ในที่สุดภาวิชก็พูดกับปพนต์ขึ้นเบาๆ “คืนนี้…อยากลองสลับคู่กันดูไหมครับ?”
ปพนต์หันมามองภรรยาสาวคนสวยของเขา สายตาเขาไม่ได้ถาม แต่เป็การเปิดโอกาสให้เธอเป็คนตัดสิน มารตีไม่ตอบในทันที แต่เดินเข้าไปหา…สุจิตรา พลางยื่นมือไปแตะแก้มเธอ ริมฝีปากเธออุ่น และหอมไวน์แดงตอนที่พวกเธอแนบจูบแรกกัน อย่างแ่เบา และไม่ต้องมีคำพูดใดๆ หลังจากนั้นอีก
พวกเขาสี่คนเดินกลับห้องพักห้องหนึ่งที่ใหญ่พอสำหรับทุกอย่าง ห้องที่มีเตียงขนาดใหญ่…และโซฟานุ่มๆ กับผ้าเช็ดตัวสองผืนที่วางพาดอยู่ปลายเตียง พวกเขาเริ่มปลดเสื้อผ้าของตัวเองทีละชิ้น...ทีละชิ้น อย่างช้าๆ
ภาวิชหันไปมองมารตี ที่กำลังรูดสายเดี่ยวลงจากไหล่ พลางเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ขอให้ผมเป็คนถอดเองได้ไหมครับ”
มารตีหันไปมองเขาโดยไม่ตอบอะไร...แค่ยิ้มและพยักหน้าน้อยๆ ภาวิชเคลื่อนตัวเข้าหามารตีช้าๆ มือเขาหนักแน่นแต่แฝงความอ่อนโยนในทุกัั มารตีรู้สึกร้อนวูบวาบทุกครั้งที่เขาแตะถูกตัวเธอขณะปลดเสื้อผ้าออกไปทีละชิ้นๆ อย่างช้าๆ
ขณะที่ปพนต์กำลังโอบสุจิตราอย่างทะนุถนอมจากด้านหลัง แต่ดูเหมือนจะไม่ทันใจเธอ หญิงสาวควานมือไปด้านหลังพลางโน้มตัวไปด้านหน้า และชักนำปพนต์เข้าไปในตัวเธออย่างรีบเร่ง
เสียงหอบหายใจ เสียงจูบ เสียงผิวเนื้อัักัน…เริ่มทวีความร้อนแรงขึ้น ที่ละน้อย...ทีละน้อย...ร่างกายของมารตีแอ่นรับการเข้ามาของภาวิช ขณะที่ดวงตาเหลือบมองไปยังปพนต์กับสุจิตราที่กำลังขยับตัวสลับกับการจูบกันอย่างเร่าร้อน สาวสวยครางเสียงต่ำ เมื่อภาวิชกดเอวหนักขึ้น พลางโน้มตัวลงมาขบเบาๆ ที่ซอกคอ
ชั่วขณะสุจิตราก็ผละจากปพนต์แล้วโค้งตัวลงมาคลอเคลียมารตีกับภาวิช…พร้อมกัน...ปพนต์ขยับตามติดร่างของสุจิตราที่โค้งตัวอยู่ ทุกอย่างกลายเป็เสียงกระซิบ เสียงหอบ และความเคลื่อนไหวที่ไร้ขอบเขต
มารตีขยับขึ้นนั่งคร่อมหน้าขาภาวิชที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ เธอหันหน้าออกไปทางปลายเท้า ปล่อยให้สุจิตราซุกหน้าลงััเนินเนื้อที่กำลังเผยออ้าของเธอจากสิ่งแปลกปลอมที่กำลังขยับเข้าออกเป็จังหวะ
ส่วนปพนต์ก็กำลังขยับตัวแนบชิดกับส่วนท้ายของสุจิตราที่กำลังก้มตัวอยู่อย่างต่อเนื่อง ความเร่าร้อน...เปลี่ยนผ่านจากคู่หนึ่งไปสู่อีกคู่ สลับ สอดประสาน...จนไม่มีใครแยกออกว่าคู่ไหน เป็คู่ไหน หรือใครเป็ของใครในยามนี้
คืนนี้ มีแค่พวกเขาทั้งสี่คน...
