“พี่คะ........”
“เสี่ยวเสว่ เธอพักก่อนเถอะนะ ไม่ต้องกังวล ยังมีพวกป้าหลีอยู่ เขาไม่กล้าทำอะไรหรอก” พี่สาวเผยรอยยิ้มโล่งใจออกมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แล้วประคองให้น้องสาวตัวน้อยค่อยๆนอนลงบนที่นอน
คนที่อยู่นอกประตูนั่นชื่อหวงเฉวียน และประตูกันขโมยก็ถูกติดตั้งขึ้นมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ
คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนเป็คนยากจนทั้งสิ้น พวกคนรวยๆไม่เคยย่างกรายเข้ามาที่นี่หรอก เพราะพวกเขาคิดว่าที่แห่งนี้อาจจะลดคุณค่าในตัวของพวกเขาลงไปและยังรกหูรกตาพวกเขาอีกด้วย แต่เพราะเหตุผลนี้ชีวิตของพวกเธอสองพี่น้องถึงได้สงบสุข ไม่อย่างนั้นความงดงามของพวกเธอคงจะถูกคนจำนวนนับไม่ถ้วนจ้องมองอย่างไร้ยางอายไปแล้ว
แต่ต่อให้เป็ที่แห่งนี้ ความสวยของเธอก็ยังคงนำเื่วุ่นวายมาให้เธอไม่หยุดหย่อน
พ่อของหวงเฉวียนเป็นักธุรกิจที่มีทรัพย์สินหลายล้าน ความมั่นใจและความทระนงของเขาก็เป็เพราะพ่อที่ร่ำรวยและความร่ำรวยที่มากเกินไปของเขา วันนั้นที่เขาวนเวียนไปมารอบๆเขตเสื่อมโทรมนี้ก็เพื่อโอ้อวดและเพื่อให้คนจนๆได้เห็นว่าอะไรที่เขาเรียกว่าคนมีเงินเพื่อเป็การเติมเต็มความทระนงของเขาเท่านั้นเอง เขาสวมเสื้อผ้าสีสดใสแล้วขับรถยนต์ของตัวเองมาถึงที่นี่และใช้สายตาสูงส่งนั่นมองผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ณ ที่แห่งนี้..........
จากนั้นในตอนที่เขาได้เห็นพี่สาวที่เดินผ่านไปอย่างรีบร้อนก็ราวกับว่าเขาได้เห็นนางฟ้าเดินดิน เขาตกตะลึงเหมือนิญญาหลุดออกจากร่างจนร่างกายแทบจะชนเข้ากับผนังที่อยู่ด้านหน้า บ้านและที่ดินอันเก่าคร่ำครึกลับมีหญิงสาวที่สวยงามราวกับราวฟ้านาง์อาศัยอยู่ มันช่างเป็ความแตกต่างที่มากมายในสายตาและความรู้สึกของเขาจริงๆ
ดังนั้นเขาจึงเริ่มสืบชื่อและที่มาของเธออย่างรวดเร็วที่สุด.......... แล้วเขาก็ได้รู้ว่าเธอมีชื่อว่าหร่านเฉินซิน และยังมีน้องสาวที่กำลังป่วยหนักอยู่อีกหนึ่งคนด้วย ทั้งสองคนอาศัยอยู่ในห้องเช่าห้องเล็กๆและมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก
หลังจากได้รู้เื่ทั้งหมดเขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างยิ่งราวกับได้เห็นตัวเองรวบตัวหร่านเฉินซินเอาไว้ในมือได้........... เมื่อมองดูเธอที่มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากแล้วยังต้องหาเงินเพื่อมารักษาน้องสาวที่ป่วยหนักอีก การจะได้เธอมานั้นเพียงแค่ขับรถยนต์มาจอดอยู่ตรงหน้าของเธอ จากนั้นก็ยื่นอาหารออกไปจากกระจกรถก็คงจะได้เธอมาอย่างง่ายๆแล้ว.....
