ชายคนนั้นเดินมาถึงตรงหน้าเยว่เฟิงเกอ มองเยว่เฟิงเกอด้วยสายตามืดมน
“เมื่อครู่เป็เ้าที่โกง ทำให้ท่านฟางแพ้ติดกันถึงสามตา? ” ชายคนนั้นเอ่ยถามเสียงต่ำ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาฟังดูเกียจคร้านยิ่ง
เยว่เฟิงเกอมองชายตรงหน้า ถึงแม้ร่างเขาจะแผ่กลิ่นอายชั่วร้ายออกมา แต่หว่างคิ้วของเขากลับคล้ายใครคนหนึ่งเป็อย่างมาก นางครุ่นคิดในสมองอย่างรวดเร็ว ในที่สุดก็นึกไปถึงองค์ชายสามม่อเสวียนเช่อ
ใช่แล้ว หว่างคิ้วของชายคนนี้ละม้ายคล้ายองค์ชายสามม่อเสวียนเช่อถึงเจ็ดแปดส่วน มิหนำซ้ำคนยังหนุ่มแน่น ดูแล้วน่าจะอายุราวๆ สิบเจ็ดสิบแปดปี
หากจะบอกว่าเขาเป็เถ้าแก่โรงพนันว่านจินแห่งนี้ก็เกรงว่าจะยังเด็กไปสักหน่อย
เมื่อชายผู้ออกปากถามเห็นว่าเยว่เฟิงเกอยังคงไม่ตอบคำ มุมปากเขาพลันปรากฏรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา
“ดูท่าเ้าคงไม่คิดจะยอมรับ” พูดจบก็ะโไปเสียงหนึ่ง “เด็กๆ จับเ้านี่ไปโบยหลังเรือน”
ฉับพลันนั้นชายกำยำจำนวนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นข้างเยว่เฟิงเกอพร้อมกับเอื้อมมือมาจะจับนาง
เยว่เฟิงเกอคิดไม่ถึงว่าคนคนนี้คิดจะโบยนางโดยที่ไม่แม้แต่จะสืบเื่นี้ให้ชัดเจน ดูท่าคงจะคิดว่าตนเป็เง็กเซียนแห่งโลกนี้กระมัง ถึงได้กล้าหาเื่คนอื่นไปทั่วเช่นนี้
มุมปากของเยว่เฟิงเกอเผยรอยยิ้มเ็าขณะกล่าวกับชายที่มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า “ทั้งหมดเป็เพราะเ้าที่ไม่รู้จักไต่สวนเื่ราวให้ชัดเจนก็คิดจะลงมือ หากคนของเ้าาเ็ ก็อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน”
เยว่เฟิงเกอพูดจบก็รีบลงมืออย่างรวดเร็วก่อนที่ชายกลุ่มนั้นจะััถูกตัวนางด้วยซ้ำ
เมื่อครู่ไม่มีใครมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเยว่เฟิงเกอลงมืออย่างไร สิ่งที่ทุกสายตาเห็นเป็เพียงภาพฉากที่ชายกำยำกลุ่มนั้นล้มลงไปกองกับพื้น ร้องโอดโอย
ชายคนนั้นยังคงไม่แสดงความโกรธออกมา แม้เยว่เฟิงเกอจะเอาชนะคนของเขาได้ก็ตาม
ทว่า เมื่อชายขี้โกงที่ชื่อว่าท่านฟางเห็นเยว่เฟิงเกอทำร้ายชายกำยำพวกนั้นจนหมดสภาพก็โกรธจนอดตะคอกใส่นางไม่ได้ “เ้าเด็กน่าตายนี่ ไม่เพียงเล่นสกปรกบนโต๊ะพนัน ยังกล้าทำคนของข้าาเ็ ดูท่าเ้าคงจะเบื่อชีวิตแล้วกระมัง”
ท่านฟางพูดพลางม้วนแขนเสื้อขึ้น ก่อนจะพุ่งหมัดใส่หน้าเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอเพียงเอียงหลบอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก ก็สามารถหลบหมัดนี้ได้ ทำเอาท่านฟางที่พลาดเป้าถึงกับซวนเซจนเกือบจะล้มลง
เมื่อคนรอบข้างเห็นเช่นนั้นก็พากันกลั้นขำ ไม่กล้าส่งเสียง
ท่านฟางเห็นว่าหมัดของตนไม่อาจทำร้ายอีกฝ่ายได้ ก็โกรธหนักกว่าเดิม เขายืดตัวตรง ปากบ่นพึมพำจะพุ่งเข้าใส่เยว่เฟิงเกออีกครั้ง
ทว่า ในครั้งนี้เยว่เฟิงเกอไม่คิดหลบ นางใช้พัดในมือกันหมัดของเขาแล้วเตะเข้าที่บริเวณท้องของเขา
