เด็กชายตัวน้อยใช้มือเล็กๆ สองข้างปิดแก้มของตนเอง ดวงตาที่เหมือนผลองุ่นมองลอดช่องว่างระหว่างนิ้ว คงไม่ต้องบอกว่าน่ารักมากแค่ไหน
อวี๋ฉิงหลงใหลในความน่ารักนี้ทันที
ทันทีที่ซูอินวางเด็กชายตัวน้อยลง อวี๋ฉิงก็พุ่งเข้าไป เธอกอดเด็กชายตัวน้อยและลูบศีรษะของอีกฝ่าย
“ลูบไม่ได้นะ เดี๋ยวตัวไม่โต”
เด็กชายตัวน้อยยกมือกุมศีรษะ แก้มนุ่มนิ่มจึงถูกเผยออกมา อวี๋ฉิงเข้าสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
เด็กชายตัวน้อยที่ถูกบีบแก้ม : …
พี่สาวที่แปลกประหลาด
อวี๋ฉิงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “คุณป้าแปลกประหลาด” โดยที่เธอไม่รู้ตัว เธอบีบแก้มเด็กชายตัวน้อยเบาๆ และมองริมฝีปากเล็กๆ ที่มุ่ยขึ้นด้วยความพึงพอใจ
“อินอิน น้องชายของเธอน่ารักมาก”
ซูอินพยักหน้าเห็นด้วยอย่างมั่นใจ แน่นอน ให้มันรู้ซะบ้างว่าน้องใคร
เมื่อเห็นอวี๋ฉิงมีความสุข เธอจึงอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ “ถ้าชอบขนาดนี้ ก็ให้คุณลุงอวี๋และคุณป้าหรงมีน้องให้เธอสักคนสิ”
่ปีนี้นโยบายวางแผนครอบครัวของประเทศยังคงเข้มงวดมาก ทว่าสำหรับครอบครัวที่มีเงิน การให้กำเนิดบุตรไม่ใช่เื่สำคัญ ไปอยู่ต่างประเทศ หรือจ่ายค่าปรับ…อย่างไรเสียก็ต้องมีวิธีจัดการเื่นี้
“พอแล้ว หากคลอดแล้วไม่น่ารักพอก็เอาคืนกลับไปไม่ได้”
อวี๋ฉิงไม่ใช่คนใส่ใจเื่แบ่งทรัพย์สินหรือแย่งความรักอยู่แล้ว ถึงแม้คนฐานะเดียวกันจำนวนไม่น้อยมักจะเป็เช่นนั้น แต่ครอบครัวของพวกเขาอยู่กันอย่างสงบสุขมาตลอด การให้กำเนิดเป็เื่ของบิดามารดา คุณพ่อกังวลว่าคุณแม่ของเธอจะลำบาก เมื่อคลอดเธอแล้วก็ไม่คิดจะมีบุตรเพิ่ม
เธอเอ่ยออกไปแค่นั้นก่อนจะหันไปง้อเ้าตัวน้อยต่อ “อันอัน ครั้งก่อนพี่ฉิงฉิงสัญญาว่าจะเอาของขวัญมาให้ พี่เอามาให้แล้วนะ มาดูเร็วว่ามีอะไรบ้าง”
ของขวัญ!
