แต่การจัดอันดับเช่นนี้ก็ไม่ใช่จะมีความถูกต้องเสมอไป อย่างน้อยก็ยังมีพวกเย่สือซานและเย่สือชีที่เป็เครื่องพิสูจน์ได้อย่างชัดเจน พวกเขาทั้งสองสามารถถูกจัดให้อยู่ภายในสิบอันดับแรกได้อย่างสบายแต่กลับไม่ได้มีชื่อในนั้น เพราะว่าพวกเขาเป็นักรบผู้ไม่กลัวตายของตระกูลเย่ซึ่งไม่ได้เปิดเผยทั้งตัวตนทั้งพลังฝีมือออกมาสู่โลกภายนอก ดังนั้นจึงไม่มีชื่อในทำเนียบการจัดอันดับ
ในเขตปกครองเทพายังมีเหล่ายอดฝีมืออีกมากมาย และมีตระกูลอีกมากมายที่มีกองกำลังนักรบที่ไม่กลัวตายเช่นนี้อยู่ พวกเขาไม่ได้สนใจต่อชื่อเสียงจอมปลอมเช่นนี้หรืออาจจะอยากปกปิดพลังที่แท้จริงของขุมกำลังตนเองจึงไม่เสนอตัวเข้ามาจัดอันดับ ถ้าหากเย่ชิงหานเปิดเผยอายุและพลังฝีมือที่แท้จริงให้โลกภายนอกรับรู้ละก็รับรองได้ว่าต้องถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่หนึ่งอย่างแน่นอน อายุสิบหกพลังฝีมือระดับขอบเขตนักรบ บวกกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีวิชาต่อสู้ร่างอสูรระดับแหกกฎ์นั้น ต่อให้เป็หลงไซ้หนานก็ยังต้องมอบตำแหน่งอันดับหนึ่งให้แก่เขาอย่างยินยอมพร้อมใจ
เย่ชิงอู่อารมณ์ซับซ้อนเป็อย่างมาก มองดูใบหน้าสดใสงดงามของเด็กหนุ่มรูปร่างผอมแห้งที่กำลังหลับตาทำการทะลวงผ่านด่านพลัง ภายในใจของนางพรั่งพรูความรู้สึกแปลกประหลาดออกมา มีทั้งสุขใจ ทั้งชื่นชม และมีทั้งความรู้สึกชอบพอจางๆ ปรากฏขึ้นมา
หนึ่งปีก่อน ครั้งแรกที่พบเด็กหนุ่มเขายังเป็เด็กน้อยขี้อาย โดนดูถูกรังแกสารพัด ถูกตระกูลมองว่าเป็ขยะไร้พร์ ตอนที่อยู่หอสัตว์อสูรเนื่องจากตนเองเลื่อมใสศรัทธาในความเป็วีรบุรุษของเย่เตาจึงได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือเขาครั้งหนึ่ง นางยังจำได้ดีในตอนนั้นเด็กหนุ่มหันมายิ้มให้ตนเองอย่างตื่นเต้นดีใจที่ได้รับความโปรดปรานอย่างไม่คาดฝัน
คิดไม่ถึงว่าการพบกันครั้งที่สองที่ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน เด็กหนุ่มจะเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงสังหารศิษย์สายในของตระกูลไปหลายคน ยังสามารถทำลายวรยุทธ์ของเย่ชิงขวงได้อีก สุดท้ายอาศัยการเซ่นสังเวยิญญาจากเย่ชิงอวี่จึงลงมือสังหารเย่หรงได้ในพริบตา ทำเอาเหล่าผู้าุโทั้งหลายของตระกูลตื่นตระหนกใจนต้องหนีตายเหาะลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ากันเกือบทั้งหมด
ในตอนนั้นนางมองดูร่างที่เดียวดายและทระนงองอาจของเย่ชิงหาน มองเห็นดวงตาที่แข็งกร้าวและโอหังของเขา นางค่อยๆ เริ่มมีความรู้สึกแปลกๆ บางอย่างเกิดขึ้น อาจจะเป็เพราะสายตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ลึกซึ้งของเย่ชิงหานที่มีต่อเย่ชิงอวี่สร้างความประทับใจให้แก่นาง หรืออาจจะเป็เพราะร่างที่ยืนหยัดอยู่อย่างเดียวดายและทระนงองอาจของเขาทำให้นางเกิดความชื่นชม หรืออาจจะเป็เพราะซาบซึ้งต่อเื่ต่างๆ ที่เขาเคยเผชิญมา จนในที่สุดนับั้แ่นั้นเป็ต้นมานางก็เริ่มให้ความสนใจต่อเด็กหนุ่มผู้ที่มีชีวิตต่อสู้มาอย่างล้มลุกคลุกคลานผู้นี้เรื่อยมา
