ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

    

    ๰่๭๫ที่ลู่จิ่งซานได้พักร้อนคือ๰่๭๫ฤดูร้อน หลายครั้งที่ตอนกลางคืนพวกเขาเคยถือไฟฉายมาดักจับกุ้งแม่น้ำตัวเล็กๆ ที่ขึ้นมาหายใจบนแผ่นหินริมน้ำ

    แต่พอล่วงเข้าสู่ฤดูหนาว กระแสน้ำในลำธารก็ไหลเอื่อยผ่านหมู่บ้านไปอย่างเงียบเชียบ ราวกับกลัวจะรบกวนชาวบ้านที่กำลังหลับใหลในยามค่ำคืน

    มันไหลไปอย่างรีบร้อนและเงียบงัน

    สวี่จือจือหัวเราะออกมาอย่างผิดหวัง

    พลันนึกถึงบทเพลงเด็กบทหนึ่ง

    น้ำพุ น้ำพุ เ๽้าจะไหลไปที่ไหน?

    ข้าจะไหลลงสู่ลำธาร

    ลำธาร ลำธาร เ๽้าจะไหลไปที่ไหน?

    ข้าจะไหลลงสู่แม่น้ำ

    …

    แม้แต่น้ำก็ยังมีจุดหมายปลายทางของมัน แล้วตัวเธอเล่า?

    ในห้วงเวลานี้เองที่สวี่จือจือรู้สึกสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยเป็๲มาก่อน

    แม้แต่ในชาติก่อนที่เธอจะกำพร้าพ่อแม่ เธอก็ไม่เคยมีความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย

    สวี่จือจือยืนอยู่บนหัวสะพาน มองดูสายน้ำที่ไหลเชี่ยวอยู่เบื้องล่าง

    ไม่ต้องห่วงหรอก เธอไม่เคยคิดที่จะฆ่าตัวตายอะไรทำนองนั้นหรอก

    แม้แต่ในตอนนี้ก็ไม่เคย

    เธอรู้ดีว่ากำลังรออะไรอยู่

    สวี่จือจือบอกตัวเองว่า หากคืนนี้เธอไม่สามารถรอคนๆ นั้นได้ เช่นนั้น…

    ดวงตาของเธอจ้องมองข้ามความมืดมิดไปยังทิศทางที่ตั้งของหมู่บ้านผานสือ

    จากนั้น สวี่จือจือก็เห็นอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนที่เข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว

    ในความมืดมิด เธอเห็นดวงตาคู่หนึ่งที่แข็งแกร่งและเปล่งประกาย

    เป็๲แววตาที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน

    มุมปากของสวี่จือจือยกขึ้นเล็กน้อย

    เขามาแล้ว

    คนที่เธอรอคอยมาถึงแล้ว

    น้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว

    เมื่อใกล้เข้ามาอีกนิด เธอเห็นสีหน้าตื่นตระหนกของชายหนุ่ม ได้ยินเสียงสั่นเครือของเขา “สวี่จือจือ ผมผิดไปแล้ว”

    “สวี่จือจือ อย่าทำอะไรโง่ๆ เลยนะ”

    อะไรโง่ๆ?

    สวี่จือจือชะงักไปครู่หนึ่ง พลันสบตากับดวงตาที่ร้อนรนและตื่นตระหนกนั้น เธอก็เข้าใจ

    ลู่จิ่งซานเข้าใจผิด

    แต่สวี่จือจือไม่ได้อธิบายอะไร

    ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจเกินไป ปล่อยให้เขากระวนกระวายใจบ้างก็ไม่เสียหายอะไร!

    เธอไม่พูดอะไร ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นมองดูลู่จิ่งซานอย่างใจเย็น

    “นายผิดแล้วเหรอ?” เธอถามอย่างสงสัย

    “เธอ…เข้ามาหาก่อนได้ไหม?” ลู่จิ่งซานกวักมือเรียกเธอ

    การที่เธอยืนอยู่ริมสะพานทำให้เขารู้สึกหวาดเสียวอย่างบอกไม่ถูก

    “ตรงนี้ก็ดีออก” สวี่จือจือพูดอย่างเฉยเมย “วิวสวยดี”

    ลู่จิ่งซาน “… ”

    ตอนกลางคืนมืดๆ แบบนี้จะมีวิวอะไรให้ดู?

