จ้าวซีเหอเห็นหนิงมู่ฉือแล้วรู้สึกโมโหยิ่ง ในใจเต็มไปด้วยโทสะอัดแน่น ะโเสียงดังเข้าไปในห้องครัว “หนิงมู่ฉือ เ้ามานี้ประเดี๋ยวนี้!”
เขาออกตามหานางจนไม่แม้แต่จะทานข้าวหรือดื่มชา คาดไม่ถึงว่านางจะมาทำอาหารอย่างสบายอุราอยู่ในห้องครัวของโรงพนันแห่งนี้
หนิงมู่ฉือได้ยินเสียงะโโกรธเกรี้ยวอันคุ้นเคย นางหันไปมองทางประตูห้องครัว ครั้นเห็นท่าทางเกรี้ยวกราดของจ้าวซีเหอจึงรีบก้มหน้าอย่างร้อนตัวทำสิ่งใดไม่ถูก
ไซพานอันหันไปมองตามเสียง เมื่อเห็นว่าเป็จ้าวซีเหอ รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันใด
จ้าวซีเหอเดินฝ่าผู้คนเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าไซพานอัน เห็นท่าทางหวาดผวาของอีกฝ่าย เขาะโเสียงดังใส่หน้า “ไซพานอัน! เ้ากล้าเล่นงานข้าลับหลังเชียวหรือ!”
ทุกคนมองจ้าวซีเหอและไซพานอันที่กำลังจะมีเื่กันอย่างรอชมเื่สนุก ทั้งคู่ต่างเป็คนที่ผู้ใดก็ไม่กล้าล่วงเกิน
ไซพานอันที่ถูกะโใส่หน้าในใจยิ่งขาดความมั่นใจ ตอบออกไปอย่างอึกอัก “ทำ…ทำอันใดเล่า! ท่านมาะโใส่หน้าข้าด้วยเหตุใด”
หนิงมู่ฉือมองท่าทางขลาดกลัวของไซพานอันด้วยใจที่ไม่สงบ แม้แต่มือที่กำลังหั่นผักก็ยังสั่นจนควบคุมไม่ได้ นางเดินเข้าไปหาทั้งสองคนพลางยิ้มอย่างเอาใจทั้งคู่ “ทุกคนเป็สหายกัน ไยต้องทะเลาะกันด้วยเล่า”
จ้าวซีเหอหันมาถลึงตาใส่นาง ทำให้นางไม่กล้าเอ่ยวาจาใดออกมาอีก ได้แต่มองจ้าวซีเหอะโใส่หน้าไซพานอันต่อด้วยความโกรธ “เ้าทำอันใดกับนาง! ไซพานอัน! เ้ารู้หรือไม่ว่าลักพาตัวเทพแม่ครัวที่ฮ่องเต้พระราชทานฉายาให้ด้วยพระองค์เองจนทำให้นางต้องใมีโทษสถานใด!”
