“เทียนเซี่ย ในถ้ำนั้นอาจจะมีบางอย่างอยู่ข้างในก็ได้ใช่ไหม?” ซูเฟยเฟยยืนอยู่หน้าถ้ำ เธอมองเข้าไปยังความมืดมิดด้านในแล้วพูดออกมา ปกติถ้ำธรรมดามักจะปรากฏอยู่ตามูเา แต่การที่ถ้ำแห่งหนึ่งปรากฏอยู่กลางป่าแบบนี้มันค่อนข้างจะแปลกไปหน่อย ตอนที่สิงโตดาบทองนอนอยู่ก่อนหน้านี้มันก็นอนอยู่หน้าปากถ้ำ............
“มันน่าจะเป็ถ้ำที่สิงโตดาบทองอาศัยอยู่ล่ะมั้ง” เย่เทียนเซี่ยเดินไปข้างหน้าแล้วพูดออกมา
“รังอันมืดมิดที่ว่างเปล่าและเดียวดาย ช่างยากที่จะจินตนาการจริงๆว่ามอนสเตอร์ที่น่าสงสารอย่างนี้ทำไมถึงชอบที่แบบนี้ได้....... โอ้! พวกนายคิดว่าในนั้นจะมีสิงโตตัวเมียที่เป็คู่ของมันอาศัยอยู่สักตัวไหม? อยู่ตัวเดียวอย่างโดดเดี่ยวช่างน่ากลัวจริงๆ” มู่หรงชิวสุ่ยเดินเข้าไปใกล้อย่างช้าๆแล้วพูดออกมาเสียงเบา
จั้วพั่วจวินเบ้ปากแล้วย่นจมูก เ้านี่มักจะชอบพูดอะไรโรคจิตๆแบบนี้ออกมาอยู่เรื่อย
“โอ้.......... ฉันรู้ว่าพวกนายอาจจะรู้สึกแบบนั้น อา...ฉันอยากจะบอกพวกนายมากเลยว่าจริงๆแล้วเื่ที่ฟังดูเป็ไปไม่ได้อาจจะเป็ไปได้ก็ได้นะ ถ้าข้างในมีสิงโตตัวเมียอีกตัว...... โอ้! พวกนายคิดดูสิว่ามันจะเป็เื่ดีแค่ไหน พวกนายไม่เพียงจะได้เห็นพี่รองต่อสู้อีกครั้งแต่ยังจะได้รับไอเทมเยอะขึ้นด้วยนะ..............”
“ถ้ามีก็คงจะออกมานานแล้วล่ะ” จั้วพั่วจวินี้เีจะพูดกับไอ้บ้าอย่างมู่หรงชิวสุ่ยอีก เขาหยิบม้วนคัมภีร์กลับเมืองขึ้นมา
“บางทีระหว่างที่กำลังนอนอย่างสงบสุข.........เอาเถอะให้ฉันได้ดูสักหน่อยเถอะว่าไอ้ที่ฉันเดาไว้เนี่ยมันมีจริงหรือเปล่า” มู่หรงชิวสุ่ยหยิบธนูขึ้นมาอย่างจริงจัง แล้วใช้ทักษะ “ะเิลูกศร” ที่เป็การโจมตีแบบกลุ่มในวงแคบยิงไปด้านหน้าครั้งหนึ่ง
เมื่อลูกศรถูกยิงออกไปยังไม่ทันที่มันจะได้เข้าไปในส่วนลึกของถ้ำเสียงะเิก็ดังขึ้นมาก่อนครั้งหนึ่ง
กรรร!!!!!!
หลังจากเสียงะเิที่ดังขึ้นมาก็คือเสียงคำรามดุร้ายที่ดังยิ่งกว่า และเสียงคำรามนั้นก็ทำให้คนทั้งสี่ตกตะลึงนิ่งค้างอยู่ตรงนั้น
“ดวงอาทิตย์เป็พยาน........ ฉันแค่ล้อเล่นจริงๆนะ” มู่หรงชิวสุ่ยกระชับธนูในมือแน่น ใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าโอเวอร์เกินจริงออกมา จริงๆเขาก็แค่ล้อเล่นไปตามบรรยากาศแค่นั้น......... ไม่คิดเลยว่า.........