เสียงนกร้องแว่วมาเบาๆ จากแนวไม้ไผ่ริมรีสอร์ต อากาศยามเช้าชื้นเย็นพอให้ลมหายใจรู้สึกได้ถึงกลิ่นดิน กลิ่นหญ้า และไอแดดที่ยังอ่อนแสง มารตีค่อยๆ ลืมตาขึ้นในห้องพักที่หน้าต่างเปิดรับแสงอาทิตย์ ที่สาดส่องมาให้ความอบอุ่นแก่ร่างเปลือยขาวอมชมพูของเธอ ผืนผ้าบางๆ ที่คลุมตัวหลุดลุ่ยออกจากลำตัว เผยให้เห็นรอยจูบจางๆ บนผิวที่ยังชื้นจากค่ำคืนก่อนหน้า เธอลุกขึ้นยืนอย่างเงียบๆ เสียงลมหายใจของปพนต์ที่ยังหลับลึกอยู่ด้านหลัง ทำให้เธออดยิ้มไม่ได้
ริมสระน้ำกลางสวนเล็กๆ มีเสียงหัวเราะแ่เบาจากกลุ่มแขกบางส่วนที่ตื่นเช้ามาเล่นโยคะ มารตีสวมเสื้อคลุมทับร่างเปลือย เดินออกมาอย่างแ่เบา แล้วเริ่มขยับร่างกายเบาๆ ตามพวกเขา ในจังหวะหายใจเข้าออก กล้ามเนื้อยืดเหยียดช้าๆ เธอรู้สึกเหมือนได้ชำระจิตใจทีละนิด
หลังจากโยคะ เธอเดินไปยังสระว่ายน้ำอีกมุมของรีสอร์ต ที่นั่นเอง...มารตีเจอ "พวกเขา"
นิชา...สาวผิวแทน ผมหยักศกสีน้ำตาลทองในชุดบิกีนี่ซีทรู ทูพีซสีดำบางเบา มองทะลุถึงเนื้อใน โดยไม่ต้องเปียกน้ำ เธอกำลังนั่งหย่อนปลายขาลงในน้ำ สะโพกแนบกับขอบหินทรงธรรมชาติ ขณะที่ชายหนุ่มรูปร่างกำยำล่ำแน่นกำลังว่ายวนอยู่รอบตัวเธอ
พยนต์...ผิวเข้ม ตาคม หนวดเคราหยาบระคายตา ดูดิบ เถื่อน แต่มีอะไรบางอย่างในท่าทางเขาที่สะกดมารตีให้มองอย่างไม่อาจละสายตาได้ พวกเขาหันมาทางเธอ พร้อมรอยยิ้มที่แฝงแรงเชิญชวนอย่างไม่ปิดบัง
“มาว่ายน้ำด้วยกันไหมคะ?” นิชาพูดเสียงใส แล้วลุกขึ้นยืน เผยให้เห็นสัดส่วนยั่วยวนโดดเด่นของเธอที่มีหยาดน้ำเกาะพราว ไปทั้งตัว
มารตียิ้มน้อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ ก่อนปลดสายรัดเอว เปิดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นร่างบางขาวโพลน งามสะพรั่ง อยู่ภายใน
“อุ๊ย...ไม่มีอะไรเลยเหรอ” นิชาอุทานเบา ทำหน้าตื่น
ขณะที่มารตีปล่อยเสื้อคลุมลงกองกับพื้นเปิดเผยร่างงามเร้าอารมณ์ที่เปิดเปลือยอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันชอบ แบบไม่มีอะไรปิดบังน่ะค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้ นิชาแล้วก้าวลงน้ำไป พร้อมกับมีเสียงทุ้มลึกก็ดังขึ้นใกล้หูเธอ
“อย่าลืมพวกเราอีกสองคนนะครับ” สมาท... ชายผิวขาวสะอาด ใบหน้าคมแต่หน้าตาอ่อนโยน และพิริยะ...ผิวสองสี กล้ามแน่นเต็มไปด้วยรอยสักลายเรขาคณิต และรอยยิ้มที่เหมือนหมาป่ากำลังล่าเหยื่อ
พวกเขาขยับตัวเข้ามาใกล้ มารตีรู้สึกเหมือนถูกล้อมด้วยพลังสองขั้ว ความอ่อนโยนลึกซึ้งจากสมาท และแรงดึงดูดที่รุนแรงหยาบๆ แต่เร้าใจจากพิริยะ
ในสระน้ำ ทุกอย่างเริ่มจากััเบาๆ ในน้ำอุ่น ก่อนจะไหลลื่นไปตามธรรมชาติ ไม่ใครขออนุญาตใคร...มือของพยนต์ััเอวมารตี ใต้ผิวน้ำที่ปั่นป่วนด้วยแรงเคลื่อนไหว ก่อนจะเลื่อนลงสู่จุดสำคัญ ที่ทำให้หญิงสาวต้องครางเบาๆ ออกมาอย่างเผลอตัว
นิชาเลื่อนตัวมาแนบหลัง กระซิบข้างหูอย่างแ่หวิว ขณะที่ริมฝีปากเธอแตะไหล่มารตีเบาๆ ร่างงดงามเร่าร้อนที่เปลือยเปล่าของมารตีไม่มีการขัดขืนหรือหลบเลี่ยงการแตะต้อง ราวกับเป็การประกาศการเชิญชวนให้ทุกคนที่อยู่ในสระน้ำได้รู้ว่า เธอพร้อมจะััใกล้ชิดกับทุกคน
สมาทว่ายน้ำเข้ามาใกล้ ขยับตัวประกบแนบแผ่นเนียนนุ่มของเธอ มือของเขาโอบผ่านสะโพกไปด้านหน้า ขณะที่พิริยะโผล่ขึ้นจากน้ำตรงหน้าเธอ สบตาแล้วโน้มมาหาหน้าสวยของมารตี...
