แม้เย่เฟิงจะใกับประสิทธิภาพของผลเทียนเสวียน แต่กลับไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจสิ่งนี้นัก จุดประสงค์การเดินทางครั้งนี้ของเขาคือผ่านการทดสอบ เพื่อนำยาเม็ดไปรักษาศิษย์พี่ฉู่หาน
“ศิษย์น้องคนนี้ เ้าอยากเข้าหุบเขาเหมือนกันหรือ?” หญิงชุดขาวคนนั้นมองสำรวจเย่เฟิงครู่หนึ่งก่อนกล่าวเช่นนั้น
“ใช่” เย่เฟิงพยักหน้า
“ฮ่า ๆ ๆ เ้าน่ะหรือ?” เมื่อเห็นเย่เฟิงยอมรับว่าจะเข้าหุบเขาเทียนเสวียน หญิงชุดเหลืองอีกคนก็หันมามองด้วยสายตาดูแคลน “อยู่แค่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 ข้าขอแนะนำเ้าให้ล้มเลิกความคิดนี้ไปซะ จะเข้าหุบเขาเทียนเสวียนยังเร็วเกินไปสำหรับเ้า!”
หญิงชุดเหลืองและเย่เฟิงไม่ใช่คนรู้จักกัน แต่นางพูดเกินไป ทำให้เย่เฟิงปรายตามองนางแวบหนึ่งพร้อมยิ้มอย่างเย็นเยียบ แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
“เ้าอย่าไปสนใจเลย ศิษย์น้องข้าคนนี้ก็มีนิสัยแบบนี้แหละ แต่ว่านางก็พูดความจริง” หญิงชุดขาวรีบขอโทษเย่เฟิงทันที
“การปรากฏของผลเทียนเสวียน ทำให้ผู้ฝึกยุทธ์มารวมตัวกันจำนวนมาก คนที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 8 อย่างข้ายังถือว่าอ่อนด้อย แล้วนับประสาอะไรกับเ้าที่อยู่เพียงขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 ที่เพิ่งเข้าสำนัก! คราวก่อนที่ข้าเข้าไปในนั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอด เกือบต้องเอาชีวิตไปทิ้งในนั้น ถ้าครั้งนี้ข้ากับศิษย์น้องไม่มาด้วยกัน ข้าไม่มีทางมาที่นี่เด็ดขาด” ขณะกล่าวหญิงชุดขาวก็เผยสีหน้าหวาดผวาพลางตัวสั่นสะท้านเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความทรงจำเลวร้ายที่เผชิญในหุบเขาเมื่อคราวก่อนจะสลักลึกจนมิอาจลืมเลือนได้
ในมุมมองของคนอื่น พวกนางพูดความจริง แดนทดสอบหุบเขาเทียนเสวียนเป็สถานที่ที่อันตรายอย่างมาก ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ยังไม่กล้ารับประกันเลยว่าจะมีชีวิตรอดออกมาได้หรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 คิดจะเข้าไปก็มีแต่ความตายรออยู่เท่านั้น
นอกจากนี้มีผู้ฝึกยุทธ์มารวมตัวกันที่นี่มากมาย การแข่งขันจึงสูง เย่เฟิงที่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 จึงดูตัวเล็กลงถนัดตา
เย่เฟิงเพียงยิ้มอย่างไม่สนใจสิ่งใด ต่อให้ในนั้นเต็มไปด้วยอันตราย เขาก็ต้องเข้าไปให้ได้
หญิงชุดขาวเห็นเย่เฟิงเงียบ นางก็ไม่พูดอะไร แต่หันไปมองทางอื่น
หญิงชุดเหลืองปรายตามองเย่เฟิงแวบหนึ่งอย่างดูถูกพร้อมกล่าว “ถ้าเ้าอยากเข้าหุบเขา ไปกับข้าสองคนก็ได้ เป็ผู้ติดตามเรา ถึงเวลานั้นเ้าจะได้รับประโยชน์บางส่วน”