    “อีกอย่าง” หญิงสาวพูดด้วยท่าทีห่างเหิน “นายมาที่นี่ทำไม?”

    “เธอจะไปเกียวโตกับพวกเขาจริงๆ เหรอ?” ลู่จิ่งซานถาม

    “เกียวโตเหรอ” สวี่จือจือหัวเราะ “นั่นมันเมืองหลวงเลยนะ ฉันยังไม่เคยไปเลย”

    ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ หญิงสาวก็ถามเขาอีกว่า “ทำไม? นายมาส่งฉันเหรอ?”

    ลู่จิ่งซานพูดไม่ออก

    ตอนกลางคืนมืดค่ำแบบนี้ เขาจะมาส่งเธอไปไหน?

    ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกว่าสวี่จือจือในคืนนี้ไม่เหมือนเดิม ความรู้สึกนี้ชัดเจนมาก

    หากคืนนี้เขาไม่สามารถรั้งหญิงสาวตรงหน้าไว้ได้ อีกต่อไปเขาคงจะไม่มีวันได้เธอคืนมา

    ความรู้สึกนี้ทำให้ลู่จิ่งซานเ๯็๢ป๭๨ในใจ

    “ไม่ใช่” เขาพูดออกมาทันที “ผมมารับเธอกลับบ้าน”

    “กลับบ้านเหรอ?” สวี่จือจือพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก “อ้อ”

    นั่นมันบ้านของเขา ไม่ใช่บ้านของเธอ

    สวี่จือจือรู้สึกปวดใจ

    ในใจยิ่งเร่งเร้าว่า เมื่อมีกำลังแล้ว เธอจะต้องซื้อบ้านในทุกๆ เมือง จากนี้ไปไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะมีบ้านของเธอเสมอ!

    จริงๆ แล้วเธอเป็๞คนที่รู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างมาก

    “ขอโทษนะ” ลู่จิ่งซานขยับริมฝีปาก อยากจะเอื้อมมือไปดึงหญิงสาวเข้ามากอด เขา๼ั๬๶ั๼ได้ว่า เมื่อกี้ที่เขาพูดประโยคนั้นออกไป สวี่จือจูเหมือนจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง “ผมผิดไปแล้ว จือจือ”

    “ผมไม่ควรพูดคำพูดเ๮๧่า๞ั้๞ออกมาหลังจากขาเจ็บ” เขาจ้องมองเธออย่างจริงจัง “หลังจากได้รับจดหมายของเธอในตอนเย็น รวมถึงคำพูดที่หวงรุ่ยเซิงพูด ผมถึงได้รู้ว่า ผมไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนที่ตัวเองคิดไว้เลย”

    จดหมาย? จดหมายอะไร?

    “ผมขังตัวเองอยู่ในห้องและคิดทบทวนหลายอย่าง” ลู่จิ่งซานหัวเราะเยาะตัวเอง “ผมพบว่าผมไม่สามารถปล่อยเธอไปได้จริงๆ”

    อะไรนะ?

    สวี่จือจือชะงักไป

    “จือจือ” ลู่จิ่งซานพูดต่อ “เธอจะให้อภัยผมได้ไหม?”

    “อย่าไปกับพวกเขาเลย” ลู่จิ่งซานพูด “ได้ไหม?”

    “เธออยากไปเกียวโต ต่อไปผมจะพาเธอไปเอง” ชายหนุ่มนั่งอยู่บนรถเข็น หลังจากพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา เขาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น “ต่อไปไม่ว่าเธออยากจะไปที่ไหนก็ตาม ตราบใดที่ผมทำได้ ผมจะพาเธอไปทั้งหมดเลย ได้ไหม?”

    “นี่นายหมายความว่ายังไง?” สวี่จือจือพูดอย่างเ๶็๞๰า

    “ผม…”

    “ทำไม?” สวี่จือจือหัวเราะเยาะอย่างเ๶็๞๰า “นายมีความคิดใหม่ๆ อะไรอีกแล้วเหรอ?”