แต่หลังจากการกระทำโง่ๆของเขา สิ่งที่เขาได้รับก็คือการจากไปอย่างรวดเร็วของหร่านเฉินซิน จากนั้นเธอก็รีบกลับไปที่ห้องเช่าเล็กๆของตัวเองเพื่อกลับไปดูแลน้องสาวของเธอ ดังนั้นเขาจึงต้องใช้กลยุทธ์ต่อไป........นั่นก็คือการจู่โจมถึงหน้าประตู
หลังจากนั้นเขาจะเว้นระยะเวลาไปไม่กี่วันแล้วค่อยมาที่นี่สักครั้ง มารยาทที่เขาเสแสร้งออกมาั้แ่แรกเริ่มในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวจนต้องเผยธาตุแท้ออกมา สิ่งที่เขาได้รับก็มีเพียงสายตาที่ทวีความเกลียดชังของหร่านเฉินซินและเฉินเสว่เท่านั้น แต่ปกติผู้คนที่นี้ก็ล้วนเอ็นดูสองพี่น้องอยู่แล้ว เขาจึงไม่กล้าใช้ไม้แข็งแต่ก็ไม่เคยหยุดคุกคามพวกเธอเลย หร่านเฉินซินที่แข็งกร้าวต่อการดึงดูดและความน่าตื่นตาตื่นใจที่เขาสร้างขึ้นมายิ่งทำให้เขาหยุดไม่อยู่ เมื่อเขามองผู้หญิงคนอื่นเขาจึงเกิดความรู้สึกว่าเธอเ่าั้น่าเบื่อและยากที่ทำให้เขาเกิดความสนใจขึ้นมาได้อีก
“หวงเฉวียน นายรีบไปซะเถอะ อย่างมารบกวนการพักผ่อนของน้องสาวฉัน....... ยิ่งไปไกลจากที่นี่เท่าไรยิ่งดี!” หร่านเฉินซินที่ได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีเยี่ยม เดิมทีไม่มีทางที่เธอจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงถ้อยคำหยาบคายเลย แม้แต่การะโออกมาก็มักจะมาจากความโกรธที่แทบไม่ส่งผลใดๆต่อใครเท่านั้น
“เฉินซิน ขอแค่เธอยอมตกลงเป็แฟนของฉัน ต่อไปฉันจะเชื่อฟังเธอดีหรือเปล่า? เธอก็จะได้ไม่ต้องอยู่ในห้องโกโรโกโสเล็กๆนี่ต่อไป ฉันสัญญาว่าจะให้เธอมีเสื้อผ้าสวยๆใส่ อยู่ในบ้านหลังใหญ่ๆ นั่งรถหรูๆ..........”
“ฉันไม่สนใจของพวกนั้นหรอก นายรีบไปซะเถอะ!” บ้านหลังใหญ่? รถหรู? ผู้หญิงที่มีที่มีรูปร่างและลักษณะนิสัยแบบนี้ขอแค่ไม่ใช่คนโง่ก็เดาออกว่าเธอจะต้องมีชาติกำเนิดไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะมีเพียงแค่พันธุกรรมอันยอดเยี่ยมที่ตกทอดมาหลายรุ่นและมรดกซึ่งเป็สภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมให้คนๆหนึ่งออกมาสวยงามปานนางฟ้าได้ขนาดนี้ บ้านหลังโตและรถหรูในสายตาของคนแบบนี้ บ้านและรถหรูที่หวงเฉวียนมีไม่มีทางเทียบกับพวกเขาได้อย่างแน่นอน
“.......เอาเถอะ ฉันจะพูดอีกครั้ง ขอแค่เธอตกลงเป็แฟนฉัน ฉันจะให้เธอทันทีแสนนึง แล้วจะส่งน้องสาวของเธอไปรักษาที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในจิงหัวด้วย เธอจะได้ไม่ต้องเป็พี่สาวที่เห็นแก่ตัวที่แม้แต่ชีวิตของน้องสาวตัวเองก็ยังดูแลไม่ได้ไง!!”
