การประมูลดำเนินไปอย่างคึกคัก แตู่เี่อันหาได้สนใจไม่ เธอเอาแต่ก้มหน้าพิมพ์ข้อความหาซูอี้เฉิง
ลู่เป๋าเหยียนมองเธอต้วยสายตาเย็น เขากำลังรอว่าเมื่อไรกันเธอจึงจะนึกถึงเขา
“ลำดับต่อไป เราจะทำการประมูลกำไลหยกจากคุณนายซูกันนะครับ” เสียงพิธีกรดังขึ้นมาพร้อมกับภาพถ่ายของกำไลหยกที่ถูกฉายขึ้นบนสไลด์ด้านหลัง จากนั้นพิธีกรจึงเริ่มแจ้งราคาเริ่มต้นของกำไลชิ้นนี้
การประมูลกำไลได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ซูอี้เฉิงก็ยังไม่ตอบข้อความเธอ
เธอเห็นดังนั้นจึงรีบโทรหาเขาทันที แต่ทว่าซูอี้เฉิงดันปิดเครื่อง
ในตอนนั้นเอง ราคาของกำไลก็สูงขึ้นไปถึงสี่แสนหยวนอย่างรวดเร็ว
สมองของูเี่อันเริ่มคิดหาทางออก ไม่ว่าอย่างไร เธอจะไม่ยอมให้กำไลวงนี้ตกไปอยู่ในมือคนอื่นเป็อันขาด
“สี่แสนห้า”
“หกแสน”
ราคาเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ูเี่อันร้อนใจเสียยิ่งกว่าอะไร และในตอนนั้นเอง
“สามล้านหยวน” เสียงที่ดังขึ้นทำเอาทั่วทั้งห้องจัดงานเงียบไปชั่วขณะ
กำไลวงนี้ดูมีมูลค่ามากก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นราคาก็ไม่สูงถึงสามล้านหยวนแน่ๆ
ูเี่อันหันไปมองหน้าคนเอ่ยราคาอย่างลู่เป๋าเหยียนอย่างแปลกใจ ทำไมเขาต้องให้ราคาสูงขนาดนี้ หรือแค่อยากสร้างบรรยากาศ?
“สามล้านหยวน ครั้งที่สาม” เสียงประกาศของพิธีกรดังขึ้น “ขอแสดงความยินดีกับคุณลู่ด้วยครับ คุณคือผู้ชนะการประมูลกำไลในครั้งนี้”
ูเี่อันลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
ลู่เป๋าเหยียนเป็คนชนะประมูลก็ยังดีกว่าตกไปอยู่ในมือของคนอื่นเป็ไหนๆ
ของชิ้นสุดท้ายของงานประมูลการกุศลในครั้งนี้ คือวัตถุโบราณชิ้นหนึ่งที่ถูกประมูลไปในราคาสูงลิ่ว ยอดรวมเงินประมูลที่ได้มาทั้งหมดแตะสิบล้านหยวน ถังอวี้หลันประกาศว่า เงินทั้งหมดจะถูกบริจาคเป็ทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาผู้ด้อยโอกาส และส่วนหนึ่งเข้ากองทุนสนับสนุนงานการศึกษาในพื้นที่ทุรกันดาร
จากนั้นงานประมูลเพื่อการกุศลในครั้งนี้ก็ได้จบลงอย่างงดงาม และเริ่มเข้าสู่่งานเลี้ยงฉลอง