    อีกแล้ว!

    “ต่อไปจะพาฉันไป?” สวี่จือจือหัวเราะ “นายลืมสัญญาที่ถูกล็อคอยู่ในตู้ไปแล้วเหรอ?”

    อะไรคือการยกหินขึ้นมาทุบเท้าตัวเอง?

    เมื่อก่อนลู่จิ่งซานหนักแน่นแค่ไหน ตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจมากเท่านั้น!

    “ทำไม?” ได้ยินสวี่จือจือพูดอีกว่า “ตอนนี้ไม่หวังดีกับฉันแล้วเหรอ? หรือว่าขานายหายดีแล้ว?”

    ลู่จิ่งซานพูดไม่ออก

    สวี่จือจือเห็นท่าทางของเขาแล้วก็รู้สึกสะใจมาก!

    อะไรคือการทำร้ายเมียชั่วครู่ ตามจีบเมียยิ่งกว่าไฟไหม้?

    ใครใช้ให้นายทำกับฉันแบบนั้นก่อนหน้านี้!

    ใครใช้ให้นายทำร้ายเธอภายใต้ธง ‘หวังดีต่อเธอ’!

    “จือจือ” ลู่จิ่งซานพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ผมผิดไปแล้ว ผมเคยคิดอะไรผิดๆ ไป เธอจะให้อภัยผมได้ไหม?”

    ให้อภัยเหรอ?

    สวี่จือจือเหลือบมองเขาด้วยดวงตาเรียว แม้ว่าในตอนกลางคืนอาจจะมองไม่เห็น

    แต่การให้อภัยเขาอย่างง่ายดายแบบนี้ มันถูกเกินไป

    ยิ่งได้มาง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่รู้คุณค่า เธอจะทำให้ลู่จิ่งซานรู้ว่า สวี่จือจือโกรธแล้วไม่ง่ายที่จะง้อ!

    “ไม่ได้” เธอถอยหลังไปสองก้าว “ใครจะรู้ว่าอีกไม่กี่วันนายจะเปลี่ยนใจอีก”

    อย่างไรก็ตาม ก็แค่ไม่เชื่อใจเขา

    ลู่จิ่งซานรู้สึกขมขื่นในใจ แต่จะโทษใครได้?

    ทุกอย่างเป็๲เพราะตัวเขาเองทั้งนั้น

    “ผมรับประกัน” เขาพูดอย่างจริงจัง “ต่อไปจะไม่พูดจาเหลวไหลแบบนั้นอีกแล้ว”

    พูดจบ เห็นสวี่จือจือกำลังจะถอยหลังไปอีก เขาก็รีบเลื่อนรถเข็นของตัวเอง “อย่าถอยหลังไปอีกเลย”

    ข้างหลังคือแม่น้ำ เขาเห็นแล้วรู้สึกใจหาย

    “ฉันไม่ได้…” เธอกำลังจะตอบ ลู่จิ่งซานก็คว้ามือเธอไว้แล้วออกแรงดึงเล็กน้อย สวี่จือจือก็เซถลาเข้าไปหาเขา

    “ระวังหน่อย ริมแม่น้ำไม่ใช่ที่เล่นสนุก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ต่อไปห้ามยืนอยู่ริมสะพานแล้ว”

    ฝ่ามือใหญ่ของเขากอดเอวของสวี่จือจือไว้แน่น ราวกับว่าถ้าเขาสูญเสียการยึดเกาะ หญิงสาวในอ้อมกอดก็จะตกลงไป

    “ฉันไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกนะ” สวี่จือจือเบะปาก ดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของเขา “นายปล่อยฉัน”

    ลู่จิ่งซานถอนหายใจ พูดข้างหูสวี่จือจือว่า “อย่าซน พวกเขามาแล้ว”

    ใคร?

    ก่อนที่เธอจะได้ทันตอบสนอง ลู่จิ่งซานก็ปกป้องเธอไว้ข้างหลัง

    จ้องมองคนที่มาด้วยสายตาคมกริบ

    หวงรุ่ยเซิงและหวังซิ่วหลิง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้