“นายไม่ต้องพูดมากแล้ว รีบๆไปซะเถอะ! ไปซะ!” หร่านเฉินซินจะไม่แคร์สุขภาพร่างกายของเฉินเสว่ได้อย่างไร แม้แต่ในความฝันเธอก็ยังหวังว่าจะมีเงินทองมากมายเพื่อไปแลกเอามารักษาอาการป่วยของน้อยสาว แต่เธอรู้นิสัยของน้องสาวดี ถ้าเธอตอบรับความช่วยเหลือของหวงเฉวียนเพื่อเฉินเสว่ล่ะก็ เฉินเสว่จะต้องคิดวิธีที่ทำให้ตัวเองตายไปอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
“กลางวันแสกๆใครมันมาะโโหวกเหวกโวยวายรบกวนการนอนของคนอื่นเขาล่ะเนี่ย! ไอ้หนู แกอีกแล้วเรอะ ไอ้ลูกวัวไม่รู้จักตายนี่ยังไม่รีบไปให้พ้นหน้าฉันอีก! ยังจะกล้ามาคุกคามเฉินซินอีกหรอ ต่อไปถ้าฉันเห็นแกอีกฉันจะตีแกแน่นอน พวกเธอพี่น้องน่ะถือเป็ลูกเป็หลานของฉันนะ.........”
หญิงวัยกลางคนทั้งอวบอ้วนและผอมเพรียวสี่ห้าคนหอบกะละมังและพลั่วมาคนละไม้คนละมือวิ่งออกมาด้วยใบหน้าดุร้ายแล้วพุ่งมาทางหวงเฉวียน หวงเฉวียนที่เคยเจอกลุ่มคนที่คอยช่วยผู้หญิงคนนี้แล้วไม่ต้องรอให้พวกเธอมาเขาก็รีบเผ่นออกไปก่อน เขาวิ่งออกไปพร้อมกับะโออกมาอย่างชั่วร้าย “หร่ายเฉินซิน เธอคอยดูเถอะ.......... ไม่ต้องทำอะไรให้ยุ่งยากพ่อของฉันรู้จักคนมากมายในวงการมาเฟีย อย่าให้ฉันต้องลงมือเองนะ!!”
เขารีบขึ้นรถไปอย่างหัวซุกหัวซุน จากนั้นก็ขับออกไป
ในที่สุดหร่านเฉินซินก็ถอนหายใจออกมายาวๆแล้วเปิดประตูออกไปพร้อมกับพูดออกมาอย่างรู้สึกขอบคุณ “ป้าหลี ป้าหลิว........ ขอบคุณพวกป้ามากเลยนะคะ เข้ามานั่งข้างในก่อนสิคะ”
“ไม่ต้องหรอก” หญิงวันกลางคนยิ้มน้อยๆแล้วพูดออกมา “ป้าไม่รบกวนพวกเธอพี่น้องแล้วล่ะ เธอดูแลเสี่ยวเสว่ดีๆเถอะ ไม่ต้องไปสนใจเ้าสารเลวที่ทำตัวเป็คางคกอยากกินเนื้อหงส์หรอก ถ้ามันกล้ามาอีก ป้าจะไล่มันไปอีกคอยดู”
“ค่ะ........ขอบคุณพวกป้ามาก” เธอกล่าวขอบคุณออกไปด้วยความตื้นตัน จากนั้นก็ปิดประตูลงอย่างเบามือ ใบหน้าของเธอกลับมามีรอยยิ้มน่าหลงใหลอีกครั้ง “เสี่ยวเสว่ พักผ่อนก่อนนะ พี่จะรีบต้มซุปปลามาให้”
ใน World of fate ั้แ่หาเงินมาได้จากเย่เทียนเซี่ยก็ทำให้เธอใฝ่ฝันถึงชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และยังทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของเธองดงามอ่อนหวานมากยิ่งขึ้นไปด้วย เมื่อหันหลับมาเธอก็ยกสร้อยคอที่อยู่บนหน้าอกขึ้นมาแล้วขอบคุณ World of Fate อย่างเงียบๆ รวมทั้งยังขอบคุณคนที่มีชื่อว่า “เซี่ยเทียน” คนนั้นด้วย เธอเชื่อว่าต่อไปตัวเองจะต้องหาเงินได้มากเหมือนวันนี้อย่างแน่นอน เพื่อตามหาความหวังในการรักษาโรคร้ายของน้องสาวเธอให้หาย
————
————
เมื่อเย่เทียนเซี่ยและซูเฟยเฟยกลับมาถึงบ้านก็เป็เวลาค่ำแล้ว
