ผู้ชายดื่มสุราแล้วมาหาเื่ผู้หญิงทำไมกัน?
หน้าไม่อาย? เป็ผู้ชายหรือไม่?
เดิมทีกูเฟยเยี่ยนก็ดูถูกคุณชายตระกูลขุนนางคนนั้นแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าเฉิงอี้เฟยยื่นเหยือกสุรามาให้นาง นางจึงโมโหมาก
นางกำลังจะเอ่ยออกมา ทว่าจู่ๆ เฉิงอี้เฟยก็ดึงนางเข้าไปราวกับโอบกอด เพียงแต่ในความเป็จริงแล้วเขากระซิบแ่เบาข้างใบหูนาง “เ้าดื่มสองสามคำเนียนๆ ไป ข้าจะทำเป็เมาแล้วดึงเ้ากลับ พวกเราจะไม่เล่นตามเกมของอวิ้นกุ้ยเฟย”
บัดนี้เองที่กูเฟยเยี่ยนพบว่าเฉิงอี้เฟยยังมีมันสมองอยู่บ้าง ที่แท้การที่เขาดื่มอย่างเบิกบานใจก็เป็เพราะ้าแกล้งทำเป็เมา
นางรีบผลักเฉิงอี้เฟยออกทันที แล้วเทสุรามาสามแก้วพร้อมกับพูดว่า “ท่านแม่ทัพเฉิง นู๋ปี้ไม่กล้าฝักใฝ่ที่สูงและไม่มีความคิดที่จะเข้าตระกูลเฉิง ความสามารถในการดื่มสุราของนู๋ปี้ไม่ดี ไม่คู่ควรกับท่านแม่ทัพเฉิง นู๋ปี้ดื่มได้เพียงสามแก้วเท่านั้น นู๋ปี้คารวะก่อน ท่านเชิญตามสบาย”
เฉิงอี้เฟยมองท่าทางดื่มสุราเข้าไปทีละแก้วๆ ของกูเฟยเยี่ยนด้วยใจที่อัดอั้น
ผู้หญิงคนนี้แม้แต่ตอนแสดงละครก็ต้องขีดเส้นแบ่งกับเขาให้ชัดเจนหรือ?
ในตอนนั้นการที่เขาออกใบประกาศชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนางด้วยความเป็สุภาพบุรุษ แล้วต่อด้วยสารภาพรัก อันที่จริงแล้วจุดประสงค์หลักของเขาก็คือ้าหยั่งเชิงจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เมื่อจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้ชี้แจงเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจไป ต่อมาเมื่อนางถูกไป๋หลี่ิชวนจับตัวไป เขาก็ใจร้อนจนแทบจะเป็บ้า ทันทีที่ไต่สวนจนทราบว่าไป๋หลี่ิชวนซ่อนตัวอยู่ที่ใด เขาก็จะตามไปหาราวกับคนบ้า ทว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทรงห้ามเอาไว้ พระองค์ให้เขาสำรวจภูมิประเทศและดักซุ่มโจมตี
เขาจำได้ชัดเจนว่าในตอนนั้นคำสั่งที่หมางจ้งมอบให้คือ “ชีวิตของแพทย์หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่งไม่เพียงพอต่อความเสียดาย การจับไป๋หลี่ิชวนถึงจะเป็จุดสำคัญ หากยังดักซุ่มโจมตีไม่เสร็จก็ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น! ”
ั้แ่วันนั้นเป็ต้นมาเขาก็ทราบว่าในสายตาของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยมีกูเฟยเยี่ยนอยู่ ทว่าก็ไม่ได้เข้าไปถึงหัวใจ ดังนั้นเมื่อช่วยนางกลับมาแล้ว เขาก็ไม่ได้พะว้าพะวังอีก เขาจึงไปหานางที่จิ้งหวางฝู่เกือบจะทุกวัน
อันที่จริงตอนนี้เขาเสียใจในภายหลังมาก หากทราบว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่มีความสนใจั้แ่แรก เขาก็จะไม่ออกประกาศใบนั้นแล้ว เขาจะถือโอกาสนี้ไปร้องขอให้ฝ่าาพระราชทานงานแต่งงานเลย!
