Trigger/Content Warning List:
Self-injurious behavior (self-harm, eating disorders, etc.)
Excessive or gratuitous violence
Blood
Mental illness
อวี๋มู่ชะงักพลันตอนที่ได้ยินคำขอนี้ จากนั้นเอ่ยถามระบบ : เ้าระบบ เมื่อกี้ฉันหูฝาดไปใช่ไหม?
[ผมได้ยินเหมือนกัน เขา้าให้โฮสต์หั่นนิ้วตัวเอง]
อวี๋มู่ : …...ฉันอยากหั่นเขามากกว่า
[โฮสต์ใจเย็นก่อน ผมให้ข้อยกเว้น ใช้ตัวระงับความเจ็บ คุณก็... ก็ตามใจเขาครั้งนี้เถอะ]
อวี๋มู่ : ……
[โฮสต์จะวิเคราะห์ตัววายร้ายโรคจิตนี้เหมือนปกติไม่ได้ถูกไหมครับ? คุณลองคิดดูเขาคงใช้เื่นี้เพื่อทดสอบคุณ หากว่าคุณตอบตกลง คะแนนความประทับใจต้องพุ่งกระฉูดแน่ อีกอย่างพูดถึงสถานการณ์ของคุณตอนนี้ หากคุณไม่ตอบตกลงเขาก็ต้องฆ่าคุณอยู่ดี แบบนี้ภารกิจก็ล้มเหลว! เมื่อวานคุณก็เท่ากับถูก…...ฟรีๆ]
พอเอ่ยถึงเื่เมื่อวาน อวี๋มู่พลันรู้สึกเส้นเอ็นตรงขมับเต้นตุบๆ : หุบปากไปเลย!
สุดท้ายหลังจากถามย้ำเื่ตัวช่วยระงับความเ็ปกับระบบไปสามรอบ อวี๋มู่ถอนหายใจยาว ในใจก็พึมพำถึงชีหย่วนเ้าเด็กบ้าว่าทั้งหมดนี้ทำเพื่อนายแล้วนะ อีกหน่อยนายต้องตอบแทนฉันดีๆ ล่ะ จากนั้นก็ชักมีดสั้นตรงเอวออกมา ยกมือขึ้นไปให้อยู่ระดับสายตาเว่ยจวินหยาง
“หากว่าการตัดนิ้วจะทำให้นายท่านเชื่อใจข้า ถ้าอย่างนั้นข้าน้อยก็จะไม่เสียใจภายหลัง”
เมื่อบั่นลงไป ทั้งกระดูกและเนื้อขาดวิ่น เืไหลอาบฝ่ามือ ทั้งอวี๋มู่และเว่ยจวินหยางต่างอึ้งใไปทั้งคู่
คนแรกอึ้งเพราะว่า : สุดยอด ไม่เจ็บจริงด้วย!
อีกคนอึ้งเพราะเขากำลังสงสัย
ทำไมไม่เลือกข้อสอง? ทำไมไม่เลือกข้อสอง!
ทั้งๆ ที่สามารถตายด้วยน้ำมือของเขาอย่างไม่เ็ป!
ทั้งๆ ที่ไม่ต้องใช้อนาคตไปเดิมพันกับเื่หน้าซื่อใจคดทั้งหลาย!
เว่ยจวินหยางคิดเหตุผลที่อวี๋มู่ยอมตัดนิ้วตัวเองไม่ออก!
เพราะว่าโลกนี้ไม่มีความจริงใจหลงเหลืออยู่
นั่นล้วนเป็เื่ไร้สาระ!
เขาไม่เชื่อ! เขาไม่เชื่อ!
อวี๋มู่ต้องมีแผนอย่างอื่นแน่นอน! ต้องเป็เช่นนั้นแน่!
ใช่! ต้องเป็เช่นนั้น!