จูบของเขารุนแรง เร่าร้อน แตกต่างจากใครทั้งหมด มันเหมือนโดนผลักลงเหวลึก แล้วในวินาทีถัดมาก็มีมืออุ่นจากสมาทรั้งตัวเธอไว้จากด้านหลัง ทั้งสองแรงดึงเกิดขึ้นพร้อมกัน จนทำให้มารตีหลุดเสียงครางในคอ ออกมา ขณะที่ร่างกายโดนผสานจากทุกทิศทาง จนเธอไม่รู้ว่าใครอยู่ในร่างเธอบ้าง พวกเขาสลับกันเข้าๆ ออกๆ จากร่างของเธอราวว่ามีผู้ชายนับร้อยคนอยู่ในสระน้ำนั้น
นิชากับพยนต์ก็ไม่ได้ถอยห่าง นิชาลูบแผ่นหลังมารตีไปมา สลับกับจูบสั้นๆ ที่ต้นคอ ขณะที่พยนต์เลื่อนตัวเข้าหาด้านล่างใต้ผิวน้ำก่อนที่บางส่วนของเขาจะเข้าไปอยู่ในตัวเธอ…แรงสั่นกระเพื่อมของผิวน้ำตามมากับทุกการเคลื่อนไหว เสียงน้ำกระเพื่อม เสียงหอบ เสียงกระซิบที่สลับด้วยเสียงเรียกชื่อกันแ่เบา
ทั้งหมดคละเคล้า กลายเป็จังหวะที่ไม่มีใครสามารถแยกจากอีกคนได้ พวกเขาเคลื่อนไหว...สลับคู่...แลกเปลี่ยน...ในสระน้ำที่ธรรมชาติโอบล้อม...ไม่มีคำจำกัดความใดๆ นอกจาก “อิสระ”
และในวินาทีนั้นเอง มารตีก็รู้ว่า…ตัวเองไม่ได้แค่กำลังใช้ชีวิต แต่กำลัง หลอมรวมกับคนอื่น และจะไม่มีใครอยู่เพียงลำพัง ร่างเปลือยเปียกชื้นของพวกเขาพาดพิงอยู่ริมสระน้ำใต้ร่มไม้ เสียงน้ำยังคงกระเพื่อมเบา ๆ จากแรงลมและอุณหภูมิที่เริ่มอุ่นขึ้นในยามสาย กลิ่นกายของกันและกันยังอวลอยู่ในอากาศ รวมกับกลิ่นดิน หญ้า และหยาดเหงื่อที่ยังไม่จางหาย
มารตีซบแผ่นอกของสมาท ขณะที่พยนต์ยังคงเบียดกายแนบชิดสะโพกเธอแน่นและปล่อยบางส่วนค้างคาอยู่ในร่างกายของเธออย่างไม่เร่งรีบ ที่จะถอดถอนออกไป นิชาเอนตัวพิงร่างของพิริยะ มือเรียวขยับลูบอวัยวะสำคัญที่เริ่มตื่นตัวของเขาเบาๆ พลางส่งสายตาสบกับพยนต์สามีของเธอ ก่อนจะขยับตัวขึ้นนั่งบนตักของพิริยะ ขณะพูดเสียงนุ่ม
“เมื่อกี้นี้…สนุกดีนะคะตื่นเต้น เร้าใจมาก...นี่เป็ครั้งแรกเลยนะที่ทำอะไรแบบนี้” นิชาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ
“อื้อ...ใช่ทั้งร้อนแรง ทั้งตื่นเต้น ฉันไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย...มันเหมือนกับจรวดที่พุ่งทะยานแบบไร้ขีดจำกัดน่ะ...”มารตียกศีรษะขึ้นมามองทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก่อนยิ้มเขินๆ พลางเอียงหน้าไปยิ้มให้พยนต์อย่างหวานซึ้ง ขณะเดียวกันก็ยังไม่ยอมขยับตัวปล่อยให้เขายังอยู่ในตัวเธอแบบนั้นต่อไป
นิชาหันมาสบตามารตี พลางยิ้มเ้าเล่ห์ “แต่คืนนี้ อาจจะดีกว่านั้นอีกนะ”
สาวสวยเลิกคิ้วเล็กน้อย “คืนนี้…ยังจะมีอะไรที่ตื่นเต้นกว่านี้อีกเหรอ?”