เพียงแต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่เดินทางมาเข้าร่วมงานประลองาระหว่างเขตปกครองในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่พลังฝีมือของเย่ชิงหานที่พัฒนาขึ้นอย่างน่ากลัว แต่ยังไปคว้าธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่มาอยู่ข้างกายได้อีกด้วย แม้ว่าต่อมาหลังจากที่นางทำการสอบถามดูจึงได้รู้ความจริงว่าไม่ใช่เย่ชิงหานที่อยากพานางมาด้วย แต่เป็ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของตระกูลเยว่เองที่ไม่ว่าอย่างไรก็จะตามมา อารมณ์ภายในใจนางเริ่มซับซ้อนวุ่นวายขึ้น มีทั้งอิจฉาและมีทั้งไม่ยินยอม ราวกับว่าสิ่งของล้ำค่ำที่ตนเองเป็ผู้พบเจอถูกคนแย่งไปฉันนั้น
เย่ชิงอวี่นั้นไม่เป็อะไรเพราะเพื่อเย่ชิงหานแล้วแม้กระทั่งชีวิตของตนเองก็ยังยอมสละได้ แน่นอนว่านางย่อมไม่คิดที่จะอิจฉาและไม่คิดที่จะทำการขัดขวาง เพียงแต่เยว่ชิงเฉิงนางอาศัยอะไรถึงได้ะโเข้ามากลางคันเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาความสัมพันธ์แซงหน้านางไปไกลอีก ปุบปับกลายเป็ว่าที่ภารยาที่ยังไม่ได้แต่งไปอีก ดังนั้นนางจึงอยากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับเย่ชิงหานให้ได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสอยู่กับเย่ชิงหานสองต่อสองเช่นนี้ แต่ว่าเย่ชิงหานกลับใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝน
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ เ้าเด็กหนุ่มคนนี้พลังฝีมือจะบรรลุถึงระดับขอบเขตนักรบแล้วด้วย ถ้าหากบรรลุถึงระดับขอบเขตนักรบแล้วรวมร่างกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ของเขาละก็ พลังฝีมือจะต้องเพิ่มสูงขึ้นจนบรรลุถึงระดับขั้นแรกขอบเขตจ้าวนักรบได้อย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นตนเองก็คงไม่ใช่คู่มือของเขาแล้ว
ระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ปีเดียว เด็กหนุ่มที่เคยให้ตนเองต้องปกป้อง เด็กหนุ่มที่เคยถูกคนทั้งตระกูลมองว่าเป็ไอ้ขยะไร้ค่า แต่ตอนนี้เวลานี้พลังฝีมือกลับพัฒนาแซงหน้าตนเองที่ได้ชื่อว่ามีพร์ในการฝึกยุทธ์เป็อันดับหนึ่งของตระกูล
มันทำให้ความภาคภูมิใจที่เคยมีต่อระดับความเร็วในการฝึกฝนของตนเองที่มีมาโดยตลอดนั้น ตอนนี้ภูมิใจไม่ขึ้นเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่เมื่อมองไปเห็นใบหน้าที่มีแววหมองคล้ำและลักษณะของผู้ที่เริ่มเติบโตเป็ผู้ใหญ่ขึ้นของเย่ชิงหาน อารมณ์ของนางก็แปรเปลี่ยนมาเป็ปีติยินดีอีกครั้ง นางตัดสินใจแล้วว่าเขาคือผู้ชายของนาง ดังนั้นเมื่อผู้ชายของตนเองยิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไรยิ่งเป็เครื่องพิสูจน์ว่าสายตาของตนเองนั้นถูกต้องมากมายเพียงใด...