ระบบเห็นอวี๋มู่กำลังเหม่อลอย รีบเตือนเขา [โฮสต์ โฮสต์! อย่าเพิ่งอึ้งครับ! แม้ว่าผมจะช่วยคุณ ใช้ตัวช่วยระงับความเจ็บ แต่อย่างน้อยคุณก็ต้องแสดงท่าทีเ็ปบ้างสิ! เพราะถึงยังไงนิ้วทั้งห้าก็เชื่อมถึงหัวใจนะ!]
เออ จริงด้วย
อวี๋มู่รีบกัดฟัน ร่างกายสั่นเทาด้วยความเ็ป มีดสั้นหล่นลงบนพื้น มือซ้ายกุมมือขวา หน้าผากมีเหงื่อซึม
“อา อา…...” เสียงของเขาฟังออกว่ากำลังฝืนทนกับความเ็ปรวดร้าว
นิ้วที่ถูกตัดหล่นออกไปไม่ไกลอยู่บนพื้น แต่ปากแผลที่ถูกตัดนั้นกระดูกขาวโพลน เนื้อแบะออก เืไหลไม่หยุด หยดลงต้นหญ้าข้างเท้าแล้วไหลลงพื้น ย้อมพื้นให้กลายเป็สีแดง
แม้ว่าจะไม่มีอาการเจ็บ แต่อวี๋มู่เหมือนจะรู้ดีว่าตัวเองกำลังเสียเืมากเกินไป หัวสมองเริ่มมึน บวกกับเมื่อคืนที่ถูกเว่ยจวินหยางกระทำมาทั้งคืน เมื่อครู่ตอนอาบน้ำก็รู้สึกว่าหน้าผากกับลำคอร้อนผ่าว เดาว่าคงเป็ไข้
“นายท่าน…...” เขาขัดความคิดของเว่ยจวินหยาง เอ่ยถามเสียงแหบ “ตอนนี้ ท่านจะยอม…...เชื่อใจข้าได้หรือยัง?”
เว่ยจวินหยางสติค่อยๆ กลับมา กลิ่นคาวเืพุ่งเข้าจมูกอยู่ตรงหน้า และคนด้านล่างเขาใบหน้าซีดเผือดราวกระดาษขาว เหงื่อไหลซึม ราวกับว่าจะเป็ลม
ถึงแม้จะเป็เช่นนี้ แต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ที่เดิม เอ่ยถามตัวเองว่าจะยอมเชื่อใจเขาได้หรือยัง
หรือว่าในสายตาของอวี๋มู่ การที่เขายอมเชื่อใจเขา เป็เื่ใหญ่สำหรับอวี๋มู่เพียงนั้นเชียวหรือ?
น่าขัน น่าขันสิ้นดี
เว่ยจวินหยางยกมุมปากยิ้มเยาะ แต่ก็ยอมปล่อยมือและขาที่เกี่ยวตัวอวี๋มู่ไว้ และะโลงจากบ่าเขา
อวี๋มู่เซไปครึ่งก้าวด้วยการเคลื่อนไหวนั้น จากนั้นล้มคุกเข่าข้างหนึ่ง เืที่มือไหลหยดเปื้อนผลไม้ เขาหยิบยาจินฉวงออกมาจากอก งับจุกสีแดงออก เทไปที่ปากแผล แล้วฉีกเศษผ้าอย่างรวดเร็ว กัดไว้ที่ปาก มืออีกข้างหนึ่งก็ดึงปลายผ้ามาพันนิ้วไว้
สมองยิ่งทำงานยิ่งเบลอ เบื้องหน้าเริ่มพร่ามัว ผูกเงื่อนสุดท้ายไม่ได้สักที อวี๋มู่เริ่มรู้สึกหงุดหงิด
ขณะนั้นเอง เว่ยจวินหยางเดินมาข้างหน้าเขา
รองเท้าสีขาวสะอาดสะอ้านเดินไปตรงหน้า อวี๋มู่เงยหน้ามอง เห็นเว่ยจวินหยางกำลังจ้องมองลงมา
เขาเอ่ยเรียกอย่างยากลำบาก อึกๆ อักๆ “นาย ท่าน…...”
