หวังเจี้ยนหัวไม่เร่งรัดเอาจริงเอาจังกับบิดามารดาเช่นกัน เขายังต้องชดเชยในจุดที่ตนเองทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรก่อน
่แรกที่หวังก่วงผิงกลับเมือง บ้านหวังยังคงอยู่ในสภาวะวุ่นวาย แม้เซี่ยจื่ออวี้จะััได้ว่าท่าทีของบิดามารดาหวังเจี้ยนหัวเปลี่ยนไป ก็ไม่อาจสะบัดสะบิ้งกับหวังเจี้ยนหัวได้ เธอเชื่อว่ายิ่งแสนงอนยิ่งทะเลาะกัน มีแต่จะผลักหัวใจของหวังเจี้ยนหัวให้ออกห่างจากเธอมากกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ก็อาศัยความอดทนเก่ง อ่อนโยนใส่ใจ จนมีชัยเหนือเซี่ยเสี่ยวหลานและรุ่นพี่หลิ่วไม่ใช่หรือไร!
ตอนนี้เธอยังคงรีบร้อนไม่ได้ ตื่นตระหนกไม่ได้
เซี่ยจื่ออวี้ให้กำลังใจตนอย่างไม่หยุดหย่อน อันที่จริงต่อให้เธอ้าแสดงออกว่าไม่พอใจ ก็หาตัวหวังเจี้ยนหัวไม่พบอยู่ดี
หวังเจี้ยนหัวกำลังยุ่งอยู่กับการพบปะสังสรรค์กับเหล่ามิตรสหายที่เมื่อก่อนขาดการติดต่อไป
อีกทั้งต้องตามหวังก่วงผิงไปเยี่ยมเยียนเหล่าผู้อนุเคราะห์บ้านหวัง ไม่นานก่อนเปิดเรียน ในที่สุดหวังเจี้ยนหัวก็ปรากฏตัวตรงหน้าเซี่ยจื่ออวี้
“จื่ออวี้ ฉันอยากจะบอกเธอว่าขอโทษ! ่ที่ผ่านมานี้ละเลยเธอแล้ว ฉันยังไม่ได้ไปเยี่ยมคุณอาคุณน้าเลย ฉันซื้อของมานิดหน่อย เธอพาฉันไปที่บ้านนะ?”
เซี่ยจื่ออวี้นึกถึงบ้านเช่าคับแคบนั่น ข้าวของสารพัดสิ่งกองพะเนินเทินทึก แม้แต่พื้นที่สำหรับย่ำเท้ายังไม่มี จะพาหวังเจี้ยนหัวเข้าบ้านอย่างไร?
“เจี้ยนหัว จริงๆ แล้วคือ...”
เธออ้าปากเตรียมปฏิเสธ ทันใดนั้นก็ละทิ้งความตั้งใจและไตร่ตรองอีกครั้ง เธอไม่มีความจำเป็ต้องทำตัวเข้มแข็งกับหวังเจี้ยนหัวในเวลาแบบนี้ การแสดงความอ่อนแออาจทำให้หวังเจี้ยนหัวรู้สึกผิดยิ่งขึ้น! อย่างไรเสีย่นี้ฝั่งพ่อแม่ของเธอก็ไม่ราบรื่นจริงๆ ภายใต้สภาวะเช่นนี้ เธอยังนำเงินของครอบครัวมาช่วยให้หวังก่วงผิงและหร่านซูอวี้กลับเมืองอีก ยังดีต่อหวังเจี้ยนหัวไม่พอหรือ?