แววตาของเ้าตัวน้อยเป็ประกาย
เขาถูกอวี๋ฉิงจูงมือไปท้ายรถอย่างว่าง่าย คนขับรถที่มาส่งเธอทั้งสองคนจัดเรียงข้าวของไว้บางส่วนแล้ว ของชิ้นใหญ่หลายชิ้นถูกวางไว้ที่พื้น
ของขวัญที่เธอซื้อให้เด็กชายตัวน้อยมีทั้งหมดสามชิ้น
ชิ้นแรกคือปืนของเล่นพลาสติกใส่ถ่าน ยิงะุไม่ได้ เมื่อเหนี่ยวไกจะมีแสงไฟหลายหลากสีและเสียงต่างๆ กัน
ชิ้นที่สองคือรีโมตรถบังคับหนึ่งชุด ใส่ถ่านเช่นกัน สามารถนำมาวางเรียงกันเพื่อแข่ง
ชิ้นที่สามคือจักรยานเด็กมียี่ห้อ ด้านหลังมีล้อเสริมสองล้อ เป็จักรยานที่เหมาะกับการสอนเด็กใน่อายุเท่านี้พอดี
ไม่ว่าจะเป็ในด้านราคาหรือคุณภาพ ต่างก็ค่อนข้างสูงไปสักหน่อย แต่เธอเป็เพื่อนสนิทของซูอิน และซูอินก็ช่วยเธอเื่การสอบขึ้นมัธยมปลาย เด็กชายตัวน้อยก็แสนน่ารัก ไม่ว่าจะเป็เพราะความรู้สึกหรือผลประโยชน์ อวี๋ฉิงก็ไม่คิดเสียดายเงิน
อย่างไรเสียคุณหนูอย่างเธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงินเสียหน่อย
อวี๋ฉิงชี้กองข้าวของมากมายเบื้องหน้าด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง “ทั้งหมดนี้พี่ให้หมดเลย ชอบไหม”
เด็กชายตัวน้อยเผลอพยักหน้า แต่เมื่อนึกได้ก็หันไปมองซูอินที่อยู่ด้านข้าง
“พี่บอกว่า ไม่ควรรับของของคนอื่นไปทั่ว”
ใน่เวลาที่ซูอินกลับมาอยู่บ้าน เธอสอนเด็กชายตัวน้อยให้ท่องบทกลอน เล่นกับเขา เมื่อคุ้นเคยกันแล้วซูอินก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของน้องชาย เขาถูกหลิงเมิ่งข่มขู่ั้แ่จำความได้ หากไม่ยอมเชื่อฟังหรือฟ้องพ่อแม่หลังจากโดนแกล้ง ก็จะถูกเอาไปให้คนสติไม่ดีที่หน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน หรือขายให้พวกแก๊งค้าเด็ก
เธอยังจำได้ว่าตอนที่รู้เื่นี้จากเด็กชายตัวน้อย ซูอินตกตะลึงอยู่นานกว่าจะดึงสติกลับมาได้
หากเป็คนอื่นคงคิดว่ามันเป็แค่คำพูดล้อเล่น แต่หากเป็หลิงเมิ่ง เพื่อที่จะได้รับหัวใจที่เข้ากับตนเอง หลิงเมิ่งถึงกับส่งเธอเข้าโรงพยาบาลจิตเวช และทำให้ “เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ” ซึ่งแน่นอนว่าเธอสามารถทำเื่เช่นนี้ได้
ในตอนที่หลิงเมิ่งกล่าวประโยคนั้นออกมายังอยู่ในสถานะพี่สาวแท้ๆ ของเด็กชายตัวน้อยด้วยซ้ำ การกระทำนั้นทำให้ซูอินนึกถึงความทรงจำแย่ๆ ขึ้นมาอีก
เมื่อหายใแล้ว ซูอินจึงอธิบายเหตุผลให้เด็กชายตัวน้อยฟังอย่างใจเย็น อันดับแรกเธออธิบายให้เด็กชายตัวน้อยฟังว่าเขากับเธอเป็ลูกของพ่อและแม่ พวกเขาเท่าเทียมกัน ไม่มีใครสามารถรังแกกันได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่สามารถไล่ใครออกจากบ้าน และเมื่อพิจารณาถึงอัตราเด็กหลงทางในจีนที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเด็กน่ารักอย่างเด็กชายตัวน้อยที่มักเป็จุดสนใจของกลุ่มผู้ค้ามนุษย์ เธอจึงให้ความรู้วิธีต่อสู้เมื่อถูกลักพาตัวให้เขาด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่ารับของจากคนแปลกหน้า โดยเฉพาะคนที่มีท่าทีแปลกๆ