ไซพานอันเปลี่ยนไปมีท่าทีหวาดกลัว ลอบกลืนน้ำลายไม่หยุด หันไปส่งสายตาขอร้องแกมวิงวอนให้หนิงมู่ฉือ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มแหยให้จ้าวซีเหอ “ซื่อจื่อคงไม่รู้ว่าข้ากับแม่นางหนิงคือสหายเก่ากัน”
จ้าวซีเหอที่ได้ฟังหันไปมองหนิงมู่ฉืออย่างไม่อยากจะเชื่อ ด้านหนิงมู่ฉือก็เอาแต่ก้มหน้าจัดแขนเสื้อตัวเองไม่หยุด เอ่ยอย่างตะกุกตะกักว่า “ใช่ ข้ากับคุณชายไซเป็สหายเก่ากัน”
จ้าวซีเหอมองหนิงมู่ฉืออย่างผิดหวัง แค่นเสียงฮึอย่างเ็าใส่ทั้งสองคน ก่อนจะเอ่ยกับหนิงมู่ฉือด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง “ท่านพ่อให้ข้าออกมาตามหาเ้า จะกลับหรือไม่กลับก็เื่ของเ้า”
หนิงมู่ฉือเห็นจ้าวซีเหอโกรธตัวเองจริงๆ รีบยิ้มประจบเอาใจทันที “ซื่อจื่อ ข้าต้องกลับไปอยู่แล้ว เพียงแต่คุณชายไซเป็สหายเก่าของข้า ข้าจึงอยากจะอยู่ช่วยคุณชายไซสักประเดี๋ยว”
ครั้นเห็นท่าทางอิดโรยของจ้าวซีเหอ นางรู้สึกปวดใจ ภายในใจระทมทุกข์ยิ่งนัก จากนั้นกล่าวกับจ้าวซีเหอที่ยังคงมีท่าทางไม่สนใจตัวเองว่า “ซื่อจื่อ ท่านนั่งรอข้าสักครู่ ประเดี๋ยวข้าจะทำอาหารสักสามสี่อย่างให้ท่านทานเพื่อคลายความหิว”
จ้าวซีเหอที่กำลังจะกลับชะงักฝีเท้า มุมปากยกขึ้นเป็รอยยิ้ม ตอบออกไปว่า “ก็ได้”
หนิงมู่ฉือกลับไปลงมือทำอาหารต่อ ไม่นานในห้องครัวก็อบอวลไปด้วยกลิ่นอาหาร ทั้งยังลอยโชยไปไกลยิ่งกว่าก่อนหน้านี้เสียอีก ทำให้ท้องของนักพนันทั้งหลายที่อยู่ในโรงพนันต่างส่งเสียงโครกครากออกมา ทุกคนต่างยกนิ้วโป้งชมเชยหนิงมู่ฉือ “ผู้คนล้วนกล่าวกันว่า กลิ่นอาหารของเทพแม่ครัวลอยไกลไปสิบลี้ ประโยคนี้พูดไว้ไม่ผิดเลย เพียงได้กลิ่นก็กระตุ้นความอยากอาหารได้แล้ว”
หนิงมู่ฉือได้ฟังก็เบนสายตาไปยังคนพูดด้วยสายตาชื่นชม ก่อนจะยกอาหารที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วไปวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าจ้าวซีเหอ โค้งตัวคำนับพร้อมกับกล่าว “ข้าทำอาหารให้ซื่อจื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านรีบทานตอนยังร้อนนะเ้าคะ”
จ้าวซีเหอแค่นเสียงฮึ ทว่าจู่ๆ ท้องกลับร้องอย่างไม่ไว้หน้า เขารีบเอามือกุมท้องด้วยความอับอายพลางเอ่ยออกไปว่า “เป็เพราะว่าข้าหิวหรอก ที่นี่ไม่มีเื่ของเ้าแล้ว เ้ารีบออกไปได้แล้ว”
หนิงมู่ฉือเห็นจ้าวซีเหอมีท่าทีเ็าก็รู้สึกโมโหยิ่ง ตอบกลับไปแค่เพียงอ่อคำเดียวอย่างไม่พอใจ และเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ต่างลอบกลืนน้ำลาย นางส่งยิ้มให้ทุกคนพลางเอ่ยว่า “ทุกท่านรีบทานเถิด”
ทุกคนได้ยินคำนั้นก็พุ่งไปที่โต๊ะอย่างรวดเร็ว ไซพานอันซึ่งอยู่ด้านข้างเอ่ยกับทุกคน “อย่าให้ข้าเห็นนะว่าผู้ใดลองชิมอาหารจานละห้าพันตำลึงเงินนี้ ชิมแล้วหลังจากนี้ก็อย่าลืมเอาเงินมาจ่ายข้าด้วย!”