เสียงร้องอันดุร้ายนั้นแสดงให้เห็นแล้วว่า.........ภายในยังคงมีมอนสเตอร์อยู่อีกตัวจริงๆ!
เสียงมอนสเตอร์กำลังวิ่งใกล้เข้ามาจากทางด้านหน้าและยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เย่เทียนเซี่ยแสดงปฏิกิริยาตอบสนองออกมาอย่างรวดเร็ว เขาะโออกมาเสียงดัง “รีบถอยกลับไปเร็ว........ มอนสเตอร์ตัวนี้ไม่ธรรมดา!!”
มอนสเตอร์ที่สามารถทำให้สิงโตดาบทองเป็ยามเฝ้าอยู่หน้าถ้ำได้ บางทีมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในถ้ำนี้อาจจะมีพลังที่เหนือกว่าสิงโตดาบทองก็เป็ได้ ความเชื่อมั่นของเขามากพอที่จะทำให้เขาไม่กลัว แต่เขาคงไม่มีทางปกป้องผู้คนข้างกายของเขาได้......... ปกป้องตัวเองน่ะง่าย แต่ปกป้องคนอื่นน่ะยากกว่าการปกป้องตัวเองหลายเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขามีกันถึงสามคน!
เสียงของเย่เทียนเซี่ยเพิ่งจะหายไป ดวงตาของเขาที่มองผ่านเข้าไปในความมืดมิดเบื้องหน้าก็มองเห็นเงาร่างที่อยู่ห่างจากตัวเองไม่ถึงยี่สิบเมตร....... เงาร่างนั้นมีขนาดเล็กกว่าที่เขาคาดคิดไว้มาก มันสูงไม่ถึงครึ่งเมตร ขนาดร่างของมันมีขนาดพอๆกับแมวที่โตเต็มวัย เมื่อมองอยางละเอียดแล้วมันคือสิงโตตัวหนึ่ง เป็สิงโตที่อยู่ในวัยเด็ก ส่วนหัวของมันไม่แตกต่างจากเ้าสิงโตดาบทองก่อนหน้านี้.......... แต่เมื่อเย่เทียนเซี่ยมองมันชัดๆแล้วบนหัวของมันมีแท่งคริสตัลแหลมคมที่กำลังเจริญเติบโตอยู่ส่องแสงสว่างออกมา และบนร่างกายเล็กๆของมันก็มีปีกอีกสามคู่แผ่สยายออกมาจากหลังของมันด้วย ร่างของมันไม่ใช่สีทองหรือสีน้ำตาลอย่างที่ลูกสิงโตควรมี แต่มันกลับเป็สีม่วงอย่างแปลกประหลาด...... มันเป็สิงโตจริงๆเหรอ? หรือมันเป็สิ่งมีชีวิตแปลกอันแปลกประหลาดอย่างอื่น? ใบหน้างุนงงของเย่เทียนเซี่ยเพิ่งจะแสดงออกไปข้อมูลที่ดวงตาัส่งมาก็ทำให้ใบหน้าของเขาเปลี่ยนสี
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีก (วัยเด็ก) : มอนสเตอร์ชั้นเซียนเลเวล 15, พลังชีวิต 120,000
ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกคือสัตว์ขี่ของคุยเหลยแห่งปราชญ์ทั้งสิบสองที่ร่วมต่อสู้กับปีศาจที่ถูกผนึกเมื่อร้อยปีก่อน คุยเหลยถูกฆ่าตายภายใต้น้ำมือของาาปีศาจทั้งแปด ั้แ่นั้นมาราชสีห์อเมทิสต์หกปีกก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย สิบเจ็ดปีก่อนราชสีห์อเมทิสต์หกปีกวัยเด็กตัวหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้นมาในป่าเงาปีศาจและเติบโตขึ้นมาอย่างสงบสุข ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากไอปีศาจที่แผ่ออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตาทำให้นิสัยของมันเปลี่ยนเป็ดุร้ายและบ้าคลั่ง