ูเี่อันเดินตามติดลู่เป๋าเหยียนไม่ห่าง เธอลอบมองเขาอยู่เรื่อยๆ พลางคิดว่าจะเอ่ยปากพูดเื่กำไลกับเขาอย่างไรดี
ลู่เป๋าเหยียนยอมให้เธอควงแขนเขาอย่างไม่อิดออด เพียงแต่เขาไม่คิดจะออกตัวพูดเื่กำไลก่อนเท่านั้น
เธอไม่คิดเอ่ยปากขอให้เขาช่วย แต่ตอนนี้คงเลี่ยงไม่ได้แล้วล่ะสิ
หลังเดินไปเดินมาอยู่สักพัก ลู่เป๋าเหยียนก็เจอคนรู้จักจึงแยกตัวออกไป ูเี่อันหันไปเห็นซูหงเยวี่ยนกับเจี๋ยงเสวี่ยลี่
สีหน้าเธอเย็นเยียบในพริบตา จากนั้นจึงเดินตรงเข้าไปหาพวกเขา
กำไลของแมู่เี่อันวงนั้น หลังจากที่เจี๋ยงเสวี่ยลี่ย้ายเข้ามาเธอเป็คนเจอมันและแอบซ่อนเอาไว้ เธอรู้ดีว่าูเี่อันเดินมาหาเธอทำไม จึงรู้สึกร้อนตัว และสะกิดให้ซูหงเยวี่ยนช่วยเธอ
ซูหงเยวี่ยนมองูเี่อันสายตาเย็นพร้อมปั้นหน้าบึ้งตึงใส่
“นี่น้าของเธอเอง ไม่ใช่ศัตรูที่ไหน”
“ในที่สุดหนูก็เข้าใจว่าทำไมพวกคุณถึงแต่งงานกัน” ูเี่อันพูดอย่างประชดประชัน “คนประเภทเดียวกันมักจะดึงดูดซึ่งกันและกัน มิน่าล่ะ คนน่าสมเพชอย่างพวกคุณถึงเข้ากันได้ดี”
ซูหงเยวี่ยนสีหน้าเปลี่ยนในทันที เจี๋ยงเสวี่ยลี่เองก็เริ่มโมโห “ูเี่อัน ก็แค่กำไลชิ้นเดียวจะอะไรนักหนา แม่เธอก็ตายไปนานแล้วนี่!”
ถ้าไม่ใช่เพราะเจี๋ยงเสวี่ยลี่ แม่เธอก็คงไม่จากไปเร็วขนาดนั้น
ูเี่อันกำมือแน่น ตอนนั้นเองถังอวี้หลันที่เดินผ่านมาพอดีเห็นบรรยากาศดูผิดปกติ จึงรีบจับมือูเี่อันพลางถามว่า “เจี่ยนอัน มีอะไรหรือเปล่า”
เจี๋ยงเสวี่ยลี่รีบเปลี่ยนท่าที เธอยิ้มทักถังอวี้หลันอย่างเป็กันเอง
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่อวี้หลัน พวกเราแค่กำลังคุยสารทุกข์สุกดิบกันเท่านั้น”
ถังอวี้หลันปรายตามองเจี๋ยงเสวี่ยลี่พลางถาม
“เจี่ยนอัน คุณนายซูไม่ใช่แม่แท้ๆ ของหนูใช่ไหม”
“แม่หนูเสียไปนานแล้วค่ะ”
ถังอวี้หลันขมวดคิ้วพลางพูดเว้นระยะห่างอย่างมีมารยาท
“คุณนายซู ดิฉันต้องขอขอบคุณแทนเด็กๆ ทั้งหลายสำหรับเงินบริจาคในวันนี้นะคะ แต่ช่วยกรุณาอย่าเรียกดิฉันอย่างสนิทสนมแบบนั้นจะดีกว่า เพราะคนที่ลูกชายดิฉันแต่งงานด้วยคือเจี่ยนอัน ไม่ใช่ลูกสาวคุณ ขอตัวก่อนนะคะ”
พูดจบเธอก็พาูเี่อันเดินจากไป
เจี๋ยงเสวี่ยลี่โกรธจนตัวสั่น “คนพวกนี้จะมากเกินไปแล้ว!”