เซี่ยจื่ออวี้เปลี่ยนประเด็นกะทันหัน
“ถ้าอย่างนั้นเธออย่ารังเกียจล่ะ สภาพที่อยู่ที่พ่อกับแม่เช่าตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แม่ฉันต้องทำธุรกิจไปพร้อมกับดูแลพ่อ ในบ้านระเกะระกะมาก ฉันเองก็กำลังยุ่งกับธุระปะปังของชั้นเรียนพิเศษ ถึงจะบอกว่ารับพวกเขาสองคนมาดูแลในปักกิ่ง อันที่จริงก็ช่วยงานอะไรพวกเขาไม่ได้เหมือนกัน”
เซี่ยจื่ออวี้ก้มศีรษะลง ลำคอขาวลออจึงปรากฏตรงหน้าหวังเจี้ยนหัว
ใน่เวลายาวนานก่อนหน้านี้ เื่หวังก่วงผิงกลับเมืองรับราชการถ่วงอยู่ในใจของหวังเจี้ยนหัวจนหนักอึ้ง เขาแก้ไขปัญหาของครอบครัวไม่ได้ทั้งที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ตลอดชั้นปีหนึ่งยากลำบากมาก แม้เคยมีความสัมพันธ์ข้ามเส้นกับเซี่ยจื่ออวี้อย่างไม่ตั้งใจ ภายหลังกลับเป็การคบหาของชายหญิงที่แสนบริสุทธิ์เสมอมา
หวังเจี้ยนหัวอายุยี่สิบกว่าแล้ว ความปรารถนาทางกายปกติที่ชายหนุ่มควรมีถูกฝืนยับยั้งไว้ ตอนนี้ภาระทางจิตใจของเขาได้รับการปลดเปลื้อง เขาสังเกตเห็นเสน่ห์ของเซี่ยจื่ออวี้แล้ว
เซี่ยจื่ออวี้มีใบหน้ารูปไข่หงส์ ทรงหน้าแบบนี้ควรคู่กับคิ้วใบหลิว จะสร้างลักษณะที่อ่อนโยนชดช้อยมาก ทว่าเซี่ยจื่ออวี้มีคิ้วดกหนา
ด้วยความที่เซี่ยจื้ออวี้มีคิ้วที่หนาและตาที่โต เธอจึงดูกล้าหาญและสง่างามเป็อย่างยิ่ง
ทว่านิสัยกลับอ่อนโยนเหลือเกิน จะบอกว่าเธอละเมียดละไมดุจสายน้ำนั้นไม่ถือว่าเกินจริงเลย หรือก็คือเซี่ยจื่ออวี้มีหน้าตาที่ผู้ใหญ่ชื่นชอบ อีกทั้งมีความอ่อนโยนที่เหล่าชายหนุ่มจะรู้สึกถึงความสบายใจ หวังเจี้ยนหัวอดที่จะจับมือแฟนสาวไม่ได้ “ฉันจะรังเกียจใครกัน? ตอนฉันเป็จือชิงอยู่ที่หมู่บ้านต้าเหอ เธอก็ไม่เคยรังเกียจฉัน! จื่ออวี้ ฉันรู้ว่าเธอดีกับฉัน และรู้ว่าในวิทยาลัยมีผู้ชายคนอื่นที่ชอบเธอ แต่เธอไม่เคยสนใจพวกเขาเลยด้วยซ้ำ ฉันจะไม่ทำให้เธอผิดหวังแน่นอน”
อัธยาศัยที่ดีของเซี่ยจื่ออวี้เป็ที่เลื่องลือทั่ววิทยาลัยจริงๆ
คนรักของใครอ่อนโยนมีเหตุผลเหมือนเธอบ้าง?
