“โอ้ๆ ๆ นางหนีไปแล้วๆ เร็วเข้า! ไล่ตามไป ต้องจับนางให้ได้!” หลิวมามาเห็นซูเฟยซื่อหนีไป ในใจก็อดตระหนกมิได้
หากเกิดบังเอิญหนีไปจากจวนอัครมหาเสนาบดีนางจะรายงานนายหญิงว่าอย่างไร?
แต่นางไม่ต้องเป็ห่วงทั้งสิ้นเพราะซูเฟยซื่อก็ไม่ได้คิดจะออกจากจวนอัครมหาเสนาบดีเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านี้ นางยัง้าไปพบนายหญิงอย่างว่านอนสอนง่ายด้วย
ในห้องโถงด้านหน้า นายหญิงแซ่หลี่ในชุดสีส้มแดงกำลังนั่งอยู่บนตำแหน่งประธาน
บิดาของนางแซ่หลี่คนนี้เคยช่วยเหลือเกื้อกูลฮ่องเต้องค์ก่อนตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีของซูเต๋อเหยียนก็เป็การส่งเสริมจากนางเช่นกัน ดังนั้นตำแหน่งของนายหญิงแซ่หลี่ในจวนอัครมหาเสนาบดีจึงมิอาจดูแคลนได้
ย้อนกลับไปในตอนที่ซูเฟยซื่อเป็ฮองเฮา นางได้เคยเห็นนายหญิงแซ่หลี่ในงานเลี้ยงของตำหนักหลายครั้ง
ตอนนั้นรู้สึกว่านายหญิงแซ่หลี่มีคุณธรรมสง่างามเรียบร้อยยิ่งเป็ผู้ที่จัดการจวนอัครมหาเสนาบดี ยิ่งเห็นได้ว่าจัดการเหล่าอนุชั้นบนและล่างได้อย่างกลมเกลียว
แต่เวลานี้ได้เมื่อหลอมรวมเข้ากับความทรงจำของร่างนี้แล้วจึงได้รู้ว่าถึงแม้นายหญิงแซ่หลี่มีชื่อเสียงโดดเด่นภายนอก ทว่าข้างนอกสุกใสข้างในเป็โพรง ภายนอกสวยดั่งทองกับหยก ภายในเหมือนฝ้ายที่เปื่อยเน่า
ผิวเผินดูอ่อนโยนเป็กันเอง ปฏิบัติต่อบุตรทุกคนเสมอภาค ทว่าความจริงเป็ผู้หญิงมากเล่ห์ นอกจากนี้ก่อนที่เ้าของร่างเดิมจะเสียชีวิต นางยังถึงกับเคยสงสัยว่ามารดาของนางไม่ได้ตายเพราะคลอดลูกยากแต่เป็เพราะถูกนายหญิงแซ่หลี่ทำร้ายจนตาย
ซูเฟยซื่อร้องไห้ะโพลางวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องโถงด้านหน้า คุกเข่าลงต่อหน้านายหญิงแซ่หลี่ทันที “แม่ใหญ่ช่วยข้าด้วย!”
เดิมนายหญิงคิดรอจนกว่าซูเฟยซื่อมาถึงก็จะให้บทเรียนอบรมนางดีๆรอบหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าที่ได้เห็นกลับเป็สถานการณ์เช่นนี้ อดไม่ได้อึ้งไป นางรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็ห่วงใยอย่างรวดเร็ว “นี่เป็เกิดเื่อะไรขึ้น? คุณหนูสามแห่งจวนอัครมหาเสนาบดีแท้ๆทำไมถึงได้ทำกันจนสภาพเป็เช่นนี้?”