อย่างไรก็ตามเย่เฟิงยิ้มจาง ๆ อย่างไม่สนใจ เพราะเขามีจุดประสงค์เดียวในการเดินทางนี้คือผ่านการทดสอบของหุบเขาเทียนเสวียน
นอกหุบเขามีผู้ฝึกยุทธ์ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง และเย่เฟิงยังเห็นคนรู้จักหลายคนที่อยู่ในนั้นด้วย
“ไม่นึกว่าผู้หญิงคนนี้จะมาด้วย” เย่เฟิงหันไปมองเงาร่างหนึ่งที่อยู่ไกลพลางพึมพำในใจ
ฉินเยียนหรานก็มาด้วย อาภรณ์ของนางโบกสะบัดตามแรงลม เผยให้เห็นส่วนโค้งเว้าที่ยั่วยวน สีหน้าของนางยังคงเ็า แต่จู่ ๆ นางมองมาที่เย่เฟิงอย่างไม่ตั้งใจและต้องประหลาดใจ ทว่าเย่เฟิงไม่สนใจสายตานาง เขาละสายตาไปมองเฟิงเฉียนที่อยู่ไม่ไกลจากฉินเยียนหราน ซึ่งน่าจะเรียนรู้ที่น้ำตกเทียนเชี้ยนล้มเหลวจึงมาที่นี่ และอีกฝ่ายก็มองมาทางเย่เฟิงด้วยสายตาเยือกเย็น
นอกจากนี้ เย่เฟิงยังเห็นด้วยว่าโจวมู่ไป๋ก็มาเช่นกัน ซึ่งมีผู้คนห้อมล้อมมากมาย และดึงดูดสายตาอิจฉาจากผู้คนจำนวนไม่น้อย
โจวมู่ไป๋คือนายน้อยแห่งตระกูลโจว ไม่ว่าเดินไปไหนก็ล้วนเป็จุดสนใจของผู้คน ซ่งซินหลิงอยู่ข้างกายโจวมู่ไป๋ ดูเหมาะสมประหนึ่งกิ่งทองใบหยก ซึ่งโจวมู่ไป๋ก็สังเกตเห็นเย่เฟิงที่อยู่ไม่ไกลเช่นกัน จู่ ๆ สีหน้าอึมครึมพลางไอสังหารเยือกเย็นแผ่ออกจากร่าง
“เย่เฟิง” ซ่งซินหลิงเม้มปาก นางกับเย่เฟิงถือว่าเป็สหาย หากไม่เกี่ยวพันกับโจวมู่ไป๋ ซ่งซินหลิงคงเดินไปทักทายเย่เฟิงแล้ว แน่นอนว่าเย่เฟิงก็เห็นซ่งซินหลิงเช่นกัน จึงพยักหน้าพลางยิ้มให้เล็กน้อย โดยไม่สนใจสายตาที่เย็นเยียบของโจวมู่ไป๋
“เย่เฟิง หากเ้าเข้าหุบเขา ข้าสังหารเ้าแน่!” โจวมู่ไป๋กัดฟันพูดด้วยความโกรธ เขาเห็นซ่งซินหลิงกับเย่เฟิงส่งสายตาให้กัน เขาก็ยิ่งโกรธกว่าเดิม
“ศิษย์พี่ ท่านดูสิ ผู้ฝึกยุทธ์เยอะจัง” หญิงชุดเหลืองเผยสีหน้าตื่นตาตื่นใจ เฟิงเฉียน ฉินเยียนหราน และโจวมู่ไป๋ก็อยู่ด้วย ซึ่งล้วนแต่เป็คนที่นางเลื่อมใสศรัทธา แต่ตอนนี้ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้านาง หากบอกว่านางไม่ใจเต้นก็คงโกหก
“อืม มีผู้ฝึกยุทธ์มากันไม่น้อย ส่วนใหญ่จะเป็บุคคลระดับการบ่มเพาะสูง ๆ ของสำนักยุทธ์” หญิงชุดขาวพยักหน้า ดวงตาคู่งามกะพริบปริบ
“ดูทางนั้นสิ คนของตระกูลเฉินก็มากันแล้ว!” จู่ ๆ มีคนพูดขึ้นขณะชี้นิ้วไปยังทิศหนึ่ง ทำให้หลายคนหันไปมองตาม ก่อนจะเห็นคนกลุ่มหนึ่งมาเยือน เป็คนรุ่นเยาว์อายุเฉลี่ย 16-20 ปี ในกลุ่มนี้มีชายหญิงสองคนดูโดดเด่นเป็พิเศษ ชายหล่อเหลา หญิงสวยงดงาม มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนธรรมดา สองคนนี้ก็คือเฉินอ้าวเทียน และหนานกงหลิงซวงว่าที่ภรรยาของเขา
“เฉินอ้าวเทียน! ผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 3 แห่งรายนามขั้นรวมชี่ เขาก็มาที่นี่ด้วย ความดึงดูดของหญ้าเทียนเสวียนร้ายกาจอย่างที่คิดไว้เลย” มีคนหนึ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้น นั่นเป็เพราะบุคคลอย่างเฉินอ้าวเทียนไม่ใช่ว่าทุกคนอยากเจอก็จะได้เจอ
