ดึงดูดความสนใจของต่งชิงหว่านมาได้ตามคาดนางเดินไปตรงหน้าซูเฟยซื่อ “เอาออกมาดูเถิด”
ซูเฟยซื่อฉวยโอกาสโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูต่งชิงหว่านว่า“คุณหนูต่งทราบประวัติความเป็มาของปิ่นมุกบุปผชาตินี้หรือไม่เ้าคะ?”
เห็นต่งชิงหว่านมุ่นคิ้วแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่รู้ความซูเฟยซื่อกล่าวต่อไปว่า "ปิ่นมุกบุปผชาตินี้เป็ท่านอ๋องสมญานามพระเก้าพันปีประทานให้ยามยินดีชั่วขณะคุณหนูต่งยังคิดปักไว้หรือ? มิสู้ดูอันที่อยู่ในมือข้านี้มิดีกว่าหรือเ้าค่ะ?”
กล่าวจบ ซูเฟยซื่อนำปิ่นมุกบุปผชาติธรรมดาอันนั้นที่แลกมาจากในมือของซูจิ้งเถียนเมื่อวานนี้ออกมา
ปิ่นมุกบุปผชาติอันนั้นถึงกับเป็ของประทานจากอวี้เสวียนจีหรือ?
อวี้เสวียนจี กล่าวให้น่าฟัง เขาเป็ถึงท่านอ๋องสมญานามพระเก้าพันปี กล่าวให้ไม่น่าฟัง ก็เป็แค่ขันทีคนหนึ่ง สวมใส่ปักปิ่นมุกบุปผชาติที่ขันทีประทานให้นี่...
ในใจต่งชิงหว่านต่อให้ชื่นชอบปิ่นมุกบุปผชาตินั่นเท่าใด ก็ไม่สามารถข้ามร่องหลุมในใจไปได้
ต่งชิงหว่านลังเลสักพัก “เ้ามีหลักฐานชี้ชัดว่าวาจารอบนี้ของเ้าไม่ได้โกหกข้า?”
"หากคุณหนูต่งไม่เชื่อ สามารถไปถามที่วัดจิ้งิ่ดูก็จะทราบในทันที”ซูเฟยซื่อหยักยกริมฝีปากน้อยๆ
ยามนี้สายตาของทุกคนต่างตกอยู่บนร่างสตรีทั้งสองไม่รู้ว่าที่แท้ซูเฟยซื่อกำลังอุบเื่สำคัญสร้างสถานการณ์อะไรหลอกล่ออีกฝ่าย ไม่เพียงแต่ลากต่งชิงหว่านไปด้านข้าง ทั้งยังจงใจพูดจาเสียงเบาขนาดนั้น
ซูเต๋อเหยียนยิ่งเครียดจนเอาตัวแทบไม่รอด ซูเฟยซื่อ?เขาแทบจะจำบุตรสาวคนนี้ไม่ได้แล้ว
เป็เวลานี้ที่ จู่ๆ ต่งชิงหว่านก็รับปิ่นมุกบุปผชาติจากในมือของซูเฟยซื่อไว้“ในเมื่อคุณหนูสามมีใจให้ปิ่นมุกบุปผชาติอันนี้แก่ข้าอย่างจริงใจ ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะรับไว้ ส่วนปิ่นมุกบุปผชาติแก้วเจ็ดสีอันนั้นสุภาพสตรีก็ไม่แย่งชิงสิ่งที่ผู้อื่นชื่นชอบแล้ว”
สุภาพสตรี? วาจาประโยคนี้กล่าวออกจากปากต่งชิงหว่านถือเป็การแดกดันประชดจริงๆ