“แม่ใหญ่ ซูเฟยซื่อรู้สึกไม่ค่อยสบาย ไม่กล้ามารบกวนท่าน กลัวว่าท่านจะเป็ห่วงคิดไม่ถึงว่าหลิวมามา นาง...นาง” ซูเฟยซื่อก้มหัวงุดร้องไห้อย่างเ็ป
วาจานี้กล่าวออกไป สีหน้าของนายหญิงแซ่หลี่พลันเปลี่ยนเป็น่าเกลียดไปเล็กน้อย
ที่เรียกว่าร่างกายไม่สบาย มิใช่ว่าศีรษะกระแทกชนจนาเ็หรือ แต่เหตุที่ซูเฟยซื่อศีรษะถูกกระแทกสลบาเ็ร้ายแรง คนร้ายตัวจริงดันเป็ซูจิ้งเถียน บุตรสาวคนเล็กแสนรักของนางนั่นเอง
นี่เดิมเป็การต่อสู้วิวาทเล็กๆ ระหว่างเด็ก นางสามารถลืมตาข้างหลับตาข้างได้ อย่างไรผู้ที่กำลังถูกรังแกก็ไม่ใช่บุตรสาวของนาง
แต่ตอนนี้ซูเฟยซื่อได้ก่อเื่มาถึงนางแล้วนอกจากนี้นางที่มีชื่อเสียงที่ดีอยู่ภายนอก ถ้าจัดการเื่นี้ได้ไม่ดีละก็...
คิดถึงตรงนี้ นายหญิงแซ่หลี่อดขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้มองหลิวมามาอย่างโกรธเกรี้ยว “นี่มันเื่อะไรกัน?”
หลิวมามาลุกลี้ลุกลนบ้างแล้ว“นี่...นี่...”
เห็นได้ชัดว่าเป็ซูเฟยซื่อที่มายั่วยุนางก่อนนางคาดไม่ถึงจริงๆ ว่ากลับเป็ซูเฟยซื่อ คนชั่วร้ายที่กล้าฟ้องร้องอุทธรณ์ก่อน
ตอนนี้ทั้งร่างซูเฟยซื่อสะบักสะบอม เหตุการณ์กลับกลายเป็นางที่พาเอาบ่าวไพร่ดุร้ายอำมหิตหลายคนบุกไปรังแกคุณหนูสาม นี่มิใช่เป็การะโลงไปในแม่น้ำหวางยังมิอาจล้างมลทินได้หรือ
ศีรษะซูเฟยซื่อก้มศีรษะต่ำ รอยยิ้มน่าเกลียดที่มุมปากวาบหายไป “แม่ใหญ่ ข้ารู้ว่าชีวิตข้าต่ำต้อย ไม่ใช่เป็ลูกแท้ๆ ที่ท่านคลอดออกมาเอง แต่ดีร้ายอย่างไร ข้าก็ยังเป็เืเนื้อเชื้อไขของท่านพ่อ เป็คุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดี ตอนนี้ถูกบ่าวไพร่รังแกมีสภาพเป็เช่นนี้ หากเื่นี้ลือออกไป ชื่อเสียงของข้าเอง ถือเป็เพียงเล็กน้อย แต่หากทำให้ชื่อเสียงของท่านและจวนอัครมหาเสนาบดีเสียนั่นก็เป็ความผิดที่ถึงแม้ข้าจะตายหมื่นครั้ง ก็มิอาจลบล้างได้เ้าค่ะ”
ร่างของนายหญิงแซ่หลี่แข็งทื่อ สิ่งที่เป็คุณธรรมที่สุดของนางคือความยุติธรรม ปฏิบัติต่อบุตรทุกคนด้วยความเสมอภาค
ด้วยเหตุผลนี้ ฮ่องเต้ยังเคยได้ทรงยกย่องนางในงานเลี้ยงที่พระตำหนักมาก่อนเวลานี้จะยอมให้ซูเฟยซื่อมาทำลายชื่อที่ดีนี้ไปได้อย่างไร
นางรีบพยุงร่างซูเฟยซื่อลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว กอดไว้ในอ้อมแขนก่อนกล่าวอย่างอ่อนโยน “ที่เ้ากล่าวมาเช่นนี้ เป็คำพูดจวนใดสั่งสอนกันแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของข้า แต่ก็เป็ข้าที่เฝ้าดูเ้าเติบโตมา ได้ถือปฏิบัติว่าเ้าเองก็เป็ลูกของข้ามานานแล้วไหนเลยให้เ้าถูกบ่าวไพร่รังแกได้? เื่ในวันนี้เป็ความผิดของหลิวมามา บ่าวไพร่ลากหลิวมามาไปใช้กฎระเบียบครอบครัวจัดการ”