เย่ชิงหานไม่สามารถรู้ได้ว่าเย่ชิงอู่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกำลังจ้องมองเขาอย่างตาไม่กะพริบ และไม่สามารถรู้ได้อีกว่าเย่ชิงอู่สาวงามระดับพระกาฬที่แม้กระทั่งถูเชียนจวินเมื่อเห็นยังต้องน้ำลายไหลนางนี้เริ่มมีใจให้กับเขาอย่างเงียบๆ
เขารู้แต่เพียงว่าอีกไม่นานเกินรอพลังฝีมือของเขาก็จะบรรลุถึงระดับขอบเขตนักรบแล้ว อีกไม่นานเกินรอก็จะได้มีพลังฝีมือที่แข็งแกร่งแล้ว ระดับขอบเขตเยี่ยมยุทธ์ทำการเชื่อมประสานตันเถียนให้รวมเป็หนึ่งเดียวกันกับจุดตันเถียนเป็กระบวนการที่ต้องทำด้วยความละเอียดประณีต ต้องทำด้วยความระมัดระวังเป็อย่างมากถึงมากที่สุด ต้องทำการเชื่อมประสานอย่างช้าๆ ระยะเวลาที่ต้องใช้อย่างน้อยก็ต้องหนึ่งคืนถึงจะทำการเชื่อมประสานได้สำเร็จ แต่สำหรับเย่ชิงหานแล้วกลับเป็เื่ที่ง่ายดายยิ่ง ในตอนนี้เวลาเพิ่งผ่านไปได้เพียงไม่ถึงสิบนาทีกระบวนการเชื่อมประสานของเขาเริ่มจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว สาเหตุที่เป็เช่นนั้นล้วนมาจากแหวนทองเหลืองที่อยู่บนนิ้วมือข้างซ้ายของเขาวงนั้นนั่นเอง
ที่มือด้านซ้ายของเขาไม่เหมือนคนอื่น มือด้านซ้ายของเขามีแหวนอยู่สองวง วงหนึ่งเป็แหวนทองเหลืองที่ประทับตัวอักษร “ิญญา” ไว้ ส่วนอีกวงหนึ่งมีสีเหลืองอ่อน้ามีจำนวนตัวเลขเรียงกันอยู่และมีตัวอักษร “า” ตัวหนึ่งปรากฏอยู่
แหวนสีเหลืองอ่อนเป็แหวนสัญลักษณ์ที่ได้รับแจกมาจากเมืองั มีเพื่อไว้เป็สิ่งยืนยันตัวตนและพลังฝีมือ ั้แ่สวมใส่ที่เมืองัก็ไม่สามารถถอดออกได้อีก นอกเสียจากว่านิ้วขาด หรืองานประลองาระหว่างเขตปกครองสิ้นสุดลง จากความช่วยเหลือของสุดยอดกองกำลังทั้งสี่ตระกูลตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา และเสี่ยวเฮยที่นำแหวนกลับมาหลายวงจากหุบเขาัดำ คะแนนสะสมในตอนนี้เริ่มที่จะดูดีขึ้นมาบ้างแล้ว มีมากกว่าห้าพันจนเกือบจะทะลุถึงหกพันคะแนน
ส่วนแหวนอีกวงคือสมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์ที่เปลี่ยนคุณสมบัติทางร่างกายขยะของเขาให้ดีขึ้นมา แหวนที่บิดาของเขาใช้ชีวิตแลกมาจากสถานที่อันตรายที่สุดอันดับหนึ่งของทวีปูเาสุสานทวยเทพ หลายครั้งที่เขาคิดว่าแหวนวงนี้เป็ของปลอม แต่เมื่อตอนที่อยู่เทือกเขารกร้างในขณะที่เขากำลังจะตายนั้น แหวนวงนี้ได้แสดงความอัศจรรย์ของมันออกมาให้ประจักษ์ มันเริ่มทำการปกป้องผู้เป็เ้าของโดยอัตโนมัติ ปล่อยกระแสพลังออกมารักษาอาการาเ็ให้แก่เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาอาศัยความพิเศษของแหวนวงนี้ทำการทะลวงจุดชีพจรทั่วร่างทั้งสิบสองจุดที่เต็มไปด้วยสิ่งอุดตันมากมายจนสำเร็จ เปลี่ยนตนเองจากไอ้ขยะไร้พร์จนกลายมาเป็ผู้มีพร์ที่ร้ายกาจในวันนี้