พร์ :
ร่างอเมทิสต์ : ธาตุสายฟ้า มีภูมิคุ้มกันการสร้างความเสียหายด้วยธาตุสายฟ้า 50% การโจมตีทางกายภาพจะแฝงพลังทำลายล้างธาตุสายฟ้า 300-500 หน่วย เมื่อใช้เวทมนต์ธาตุสายฟ้าผลลัพธ์ที่ได้จะแข็งแกร่งขึ้น 15%
ทะยานฟ้า : ราชสีห์อเมทิสต์หกปีกที่โตเต็มที่จะมีความสามารถในการทะยานฟ้าอันแข็งแกร่ง แต่เนื่องจากตอนนี้มันยังอยู่ในวัยเด็ก ความสามารถในการทะยานฟ้ายังคงถูกจำกัด ทำให้มันสามารถบินไปบนฟ้าสูงไม่เกินสองเมตรได้เพียง 10 วินาทีเท่านั้น
ทักษะ
สายฟ้าพุ่ง : รวบรวมพลังสายฟ้าไว้ในร่างแล้วพุ่งเข้าใส่เป้าหมายเดี่ยวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า พลังในการพุ่งเข้าปะทะอย่างบ้าคลั่งสามารถทำให้เป้าหมายกระเด็นออกไปไกลได้อย่างง่ายดายและติดสถานะอัมพาตเป็เวลา 2-5 วินาที อัตราการแสดงผลค่อนข้างสูง
อัญเชิญสายฟ้า : เรียกสายฟ้าจากเบื้องบนโจมตีเข้าใส่เป้าหมายเดี่ยวที่อยู่ในรัศมี 10 เมตร ความเสียหายพื้นฐานเท่ากับ 3,500 หน่วย, ใช้พลังเวทย์ 120 หน่วย, ไม่มีคูลดาวน์, อัตราการแสดงผลสูงมาก
เขตแดนสายฟ้า : ปลดปล่อยแท่งสายฟ้าปกคลุมพื้นที่โดยรอบสร้างเป็เขตแดนสายฟ้าที่มีขอบเขตกว้างถึงสิบเมตร เป้าหมายทั้งหมดภายในเขตแดนจะได้รับความเสียหายพื้นฐานจากธาตุสายฟ้า 800 หน่วยทุกวินาทีต่อเนื่องเป็เวลา 10 วินาที ใช้พลังเวทย์ 500 หน่วย, ใช้เวลาในการร่าย 2.5 วินาที, ใช้เวลาในการคูลดาวน์ 30 วินาที, อัตราแสดงผลต่ำมาก
ท่าไม้ตาย
อัสนีบาต : รวบรวมพลังสายฟ้าเอาไว้ที่กรงเล็บแล้วปลดปล่อยแท่งสายฟ้าโจมตีไปยังศัตรูที่อยู่ตรงหน้า เป็การโจมตีเป้าหมายเดี่ยวที่อยู่ใกล้ตัว สร้างความเสียหายเท่ากับ 150% ของการโจมตีธรรมดาและสร้างความเสียหายด้วยธาตุสายฟ้า 1,800 หน่วย พลังอันน่ากลัวจะถูกปลดปล่อยออกมาอย่างฉับพลันโดยไม่มีสัญญาณบอกล่วงหน้า ไม่สามารถป้องกันได้ อัตราการแสดงผลต่ำมาก
ทักษะลับ
พายุอัสนี : ทักษะนี้จะะเิสายฟ้าออกมาเป็วงกว้าง พลังสายฟ้าทั้งหมดจะะเิออกมาจากร่างของมันอย่างฉับพลันเข้าใส่ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในรัศมี 50 เมตร มีความเป็ไปได้ 70% ที่จะติดสถานะอัมพาตเป็เวลา 2-5 วินาที ความเสียหายพื้นฐาน 5,000 หน่วย, ใช้พลังเวทย์ 800 หน่วย, ใช้เวลาในการร่าย 3 วินาที, ใช้ได้วันละครั้งเท่านั้น หลังจากปลดปล่อยทักษะนี้ไปแล้วร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกจะเข้าสู่สถานะชะงักเป็เวลา 8 วินาที, มีความเป็ไปได้ที่จะใช้ออกมาเมื่อโกรธ, มีอัตราการแสดงผลต่ำ
จุดอ่อน : หวาดกลัวการโจมตีด้วยธาตุไฟ ความต้านทานธาตุไฟ -20%
“วิ่งเร็ว!! มันเป็มอนสเตอร์ชั้นเซียน!!”