“เอามือมาให้ข้า” เด็กน้อยห้าหกขวบเผยรอยยิ้มน่ารักน่าชัง ซึ่งตรงกันข้ามกับเว่ยจวินหยางที่เมื่อครู่พึ่งสั่งให้เขาตัดนิ้วโดยสิ้นเชิงราวกับคนละคน
อวี๋มู่ยื่นมือไป เดิมนึกว่าเว่ยจวินหยางจะช่วยเขาผูกเงื่อน กลับเห็นเว่ยจวินหยางแกะพันผันแผลที่เขาพันเมื่อกี้คลายออกทีละรอบ จากนั้นวางมือเขาที่เืเปื้อนอยู่ลงบนพื้น ยกขาขึ้นเหยียบลงไป
จังหวะนั้นอวี๋มู่ตะลึง กระทั่งระบบก็ตะลึงไปด้วย
อวี๋มู่ : บ้าจริง ระบบ! ไอ้ลูกหมา***นี่อยากทำอะไรกันแน่!?
[ไม่ใช่ ไม่ถูกครับ โฮสต์ ยังไม่ต้องสนว่าเขาจะทำอะไร โฮสต์กำลังแสดงละครอยู่! แกล้งเจ็บๆ! ]
เท้าของอีกฝ่ายเริ่มแรกไม่ได้ลงแรกมากนัก แต่เพียงแค่เห็นว่าเหยียบเข้ากับนิ้วที่ถูกตัด มันก็ควรจะเจ็บแสบน่าดู
อวี๋มู่โก่งหลัง ตัวงอ มือที่ไม่ได้รู้สึกเจ็บจิกพื้นแน่น เสมือนว่าเจ็บมาก
“เจ็บมากสินะ” เว่ยจวินหยางยังอยู่ในสภาพใบหน้าไร้เดียงสาของเด็ก รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมถึงขีดสุด เขาเอ่ยกับอวี๋มู่ว่า “งั้นก็ร้องออกมา กรีดร้อง เ้าควรจะรู้ว่า ข้าชื่นชอบเวลาที่พวกเ้ากรีดร้องโหยหวนที่สุด…...”
อวี๋มู่นั้นไร้ซึ่งอารมณ์ เขาบ่นกับระบบ : …...ระบบ เขานี่มันโรคจิตโคตรๆ เลย ฉันรู้สึกว่าเขาโรคจิตกว่าเหลียงหานในโลกที่แล้วอีก
[อย่างไรก็ตามเขาเกิดมาในโลกยุทธภพที่สามารถชี้เป็ชี้ตายใครก็ได้ ตัววายร้ายอย่างเขาก็ต้องโรคจิตนิดๆ เป็ธรรมดานะครับ…….]
อวี๋มู่ : งั้นนายบอกฉันหน่อยสิ เขาจะเป็ตัววายร้ายที่โรคจิตที่สุดในทั้งห้าโลกหรือเปล่า? หากว่าที่เหลือนั้นน่าขยะแขยงกว่าเขา ฉันเริ่มรู้สึกว่าอยากกลับบ้านแล้วล่ะ
[เอ่อ คิดว่า น่าจะใช่นะครับ]
อวี๋มู่ : คิดว่า?