ในขณะที่เฉิงอี้เฟยกำลังใจลอย กูเฟยเยี่ยนก็ดื่มหมดสามแก้วแล้ว นางเจตนาขว้างแก้วอย่างแรง ก่อนจะเอ่ยเตือนสติ “ท่านแม่ทัพเฉิง นู๋ปี้คารวะสุราก่อนแล้ว เชิญท่านตามสบาย”
เมื่อเฉิงอี้เฟยได้ยินเช่นนี้จึงได้สติกลับมา ชายหนุ่มจงใจเรอสุราออกมาพร้อมกับหัวเราะด้วยความเมาสะลึมสะลือ “ดื่มไปสามแก้วก็ไม่ดื่มต่อแล้วหรือ? เหอะๆ ความสามารถในการดื่มสุราไม่คู่ควรกับเปิ่นเจียงจวินจริงเสียด้วย…”
เขาพูดแล้วเดินโซเซเข้าใกล้ “ทว่าต่อให้เ้าไม่ดื่มสุรา เปิ่นเจียงจวินก็ชอบเ้า! จะแต่งงานกับเ้า! ”
ต่อให้เป็การแสดงละครเขาก็จะพูดว่าชอบนางท่ามกลางผู้คนอีกครั้ง
เมื่อเฉิงอี้เฟยพูดจบ เหล่าทายาทตระกูลขุนนางรอบข้างก็เดินเข้ามาเพื่อจะดื่มสุรากับกูเฟยเยี่ยน
“แพทย์หญิงกู มาๆ เ้าสามแก้ว ข้าหนึ่งเหยือก ข้าไม่ได้รังแกเ้านะ! ”
“ได้ยินท่านแม่ทัพเฉิงพูดมานานแล้วว่าแพทย์หญิงกูเป็ยอดหญิง เ้าเลิกถ่อมตัวได้แล้ว เอาอย่างนี้ดีไหม เ้าหนึ่งเหยือก ข้าหนึ่งเหยือก ดีหรือไม่? ”
“แพทย์หญิงกู วันนี้เ้าเป็แขกผู้มีเกียรติขององค์ชายแปดเช่นเดียวกันกับท่านแม่ทัพเฉิง มาๆ เ้าต้องคารวะองค์ชายแปดสามแก้วก่อน! ”
……
เมื่อได้ฟังคำพูดไร้ยางอายประโยคแล้วประโยคเล่า กูเฟยเยี่ยนก็แทบอยากจะตบเข้าไปสักที นางก้าวถอยหลังพลางครุ่นคิด เป็ไปได้หรือไม่ว่านี่คือหลุมพรางที่อวิ้นกุ้ยเฟยมอบให้นาง? เขาจัดเตรียมลูกผู้ดีมีเงินกลุ่มหนึ่งมาบังคับให้นางดื่มสุรา? บังคับนางดื่มสุราหรือ?
วิธีการนี้จะไม่ต่ำเกินไปหน่อยหรือ?
หากนางดื่มจนเมาแล้วจริงๆ จะทำอย่างไรกัน อวิ้นกุ้ยเฟยไม่กลัวว่าจะตกเป็คำครหาหรือ? ไม่กลัวจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยสืบหาสาเหตุหรือ? ถึงอย่างไรนางก็เป็คนของจิ้งหวางฝู่นะ!
กูเฟยเยี่ยนชำเลืองตามองอวิ้นกุ้ยเฟยกับคนอื่นๆ นางเห็นว่าอวิ้นกุ้ยเฟยกำลังหยอกล้อกับเหล่าองค์หญิงทั้งหลาย องค์หญิงหวายหนิงกำลังพูดคุยกับองค์ชายใหญ่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ค่อยให้ความสนใจทางนี้นัก
กูเฟยเยี่ยนมักจะรู้สึกว่าเื่ราวไม่ได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น หญิงสาวถอยไปอยู่ข้างเฉิงอี้เฟย เฉิงอี้เฟยจึงถือโอกาสดึงตัวนางมาแล้วโยนเหยือกสุราลง จากนั้นจึงเริ่มอาละวาดใส่ทายาทตระกูลขุนนางเ่าั้
“ทำอะไรกันเนี่ย? ทำอะไรกัน? ”
“เปิ่นเจียงจวินจะบอกให้นะ เปิ่นเจียงจวินคือคนที่ทดสอบความสามารถในการดื่มสุราของนาง! เื่นี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเ้า ไสหัวไปซะ! ”
“ไม่ดื่มแล้วๆ ! แพทย์หญิงกู กลับ! กลับไปกับเปิ่นเจียงจวิน! ไปจัดเตรียมตำรับยามาอุ่นกระเพาะเปิ่นเจียงจวินหน่อย! ”
กูเฟยเยี่ยนแสร้งทำเป็ดีดดิ้น นอกจากเฉิงอี้เฟยจะไม่ปล่อยมือแล้วยังหันหลังเดินออกไปด้วย
ในขณะนี้เองเหล่าองค์ชายก็ล้อมรอบเข้ามา พวกเขาล้วนเมาสะลึมสะลือ
“ท่านแม่ทัพเฉิง ไปไม่ได้นะ! ”
“เปิ่นหวงจื่อจะบอกให้ว่า วันนี้ไม่ว่าจะใครก็ตามก็อย่าได้คิดที่จะกลับไปแบบมีสติ! ไม่เมา…ไม่กลับ ฮ่าๆๆ ”
“แม่ทัพเฉิง หรือว่าเ้าสงสารนังหนูคนนี้แล้ว! เหอะๆ เ้าไม่ให้นางดื่ม เช่นนั้นเ้าก็ดื่มต่อสิ! อย่าทำลายอารมณ์สนุกสนานของทุกคนเลย! ”
“มาๆ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องดื่มกับพวกเราพี่น้องคนละสามแก้วแทนนาง! ”
“ยาจะอุ่นกระเพาะได้อย่างไรกัน สุราถึงจะอุ่นกระเพาะต่างหาก! อย่าไป…ห้ามไปนะ…”
…..