เสียงะโดังก้องจนเหมือนเสียงคำรามดังออกมาจากปากของเย่เทียนเซี่ย เสียงะโของเขาทำให้คนอีกสามคนตื่นเต้นขึ้นมา และสิ่งที่เขาะโออกมาก็ยิ่งทำให้พวกเขาหน้าเปลี่ยนสีท่ามกลางความตกตะลึง...........
มอนสเตอร์ชั้นเซียน...................มอนสเตอร์ชั้นเซียน!?
มันคือมอนสเตอร์ชั้นเซียนที่น่ากลัวกว่าบอสขุนนางไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า มันปรากฏตัวออกมายากมากและไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นจะสามารถต้านทานได้
เสียงคำรามของเย่เทียนเซี่ยและอารมณ์อันรุนแรงของเขาไม่น่าจะเป็การหลอกลวง ปฏิกิริยาแรกที่จั้วพั่วจวินและมู่หรงชิวสุ่ยตอบสนองกลับมาก็คือการเรียกม้วนคัมภีร์กลับเมืองขึ้นมา........ แต่ขอบเขตความเกลียดชังของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกกว้างถึง 50 เมตร พวกเขาที่กลายเป็เป้าหมายที่ถูกล็อกเป้าโจมตีจึงล้มเหลวในการใช้ม้วนคัมภีร์กลับเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย พวกเขารีบหันหน้ากลับไปแล้ววิ่งตรงไปในป่าอย่างบ้าคลั่ง
ต่อกรกับมอนสเตอร์ชั้นเซียนเหรอ? ล้อเล่นบ้าอะไรล่ะ! ต่อให้มันจะเป็มอนสเตอร์ชั้นเซียนเลเวสิบกว่าๆแต่ผู้เล่นใน่เวลานี้ก็ไม่มีทางต้านทานมันได้แน่นอน มาเท่าไรก็คงตายเท่านั้นนั่นแหละ เย่เทียนเซี่ยในตอนนี้สามารถสังหารบอสขุนนางที่มีระดับมากกว่าตัวเอง 10 เลเวลได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว พวกเขาก็ใแล้ว....... แต่พวกเขาไม่คิดว่าเย่เทียนเซี่ยจะมีความสามารถต่อกรกับมอนสเตอร์ชั้นเซียนได้หรอก
บรรยากาศอันตรายแพร่กระจายไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางความหวาดกลัวซูเฟยเฟยไม่ได้หันหลังกลับไปแต่เธอกลับมองหาเงาร่างของเย่เทียนเซี่ย เย่เทียนเซี่ยวิ่งหนีออกมาแล้วแต่กลับพบว่าซูเฟยเฟยยังคงหยุดอยู่ที่เดิม ดวงตาของเขาเบิกค้าง...... และตอนนั้นเองราชสีห์อเมทิสต์หกปีกวัยเด็กก็พุ่งออกมาจากปากถ้ำในที่สุด จากนั้นมันก็รวบรวมสายฟ้าเอาไว้บนร่างแล้วใช้ร่างกายที่อัดแน่นไว้ด้วยสายฟ้าแรงสูงพุ่งเข้าใส่เป้าหมายที่ใกล้มันที่สุดซึ่งก็คือซูเฟยเฟยอย่างไม่ต้องสงสัย........ มันใช้ทักษะสายฟ้าพุ่ง พุ่งเข้าโจมตีด้วยพลังสายฟ้าของมัน........