หลังจากถูกเตะ ท่านฟางก็มีสีหน้าซีดขาว เขากุมท้องไว้ ถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นจึงทรุดตัวนั่งลงบนพื้น
เมื่อครู่เยว่เฟิงเกอลงมือรวดเร็วมาก ทั้งยังเตะออกไปอย่างรุนแรง
เดิมทีท่านฟางก็ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ วรยุทธ์แมวสามขาของเขาในสายตาของเยว่เฟิงเกอคล้ายกับมือของเด็กน้อยที่ตะเกียกตะกายเบาๆ เท่านั้น
เมื่อครู่นางเตะออกไปอย่างรุนแรง ท่านฟางก็ถึงขั้นกุมท้องร้องโอดโอย ลุกไม่ขึ้น
เถ้าแก่แห่งโรงพนันว่านจินมองพื้นที่ยามนี้มีบรรดาชายฉกรรจ์ล้มลงนอนโอดโอย ไม่ก็นั่งกุมท้องโอดโอย ในที่สุดรอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็หายไป สายตาที่ใช้มองเยว่เฟิงเกอเริ่มปรากฏแววดุร้าย
“ดูท่าคุณชายท่านนี้คงไม่ได้ตั้งใจมาเล่นพนันที่โรงพนันของข้า แต่ตั้งใจมาก่อเื่ ในเมื่อเป็เช่นนี้ ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ” ชายคนนั้นพูดจบก็เตรียมลงมือกับเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอรับรู้ได้ถึงฝ่ามือของเขา นางรีบหมุนกายหลบฝ่ามือนั้นทันที
ในตอนนี้เยว่เฟิงเกอไม่อาจทำเป็เล่นเหมือนก่อนหน้านี้ได้ ทั้งยังไม่อาจไม่ให้ความสำคัญกับศึกในครั้งนี้ได้ เพราะวรยุทธ์ของชายผู้นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่านางเลย
เยว่เฟิงเกอดึงมีดสั้นข้างเอวออกมาแล้วจับไว้ในมือให้มั่น
ยามที่นางดึงมีดสั้นออกจากฝัก แน่นอนว่านางรับรู้ได้ถึงความสั่นไหวน้อยๆ
เยว่เฟิงเกอหรี่ตามองมีดสั้นในมือ ก่อนจะเห็นว่าคมมีดนั้นกำลังแผ่กลิ่นอายเย็นะเืออกมา นางรับรู้ได้ว่ามีดสั้นของนางกำลังตื่นเต้น
แม้นางจะรู้อยู่แล้วว่ามีดสั้นเล่มนี้มีความชั่วร้ายแฝงอยู่ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะชอบาเช่นนี้
ซูมู่เจ๋อมองมีดสั้นของเยว่เฟิงเกอไปทีหนึ่ง เขาเองก็จับสังเกตถึงกลิ่นอายเยือกเย็นนั้นได้เช่นกัน
เขาขมวดคิ้วน้อยๆ เหตุใดเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับมีดสั้นเล่มนี้ยิ่งนัก คล้ายว่าครั้นยังเด็กจะเคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน
ด้วยเหตุนี้ ซูมู่เจ๋อจึงอยากได้มีดสั้นเล่มนี้มาก เขาลงมือกับเยว่เฟิงเกออย่างรวดเร็วและดุดันยิ่งกว่าเดิม
เยว่เฟิงเกอตวัดมีดกรีดไปบนร่างของซูมู่เจ๋อ
ซูมู่เจ๋อทำเพียงหลบเบาๆ ก็หลีกหนีจากการโจมตีของเยว่เฟิงเกอได้
“คุณชายท่านนี้มีฝีมือไม่ธรรมดาจริงๆ ” ซูมู่เจ๋อลงมือ ขณะที่ปากก็ยังไม่ลืมเอ่ยชมเยว่เฟิงเกอ
เยว่เฟิงเกอไม่คิดว่านี่เป็คำชมที่ดีอะไร นางไม่กล้าชักช้า ลงมืออย่างรวดเร็วและรุนแรง
การต่อสู้ของพวกเขาบีบให้คนอื่นๆ ในโรงพนันพากันหลบเข้ามุม กระนั้นสายตาทุกคู่ก็ยังเฝ้ามองการต่อสู้ของคนทั้งสอง
ชายกำยำกลุ่มแรกค่อยๆ ลุกขึ้น จากนั้นจึงลากท่านฟางให้ไปหลบในที่ปลอดภัยด้วยกัน
เยว่เฟิงเกอและซูมู่เจ๋อต่อสู้กันไปหลายยก ทำให้เกิดลมปราณรุนแรง ทำเอาโต๊ะพนันข้างๆ ถึงกับแตกหัก