วันนี้เขาไม่กังวลสักนิดว่าตันเถียนจะะเิแตกออก ดังนั้นจึงไม่ได้ใช้พลังปราณรบไปเจาะผนังด้านนอกตันเถียนอย่างช้าๆ และอย่างระมัดระวังด้วยความประณีตเหมือนกับผู้ฝึกยุทธ์ธรรมดาทั่วไป หลังจากที่เชื่อมประสานจุดแรกสำเร็จเขาก็เริ่มเชื่อมประสานจุดอื่นๆ ต่อ เนื่องจากการมีอยู่ของแหวนทองเหลืองทำให้เขาไม่ต้องกังวลใดๆ จึงเริ่มใช้ประพลังปราณรบเจาะทำลายผนังด้านนอกออกทั้งหมดในทีเดียว วินาทีต่อมากระแสพลังอบอุ่นที่คุ้นเคยเริ่มไหลจากนิ้วมือซ้ายเข้ามาภายในร่างของเขา จากนั้นมันเริ่มทำการรักษาฟื้นฟูและช่วยทำการเชื่อมประสานตันเถียนกับจุดตันเถียนให้รวมเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
ััได้ถึงพลังปราณรบที่พลุ่งพล่านภายในร่าง ััได้ถึงระดับพลังฝีมือที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงระดับพลังิญญาที่เพิ่มสูงขึ้น ทันใดนั้นทั่วทั้งสรรพางค์กายและดวงิญญาก็รู้สึกสุขสบายและแข็งแกร่งอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เย่ชิงหานยิ้มออกมาอย่างมีความสุข จากนั้นค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น!
ฮะ!
บรรลุแล้ว? สำเร็จแล้ว? ทำไมถึงรวดเร็วถึงเพียงนี้? เย่สือซาน เย่สือชี และเย่ชิงอู่ทั้งสามคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าของเย่ชิหาน พวกเขารับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเย่ชิงหาน มองดูดวงตาของเขาที่แสดงรอยยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา ทั้งสามตะลึงงันไปในทันที
“บ้าไปแล้ว มันจะไวเกินไปแล้วกระมัง!” เย่สือชีริมฝีปากที่แห้งผากสั่นกระตุกไปมา สุดท้ายอดไม่ได้บ่นพึมพำออกมาเบาๆ กับตัวเอง
.................................
“ยินดีด้วยนายน้อยหาน อันดับหนึ่งของทำเนียบผู้มีพลังฝีมือระดับชั้นปฐีไม่ใช่ท่านแล้วจะเป็ใครไปได้!”
“นายน้อยหาน คาดว่าอีกไม่กีปีข้างหน้าท่านคงจะแซงหน้าพวกข้าไปไกล!”
“เ้าหนูหาน เ้ามันสัตว์ประหลาดไม่ใช่มนุษย์ ตำแหน่งผู้มีพร์อันดับหนึ่งของตระกูลของพี่สาวถูกเ้าแย่งไปแล้ว!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้