักนะ ไม่คิดเลยว่าจะกล้าโจมตี!” หลีฮวาแสยะยิ้มสยดสยองมองศัตรูอย่างผ่อนคลาย แต่เหงื่อเม็ดโตกลับไหลลงมาที่หน้าผาก ถ้าตอบสนองช้ากว่านี้เพียงนิดเดียว เขาคงถูกฝ่ายตรงข้ามฆ่าตายไปแล้ว
“เ้าโง่!” เมื่อหลงหว่านเอ๋อร์เห็นคนข้างกายลอบโจมตีจากด้านหลังก็ได้แต่แอบด่าเงียบๆ เ้าหมอนี่มีระดับพลังเพียงห้าปี คิดจะอาศัยแค่กระบี่เล่มนั้นสู้กับหลีฮวาและไห่ถางที่มีระดับพลังสิบห้าปีเหรอ?
เธอไม่รู้ว่าพลังลมปราณห้าปีของเย่เฟิงเทียบเท่าสิบปีของผู้ฝึกวรยุทธ์ ถ้าดวลกันตัวต่อตัว ความต่างก็ไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่เธอจินตนาการ...
“นายมันบ้า ฉันไม่บ้าไปกับนายหรอก...” หลงหว่านเอ๋อร์กัดฟันแล้วหมุนกาย คิดะโลงสระน้ำลึก อย่างไรจมน้ำตายก็ดีกว่าถูกอีกฝ่ายฆ่า ในความคิดของเธอโม่จิ่วเกอใกล้จะถูกฆ่าแล้ว หญิงสาวไม่้าเห็นผู้ชายของตนถูกสับอย่างน่าเวทนา...
แต่ขณะจะะโลงไป เธอกลับลังเลขึ้นมา เมื่อหันกลับไปก็เห็นภาพชายหนุ่มหลบดาบของตู่ต่อสู้ได้พอดี จึงอดอุทานไม่ได้
“เร็วมาก...” หลังจากเย่เฟิงหลบการตอบโต้ของอีกฝ่าย สีหน้าก็เคร่งขรึม ความเร็วชั่วพริบตาของอีกฝ่ายเหนือชั้นกว่าเขามาก ดาบแรกเมื่อครู่ เขาหลบได้แบบหวุดหวิดเท่านั้น อีกนิดเดียวหัวของเขาก็เกือบถูกฟันทิ้งไปแล้ว
ย่างก้าวไร้เงา!
เมื่อคิดได้ดังนั้น เย่เฟิงก็เริ่มใช้ย่างก้าวไร้เงาต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงสุดจนปรากฏเงาต่อเนื่องเป็วงล้อมหลีฮวาและไห่ถาง
“โคตรช้าเลย” หญิงสาวพราวเสน่ห์อย่างไห่ถางหัวเราะแล้วกุมด้ามดาบสะบัดออกจากผ้าใบที่ห่อหุ้มมันไว้ กระชับดาบในมือแน่นแล้วตวัดไปยังบริเวณสุดท้ายที่ชายหนุ่มปรากฏตัว ทั้งรวดเร็วและดุดันราวพญามัจจุราช!
แม้จะเกิดภาพเงามากมาย แต่เธอมีพลังลมปราณขั้นสูง ประสาทััแม่นยำ มองปราดเดียวก็รู้ว่าร่างจริงของฝ่ายตรงข้ามอยู่ตรงไหน จึงตวัดดาบหมายฟันร่างนั้นทิ้ง
“หยุดได้แล้ว!” หลงหว่านเอ๋อร์ลอบมองจากขอบสระลึก น้ำตาเอ่อคลอดวงตาคู่สวย หญิงสาวรับไม่ได้ที่โม่จิ่วเกอจะถูกฆ่าตายแบบนี้ แม้จะถูกเขาทำลายความบริสุทธิ์ไปแล้ว แต่เมื่อคิดให้ดีแล้วก็ใช่ว่าจะยอมรับเขาไม่ได้...
ไห่ถางเหยียดยิ้มมุมปาก ให้เธอหยุดหรือ? แต่วินาทีต่อมาเธอก็ต้องผงะ เพราะดาบที่ตวัดอย่างมั่นใจกลับฟันลงบนความว่างเปล่า!
วิชาเซียน อำพรางตา!
เย่เฟิงใช้ย่างก้าวไร้เงาเพื่อทำให้อีกฝ่ายสับสนร่วมกับวิชาอำพรางตาเพื่อให้ร่างของตนเลือนรางจนเหมือนภาพเงา แม้ยังไม่มีวิธีเคลื่อนย้าย แต่ก็ทำให้อีกฝ่ายตัดสินใจผิดพลาด
“แกเข้าใจวิชาเซียนไหม?” ร่างที่แท้จริงของเย่เฟิงปรากฏขึ้นด้านหลังของไห่ถางเหมือนปีศาจร้าย รอยยิ้มประดับมุมปาก ก่อนตวัดกระบี่ในมือ
ฉึก!
เืสีแดงสดพุ่งกระฉูด กระบี่แทงทะลุหัวใจ!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้