จินว่านหลี่เองก็เฝ้าดูพวกเขาต่อสู้กัน อดรู้สึกอยากเช็ดเหงื่อแทนเยว่เฟิงเกอไม่ได้
ถานอี้ที่ติดตามเยว่เฟิงเกอมา เดิมคิดจะเข้าไปช่วย มิคาดเยว่เฟิงเกอจะรู้อยู่แล้วว่าเขาตามมา นางส่งสายตาให้เขา บอกให้เขาอย่าได้ปรากฏตัว
และเพราะเหตุนี้ถานอี้จึงทำได้แค่หลบอยู่ในเงามืด เฝ้าดูเยว่เฟิงเกอกับชายคนนั้นสู้กันด้วยความเป็ห่วงกังวล
คนทั้งสองประมือกันไม่ต่ำกว่าสามสิบรอบ กลับยังไม่อาจตัดสินแพ้ชนะได้
ถึงแม้เยว่เฟิงเกอจะมีวรยุทธ์ร้ายกาจ แต่จะอย่างไรนางก็เป็สตรี บวกกับตัวนางเองไม่ค่อยขยันขันแข็งในการฝึกยุทธ์ เมื่อต้องต่อสู้กับชายดุดันคนนี้จึงนับว่ากินแรงไปไม่น้อย
เยว่เฟิงเกอแสดงกระบวนท่าหลอกล่อซูมู่เจ๋อ ถือโอกาสที่ความสนใจทั้งหมดของอีกฝ่ายอยู่ที่ฝ่ามือของนาง มีดสั้นในมืออีกข้างพลันพุ่งไปยังตำแหน่งคอของเขา
ซูมู่เจ๋อรับรู้ได้ว่ามีไอเย็นกำลังพุ่งมาที่ลำคอตน เขาเหลือบมองแล้วจึงหลบไปด้านข้าง หลบการโจมตีจากมีดสั้นนั้นได้อย่างหวุดหวิด
มีดสั้นเล่มนั้นพลาดเป้าจากลำคอของซูมู่เจ๋อ มันหมุนวนอยู่กลางอากาศหนึ่งรอบแล้วบินกลับมาที่มือของเยว่เฟิงเกอ
ทุกคนต่างตกตะลึงกับฉากตรงหน้าเป็อย่างมาก มีดสั้นเล่มนี้ราวกับมีชีวิตก็ไม่ปาน ถึงกับบินกลับไปในมือของผู้เป็นายได้เอง
เยว่เฟิงเกอเองก็คิดไม่ถึงว่ามีดสั้นเล่มนี้จะมีพลังชีวิตเช่นนี้ นางจับมีดสั้นไว้ บุกเข้าโจมตีเ้าของโรงพนันซูมู่เจ๋ออีกครั้ง
ครั้งนี้ซูมู่เจ๋อไม่ได้หลบ เขาเพียงยืนนิ่งๆ รอให้มีดเล่มนั้นแทงเข้ามา
ตอนที่มีดสั้นกำลังจะแทงเข้าเนื้อเขา เขาก็ไม่รอช้าคว้าจับข้อมือของเยว่เฟิงเกอไว้ได้ในทันที
เพียงแต่ัันุ่มนวลเย็นสบายของนางทำให้ซูมู่เจ๋อหวั่นไหวไปวูบหนึ่ง
เขาจับข้อมือของเยว่เฟิงเกอไว้ด้วยแรงมหาศาล ให้นางไม่อาจดันมีดไปข้างหน้าได้อีก
ซูมู่เจ๋อก้มหน้ามองเยว่เฟิงเกอ ท่าทางของเขาราวกับอยากจะหาความผิดปกติบางอย่างบนใบหน้านาง
ทว่า วิชาแปลงโฉมของนางเหนือชั้นเกินไป จะอย่างไรซูมู่เจ๋อก็ไม่อาจมองเห็นลักษณะพิเศษของสตรีบนร่างเยว่เฟิงเกอได้เลย
ตอนที่ซูมู่เจ๋อกำลังจ้องมองเยว่เฟิงเกอตาไม่กะพริบอยู่นั้น เยว่เฟิงเกอก็ยกเท้าขึ้นถีบไปที่ท้องของเขา
ซูมู่เจ๋อปล่อยมือจากเยว่เฟิงเกอ รีบถอยหลัง
ตอนที่คนทั้งสองเข้าใกล้กันเมื่อครู่ ตอนที่มีดสั้นเล่มนั้นกำลังจะแทงเขา เขาเห็นกลิ่นอายเย็นเยือกวาววับที่ปลายคมมีดนั้นได้อย่างชัดเจน
ซูมู่เจ๋อถอยหลังไปสองก้าว พยายามรักษาระยะห่างให้อยู่ในระยะปลอดภัยจากเยว่เฟิงเกอ ก่อนจะแสดงสัญญาณมือขอสงบศึกแล้วพูดด้วยเสียงหอบน้อยๆ “หยุด หากเราทั้งสองยังสู้กันต่อไปเช่นนี้ โรงพนันของข้าคงต้องปิดแล้ว”
เยว่เฟิงเกอเองก็ไม่อยากสู้กับชายคนนี้ต่อไปแล้ว เพราะตัวนางก็เริ่มหายใจไม่ค่อยทันแล้วเช่นกัน
นางเก็บมีดสั้นเข้าไปในฝัก รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันเหมือนจะผิดหวังเล็กน้อย กลิ่นอายเ็าวามวาวที่ปลายคมมีดค่อยๆ หม่นแสงลงอย่างเห็นได้ชัด