เธอกับซูหงเยวี่ยนจัดงานแต่งและจดทะเบียนกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทว่าหลายปีที่ผ่านมา เธอไม่สามารถเข้าไปอยู่ในแวดวงสังคมของบรรดาคุณนายชั้นสูงได้สักที คุณนายพวกนั้นไม่เคยคิดว่าเธอเป็พวกเดียวกัน แถมยังแอบเรียกเธอลับหลังว่า “เมียน้อยของซูหงเยวี่ยน” เพราะสิ่งที่เมียหลวงพวกนั้นเกลียดที่สุดก็คือเมียน้อยที่อยู่นอกบ้านเ่าั้
เดิมทีเธอกะจะใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับถังอวี้หลันมาเป็สะพานเพื่อเข้าสู่สังคมดังกล่าว แต่ดูท่าถังอวี้หลันคงไม่ให้ความร่วมมือ
เจี๋ยงเสวี่ยลี่เดินไปหาซูหยวนหยวนด้วยความโมโห เธอบอกกับลูกถึงเื่ที่เกิดขึ้น
ใบหน้าสวยๆ ของซูหยวนหยวนไม่ได้ดูใสบริสุทธิ์อีกต่อไป ั์ตาเธอเปี่ยมไปด้วยแผนการชั่วร้าย
“ูเี่อันรอดตัวจากแผนดักทำร้ายคราวที่แล้ว หนูยังไม่ทันได้ชำระแค้นเก่า แค้นใหม่ก็ตามมา ดีเลยค่ะ คราวนี้หนูจะได้รวบยอดจัดการเธอให้หลาบจำไปเลยทีเดียว”
เจี๋ยงเสวี่ยลี่อดใไม่ได้ “หยวนหยวน ลูกคิดจะทำอะไร อย่าทำอะไรโง่ๆ นะ ยิ่งตอนนีู้เี่อันมีที่พึ่งที่แข็งแกร่งขนาดนั้น”
“งั้นหนูก็ทำให้ที่พึ่งของเธอกลายมาเป็ของหนูซะ แค่นั้นก็พอใช่ไหมล่ะคะ”
หยวนหยวนเติมเครื่องสำอางให้ผิวของเธอยิ่งดูใสเรียบเนียนกว่าเดิม เธอปั้นรอยยิ้มหวานในแบบที่ชายใดก็ไม่กล้าปฏิเสธอยู่หน้ากระจก แล้วจึงก้าวเท้าออกจากห้องน้ำ
ด้านนอก ูเี่อันยังคงกำจัดความโกรธออกไปไม่ได้ ถังอวี้หลันถึงกับถอนหายใจ เธอใหู้เี่อันนั่งรอที่โซฟา แล้วเดินไปอีกทาง
จากนั้นไม่นาน คนที่ยืนคุยกับคนอื่นเมื่อครู่อยู่อย่างลู่เป๋าเหยียนก็เดินเข้ามา เขาหย่อนตัวลงนั่งข้างเธอ
“ยื่นมือออกมา”
ูเี่อันหันไปมองหน้าเขาอย่างเซ็งๆ
“นายจะทำอะไร”
ลู่เป๋าเหยียนเป็คนไม่ชอบพูดซ้ำ เขาดึงมือเธอแล้วขึ้นมาแล้วใส่กำไลหยกที่เพิ่งให้คนไปเอามาเมื่อครู่ให้กับเธอ
ผิวขาวนวลเนียนของเธอขับให้กำไลหยกดูทอประกายงดงาม กำไลวงนี้เหมือนถูกสร้างมาเพื่อเธออย่างไรอย่างนั้น เมื่อมันอยู่บนข้อมือของูเี่อัน ตัวกำไลเหมือนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ราวกับในที่สุดมันก็ได้พบเ้าของที่แท้จริงเสียที
หญิงสาวน้อยคนที่จะใส่กำไลหยกแล้วดูงดงามขนาดนี้
ูเี่อันหาได้อยู่ในอารมณ์ที่จะมาชื่นชมในความงามของมันไม่ เธอมองลู่เป๋าเหยียนอย่างช็อกๆ
“นาย นายประมูลมันมา...ให้ฉัน?”