ทันทีที่จบประโยค ไซพานอันถูกผู้คนรุมใช้เท้าเล่นงานอย่างน่าอนาถ ทำให้ใบหน้าในตอนนี้เต็มไปด้วยรอยเท้านับไม่ถ้วน ไซพานอันเช็ดดวงตาที่คลอไปด้วยหยาดน้ำตาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
หนิงมู่ฉือเห็นสภาพของไซพานอัน นางแย้มยิ้มออกมาพลางกล่าวเหน็บแนม “คุณชายไซ ข้าช่วยท่านแล้ว ท่านไม่เห็นต้องเสียมารยาทเช่นนี้เลย ตอนนี้ท่านอ๋องให้ซื่อจื่อมาตามข้ากลับไปแล้ว เช่นนั้นวันนี้ข้าคงไม่สามารถกลับจวนไปกับท่านได้แล้ว”
ไซพานอันได้ยินประโยคนี้ รู้สึกผิดหวังเหลือเกิน เมื่อเบนสายตาไปมองจ้าวซีเหอที่จ้องมองมายังตนเองด้วยแววตาคมกริบ ก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความเกรงกลัว ทำได้เพียงหันไปยิ้มแหยให้หนิงมู่ฉือ “ก็ได้ เช่นนั้นแม่นางหนิง ไว้มีโอกาสพวกเราค่อยพบกันใหม่”
ครั้งนี้หนิงมู่ฉือได้ผู้ที่ชื่นชอบนางกลับไปมากมาย ขณะที่จ้าวซีเหอยังคงมีสีหน้าไม่พอใจไม่เสื่อมคลาย เขาลุกขึ้นยืน ดึงตัวหนิงมู่ฉือเข้ามาหา ก่อนจะเอ่ยต่อหน้าทุกคน “พวกเ้าดูให้ดี ตอนนี้นางคือผู้หญิงของข้า พวกเ้าห้ามเกิดความคิดไม่ดีกับนางเด็ดขาด!”
หนิงมู่ฉือยังไม่ทันได้เอ่ยสิ่งใดหรือแม้แต่ตั้งตัว ก็ต้องถูกจ้าวซีเหอลากออกจากโรงพนันไป นางพยายามดิ้นรนอย่างน้อยใจ คาดไม่ถึงว่าเขาจะยิ่งจับมือนางแน่นขึ้น
ใบหน้าจ้าวซีเหอยังคงเรียบเฉยเ็า ลากนางไปยังที่ลับตาคนแห่งหนึ่ง ก่อนจะหันมาหาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว เขาโน้มหน้าลงมาบังคับจุมพิตนาง ดูดดึงริมฝีปากนางจนเจ็บไปหมด
นางพยายามขัดขืน ทว่าต่อมากลับตกอยู่ในห้วงเสน่หาจุมพิตของเขา เมื่อเขาสอดลิ้นเข้ามา นางฉวยโอกาสนี้กัดลิ้นของเขาอย่างแรง จ้าวซีเหอถอนริมฝีปากออกด้วยความเจ็บ เขามองนางอย่างไม่เชื่อสายตา เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคือง “เ้ากล้าปฏิเสธข้าเชียวหรือ!”
หนิงมู่ฉือน้ำตาไหลอาบแก้ม ตอบอย่างโมโห “เหตุใดท่านต้องทำเช่นนี้กับข้าด้วย!”
จ้าวซีเหอไม่ตอบ เดินไปที่กำแพงก่อนจะชกหมัดใส่กำแพงอย่างแรง หนิงมู่ฉือเห็นถึงกับใ มองเืที่ไหลเปรอะเปื้อนมือของเขาเต็มไปหมด
ลำคอของจ้าวซีเหอถึงกับมีเส้นเืปูดโปน “เ้าไม่รู้ความในใจของข้าจริงๆ หรือ!” สตรีนางนี้ไม่รู้หรือว่าตัวเองมีความสำคัญสำหรับหัวใจเขามากเพียงใด คงเป็เขาที่คิดไปเองฝ่ายเดียวสินะ
หนิงมู่ฉือก้มหน้าไม่พูดไม่จา ขณะที่น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสาย
จ้าวซีเหอเห็นแล้วเ็ปใจยิ่ง
ครั้นเห็นเืจากมือจ้าวซีเหอหยดลงบนพื้น หนิงมู่ฉือก็ร้อนใจยิ่ง เข้าไปลูบมือด้วยความเป็ห่วง ทว่าจ้าวซีเหอกลับเอี้ยวตัวหลบ เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ “ต่อไปเื่ของข้า...เ้าไม่ต้องมายุ่ง!”