บุคคลมีชื่อเสียงส่วนใหญ่ในสำนักยุทธ์เทียนเสวียนมักจะไม่ค่อยพบเห็น แต่วันนี้ทุกคนได้เจอต่างก็ตาเป็ประกาย เฉินอ้าวเทียนสมกับเป็ผู้ฝึกยุทธ์อันดับที่ 3 แห่งรายนามขั้นรวมชี่ นายน้อยแห่งตระกูลเฉิน เขาไม่ธรรมดาอย่างที่คาดไว้
“ผู้หญิงข้างกายเฉินอ้าวเทียนคือหนานกงหลิงซวงว่าที่ภรรยาเขา หญิงผู้นี้มากพร์ ปลุกิญญาาหงส์ขั้นเขียว เฉิดฉายในการทดสอบของสำนักเมื่อหลายวันก่อน สามพรรคต่างแย่งชิงตัว นางร้ายกาจมาก” มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันทดสอบวันนั้นเอ่ยขึ้นขณะมองหนานกงหลิงซวงด้วยสายตาเลื่อมใสศรัทธา
สตรีมากพร์ ทั้งยังเกิดมางดงามเพียงนี้ วันแรกที่เข้าสำนักก็กลายเป็ขวัญใจของบุรุษนับไม่ถ้วน
ข้างกายเฉินอ้าวเทียนยังมีผู้ฝึกยุทธ์ตระกูลเฉินอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่อยู่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 9 ขึ้นไป
“ศิษย์พี่ ท่านดูนั่นสิ เฉินข่ายก็มากับพวกเฉินอ้าวเทียนด้วย!” ขณะนั้นหญิงชุดเหลืองกล่าวพลางชี้นิ้วไปทางด้านตระกูลเฉินพร้อมทำตาเป็ประกาย ท่าทีของนางแตกต่างกับก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง ราวกับเปลี่ยนไปเป็คนละคน
“อืม” หญิงชุดขาวคนนั้นพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม คล้ายรู้สึกดีใจแทน
“เฉินข่ายตามพวกเฉินอ้าวเทียนมายังหุบเขาเทียนเสวียน จะต้องได้รับความสำคัญจากตระกูลเฉินเป็แน่ ศิษย์น้องดีใจด้วย!” หญิงชุดเหลืองได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มอย่างเบิกบาน เห็นได้ชัดว่าเฉินข่ายผู้นั้นคือคนรักของหญิงชุดเหลือง บัดนี้ได้รับความสำคัญจากตระกูลเฉินและเฉินอ้าวเทียน จึงได้มาเหยียบที่นี่
“แน่อยู่แล้ว เฉินข่ายมากความสามารถ มีผลงานยอดเยี่ยมจนตระกูลเฉินประทานแซ่เฉินให้เขา ภายภาคหน้าต้องประสบความสำเร็จแน่นอน” หญิงชุดเหลืองกล่าวพลางตาทอประกาย นางภูมิใจและรู้สึกโชคดีที่นางกับเฉินข่ายได้ครองคู่กัน
เดิมทีเฉินข่ายไม่ใช่แซ่เฉิน เป็เพียงบุตรของบ่าวรับใช้ตระกูลเฉิน แต่เพราะมีผลงานโดดเด่นจึงได้ใช้แซ่เฉิน สำหรับบ่าวรับใช้ตระกูลเฉินแล้ว นี่ถือว่าเป็เกียรติยศอันรุ่งโรจน์
ในความเป็จริง ตระกูลใหญ่ ๆ ในอาณาจักรจ้าวมักจะมีการมอบแซ่ให้เช่นนี้ ทั้งยังเป็เื่ดีที่จะกระตุ้นบ่าวรับใช้ให้ก้าวหน้า
“เห็นหรือยัง นี่สิยอดฝีมือของจริง เ้าก็เรียนรู้ซะหน่อยสิ!” หญิงชุดเหลืองกล่าวอย่างภาคภูมิขณะมองเย่เฟิงข้าง ๆ
เย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะแค่นหัวเราะพลางมองหญิงชุดสีเหลืองคนนั้นด้วยสายตาเย้ยหยัน เขาเย่เฟิงต้องเรียนรู้จากบ่าวรับใช้ที่ตระกูลเฉินประทานแซ่ให้อย่างนั้นหรือ