“ฉันไม่อยากให้ของของคุณน้าหนิงตกไปอยู่ในมือของคนอื่น” ลู่เป๋าเหยียนพูดอย่างสบายๆ “อีกอย่าง ที่เธอส่งข้อความหาซูอี้เฉิงไม่หยุด ก็เพราะอยากจะประมูลมันมาไม่ใช่เหรอไง”
“นายเห็น?” ูเี่อันยิ่งประหลาดใจขึ้นไปอีก “ฉันนึกว่านายไม่ได้สังเกตว่าฉันทำอะไรอยู่ซะอีก”
คนที่ไม่ได้สังเกตอะไรเลยคือเธอต่างหาก เมื่อกี้เพียงแค่เธอเงยหน้าขึ้นมา ก็คงสังเกตเห็นว่าเขากำลังมองเธออยู่
ั์ตาของลู่เป๋าเหยียนวาววับ “ูเี่อัน เธอลืมสิ่งที่ฉันเคยพูดไปแล้วเหรอ”
ูเี่อันกะพริบตาอย่างงงๆ “นายพูดกับฉันตั้งเยอะ ที่พูดถึงคือเื่ไหนอ่ะ”
“ฉันเคยบอกเธอว่า อีกหน่อยไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนแรกที่เธอควรนึกถึงคือฉัน ไม่ใช่ซูอี้เฉิง” ลู่เป๋าเหยียนอธิบาย “เมื่อกี้ฉันนั่งอยู่ข้างเธอแท้ๆ แล้วทำไมเธอยังโทรหาคนที่ปิดมือถือไม่ยอมหยุด”
คำพูดนั้นูเี่อันยังจำได้ แต่ว่า...เมื่อกี้มันกรณีพิเศษนี่นา
“ฉันอยากได้เงินนี่ ถ้าเื่เงินก็ควรขอพี่ชายฉันถูกไหม” เธอพูด “แต่ถ้าเป็เื่โดนดักทำร้ายอะไรทำนองนั้น แน่นอนว่าฉันต้องคิดถึงนาย พวกบอดี้การ์ดของนายดูเก่งสุดๆ ไปเลย”
“...” ลู่เป๋าเหยียนขบกรามแน่น “อีกหน่อยอยากได้เงินก็ต้องคิดถึงฉัน!”
ูเี่อันยังคงกะพริบตาปริบๆ อย่างไม่เข้าใจ ขนาดซูอี้เฉิงเธอยังไม่ขอเงินเขาเลย ลู่เป๋าเหยียนยิ่งไม่ต้องพูดถึง แถมสองปีข้างหน้าพวกเธอก็ต้องหย่ากันแล้ว ถึงเวลาถ้าต้องมานั่งคิดบัญชีพวกนี้ยุ่งยากจะตาย
ลู่เป๋าเหยียนเหมือนรู้ว่าูเี่อันกำลังคิดเื่อะไร เขาหรี่ตามอง
“ตอนนี้เธอคือคุณนายลู่ จะประมูลกำไลทั้งทียังต้องไปขอเงินจากซูอี้เฉิง คิดว่าเขาจะไม่สงสัยหรือไง”
ได้ยินดังนั้นูเี่อันถึงเข้าใจ นั่นสินะ ถึงเวลาถ้าพี่ถามเธอว่าทำไมไม่ขอลู่เป๋าเหยียน เธอจะตอบยังไงล่ะทีนี้ จะให้ตอบว่าเสียดายเงินสามีก็คงไม่ได้
“นายรอบคอบชะมัด” ูเี่อันพยักหน้าหงึกๆ อย่างเห็นด้วย “อีกหน่อยถ้าฉัน้าเงิน ฉันจะยืมนายนะ วางใจได้ ฉันต้องหามาคืนนายแน่นอน”
ลู่เป๋าเหยียนจับมือเธอขึ้นมาพลางลูบกำไลหยกบนข้อมือเธอ “แค่กำไลวงนี้ก็ปาไปสามล้านหยวน รายได้ต่อปีเธอแค่แสนเดียว เธอกะจะใช้หนี้ฉันนานถึงชาติหน้าเลย?”