มีของดีก็เก็บไว้ให้หวังเจี้ยนหัวรับประทานทั้งหมด รอหวังเจี้ยนหัวเลิกเรียน ซักผ้าให้หวังเจี้ยนหัว รุ่นพี่ผู้หญิงแสดงไมตรีต่อหวังเจี้ยนหัว เธอก็เชื่อมั่นว่าหวังเจี้ยนหัวจะจัดการให้เรียบร้อยได้อย่างแน่นอน หากเป็หญิงสาวคนอื่น เมื่อเจอใครคิดแย่งคนรักอย่างเปิดเผยเหมือนรุ่นพี่หลิ่ว คงรีบไปสู้รบปรบมือกันตั้งนานแล้ว
หวังเจี้ยนหัวรู้ว่าบิดามารดาของตนมีความคิดที่แตกต่างต่อเื่ของเขากับเซี่ยจื่ออวี้ เมื่อก่อนบิดาไม่ยินดี ส่วนมารดาเป็มิตรมาก ปัจจุบันบิดาเขากลับเมืองมารับราชการแล้ว ช่องว่างระหว่างครอบครัวของเขากับครอบครัวเซี่ยจื่ออวี้จึงปรากฏออกมาอย่างชัดเจน หวังเจี้ยนหัวนึกถึงความเอื้อเฟื้อมีเหตุผลของเซี่ยจื่ออวี้ ในใจก็รู้สึกกระวนกระวาย อยากทำให้พ่อแม่ยอมรับเธอ
“ฉันไปหาคุณอาคุณน้าก่อน และค่อยดูว่าเชิญพวกเขามาเจอพ่อแม่ฉันได้เมื่อไร ตกลงเื่ของพวกเราไว้ก่อน จบมหาวิทยาลัยก็แต่งงานกัน”
เซี่ยจื่ออวี้พยักหน้าอย่างว่าง่าย
----------------------------------------
สภาพที่หวังเจี้ยนหัวพบ ย่อมเป็เซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยที่ยากลำบากแสนสาหัส
แตกต่างไปจากสภาพในความทรงจำของเขาโดยสิ้นเชิง
แขนข้างหนึ่งเสื้อโล่งเปล่า ส่วนแขนอีกข้างก็ถูกดามและพันผ้าพันแผล อาการาเ็ของเซี่ยฉางเจิงหนักหนาขนาดนี้เชียว!
รวมถึงจางชุ่ยด้วย ตอนอยู่เขตอันชิ่งเป็ผู้หญิงกระฉับกระเฉิงขนาดไหน เปิดร้านเอง จัดการธุระน้อยใหญ่ทุกอย่างในร้าน บริหาร ‘จางจี้’ จนรุ่งเรือง แตกต่างจากตอนนี้เหลือเกิน ดูซูบผอมลงมาก งานในบ้านทั้งหมดมีเธอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว
“จื่ออวี้ นี่—”
ทำไมสถานการณ์ภายในครอบครัวกลายเป็เช่นนี้?
สภาพแบบนี้ จื่ออวี้เอาเงินพวกนั้นออกมาให้เขาได้อย่างไร!
ถ้าไม่ใช่เพราะให้เงินเขา พอพ่อแม่ของจื่ออวี้มาปักกิ่ง ก็คงไม่ต้องอาศัยในสถานที่ที่ดูย่ำแย่ขนาดนี้
อาหารเหลือบนโต๊ะส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากการเน่าเสีย แมลงวันหลายตัวบินว่อนไปมาภายในบ้าน
หวังเจี้ยนหัวรู้สึกผิดเหลือเกิน เขาละเลยแฟนสาวนานเกินไปจริงๆ
“จื่ออวี้ ที่นี่อยู่ไม่ได้นะ ฉันจะหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้คุณอาคุณน้า เธอดูสิ ให้คุณอาเซี่ยรักษาตัวที่นี่ หากสภาพจิตใจไม่ดี การฟื้นฟูร่างกายก็ไม่ดีด้วยเหมือนกันนะ ว่าแต่ทำไมแขนของคุณอาเซี่ยถึงาเ็หนักขนาดนี้?”
จางชุ่ยถูกจุดไฟโทสะทันที “ไม่พ้นเซี่ยเสี่ยวหลานคนนั้นนั่นแหละ!”
“แม่ แม่อย่าพูดซี้ซั้ว ไม่มีหลักฐาน เกี่ยวอะไรกับเสี่ยวหลานกัน?”