ทุกคนพูดเช่นนี้แล้วก็ยกเหยือกสุรามาล้อมรอบเฉิงอี้เฟยกับกูเฟยเยี่ยนเอาไว้
กูเฟยเยี่ยนไม่รู้จักองค์ชายเหล่านี้ แต่นางมั่นใจว่าองค์ชายเหล่านี้ล้วนเป็คนของอวิ้นกุ้นเฟยแน่นอน พวกเขาแกล้งทำเป็เมา!
เมื่อตอนที่เทียนอู่ฮ่องเต้ยังเยาว์วัย เขาเ้าชู้เป็นิสัย ดังนั้นจึงเป็เหตุให้มีภริยา นางสนมและทายาทมากมาย ทว่าคนส่วนใหญ่ล้วนเป็คนรับใช้กับนางข้าหลวง ดังนั้นจึงอยู่ในการควบคุมของอวิ้นกุ้ยเฟย
นี่อวิ้นกุ้ยเฟยจะบีบบังคับนางหรือบีบบังคับเฉิงอี้เฟยกัน? กูเฟยเยี่ยนชำเลืองตามองจวินฮั่นหยิ่นแวบหนึ่งแล้วพบว่าไม่มีใครบังคับจวินฮั่นหยิ่นให้ดื่มสุรา แต่จวินฮั่นหยิ่นกำลังนั่งดื่มสุราอยู่คนเดียว เขาดื่มไปพร้อมกับอมยิ้มมองดูพวกเขา
ไม่พูดไม่ได้ว่าจวินฮั่นหยิ่นตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก หากเขาดื่มจนเมาหมดสติ เขาก็จะไม่ต้องแสดงความคิดเห็น นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด!
สหายสนิทอะไรกัน ไอ้ตดหมา!
กูเฟยเยี่ยนด่ากราดในใจ และในขณะนี้เองเหล่าองค์ชายก็เข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนในที่สุดเฉิงอี้เฟยก็ทนไม่ไหวรับเหยือกสุราโยนลงไปบนเท้าขององค์ชายท่านหนึ่งอย่างรุนแรง
“เพล้ง! ”
เสียงดังลั่นของเหยือกสุราทำให้เสียงอึกทึกครึกโครมในตำหนักเกิดความเงียบสงบกะทันหัน
ใบหน้าเมาสะลึมสะลือของเฉิงอี้เฟยปรากฏถึงความโกรธเคือง ก่อนจะะโออกมาเสียงดัง “ไปให้พ้น! ”
วินาทีนั้นเหล่าองค์ชายไม่กล้าที่จะขยับเขยื้อนแล้ว
กูเฟยเยี่ยนไม่แปลกใจเลย เฉิงอี้เฟยเป็คนที่ดื้อรั้นไม่ยอมคนแบบนี้มาโดยตลอด อย่าว่าแต่องค์ชายเหล่านี้ที่ไม่ได้รับความโปรดปรานเลย หากหาเื่เขาขึ้นมาแม้แต่องค์ชายที่ได้รับความโปรดปรานเขาก็กล้าสั่งสอน หากเื่ไปถึงหูฝ่าาจริงๆ เขาก็มีเหตุผลเสมอ ฝ่าาไม่สามารถเก็บอำนาจทางการทหารไปได้ และไม่มีทางทำอะไรเขาเพื่อเื่เล็กแบบนี้ได้
ด้วยเหตุนี้กูเฟยเยี่ยนจึงเดินตามเฉิงอี้เฟยไปท่ามกลางความเงียบ