เธอเคยพูดแค่ครั้งเดียว ไม่คิดว่าเด็กชายตัวน้อยจะจำได้แม่นยำและปฏิบัติตามในเวลานี้
ดังนั้น เท่ากับว่าเขามองอวี๋ฉิงเป็…
ในเวลานั้นแววตาของซูอินที่มองอวี๋ชิงก็ดูแปลกไปเล็กน้อย
ความสนใจทั้งหมดของอวี๋ฉิงอยู่ที่เด็กชายตัวน้อย โดยไม่สนใจสายตาของซูอินที่มองมา ตามตรรกะของคนปกติ เธอมองว่าการปฏิเสธเช่นนี้ เด็กชายตัวน้อยมีมารยาทและได้รับการสั่งสอนมาอย่างดี
ทั้งๆ ที่ตาลุกวาวเมื่อเห็นของเล่นเหล่านี้ แต่ก็ยังอดกลั้น โดยไม่จับหรือััเลยสักนิด ทำไมเป็เด็กดีอย่างนี้
อวี๋ฉิงรู้สึกเอ็นดูน้องชายตัวน้อยของเพื่อนสนิทคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
คงพูดได้แค่ว่านี่คือความเข้าใจผิดที่สวยงาม
อวี๋ฉิงมีท่าทีอ่อนโยนมากขึ้น เธอบีบแก้มของเ้าตัวน้อย น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาปราศจากความเย่อหยิ่ง “เห็นพี่ฉิงฉิงเป็คนอื่นได้ยังไง”
ถูกเธอโน้มน้าวเช่นนั้น แต่เด็กชายตัวน้อยยังคงมองไปทางซูอินเพื่อรอคำตอบจากพี่สาว
หัวใจดวงนี้ของซูอินนุ่มนวลลง น้ำเสียงที่เอ่ยมายิ่งอ่อนโยนมากกว่าเดิม “พี่ฉิงฉิงไม่ใช่คนอื่น รับเอาไว้เถอะ”
จาก่เวลาที่ได้รู้จักกัน เธอรับรู้ได้ว่าคุณหนูอวี๋ไม่ใช่คนที่เห็นเื่เงินเป็สิ่งสำคัญ ทว่าซูอินก็ไม่ใช่คนที่สักแต่รับของของคนอื่นฝ่ายเดียว เมื่อวานตอนที่เดินซื้อของ เธอตั้งใจจะซื้อของมีราคาให้อีกฝ่าย แต่กลับถูกคุณหนูอวี๋ปฏิเสธด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง
อวี๋ฉิงไม่ได้ขัดสนเื่เงิน โดยเฉพาะเงินที่ใช้ซื้อของเ่าั้ ซูอินจึงคิดว่าหากน้ำพุแห่งจิติญญาถูกยกระดับ เธอจะแบ่งมันให้อวี๋ฉิง
อย่างไรก็ตามสามปีหลังจากนี้พวกเธอจะได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน ยังมีโอกาสอีกมาก
เมื่อคิดเอาไว้ในใจ ซูอินก็มีท่าทีสงบมากขึ้น
“ด้านนอกร้อน เข้าไปด้านในกันเถอะ”
ซูอินและอวี๋ฉิงจูงมือเด็กชายตัวน้อยคนละข้าง ก่อนที่ทั้งสามคนจะเข้าไปในห้องเย็นๆ โดยมีคนขับรถถือของตามหลังมา
ในตอนแรกซูอินซื้อของมาหลายอย่างแล้ว รวมกับของอีกจำนวนหนึ่งที่อวี๋ฉิงซื้อในภายหลัง เมื่อนำมารวมกันทำให้มีจำนวนค่อนข้างเยอะมาก
เมิ่งเถียนเฟินตามหลังรถ BMW จนถึงบ้าน เธอเปิดประตูเข้าไปพร้อมรอยยิ้ม ภาพที่เห็นคือในห้องรับแขกที่ไม่ได้กว้างขวางสักเท่าไร เด็กสามคนยืนอยู่ท่ามกลางข้าวของมากมายราวกับูเา และกำลังช่วยกันแกะกล่องอย่างมีความสุข
เื้ัมีเสียงฝีเท้าดังขึ้น คนขับรถของตระกูลอวี๋ที่เคยมาเมื่อครั้งก่อนถือของมากมายตามเข้ามาอีก
ของเยอะแยะขนาดนี้…เป็ของที่อวี๋ฉิงให้หมดเลยหรือ
เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เมิ่งเถียนเฟินเข้าใจผิด