[โฮสต์ครับ เว่ยจวินหยางนั่นยังรอคุณกรีดร้องอยู่นะครับ]
อวี๋มู่เงยหน้ามองเว่ยจวินหยาง ร่างกายสั่นเทา เสียงอึกอัก กะพริบตาปริบๆ ถึงจะมองเห็นเว่ยจวินหยางได้ชัด ริมฝีปากเขาซีดเผือด ร้องว่า “นาย ท่าน…...เจ็บ”
ดูเหมือนเว่ยจวินหยางจะไม่ได้เวทนาเขาแม้แต่นิด แม้กระทั่งเืก็ดูจะเดือดตามไปด้วย ั์ตาสีดำขลับฉายแววมีความสุข เร่งเขา “เจ็บก็ร้องออกมาสิ กรีดร้องโหยหวนทำไม่เป็หรือ? ”
เขาลงแรงเหยียบมากขึ้น อวี๋มู่ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม หนนี้แม้ว่าจะใช้ตัวช่วยระงับความเจ็บอยู่ แต่ก็รู้สึกได้ว่านิ้วที่ถูกเหยียบนั้นเจ็บมาก
แต่เขาร้องไม่ออก จะให้ร้องยังไง
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจทำบางสิ่งที่ทำให้เขาเสียใจทีหลังอย่างมาก : ระบบ ช่วยปิดตัวช่วยระงับความเจ็บสักสองวินาทีสิ ไม่งั้นฉันร้องโหยหวนไม่ได้จริงๆ
[โฮสต์ แน่ใจนะครับ?]
อวี๋มู่ : มาเถอะ อย่าเซ้าซี้
จากนั้นวินาทีที่ปิดตัวช่วยระงับความเจ็บ ร่างกายของอวี๋มู่ชักกระตุกอยู่กับพื้น แล้วล้มฟุบลงไป “อ๊าก!”
เบื้องหน้าเขาสลับภาพขาวดำ ล้มอยู่บนพื้นลุกไม่ขึ้น เหงื่อซึมทั่วตัวในเวลาอันรวดเร็ว สิบนิ้วเชื่อมดวงใจ นาทีนี้ เขาเริ่มรู้สึกว่าเว่ยจวินหยางเหมือนกำลังเหยียบหัวใจของเขาใต้ฝ่าเท้า บดขยี้อย่างเหี้ยมโหด จนแทบจะแหลกละเอียด
ความเ็ปนั้นส่งผ่านออกมาทางนิ้ว ตัวม้วนงอ เขาร้องครวญคราง เสียงแหบจนเหมือนสะอื้น
เจ็บเกินไป เจ็บมาก มารดามันเถอะ!
***เว่ยจวินหยาง!
เขาตัวสั่นระริก ทั้งร่างเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เหงื่อซึมจนผมปรกใบหน้า ริมฝีปากสีจางตอนนี้ไม่หลงเหลือสีสันใดๆ ทั้งตัวเขาเหมือนพึ่งถูกล้วงขึ้นมาจากน้ำ ใบหน้าหล่อเหลานั้นดูอ่อนระทวยและเ็ป
แต่กลับดูน่าเย้ายวนใจ
ในหัวมีความคิดนี้แล่นเข้ามา เว่ยจวินหยางเหมือนได้รับการเอาใจจากอวี๋มู่จนหนำใจ เขาจึงคลายเท้า เดินไปนั่งขัดสมาธิ ไม่ได้สนใจอวี๋มู่อีก
ตอนนี้อวี๋มู่เ็ปจนพูดไม่ออก ระบบรีบเปิดตัวช่วยระงับความเจ็บให้เขาอีกครั้งหลังจากเว่ยจวินหยางเดินไป ตอนนี้เอ่ยถามเขาด้วยความห่วงใยว่าเป็อย่างไรบ้าง ยังไหวหรือเปล่า
อวี๋มู่ไม่ได้ใส่ใจเขา นิ้วที่ขาดนั้นเสียเืมากเกินไป สติของเขาเหลือน้อยเต็มที
บางทีเวลาที่เราเ็ปรุนแรงจะเข้าสู่ภวังค์แห่งความว่างเปล่า อวี๋มู่นอนราบกับพื้น นึกถึงเหลียงหาน
ที่เขา้าปิดการทำงานของตัวช่วยระงับความเจ็บ ก็เพราะรู้สึกอยากรับผิดชอบกับเื่ราวของเหลียงหานด้วยส่วนหนึ่ง
เขาคิด เด็กคนนั้นตอนที่แย่งปืนมาฆ่าตัวตาย จะเจ็บหรือเปล่านะ?