เพียงแต่เมื่อทั้งสองคนใกล้ถึงหน้าประตู องค์ชายใหญ่ที่เงียบมาโดยตลอดก็หัวเราะออกมาเบาๆ พลางกล่าวกับทุกคนว่า “นึกถึงความสามารถในการดื่มสุราของท่านแม่ทัพเฉิงผู้เฒ่าจริงๆ นั่นถึงจะเรียกว่าเก่งกาจ! ตอนนี้บุตรชายของเขา เหอะๆ ไม่กล้าแม้แต่ดื่มแทนผู้หญิงสองสามแก้ว ขี้ขลาดเสียจริง! ”
ครั้นองค์ชายใหญ่กล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมา เฉิงอี้เฟยก็หยุดชะงักทันที
กูเฟยเยี่ยนจึงกระซิบไป “เขาจงใจ! ”
แน่นอนว่าเฉิงอี้เฟยก็รู้ เขากำหมัดแน่นแล้วเดินต่อ ทว่าองค์หญิงหวายหนิงหัวเราะออกมา “ท่านพี่ ข้าได้ยินพี่อวี้บอกเอาไว้ว่าอันที่จริงแล้วในตอนนั้นความสามารถในการดื่มสุราของท่านแม่ทัพเฉิงผู้เฒ่าธรรมดามาก ทั้งหมดนั้นล้วนเป็การคุยโวโอ้อวดเท่านั้น”
อย่าว่าแต่เฉิงอี้เฟยเลย แม้แต่กูเฟยเยี่ยนที่ได้ยินเช่นนี้ยังกำหมัดแน่น
ผู้ล่วงลับเป็ผู้ยิ่งใหญ่ ท่านแม่ทัพเฉิงผู้เฒ่าได้ทำคุณงามความดีในการก่อตั้งเทียนเหยียนไว้มากมาย องค์หญิงหวายหนิงที่เหยียบย่ำซากศพเหล่าทหารกล้า นั่งเพลิดเพลินเป็องค์หญิงอยู่บนความรุ่งโรจน์และร่ำรวย มีสิทธิ์อะไรมาพูดจาเหยียดหยามคนอื่นกัน?
ท่านแม่ทัพเฉิงผู้เฒ่าเสียชีวิตได้อย่างไร องค์หญิงหวายหนิงที่เป็ลูกสะใภ้ตระกูลฉีไม่ทราบอย่างแน่ชัดหรือ?
เฉิงอี้เฟยปล่อยกูเฟยเยี่ยนแล้วหันไปมองพร้อมกับพูดด้วยความเ็า “ให้แพทย์หญิงน้อยกลับไป เปิ่นเจียงจวินดื่มกับพวกเ้า วันนี้หากไม่ทำให้พวกเ้าดื่มจนล้มลง เปิ่นเจียงจวินจะไม่ก้าวออกจากตำหนักไท่จี๋แม้แต่ก้าวเดียว องค์ชายใหญ่ ท่านมาก่อนเลย! ”
องค์ชายใหญ่ยังคงยิ้มเยาะ “ท่านแม่ทัพเฉิง นี่สิถึงจะถูก! ทหาร ส่งกูเฟยเยี่ยนออกจากพระราชวัง! ”
ทันทีที่องค์ชายใหญ่เอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมา กูเฟยเยี่ยนก็เข้าใจได้ในทันที! ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้วว่าอวิ้นกุ้ยเฟย้าทำอะไร! พวกเขาไม่ได้้าบีบบังคับนาง แต่้าบีบบังคับให้เฉิงอี้เฟยดื่มสุราแทนนาง!
ทั้งๆ ที่พวกเขาทราบว่ากระเพาะของเฉิงอี้เฟยไม่ดี ท่าทีแบบนี้คือ้าให้เฉิงอี้เฟยดื่มจนตายอยู่ในตำหนักไท่จี๋ชัดๆ ! และเมื่อเฉิงอี้เฟยตายแล้วนางก็ต้องแบกรับชื่อเสียงฉาวโฉ่ว่าเป็ต้นเหตุ!
ชั่วร้ายเสียจริง!