“เื่นั้นนายไม่ต้องกังวล ฉันคิดไว้แล้ว” ูเี่อันพูดหน้าตาย “รอฉันไม่ใช่คุณนายลู่เมื่อไร ฉันก็ไปขอพี่ชายได้แล้ว ฉันไม่ได้ขอเงินพี่มาตั้งนาน เขาคงเต็มใจให้ฉันอยู่แล้วล่ะ หรือต่อให้พี่ไม่ให้ พี่ฉันซื้อบ้านในนามฉันตั้งหลายหลัง เดี๋ยวฉันค่อยขายบ้านเอาเงินมาคืนนายก็ได้”
สมองเธอเวลาคิดเื่ไม่ควรคิดนี่เร็วเชียวนะ ลู่เป๋าเหยียนขยับเข้ามาใกล้เธออย่างน่าหวั่นใจ
“แล้วดอกเบี้ยล่ะ จะคิดยังไง”
เอ่อ เื่นี้เธอลืมนึกไป
เธอมองลู่เป๋าเหยียนอย่างมึนๆ “นายจะคิดยังไงล่ะ”
“แน่นอนว่า...” ลู่เป๋าเหยียนก้มหน้าลงมาประทับตราลงบนเรียวปากเธอเบาๆ “คิดแบบนี้”
ูเี่อันยังไม่ทันได้ตั้งตัวเขาก็จูบลงมาอีก แต่ก็เพียงแค่แตะริมฝีปากเธอเบาๆ เท่านั้น
เธอกะพริบตาโตๆ ของเธอ แล้วมองลู่เป๋าเหยียนอย่างใ
“คนเยอะไปหน่อย” ลู่เป๋าเหยียนพูดยิ้มๆ “เื่แบบนี้ ไว้พวกเราไปทำในที่ที่คนน้อยๆ จะดีกว่า”
สติของูเี่อันเริ่มกลับมา เธอยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง
“ลู่เป๋าเหยียน รอบนี้นายเอาเปรียบฉันจริงๆ ด้วย!” ใครเขาคิดดอกเบี้ยวิธีนี้กันเล่า!
ลู่เป๋าเหยียนยิ้มมุมปาก “ถ้าใช่แล้วจะทำไม”
เขาใช้น้ำเสียงเหมือนไม่มีใครทำอะไรเขาได้พูดกับเธอ
ูเี่อันถึงกับพูดไม่ออก นั่นสินะ เขาจะเอาเปรียบเธอซะอย่าง เธอจะทำอย่างไรได้ จะกัดเขายังกัดไม่ถึงเลยเนี่ย!
ทั้งสองคนจ้องตากันอย่างใกล้ชิด ในสายตาของคนอื่นช่างดูสวีทหวานเหลือเกิน บางคนก็รู้สึกชื่นชม แต่บางคนกลับอิจฉาริษยาจนตาแทบลุกเป็ไฟ
ซูหยวนหยวนใช้ชีวิตอยู่ใต้เงาของูเี่อันมานานเกินไปแล้ว เธอไม่เคยพอใจในสิ่งนี้เลย ตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องแย่งลู่เป๋าเหยียนมาให้ได้ ต่อไปจะได้ไม่มีใครมาดูถูกเธอว่าเทียบูเี่อันไม่ติดอีก
คิดแล้วเธอจึงเดินไปหาูเี่อัน ทำสีหน้าเหมือนใกล้จะร้องไห้พลางมองหน้าเธอ จากนั้นเพียงชั่วอึดใจก็เริ่มร้องไห้ออกมา
“พี่เจี่ยนอัน ทำไมทำกับฉันแบบนี้คะ”
น้ำเสียงอันน่าสงสารของเธอดังขึ้นอย่างแ่เบา ทว่าก็มีหลายคนที่ได้ยิน บรรดาแขกเริ่มหันมามองทางนี้
ในชั่วพริบตา พวกเธอก็ตกเป็เป้าสายตาของคนทั้งงานในทันที
นี่คือผลลัพธ์ที่ซูหยวนหยวนอยากได้ เธอจะทำให้ทุกคนรู้ว่า ูเี่อันไม่ได้ใสซื่ออย่างที่พวกเขาคิด
วันนี้เธอจะต้องทำลายภาพลักษณ์อันสูงส่งของูเี่อันให้จงได้!
ูเี่อันไม่รู้ว่าซูหยวนหยวนไปกินยาอะไรผิดมา เธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าคราวนี้จะมาไม้ไหน
เธอจะรอดูสิว่า เมื่อเทียบกับคราวที่แล้ว สติปัญญาของซูหยวนหยวนเริ่มมีพัฒนาการขึ้นบ้างหรือยัง