หวังเจี้ยนหัวจับต้นชนปลายไม่ถูกเช่นกัน บอกว่าแขนาเ็ ทำไมเกี่ยวโยงถึงเซี่ยเสี่ยวหลาน และอีกอย่าง เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าร่วมเกาเข่าประจำปีนี้สินะ? ไม่รู้ว่าผลการสอบเป็เช่นไร ทว่าไม่ดีนักที่จะถามจากครอบครัวจื่ออวี้
แต่ยิ่งเซี่ยจื่ออวี้ปิดบัง หวังเจี้ยนหัวยิ่งต้องซักไซ้
ในที่สุดเซี่ยจื่ออวี้ก็อดชี้แจงความจริงไม่ได้ “เป็เพราะเื่ตอนตรุษจีน ที่อาสะใภ้รองฟันอารองจนาเ็ และย่าไปหาเื่ที่หน้าโรงเรียน เธอยังจำได้สินะ? ั้แ่วันนั้น ครูกับนักเรียนทุกคนยืนข้างเสี่ยวหลาน เห็นครอบครัวพวกฉันทุกคนเป็คนเลว หลังจากพวกเรากลับมา การค้าขายของ ‘จางจี้’ ย่ำแย่ลงอย่างหนัก เดิมทีทำธุรกิจยังคงราบรื่นดี จู่ๆ มีคนมาสร้างปัญหาต่างๆ นานา สุดท้ายแม้แต่หน้าร้านก็ไม่ยอมให้พ่อแม่ฉันเช่าแล้ว เธอรู้ดีว่าร้านนี้เปิดขึ้นมาได้เพราะมีครูใหญ่ซุนของเซี่ยนอีจงช่วย แต่หลังจากวันนั้นท่าทีของครูใหญ่ซุนเปลี่ยนแปลงไปมาก แม่ฉันเลยบอก... บอกว่าเสี่ยวหลานพูดกับครูใหญ่ซุนว่าไม่ให้จางจี้เปิดกิจการต่อไป”
หวังเจี้ยนหัวมีแต่ความสงสัยอยู่ภายในหัว
เซี่ยเสี่ยวหลานที่เป็นักเรียนคนหนึ่ง สามารถสั่งการอาจารย์ใหญ่ได้ด้วยหรือ?
เซี่ยจื่ออวี้เล่าอย่างคลุมเครือ บอกว่าหลัง ‘จางจี้’ ปิดกิจการ พ่อแม่เธอทำได้แค่ไปตั้งแผงหาเลี้ยงชีพในเมืองมณฑล ทว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด พ่อเธอออกไปรับสินค้าตอนกลางคืน กลับโดนใครบางคนทำร้าย
เมื่อเล่าถึงตรงนี้ จางชุ่ยพึมพำซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับคุ้มคลั่ง “เป็เซี่ยเสี่ยวหลาน เป็มัน มันเป็คนทำ!”
หวังเจี้ยนหัวยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่
เซี่ยจื่ออวี้แค่นยิ้มขมขื่น “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเสี่ยวหลานจะเป็คนทำเื่พวกนี้ เขานิสัยอย่างไรเธอก็รู้ดี แค่ปากร้ายเท่านั้น อีกอย่างก่อนหน้านี้ฉันทำผิดต่อเสี่ยวหลาน ปล่อยให้เธอด่าระบายอารมณ์บ้างก็สมควร แต่เสี่ยวหลาน... เธอน่าจะไม่รู้ เสี่ยวหลานไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ปีนี้เธอสอบเกาเข่าได้เป็ที่หนึ่งสายวิทย์ของอวี้หนาน และเลือกเรียนมหาวิทยาลับหัวชิงด้วย เวลานี้คงมารายงานตัวที่หัวชิงแล้วล่ะ!”
นักเรียนธรรมดาคนหนึ่ง ย่อมไม่สามารถโน้มน้าวอาจารย์ใหญ่ของเซี่ยนอีจงได้
ทว่าสำหรับนักเรียนที่สอบได้อันดับหนึ่งของมณฑล อาจารย์ใหญ่จะยืนหยัดฝ่ายเธอเช่นกัน
เซี่ยจื่ออวี้ไม่อยากบอกหวังเจี้ยนหัว แต่เธอไม่อยากปล่อยให้เซี่ยเสี่ยวหลานปรากฏตัวอย่างน่าประทับใจต่อหน้าหวังเจี้ยนหัวมากกว่า ปักกิ่งก็ใหญ่เท่านี้ หวังเจี้ยนหัวจะรู้ในไม่ช้าก็เร็วแน่นอน ให้เธอเป็คนบอกเองเสียดีกว่า! เื่เดียวกันมีวิธีส่งสารที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับใครทำให้หวังเจี้ยนหัวลำเอียงปักใจเชื่อได้มากกว่า!
หวังเจี้ยนหัวเป็ไปตามที่เซี่ยจื่ออวี้คาดไว้จริงๆ เขาตกตะลึงไม่รู้ตัวอยู่ตรงนั้น ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง!