ราชสีห์หิรัณย์รีบคลานขึ้นมาแล้วพูดด้วยความร้อนใจ “ข้าขอพูดหน่อย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็เคยช่วยชีวิตท่านไว้ ท่านโปรดพาข้าไปด้วย…” ขณะที่พูด ราชสีห์หิรัณย์ก็เดินตามหลังหลงเหยียน เมื่อครู่เหลือลมหายใจรวยริน ทว่าตอนนี้ดูเหมือนอาการของมันดีขึ้นมากโข
“สิงโตน้อย เ้าหิวแล้วมิใช่หรือ ยังเหลือเวลาอีกสองวัน ข้าจะใช้โอกาสนี้สังหารปีศาจอสูร ดูดโลหิตพวกมัน ส่วนเ้าก็กลืนพลังของพวกมัน พวกเราทั้งสองเป็สหายร่วมเป็ร่วมตายไปด้วยกัน”
“ย่อมได้ ทว่าข้าเป็สัตว์เทพอายุหมื่นปี บัดนี้เป็สหายท่าน ข้าอายุมากกว่าปู่ของปู่ของปู่ท่านเสียอีก ท่านไม่รู้สึกน่าขันหรือ?”
หลงเหยียนหันมาหัวเราะฮึๆ จากนั้นก็รีบใช้มือจับหูของมัน “หืม? ในเมื่อเ้าไม่อยากเป็สหายกับข้า เช่นนั้นก็เป็ลูกน้องข้าดีหรือไม่” ขณะที่พูดเขาก็ออกแรงดึง
“โอ๊ย! เจ็บนะ…”
…
ไม่นานพวกเขาสองคนก็มาปรากฏตัวที่จวนตระกูลเซียว หลงเหยียนยืนอยู่ประตูหลัง เวลานี้ท้องฟ้าเป็สีเหลืองส้ม หลังจวนเป็ที่หวงห้ามของตระกูลเซียว สามารถบอกได้ว่าคนส่วนใหญ่ไม่มีผู้ใดเข้าทางประตูหลังนอกจากคนที่ติดต่อกันอย่างลับๆ ล่อๆ หากคนตระกูลเซียวเจอหลงเหยียนในเวลานี้ พวกเขาต้องดีใจมากแน่ โดยเฉพาะเซียวหยุนเหว่ย เพราะคงไม่มีใครเห็นพวกเขาสังหารหลงเหยียน
เขายังอยากฆ่าหลงเหยียนในฝันแม้กระทั่งในเวลาหลับ หลงเหยียนกลืนยาซ่อนิญญา ส่วนราชสีห์หิรัณย์ถูกหลงเหยียนจับใส่ในถุงผ้าเฉียนคุน เขาเงยหน้าขึ้นไปมองกำแพงสูงครู่หนึ่ง วิ่งหลายก้าวก่อนทะยานตัวขึ้น ใช้เท้าเหยียบส่งตัวขึ้นไปตามกำแพง เพียงไม่กี่ก้าวก็ะโลงในจวนตระกูลเซียว เขาเก็บกลิ่นอาย แม้จะกลืนยาซ่อนิญญาแล้วก็ไม่กล้าประมาท หากเจอเซียวหยุนเหว่ย เช่นนั้นหลงเหยียนคงต้องตายสถานเดียว
ตอนนี้เขายังมีพลังปราณไม่มากพอ โลหิตที่เก็บไว้ในหินวิเศษก็ถูกเอาออกมาใช้เยอะมากแล้ว…
“พี่เหยียน พวกเราเข้าไปหาแบบนี้จะดีหรือ!”
“วางใจเถอะ ข้ามีคนที่เหมาะสมแล้ว…” เื่ของกระบี่สังหารัที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เกรงว่าคงมีแค่พี่น้องตระกูลเซียวที่มีอำนาจเท่านั้นที่รู้ เซียวหยุนเหว่ย เซียวเหลิงเอ้าและก็คงเป็เซียวมั่วเหยียน
เมื่อนึกถึงเซียวเหลิงเอ้าที่ไม่เอาไหน หลงเหยียนก็ยกมุมปากขึ้น ปล่อยพลังจิตออกไป จากนั้นก็ล็อกเป้าหมายแล้วเก็บพลังจิตกลับมา เพราะในสวนดอกไม้ที่ห่างจากประตูหลังไม่ไกล หลงเหยียนเห็นคนสองคนกำลังฟัดกลิ้งกันบนพื้น
เป็สตรีและบุรุษอย่างที่คิด ทำงานโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เกรงว่าตอนนี้พวกเขาคงไม่หยุดหรอกกระมัง สตรีผู้นั้นเปลือยเรือนร่าง ปรากฏให้เห็นทุกสัดส่วนบนร่างกาย ส่วนบุรุษนั้นสวมเสื้อคลุมเอาไว้ ร่างสั่นไปทั่วทั้งตัว ครั้งสุดท้ายก็เสร็จสิ้นในที่สุด บุรุษเงยหน้าขึ้น เผยให้เห็นความพลุ่งพล่านในตัว ส่วนตรงกลางอกของเขาเป็สตรีผิวผ่องใส ทิ้งตัวอยู่กลางอกของเขาคล้ายหมดเรี่ยวแรง
“พี่เหลิงเอ้า ข้า…”
“กงเซวี่ย เ้าวางใจเถิด ข้าต้องรีบบอกน้องสามให้เขาเห็นด้วยกับงานแต่งของเรา รอหลังจากจัดการเื่ตระกูลหลงเสร็จแล้วก็คืองานแต่งของเราสองคน เ้ารีบกลับไปเถอะ ไม่อย่างนั้น หากนางเฒ่าอู่หยามาเจอเ้า นางต้องลงโทษเ้าแน่”
ขณะที่พวกเขาสองคนกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ไป๋กงเซวี่ย ศิษย์สำนักบงกชมารก็ผละออกจากกลางอกเซียวเหลิงเอ้า กำลังจะหนีออกทางประตูหลัง ทันใดนั้น ดวงตาของทั้งสองก็เบิกโพลงทันที
พวกเขาเห็นหลงเหยียนที่ซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้เงียบๆ ห่างจากพวกเขาแค่สามเมตรเท่านั้น…
หญิงสาวอ้าปากค้างด้วยความใ กำลังจะส่งเสียงร้อง ทว่ากลับถูกเซียวเหลิงเอ้าเดินเข้ามาปิดปาก ขณะนั้นเอง หลงเหยียนรีบพุ่งมาตรงหน้าเซียวเหลิงเอ้าพร้อมใช้มีดเงาโลหิตจี้คอเขาทันที
“ฮึๆ มองจนข้าเริ่มมีอารมณ์แล้วเนี่ย เกือบควบคุมไม่อยู่ เป็อย่างไรบ้าง รู้สึกดีมากหรือไม่?”
ราชสีห์หิรัณย์ที่ซ่อนตัวอยู่ในถุงผ้าเฉียนคุนโผล่หัวออกมา แสดงเขี้ยวออกมาให้เห็น
“หลง หลงเหยียน เ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ใจกล้าเกินไปแล้ว”
หลงเหยียนยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่หรอกๆ หากเทียบกับเ้าแล้ว ข้ายังกล้าไม่เท่าเ้าเลย ที่นี่ห่างจากตำหนักของพวกเ้าไม่ไกลนัก จังหวะการโยกย้ายของพวกเ้ารวมกับท่าทางเ้าเมื่อครู่ ดูเหมือนเ้าคงหมดแรงออกศึกแล้วกระมัง”
“หลงเหยียน นี่เ้า พวกเรารักกันด้วยใจจริง… ต่อให้ท่านผู้นำจะรู้เื่นี้ก็ไม่มีทางทำอะไรข้าหรอก?”
หลงเหยียนชกที่ท้องน้อยของเขา เซียวเหลิงเอ้าลืมไปเลยว่าหลงเหยียนเพิ่งมีพลังระดับชีพัขั้นที่เจ็ด ตอนนี้พลังปราณลดลง หากยังสู้กลับ หลงเหยียนต้องเป็ฝ่ายแพ้แน่
ทว่าเพราะวิธีการจัดการคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวของหลงเหยียนนั้นตราตรึงในใจของเขาไปแล้ว เมื่อนึกถึงเซียวกงเป้าที่มีพลังขั้นที่เก้า สุดท้ายยังถูกหลงเหยียนฆ่า ถูกดูดโลหิตไปจนหมดตัว เขาจึงไม่กล้าต่อต้านหลงเหยียน
เซียวเหลิงเอ้าทนความเจ็บแล้วมองหลงเหยียน แม้อายุพวกเขาต่างกัน ทว่าความโเี้ของหลงเหยียนเป็นั้นเหมือนฝันร้ายแก่เขา เขาจึงมองหลงเหยียนด้วยความกลัว
“จะให้ดี เ้าเงียบปากไว้ก็แล้วกัน วันนี้ข้ามาเพราะอยากถามเ้าเื่เดียว หากเ้าตอบไม่ดี ข้าก็ไม่ถือสาหรอกนะ ฮึๆ!” ขณะที่พูดประโยคนี้ หลงเหยียนก็หันไปมองไป๋กงเซวี่ย ศิษย์สำนักบงกชมาร
สตรีผู้นี้รู้จักหลงเหยียน นางเป็หนึ่งในศิษย์ที่อู่หยาภาคภูมิใจที่สุด มีพลังระดับชีพัขั้นที่หก เสมอกันกับหลงอวี่ซี เป็สตรีวัยเยาว์ที่มีพร์สูงอย่างยิ่ง
ฟังจากน้ำเสียงของหลงเหยียนแล้ว มีหรือที่เซียวเหลิงเอ้าจะไม่รู้…
จากนั้นเซียวเหลิงเอ้าจึงพูดขึ้น “ได้ งั้นเ้าก็ว่ามา ขอแค่ไม่ทำร้ายนาง ข้าจะบอกทุกอย่างที่รู้”
หลงเหยียนถามตรงๆ “ดีมาก คิดว่าเ้าคงเคยได้ยินกระบี่สังหารัมาก่อนกระมัง เ้าก็คงรู้ว่าตอนนี้มันอยู่ที่ไหนใช่หรือไม่?”
“กระบี่สังหารัหรือ? กระบี่ิญญาเล่มนั้นหายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ?” เซียวเหลิงเอ้าใเล็กน้อย เขาต้องเคยได้ยินมาก่อนอยู่แล้ว ถึงกระนั้น ในตอนที่ทุกคนต่างแย่งชิงกระบี่เล่มนั้น เซียวเหลิงเอ้ายังไม่กำเนิดเลยด้วยซ้ำ จึงไม่รู้เื่นี้ลึกเท่าไร
“หลงเหยียน ข้ารู้จักกระบี่สังหารั ทว่าข้าไม่เคยเจอมันมาก่อน เล่ากันว่าิญญาตัวกระบี่… หรือเ้าอยากหามันหรือ?”
หลงเหยียนพยักหน้า “ตอนนี้ตระกูลหลงของข้าเจออันตราย ทั้งหมดล้วนเป็เพราะตระกูลเซียวของเ้า พวกเ้าทุกคนสมควรตาย…”
ที่หลงเหยียนต้องพูดแบบนั้นก็เพราะไม่อยากให้เขารู้เื่อื่นมากไปกว่านี้ สิ่งที่้าสื่อให้เขารู้ก็คือการที่ตระกูลหลงกลัวตระกูลเซียวจริงๆ และหลงเหยียนก็นึกถึงกระบี่สังหารัที่หายสาบสูญมานาน
เซียวเหลิงเอ้าหัวเราะในใจแล้วจึงพูด “กระบี่สังหารั ข้าคงช่วยเ้าไม่ได้หรอก ต่อให้เ้าจะหาเจอก็คงช่วยพวกเ้าพลิกชะตาไม่ได้หรอก เพราะข้ารู้ว่าบนลำตัวกระบี่ถูกพลังผนึกเอาไว้ เหมือนข้างในมีพลังที่เหนือชั้นบางอย่างแฝงอยู่”
“อ้อ งั้นหรือ?” หลงเหยียนขมวดคิ้วมุ่น แสร้งทำท่าเหมือนผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นก็ฟาดฝ่ามือลงด้านหลังหญิงข้างเซียวเหลิงเอ้า เมื่อนางสลบแล้ว หลงเหยียนก็มองเขาด้วยสายตาเกลียดชัง
“ดูเหมือนเ้าก็คงไม่รู้ว่าตอนนี้กระบี่สังหารัอยู่ไหน หากมีใครรู้เื่ที่ข้ากำลังตามหากระบี่สังหารั ข้าจะกลับมาเอาชีวิตเ้า!” เมื่อหลงเหยียนพูดจบ เขาก็เปิดประตูแล้วหายไปจากจวนตระกูลเซียว
ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่ากระบี่สังหารัมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ทว่าก็ยังไม่รู้ว่าความลับนั้นคืออะไรจึงทำให้หลงเหยียนรู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที ศึกใหญ่ใกล้เข้ามา ดูเหมือนการเข้าไปหาปีศาจอสูรในเทือกเขาหยุนหลัวเป็สิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ปลดปล่อยพลังของกระบี่ออกมาอย่างเต็มที่ หากสามารถผสานกระบี่เข้ากับวิชาสะท้านปฐี พลังกระบี่ต้องน่ากลัวมากขึ้นแน่ พลังกระบี่ทั่วไปปล่อยลำแสงพลังได้ไกลสองเมตร ส่วนกระบี่สังหารัปล่อยลำแสงพลังได้ไกลสิบกว่าเมตร อีกทั้งหินขนาดใหญ่ที่อยู่ไกลกว่าสิบเมตรยังแตกทันทีที่ถูกประกายพลัง
--------------------