“นายหญิง นายหญิง” หลิวมามาใระคนสยองกลัวคิดร้องขอความเมตตา แต่กลับไม่รู้ควรจะเอ่ยปากอย่างไร
นางติดตามนายหญิงแซ่หลี่มาหลายปีขนาดนั้นย่อมรู้วิธีจัดการกับสิ่งต่างๆ แม้ในใจจะลำเอียงไปบ้าง แต่หน้าฉากยังต้องทำดีไว้เสมอ
ได้เห็นหลิวมามาถูกบ่าวไพร่ลากออกไปอย่างไม่สมัครใจแล้ว ซูเฟยซื่อก็อดหัวเราะเ็าในใจไม่ได้
ชั่วชีวิตก่อนนางกระเสือกกระสนฝ่าฟันในพระราชวังมาหลายปี แต่กลับไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย ที่นางได้เห็นมามากกลับเป็การพบคนกล่าววาจาคนพบมารกล่าววาจามาร ทุกคนล้วนเห็นแต่ผลประโยชน์เป็ที่ตั้ง
วาจาของนายหญิงแซ่หลี่เมื่อครู่ก็มีไม่กี่คำที่จริงใจเพียงแต่นางบรรลุเป้าหมายสำเร็จ จะจริงใจหรือไม่ นั่นย่อมไม่เกี่ยวข้องกับนาง
นาง้าให้ทุกคนในจวนอัครมหาเสนาบดีทราบ นางไม่ได้เป็เ้านายที่ถูกใครๆ รังแกได้คนนั้นอีก
นายหญิงแซ่หลี่ไม่ได้เป็ตะเกียงที่น้ำมันหมดแต่อย่างใดซูเฟยซื่อบีบคั้นให้นางต้องลงโทษคนสนิทของนางเอง ในสายตาของนางแฝงความปวดร้าว ในใจคงเต็มไปด้วยความแค้นที่ต้องชดใช้
ได้เห็นว่าในที่สุดเื่นี้ก็มาถึงจุดสิ้นสุดจนได้ นายหญิงแซ่หลี่คลายกอดซูเฟยซื่อออก นั่งลงในตำแหน่งประธานใหม่อีกครั้ง “ไม่รู้ว่าข้าจัดการแบบนี้ ซูเฟยซื่อ ลูกพอใจหรือไหม?”
ด้วยสถานะปัจจุบันของนาง สามารถพูดได้ว่าไม่พอใจหรือ?
ซูเฟยซื่อเช็ดน้ำตาจากหางตา “ขอบคุณแม่ใหญ่เ้าค่ะ”
“โอ้ นี่เป็สิ่งที่แม่ใหญ่สมควรทำให้เ้ารับความไม่เป็ธรรมแล้ว” นายหญิงกล่าวอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงเปลี่ยนทันที บนใบหน้าเผยสีหน้าลำบากใจ “ว่าไปแล้ว แม่ใหญ่มี่หนึ่งไม่ได้เจอเ้ามาสักพัก วันนี้เรียกเ้ามาเพราะได้ยินว่าเ้าตัดลิ้นของอาจู แคว้นนี้มีกฎมณเฑียรบาล ครอบครัวมีกฎระเบียบครอบครัวในเมื่อเ้าเป็คุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดีก็ไม่ควรใช้การลงโทษส่วนตัวโดยพลการ”
กล่าวแล้ว ก็มองไปยังอาจูที่สภาพอเนจอนาถคุกเข่าลงกับพื้นคราหนึ่ง
ซูเฟยซื่อรู้มานานแล้วว่านายหญิงแซ่หลี่ไม่มีทางละเว้นนางไปง่ายๆนางยิ้มอย่างเ็าทันที “อาจูกล่าวคำบ้าคลั่งออกจากปาก ลบหลู่เบื้องสูงแม่ใหญ่เพิ่งกล่าวว่า แคว้นมีกฎมณเฑียรบาล ครอบครัวมีกฎระเบียบครอบครัว ถ้าซูเฟยซื่อไม่ลงมือจัดการคนในปกครองให้เรียบร้อย ไยมิใช่เื่ให้ผู้คนหัวเราะเยาะว่าจวนอัครมหาเสนาบดีเราอบรมสั่งสอนบ่าวไพร่ไม่เป็หรือเ้าค่ะ”
แซ่หลี่มองดูรอยยิ้มเ็าของซูเฟยซื่อ นางขมวดคิ้วแล้วเบนสายตาหันไปมองอาจู “กล่าวเช่นนี้ ความผิดเ้าสมควรได้รับการลงโทษเช่นนี้หรือไม่?”