เย่เทียนเซี่ยนอนลงบนโซฟาแล้วอ้าปากค้างราวกับคนหมดแรงใกล้ตาย ชอปปิ้งคือศัตรูทางธรรมชาติที่น่ากลัวที่สุดของผู้ชาย เดินอยู่บนถนนแท้ๆแต่กลับเหนื่อยล้ายิ่งกว่ามีเื่ต่อยตีกันสามวันสามคือซะอีก......... แต่สำหรับซูเฟยเฟยที่เดินอยู่บนถนนเดียวกัน พลังกายของเธอกลับห่างชั้นไม่เหมือนกับตัวเขาเลยสักนิด ตอนนี้เธอไม่เพียงไม่มีความเหนื่อยล้า แต่เธอกลับมีชีวิตชีวาและมีใบหน้าเหมือนยังไม่เพียงพอที่เพิ่งเดินชอปปิ้งไปได้ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น
พวกเขาซื้อของกันั้แ่เที่ยงจนถึงบ่าย.......... จริงๆแล้วเป็ของที่ซูเฟยเฟยซื้อคนเดียวเยอะแยะมากมายต่างหาก มันมากมายจนวางเต็มห้องที่มีพื้นที่สิบตารางเมตรห้องหนึ่งเลย ดังนั้นในที่สุดพวกเขาก็เลือกที่จะโทรศัพท์หาบอดี้การ์ดของซูเฟยเฟยให้มาขนไป และสาตุที่ซูเฟยเฟยซื้อของมาเยอะแยะมากมายขนาดนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล และไม่ได้ซื้อมั่วๆด้วย การคาดการณ์และจุดประสงค์ของเธอคือเพื่อความแน่ใจ ต้องโทษที่บ้านของเย่เทียนเซี่ยมีของที่สามารถใช้ได้น้อยเกินไป ท่ามกลางของที่เธอซื้อมาเ่าั้ยังมีตู้เย็นขนาดใหญ่พิเศษหนึ่งอัน มีเสื้อผ้ากองโตหนึ่งกอง และยังมีของจำพวกอาหารอีกครึ่งหนึ่ง
อีกด้านหนึ่งซูเฟยเฟยก็แอบมองเย่เทียนเซ่ยอยู่เงียบๆเท่าที่จะทำได้ เพราะเธอรู้ว่าเขาออกจากบ้านน้อยมาก ต่อให้ออกจากบ้านไปก็ไปไหนไม่ไกล หากเขาไม่ออกไปไหนซูเฟยเฟยที่ต้องอาศัยเย่เทียนเซี่ยในการคุ้มครองก็จะไม่สามารถออกไปไหนได้ตามไปด้วย และเธอก็ไม่อยากขอร้องให้เย่เทียนเซี่ยพาเธอออกไปด้วย.......... ดังนั้นจะต้องซื้อของให้เพียงพอในการออกไปแค่ครั้งเดียว
เมื่อจัดการสิ่งของมากมายที่ซื้อกลับมาแล้ว บรรดาบอดี้การ์ดตระกูลซูที่ยุ่งวุ่นวายมาตลอดครึ่งวันก็จากไปด้วยสภาพเหงื่อท่วมโดยไม่ได้ดื่มแม้แต่ชาเพียงแก้วเดียว แต่ชายผู้เป็เ้าของที่นี่กลับนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิกราวกับยังไม่ได้ฟื้นพลังกลับคืนมา
“เทียนเซี่ย เหนื่อยขนาดนั้นจริงๆเหรอ?” ซูเฟยเฟยชะโงกหน้าไปตรงหน้าเย่เทียนเซี่ยแล้วพูดออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ เมื่อเธอพูดจบเธอก็เป่าลมหาใจอบอุ่นไปบนหน้าของเขาเบาๆหนึ่งครั้ง
“อืม..........” เย่เทียนเซี่ยส่งเสียงตอบกลับมาอย่างอ่อนแรง
“งั้น........... ฉันจะบอกข่าวดีอะไรนายสักอย่าง บางทีอาจจะทำให้นายสดชื่นขึ้นมาก็ได้” ใบหน้าของซูเฟยเฟยเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากนั้นก็พูดออกมาอย่างมีลับลมคมใน “นี่บอกเลยนะว่าระดับของฉันใน World of Fate น่ะใกล้ถึงระดับ 10 แล้วเย็นวันนี้ใช้เวลาอีกนิดหน่อยก็จะไปถึงระดับสิบได้แน่นอน หลังจากไปที่เมืองเทียนเฉินแล้วพวกเราจะได้เล่นด้วยกันแล้วนะ ดีใจไหม?”