“ศิษย์น้อง เ้าหยุดได้แล้ว ประตูหุบเขาใกล้ถึงเวลาเปิด เราไปดูกันเถอะ” หญิงชุดขาวกล่าว จากนั้นก็ยิ้มให้เย่เฟิงซึ่งแฝงความหมายขอโทษ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับหญิงชุดเหลือง
พลันเห็นผู้าุโวัยกลางคนเดินออกจากป้อมทหารยามที่อยู่นอกหุบเขาเทียนเสวียน คนผู้นี้มีกลิ่นอายคลุมเครือ และแฝงด้วยความเกรงขาม
ผู้าุโคนนั้นมองไปรอบ ๆ ก่อนกล่าวว่า “สำหรับการทดสอบของหุบเขาเทียนเสวียน เป็ทั้งโอกาสและประสบการณ์ ทุกคนคงทราบกันดีว่าในนั้นอันตรายเพียงใด หากเข้าไปแล้วก็มีโอกาสรอดน้อยมาก แต่ระหว่างทางเกิดทนไม่ไหวก็สามารถใช้ยันต์เคลื่อนย้ายได้ จากนั้นจะถูกส่งไปที่นอกหุบเขา แต่ข้าขอเตือนพวกเ้า ในหุบเขามีอันตรายมากมายที่คาดไม่ถึง อาจเป็ไปได้สูงที่พวกเ้าจะใช้ยันต์เคลื่อนย้ายไม่ทันการณ์ และตกตายอยู่ในนั้น เพราะงั้นถ้ามีใครเกิดเปลี่ยนใจตอนนี้ ไม่อยากเข้าหุบเขาก็จงถอนตัวเสีย และทางสำนักจะไม่บังคับใครให้เข้าร่วมการทดสอบหุบเขาเทียนเสวียน”
ผู้าุโคนนั้นเผยสีหน้าเคร่งขรึม การที่เขาบอกเกี่ยวกับความอันตรายที่อยู่ในหุบเขาเทียนเสวียน ทำให้คนบางส่วนเกิดลังเลขึ้นมา เพราะไม่อยากไปเสี่ยงชีวิตข้างในนั้น เป็ไปตามคาดหลังจากผู้าุโคนนั้นพูดจบ มีคนจำนวนไม่น้อยเผยสีหน้าสับสนจนสุดท้ายก็ถอนตัวไป เพราะว่าพวกเขาไม่้าเดิมพันชีวิตไว้กับการทดสอบนี้
“ตอนนี้ยังถอนตัวทันนะ ผู้าุโให้โอกาสขนาดนี้ เ้าไปเสียเถอะ!” เมื่อเห็นคนจำนวนมากไม่เชื่อมั่นพลังตนและถอนตัวไม่เข้าหุบเขา หญิงชุดเหลืองก็อดหันไปมองเย่เฟิงไม่ได้ ในสายตานาง เย่เฟิงอยู่แค่ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 6 เป็เพียงคนไร้ความสามารถที่ปะปนอยู่ในฝูงคนอัจฉริยะ
เย่เฟิงมองหญิงชุดเหลืองคนนั้นด้วยสายตาเย็นเยียบ เขาอดกลั้นอดทน แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะเยาะครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเย่เฟิงก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูน เพียงแต่เขาไม่อยากถกเถียงกับคนที่มองการณ์ตื้นเขินอย่างหญิงชุดเหลืองคนนี้
“จะเข้าหุบเขาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับข้า ไม่ใช่เื่ที่เ้าจะมาชี้นิ้วสั่งได้” เย่เฟิงกล่าวพลางยิ้มเย็นเยือก หญิงชุดเหลืองคนนี้โอหังมาก คิดเองเออเองว่าเย่เฟิงด้อยกว่านาง
“ฮ่า ๆ ๆ” หญิงชุดเหลืองแค่นเสียงหัวเราะ อย่างไรเสียเฉินข่ายคนรักของนางก็คือผู้ฝึกยุทธ์ขั้นบ่มเพาะกายาที่ 9 ได้รับความสำคัญจากตระกูลเฉิน มีอนาคตที่สดใส จะสนใจคนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำต้อยอย่างเย่เฟิงไปทำไมกัน!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้