ตอนนี้อาจูไม่สามารถพูดจาได้แล้วได้แต่สั่นศีรษะอย่างบ้าคลั่งสุดชีวิต ทั้งยังใช้มือวาดอะไรบนพื้นดินเป็พักๆ
“บ่าวไพร่ เอาพู่กันหมึกมา” ดูเหมือนนายหญิงแซ่หลี่จะเข้าใจว่าอาจูคิดจะพูดอะไร
พู่กันหมึก? นี่เป็สิ่งที่นางไม่ได้คิดอาจูถึงกับรู้จักตัวอักษร
ในใจซูเฟยซื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทันที “ไม่ต้องยุ่งยากเช่นนี้ ข้ามีพยานเ้าค่ะ”
“พยานหรือ?” แซ่หลี่เอ่ยปากถาม
“ค่ะ” ซูเฟยซื่อกวาดตามองไปรอบๆ คราหนึ่ง “เ้า เ้า และเ้า”
คนที่ชอบดูความคึกคักละครฉากเยี่ยมแบบนั้นในเรือนของนางจบแล้วไหนเลยจะไม่อาลัยอาวรณ์พลาดชมดูละครฉากหน้าห้องโถงนี้ไปได้
ดังนั้นซูเฟยซื่อคาดอย่างแม่นยำว่าบ่าวไพร่เ่าั้ต้องอยู่ที่นี่ด้วยไม่ผิดแน่
จากนั้นไม่นานทั้งสามคนที่ถูกชี้ตัว ก็เดินมาตรงหน้านายหญิงแซ่หลี่ “คารวะนายหญิงเ้าค่ะ”
ในเมื่อมีพยานแล้ว นายหญิงแซ่หลี่ย่อมต้องถามตามระเบียบทันที“ในเมื่อคุณหนูสามบอกว่าพวกเ้าเป็พยาน ถ้าเช่นนั้นพวกเ้าก็บอกเื่ราวทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนี้ออกมาให้หมดเถิด”
“บ่าว...” หญิงรับใช้คนแรกที่ถูกชี้ตัวลุกขึ้นยืน
เพียงเห็นอาจูที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างกำลังใช้สายตามองนางอย่างบ้าคลั่งสุดชีวิต เมื่อเทียบกับคุณหนูสาม อาจูต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนางมากกว่า
แต่...
นางมองดูซูเฟยซื่ออีกครั้งอย่างอดไม่ได้มองครานี้ก็ถูกความเฉียบคมในสายตาของซูเฟยซื่อข่มขู่จนต้องก้มศีรษะลง
เห็นหญิงรับใช้อ้ำๆ อึ้งๆพูดสาเหตุเื่ราวไม่ออกสักเื่ ซูเฟยซื่อพลันกระตุกมุมปาก “ไม่ต้องกลัว มีนายหญิงอยู่ที่นี่เป็ผู้รับผิดชอบให้เ้าขอเพียงเ้าพูดความจริงย่อมมิเป็ไร แต่หากพูดโกหกก็ย่อมมีกฎระเบียบครอบครัวจัดการ”