“เออ.............” เย่เทียนเซี่ยส่งเสียงตอบกลับมาครั้งหนึ่ง เขาไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรน่าดีใจทั้งนั้น
“นี่! อารมณ์ไหนของนายเนี่ย.........เหอะ ไม่สนใจนายแล้ว ฉันจะไปทำซุปก่อนแล้วกัน ไหนว่ามาสิว่าอยากกินซุปอะไร?” ซูเฟยเฟยรู้สึกโกรธเคืองจากนั้นเธอก็ทำหน้ามุ่ยแล้วถามออกมาพร้อมกับชำเลืองมองเขาไปด้วย
“ซุปอาหารทะเล!!” เย่เทียนเซี่ยยังไม่ทันได้ส่งเสียงออกมากั่วกัวก็ปรากฏตัวออกมาทันที เธอพยายามยื่นมือออกไปทางซูเฟยเฟยอย่างสุดความสามารถพร้อมกับะโออกมาเสียงดัง........... แต่เสียงของเธอต่อให้ะโดังกว่านี่อีกสิบเท่าซูเฟยเฟยก็ไม่มีทางได้ยิน
“เฮ้อ....... ซุปอาหารทะเล” เย่เทียนเซี่ยงึมงำพูดออกไป
“เหอะ รู้จักแต่กิน นายนี่มันี้เีจริงๆ” ซูเฟยเฟยบ่นออกมาอีกเล็กน้อยจากนั้นก็ยกยิ้มขึ้นมาบางเบาแล้วเดินเข้าไปในห้องครัว
“นายท่าน นายท่านมีเด็กสาวที่น่ารักและเชื่อฟังอย่างกั่วกัว แล้วยังมีพี่สาวที่แสนดีอย่างพี่เฟยเฟยอีก นายท่านช่างโชคดีจริงๆเลยเ้าค่ะ” ดวงตาของกั่วกัวเปล่งกระกายวิบวับแล้วพูดออกมาด้วยความอิจฉา
“..............” เย่เทียนเซี่ย
เขาไม่สนใจยัยตัวเล็ก เย่เทียนเซี่ยยื่นมือขวาออกมาแล้วกดลงบนอุปกรณ์เชื่อมต่อเกมที่เป็สายรัดข้อมือที่อยู่บนมือซ้ายแล้วเข้าไปใน World of Fate ทันที
ที่ที่เขาปรากฏตัวก็คือคฤหาสน์สุดหรูราวกับหล่นลงมาจาก์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเทียนเฉิน
ตอนนี้ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยหน้ากากแปลกๆที่ปิดบังใบหน้าของเขาไว้ถึงครึ่งหน้า สองมือของเขาสวมเกราะมือสีขาวและสีดำที่โดดเด่นสะดุดตาสุดๆ บนหลังของเขาก็มีผ้าคลุ่มที่มีไอิญญาสีเทาเคลือบอยู่ปกคลุ่มไว้ และร่างของเขาก็ยังมีเกราะที่ส่องแสงสีเงินออกมาด้วย ตอนนี้ทั้งร่างของเขาดูอลังการสุดๆ
คาดว่าต่อไปในระยะยาวหน้ากากหนึ่งเดียวไม่มีสองของเขา รวมทั้งเขี้ยวั์และเขี้ยวัปีศาจก็จะกลายเป็สัญลักษณ์ของเขา และต่อไปก็คงจะไม่มีใครกล้ามาลองดีกับเขาอีก