เจ็บขนาดไหน?
จะเจ็บกว่าเขาในตอนนี้หรือเปล่า?
เขาพยายามอย่างมากที่จะบอกตัวเองว่านั่นไม่เกี่ยวกับเขา แต่ก้นบึ้งในใจเขารู้ว่า เป็เพราะเขาทอดทิ้งเหลียงหาน เหลียงหานจึงค่อยๆ เดินเข้าสู่ทางตัน
หากว่าเขาอยู่เคียงข้างเหลียงหานไปตลอด เฝ้ามองเขา ดูแลเขา บางทีตอนจบอาจจะเปลี่ยนแปลงได้
เด็กคนนั้นจะได้ไม่เ็ป ไม่ต้องตาย
รู้สึกแย่สิ้นดี……
ที่ต้องมาทำภารกิจบ้าบอแบบนี้
เว่ยจวินหยางนั้นชีพจรอุดตัน ธาตุไฟเข้าแทรกไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ทำให้ร่างเล็กและวรยุทธ์ถดถอยง่ายๆ แค่นี้ เขาเองลึกๆ ก็รู้ดี จึงแค่นั่งเข้าฌานกำหนดลมหายใจไม่กี่นาทีก็ลืมตาขึ้น
เขานึกว่าอวี๋มู่คงพันแผลเรียบร้อยแล้ว รอเข้ามาแสดงความจงรักภักดี แต่กลับเห็นเพียงคนๆ นั้นนอนราบกับพื้น แน่นิ่งไม่ไหวติง ราวกับตายไปแล้ว
เว่ยจวินหยางขมวดคิ้ว ในใจเริ่มเป็กังวล
เขาเดินไปหน้าอวี๋มู่ โน้มตัวทดสอบลมหายใจ ตอนที่รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่ตายก็โล่งใจ
หลังจากโล่งใจเขาก็รู้สึกขำที่ตัวเองมาใส่ใจกับคนแบบนี้ ท้ายที่สุด เขาผันความคิดนี้เป็ความรู้สึกว่ากำลังเสียดายไม่อยากสูญเสียของเล่นน่าสนใจไป
เพื่อที่จะให้ของเล่นชิ้นนี้ใช้ได้นานกว่าเดิม เขาจึงยอมฝืนใจดูแลอวี๋มู่สักหน่อย
เขาใช้มีดสั้นตัดกิ่งไม้ใหญ่มาหนึ่งท่อน ล้วงด้านในออก ทำเป็ถังไม้เพื่อตักน้ำ แล้วล้างนิ้วให้อวี๋มู่ ทายาจากนั้นฉีกเสื้อตัวเองมาพันแผลให้อวี๋มู่
เมื่อทำเสร็จแล้ว เขานั่งลงข้างๆ อวี๋มู่และรอเขาตื่น
สิ่งที่เขาคิด อวี๋มู่ตื่นมาต้องปลื้มปริ่มมากแน่ เพราะถึงยังไงสิ่งที่อวี๋มู่แสดงออกเพื่อแสดงความภักดีต่อนายท่านอย่างเขา เพื่อให้ได้รับความเชื่อใจจากตัวเองถึงขั้นยอมตัดนิ้ว ทำลายอนาคตตัวเอง
ตอนนี้นายท่านอย่างเขามาดูแลอวี๋มู่เช่นนี้ เขาจำต้องรู้สึกเป็บุญคุณล้นเหลือ รู้สึกโชคดีสามชั่วโคตร
เพียงแต่…...อวี๋มู่จวบจนกลางคืนก็ยังไม่ฟื้น
ไม่เพียงแค่ไม่ตื่น ทั้งยังไข้สูง ร่างกายร้อนผ่าว จนแทบจะลวกมือเว่ยจวินหยางที่ยื่นมาัั