ภายใต้การขับเคลื่อนของพลังสายฟ้า ความเร็วในการพุ่งเข้าชนด้วยพลังสายฟ้าจึงรวดเร็วมาก ซูเฟยเฟยไม่มีทักษะหลบหลีกเย่เทียนเวี่ยรีบหมุนตัวกลัวไปอย่างรวดเร็วแล้วใช้ทักษะเงาัสะบั้น เงาสีดำสายหนึ่งพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า............. ระยะการพุ่งออกไปห้าเมตรทำให้เขามาขวางกั้นอยู่ตรงหน้าซูเฟยเฟยพอดี
ปั้ง!!
-2580!
ร่างของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกพุ่งเข้าปะทะกับร่างของเย่เทียนเซี่ยทำให้ร่างของเย่เทียนเซี่ยกระเด็นออกไป........เย่เทียนเซี่ยเพ่งสมาธิของตัวเองจนถึงขีดสุดภายใต้แรงกดอันหนักหน่วงทำให้หัวของเขารู้สึกเหมือนมึนงงและว่างเปล่า ระหว่างที่เขากระเด็นออกไปเขาก็ยื่นมืออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อโอบกอดซูเฟยเฟยที่อยู่ข้างกายแล้วพาเธอกระเด็นออกไปไกลพร้อมกัน คนสองคนไถลไปบนพื้นเป็ระยะค่อนข้างไกลจนหยุดลงในที่สุด
ระหว่างที่ถูกราชสีห์อเมทิสต์หกปีกพุ่งเข้าชนเย่เทียนเซี่ยยังไม่ตาย.........พลังชีวิต 2,620 หน่วยลดลงจนเหลือเพียงแค่ 40 หน่วยเท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพราะพลังโจมตีทางกายภาพของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกค่อนข้างอ่อนแอบวกกับร่างัปีศาจของเขาที่มอบพลังป้องกันอันแข็งแกร่งและความต้านทานสายฟ้าให้เขาเมื่อกี้เขาคงจะตายไปแล้ว
“เทียนเซี่ย........นายไม่เป็ไรนะ?” เมื่อมองหลอดเืที่แทบจะว่างเปล่าของเย่เทียนเซี่ยดวงตาของซูเฟยเฟยก็กลายเป็ตกตะลึง ก่อนหน้านี้หนึ่งวินาทีเธอตกอยู่ในความใจนลืมสิ้นซึ่งความหวาดกลัว ในใจของเธอถูกแทนที่ด้วยความสั่นสะท้านในส่วนลึกที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน........เมื่อกี้เป็เขาที่ใช้ร่างกายและชีวิตของตัวเองปกป้องเธอเอาไว้........
เขาต้องเสี่ยอันตรายจนอาจถึงตายก็เพื่อเธอ...........
เธอไม่หวาดกลัวอีกต่อไปแต่กลับเปลี่ยนเป็ความรู้สึกยินดีแทน ต่อให้ต้องจบชีวิตภายใต้น้ำมือของราชสีห์อเมทิสต์หกปีกเธอก็ยินดียิ่งกว่าอะไรทั้งหมด....... เพราะด้วยนิสัยของเขา การที่เขาทำแบบนี้นั่นหมายความว่าเขาให้เธอเป็คนสำคัญข้างกายของเขาคนหนึ่ง..........
เธอพอใจและมีความสุขอย่างถึงที่สุด..............