แต่ตอนนี้ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้ขอเพียงต่งชิงหว่านไม่ยึดติดกับปิ่นมุกบุปผชาติอันนั้น พวกเขาก็ล้วนขอบคุณฟ้าดินแล้ว
ซูเต๋อเหยียนเหลือบมองต่งจิ้งอย่างระมัดระวัง“ในเมื่อคุณหนูต่งเลือกปิ่นมุกบุปผชาติที่ถูกใจได้แล้ว ไม่ทราบว่าใต้เท้าต่งยังสนใจไปดื่มชาในห้องโถงด้านหน้าหรือไม่? ข้ามีชาหลงจิ่งก่อนหน้าฝนชั้นเยี่ยมด้วยขอรับ”
บุตรสาวมีความสุข เขาก็ย่อมมีความสุขต่งจิ้งพยักหน้าตอบรับ “ถ้าเช่นนั้นก็เชิญอัครมหาเสนาบดีซูนำทางเถิด”
ความหมายของวาจานี้หมายถึงว่ามีเื่คุยกันได้แล้ว
ซูเต๋อเหยียนถอนหายใจโล่งอกมองซูเฟยซื่ออย่างชื่นชมคราหนึ่ง ก็นำต่งจิ้งเดินไปยังห้องโถงด้านหน้า นางแซ่หลี่ตามหลังพวกเขาไป ทว่าสายตาคู่นั้นกลับจ้องมองซูเฟยซื่อไว้ตลอด
เื่วันนี้เป็ความผิดพลาดของนางแล้วจริงๆเดิมคิดให้ซูเฟยซื่อทำขายหน้าต่อหน้าซูเต๋อเหยียน ไม่ได้คาดหวังให้ซูเฟยซื่อออกหน้าเป็จุดเด่นเช่นนี้
ตอนนี้ซูเต๋อเหยียนได้สนใจซูเฟยซื่อแล้ว หากจะกำจัดนางอีกก็คงไม่ง่าย
“ใช่แล้ว” จู่ๆ ต่งชิงหว่านที่กำลังจะเดินออกไปก็หันกลับไปมองซูเฟยซื่อ“อีกไม่กี่วันก็เป็พิธีชุมนุมแข่งม้า คุณหนูสามมาด้วยกันเถิด”
ทันทีที่วาจาออกจากปาก นางแซ่หลี่กับคุณหนูตระกูลซูสองคนพลันสูดอากาศเย็นเฮือกหนึ่ง
พิธีชุมนุมแข่งม้า เป็การแข่งขันวิทยายุทธ์การขี่ม้าที่จัดไว้เพื่อขุนนางชั้นสูงโดยเฉพาะบรรดาคุณชายผู้สูงศักดิ์ขุนนางในเมืองหลวงต่างมาเข้าร่วม ไม่เพียงเท่านี้ท่านอ๋องกับฮ่องเต้ก็ร่วมเดินทางมาถึงสนามด้วย
ใน่เวลานี้ทุกปีบรรดาหญิงสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือนในเมืองหลวงต่างมาชมพิธีการชุมนุมแข่งม้ากล่าวให้น่าฟังคือมาสังสรรค์รื่นเริง ทว่ากล่าวอย่างโจ่งแจ้งแล้วย่อมหมายถึงการเลือกบุตรเขย
หากเป็ที่ต้องตาต้องใจฮ่องเต้หรือท่านอ๋องย่อมเป็สิ่งที่ดีที่สุด หรือแม้จะไม่มีฮ่องเต้หรือท่านอ๋องต้องตา แต่ถ้าได้สมรสกับคุณชายผู้สูงศักดิ์หรือขุนนางก็นับว่าวาสนาไม่เลวแล้ว
ตามเหตุผลดังกล่าว การร่วมพิธีชุมนุมแบบนี้ นางแซ่หลี่ต้องไม่พาซูเฟยซื่อไปเด็ดขาด แต่ตอนนี้ต่งชิงหว่านได้เอ่ยปากชวนด้วยตนเอง นางยังสามารถไม่พาไปด้วยได้หรือ?
“ขอบคุณคุณหนูต่งที่เชิญชวน เฟยซื่อต้องไปตามนัดหมายแน่นอน”ซูเฟยซื่อยิ้มขอบคุณต่งชิงหว่านทันที
กล่าวไปแล้วนับว่าสำหรับนางเป็ผลประโยชน์ที่ได้รับโดยบังเอิญเดิมทีนางเพียงคิดใช้โอกาสนี้เพื่อให้ซูเต๋อเหยียนสนใจในตนเองเท่านั้น ไม่คิดว่าต่งชิงหว่านจะถึงกับเชิญนางไปร่วมพิธีชุมนุมการแข่งม้า
พิธีชุมนุมการแข่งม้า นางเคยได้เข้าร่วมเป็เพื่อนซ่งหลิงซิวมาหลายครั้งแต่ไม่มีครั้งไหนที่เครียดและตื่นเต้นเหมือนครั้งนี้
ซ่งหลิงซิว ในที่สุดเราก็จะได้พบกันอีกแล้ว
ต่งชิงหว่านพึงพอใจที่ได้รับปิ่นมุกบุปผชาติแล้วเื่ที่ซูเต๋อเหยียน้าพูดคุยย่อมเจรจาได้ราบรื่น
เขาที่อารมณ์ครื้นเครงมีความสุขมาก หลังจากส่งต่งจิ้งพ่อลูกกลับไปก็รีบมาเรือนของซูเฟยซื่อทันที แต่ซูเฟยซื่อก็ดูเหมือนจะคำนวณไว้อย่างแม่นยำแล้วเหมือนกันแม้แต่น้ำชาก็สั่งให้บ่าวไพร่ชงเตรียมเสร็จแล้ว
“ซูเฟยซื่อ เฟยซื่อ” ซูเต๋อเหยียนท่องชื่อของซูเฟยซื่อเบาๆราวกับ้าท่องชื่อแปลกๆ ไม่คุ้นลิ้นนี้ให้คุ้นเคย
“ถ้าท่านพ่อมีเื่อะไรสั่งการได้เต็มที่เลยเ้าค่ะ” ซูเฟยซื่อย่อมรู้เจตนาที่เขามาที่นี่ ไม่คิดอุบเื่ให้กังวล
ซูเต๋อเหยียนเห็นนางพูดตรงๆ ก็หัวเราะลั่นให้รู้แล้วรู้รอด“ไม่มีเื่อะไรหรอก พ่อแค่สงสัยว่าเ้าพูดอะไรกับต่งชิงหว่านกัน?”
ซูเฟยซื่อแกล้งแลบลิ้นอย่างซุกซน “ความลับน้อยๆ ระหว่างเด็กผู้หญิงเช่นนี้ ไหนเลยจะสามารถกล่าวกับท่านพ่อได้เ้าค่ะ”
“ฮ่าๆ ๆ” ซูเต๋อเหยียนอารมณ์ดี ดังนั้นอะไรก็ดูดีไปหมด“เอาเถิด วันนี้เ้าจัดการเื่นี้ได้ดีมาก พ่อจำได้ว่าต่งชิงหว่านเอาปิ่นมุกบุปผชาติของเ้าไป เมื่อเร็วๆ นี้ พอดีมีคนส่งปิ่นมุกบุปผชาติที่ทำจากทองแท้มาอันหนึ่งเซียงเอ๋อร์กับเถียนเอ๋อร์ยังไม่เคยเห็นมาก่อน วันนี้ก็ให้เ้าแล้ว”
“ขอบคุณท่านพ่อเ้าค่ะ” ซูเฟยซื่อน้อมคำนับด้วยความซาบซึ้ง
ท่าทีอ่อนโยนเชื่อฟังแทบได้ใจส่วนลึกของซูเต๋อเหยียนไป เขางุนงงสงสัยว่าทำไมเมื่อก่อนตนไม่ได้สังเกตเห็นบุตรสาวคนนี้มาก่อน
ไม่นานหลังจากซูเต๋อเหยียนจากไปพ่อบ้านก็นำปิ่นมุกบุปผชาติทองคำมามอบให้
ซูเฟยซื่อเล่นปิ่นมุกบุปผชาติในมือคลื่นซ่อนเร้นในดวงตากระเพื่อมไหว
วันนี้นางแสดงตัวโดดเด่นในงานเลี้ยงครอบครัวตอนนี้ได้รับรางวัลเช่นนี้จากซูเต๋อเหยียนอีก กลัวว่านางแซ่หลี่กับสองพี่น้องตระกูลซูจะมาหาเื่นางในเร็วๆนี้แล้ว
ไม่... นางแซ่หลี่ไม่น่าโง่พอจนลงมือด้วยตัวเองยิ่งมิอาจตัดใจให้ซูจิ้งเถียนมาได้ ดังนั้นคนที่มาคงเป็เพียงซูจิ้งเซียงซึ่งถูกคนยึดใช้ต่างเกราะกันะุเท่านั้น
“คุณหนูสาม วันนี้ท่านร้ายกาจมากเ้าค่ะ แม้แต่คุณหนูต่งซึ่งเป็คนอันธพาลเช่นนั้นยังสามารถปราบไว้ได้” หยานเอ๋อร์เดินเข้ามากล่าวชมเชย
ซูเฟยซื่อเพียงยิ้มบางๆ “ไม่ใช่ว่าข้าร้ายกาจ แต่เป็คุณหนูต่งไว้หน้าจวนอัครมหาเสนาบดีต่างหากเล่า”
“คุณหนูสามเจียมเนื้อเจียมตัวจริงๆ สถานการณ์นี้ในวันนี้ทุกคนต่างประจักษ์ชัดเจนว่าเป็คุณหนูสามพูดหว่านล้อมจนคุณหนูต่งยอมแล้ว”
หยานเอ๋อร์กลอกตา“บ่าวเพียงแต่ฉงนอยู่บ้าง ที่แท้ท่านกล่าวอะไรกับคุณหนูต่งหรือเ้าคะ?”
คิดว่าวาจานี้ย่อมต้องเป็แม่ใหญ่ใช้ให้มาซักถามประกายในดวงตาซูเฟยสว่างวาบแล้ววูบดับ “ข้าเหนื่อยนิดหน่อย พวกเ้าล้วนออกไปให้หมดเถิด”
"หา? นี่...” หยานเอ๋อร์ยังคิดถามต่อ แต่กลับถูกซางจื่อขัดจังหวะ
“เ้าดูแลคุณหนูอย่างไรกัน คุณหนูบอกเหนื่อยแล้วไม่ได้ยินหรือ?”
หยานเอ๋อร์ถูกซางจื่อดุในทันใดดวงหน้าเล็กจ้อยก็อดกลั้นจนแดงก่ำแล้ว “ถ้าเช่นนั้น... คุณหนูสาม ท่านพักผ่อนเถิด บ่าวออกไปก่อนแล้วเ้าค่ะ”
ได้เห็นหยานเอ๋อร์เดินไปไกล ซางจื่อจึงเอ่ยปาก“คุณหนูคาดคะเนเื่ราวดุจเทพเ้าทำนาย บ่าวขอศิโรราบเพียงแต่ความคมกริบของท่านในวันนี้เจิดจรัสเกินไปหรือไม่เ้าค่ะ บ่าวเห็นประกายตาของนายหญิงแล้ว.. พิธีชุมนุมการแข่งม้า คุณหนูยังคงระมัดระวังตัวไว้จะดีกว่าเ้าค่ะ”
“อืม เื่นี้เ้าทำได้ดีมากเื่พิธีชุมนุมการแข่งม้าข้ามีแผนการตระเตรียมไว้แล้ว ขอเพียงเ้าช่วยเฝ้านางแซ่หลี่ให้ข้าอย่างใกล้ชิด หากมีการเคลื่อนไหวก็ให้รายงานข้าทันที” ซูเฟยซื่อเก็บปิ่นมุกทองบุปผชาติกลับไว้ในกล่องเครื่องประดับผลักกล่องเครื่องประดับไปยังทิศทางของซางจื่ออีกทันที “ปิ่นมุกทองบุปผชาตินี้เป็รางวัลแก่เ้าแล้ว”
ซางจื่ออ้าปากหวอด้วยความประหลาดใจระคนใ ฐานะของซูเฟยซื่อ นางย่อมรู้ดี คุณหนูเกิดแต่อนุ เติบโตขึ้นโดยผ่านความยากจนมาโดยตลอด ต่อให้นางจะไม่ถูกปิ่นมุกทองบุปผชาติขับเคลื่อนให้หวั่นไหวได้ แต่ก็ไม่ควรมือเติบใช้จ่ายเช่นนี้ด้วย