แม้ร่างเดิมจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่ก็หาใช่ทำจากเหล็กกล้า แผลตรงท้องกำลังอักเสบ นิ้วเริ่มแย่ลง ยิ่งบวกกับการร่วมรัก***อย่างควบคุมไม่ได้เมื่อคืน
ท้ายที่สุดอวี๋มู่ก็ล้มฟุบ
เว่ยจวินหยางกัดผลไม้ นั่งอยู่ข้างอวี๋มู่ เริ่มพิจารณาว่าจะทิ้งอวี๋มู่ไว้ที่นี่ดีหรือไม่
เมื่อครู่เขามีความคิดอยู่ว่าจะรอจนอวี๋มู่ตื่นขึ้นมาเพื่อให้เขาทรมานเล่นต่อ แต่ตอนนี้ดูเหมือนของเล่นชิ้นนี้จะพังแล้ว……
เมื่อพังแล้วก็เท่ากับไม่มีค่า สร้างความพอใจให้เขาไม่ได้ ยิ่งไม่มีความจำเป็ที่ต้องเก็บไว้ข้างกาย
คิดได้เช่นนี้ เขาโยนผลไม้ในมือทิ้งไป เตรียมตัวจะลุกขึ้น
“เหลียงหาน…...” เสียงเบาทำเขาชะงักฝีเท้า
อวี๋มู่นั้นไข้สูงจนไม่รู้สึกตัว เขาฝันมากมาย สามปีที่ใช้ชีวิตกับเหลียงหาน วินาทีที่เหลียงหานรู้ว่าเขาหายตัวไปนั้นก็ร้อนรนออกตามหา
เขามองเห็นเหลียงหานล้มลงกับพื้นร้องห่มร้องไห้ มองดูเหลียงหานหลอกตัวเองแล้วเรียกหญิงสาวคนนั้นว่าครู เห็นวินาทีที่เขาคว้าปืนมายิงตัวตาย
“เสี่ยวหาน เสี่ยวหาน…...” เขาเรียกชื่อเหลียงหานอยู่ในฝัน อยากห้ามปรามเขาที่กำลังทำร้ายตัวเอง แต่ก็ไม่เกิดผล ภาพฝันยังคงฉายไปเรื่อยๆ กลิ่นเืนั้นทำเอาเขาแทบหายใจไม่ออก
เว่ยจวินหยางนั่งลงข้างอวี๋มู่อีกครั้ง แต่สีหน้ากลับเย็นะเื
เขาเห็นหางตาของชายหนุ่มมีน้ำตารื้นออกมา และเวลาที่เขาเรียกชื่อคนผู้นั้นแฝงด้วยความรู้สึกลึกซึ้งจับจิต ถึงขั้นเกินกว่าตอนที่เขาแสดงความภักดีต่อตัวเองด้วยซ้ำ
เขาใช้มือจับหน้าอวี๋มู่ แววตาล้ำลึก
เหลียงหานคือใคร?
ในใจของเ้า เขาสำคัญกว่าข้าอีกงั้นหรือ?
ในใจเขาปล่อยจิตสังหารและความโกรธออกมาอย่างแปลกประหลาด
ฝ่ามือเลื่อนลง เว่ยจวินหยางบีบคออวี๋มู่อีกครั้ง ขอเพียงออกแรงอีกนิดเดียวก็จะทำคนที่อยู่ในกำมือตายได้อย่างง่ายดาย
เหมือนว่าความเจ็บนี้จะทำให้อวี๋มู่มีภาพซ้อนในฝัน ทันใดนั้นเขาจับมือเว่ยจวินหยาง ขมวดคิ้วเอ่ยเสียงแหบ
“สารเลว ไอ้ลูกหมาเว่ยจวินหยาง…...”
เว่ยจวินหยาง : ……
---------------------------------------------------------------------------------------