“หยกจักรพรรดิ”ก้อนนี้ทำให้หลินลั่วหรานดูเด่นขึ้นมา อีกทั้งหินแร่ก้อนต่อๆไปของหลิ่วชื่อต่างก็ได้กำไรไม่มากก็น้อยทั้งนั้น บางก้อนก็ได้กำไรกว่าสิบเท่าและบางก้อนก็อยู่ในระดับเดียวกับต้นทุน แต่เมื่อมองรวมๆ แล้วไม่มีหินแร่ก้อนไหนที่หลินลั่วหรานเลือกให้หลิ่วชื่อ ขาดทุนเลยแม้แต่ก้อนเดียว!
ต่างพูดกันว่าแม้แต่มือ์ก็ใช่ว่าจะพนันได้ตลอดแต่แบบนั้นแล้วหลินลั่วหรานที่อยู่ตรงหน้าของเขาคืออะไรกันล่ะ? นี่คือมือ์ที่เดินดินอยู่จริงอย่างนั้นเหรอ? สายตาที่ทุกคนพากันจับจ้องมาที่หลินลั่วหรานก็ร้อนแรงขึ้นต่างไม่ใช่เพราะความสวยงดงามของเธอ แต่เป็เพราะมือที่สามารถชี้หินให้เป็หยกได้ของเธอต่างหาก!
ใบหน้าของหลินลั่วหรานค่อยๆเปลี่ยนเป็สีแดงขึ้นมา ตามนิสัยของเธอแล้วเมื่อก่อนต่อให้จะตายอย่างไรก็ทำเื่ที่จะทำให้เกิดเสียงฮือฮาแบบนี้ออกมาไม่ได้ต้องทำอะไรเงียบๆ ชีวิตที่ผ่านมาสอนให้เธอกลายเป็คนแบบนั้น แต่ปัญหาก็คือ หากเธอ้าจะให้หลี่อันผิงและไอลี่ตกหลุมพรางของเธอเธอก็ต้องอาศัยชื่อเสียงเหล่านี้ ผลได้ผลเสียของมันหลินลั่วหรานในตอนนี้ก็เริ่มจะไม่แน่ใจขึ้นมาแล้ว
“อย่ากังวลเลยพวกเขาก็แค่อิจฉาหลิ่วชื่อ ถึงได้แสดงท่าทางแบบนั้นออกมา” เมื่อเห็นเธอแสดงท่าทีกังวลออกมา หลิ่วเจิงก็พูดเพื่อปลอบประโลมเธอ
หลินลั่วหรานส่งยิ้มให้กับเขาอย่างไรทางที่เธอต้องเลือกเดิน ก็คงจะเป็เส้นทางฝึกศาสตร์อันโดดเดี่ยวแล้วเมื่อวันนี้เกิดมีชื่อเสียงแบบนี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็ความสงสัย หรือความริษยามันก็ไม่ได้มากีดขวางอะไรกับเส้นทางของเธอ
หลินลั่วหรานคิดขึ้นแบบนั้นในใจจิตใจของเธอก็ดีขึ้นมา เมื่อมองไปยังสายตาที่จับจ้องมาของทุกคนเธอก็กลับไปเป็หลินลั่วหรานที่สงบนิ่งอีกครั้ง
ถึงจะเกิดอะไรขึ้นจริง ฉันก็จะปกป้องเธอ ประโยคหนึ่งที่ได้แต่คิดจุกอยู่บริเวณปลายลิ้นของหลิ่วเจิง โดยที่ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่อาจจะพูดออกไปได้
เมื่อเห็นว่าสีหน้าของหลินลั่วหรานกลับมาเป็ปกติแล้วเขาก็เริ่มคลายกังวล
อย่าได้พูดถึงลุงของหลิ่วเจิงที่ตอนนี้ก็แสดงสายตายอมรับออกมาแล้วแม้แต่ชายพม่าที่ทำงานด้านนี้มาหลายปี หินแร่ที่ผ่านมือเขามาหากไม่ใช่หมื่นก้อนก็ต้องเป็เก้าพันอย่างเขา ก็เพิ่งจะเคยเจอสถานการณ์แบบหลินลั่วหรานเป็ครั้งแรก
หญิงสาวคนนี้มือดีเป็บ้า โชคดีที่ไม่ได้ทำอะไรให้เธอโกรธไม่อย่างนั้นคงทำลายความโชคดีของตัวเอง แล้วต้องมานั่งเสียใจทีหลังเป็แน่คนทางด้านนี้ไม่มีใครที่ไม่มีความเชื่อนี้ชายชาวพม่าจึงได้แต่ดีใจขึ้นมาอยู่ภายในใจ
“เหล่าพ่อค้าแม่ค้าทุกท่านทุกคนต่างก็มากันไกล วันนี้ก็ใกล้จะเย็นแล้วทุกคนคิดว่าเรายังจะต้องผ่าแร่กันต่อไปอยู่ไหม?...หรือว่าจะดูตามความโชคดีของคุณหลินผู้นี้แล้วเอาหินแร่ชิ้นสำคัญออกมาขายกันเถอะ?”
ทุกคนต่างพากันร้องะโตอบรับ ใครๆก็ต่างชอบคำพูดที่เป็มงคลแบบนี้กันทั้งนั้น หินแร่ของหลินหลั่วหรานต่างก็มีหยกจึงสามารถกลบดวงซวยที่ไม่ได้อะไรของไอลี่ไปได้
ชายชาวพม่าถอนหายใจออกมาด้วยความสบายใจถ้าหากว่าความดวงซวยของไอลี่ มากระทบกับการประมูลแร่ก้อนั์ของเขาแบบนั้นเขาก็คงแย่ หินแร่ยิ่งก้อนใหญ่มากเท่าไร ก็ยิ่งนำออกมาได้ยากมากเท่านั้นแล้วหินแร่ก้อนใหญ่ขนาดสองคนโอบที่มีความสูงกว่า 3 เมตรก้อนนี้ชายพม่าเสียแรงกับมันไปไม่น้อยเป็แน่!
“หวูตันแร่ก้อนนี้ของคุณไม่ได้กำหนดราคาเอาไว้ ตอนนี้บอกราคาเริ่มต้นได้แล้วหรือยัง?” คนที่พูดออกมาก็คือพ่อค้าชาวฝูเตี้ยนคนนั้น
ตามที่ชายชาวพม่าเคยพูดเอาไว้ ว่าครั้งนี้ล้วนแต่ก็เป็แร่ที่ขุดขึ้นมาจากหลุมในที่นี้ต่างเต็มไปด้วยผู้จัดการซื้อที่เชี่ยวชาญชายชาวพม่าจึงไม่กล้าที่จะโกหกออกมา แม้ว่าจะไม่ใช่ว่าทุกก้อนจะมีหยกแต่เพียงแค่มีก้อนที่มีเท่านั้น ราคาเองก็ไม่ได้ถูก แต่นั่นก็คือจุดเด่นของมัน
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงให้ความสนใจกับหินแร่ก้อนั์นี้มากอย่างน้อยแร่ที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ ก็ไม่น่าจะสามารถหาซื้อได้อีกในรอบหลายๆ ปีแล้ว
เมื่อได้ยินว่ามีคนถามถึงราคาชายชาวพม่าก็ใช้นิ้วแสดงตัวเลขราคาออกมา
เสี่ยซุยพูดออกมาเป็คนแรก “จะให้แย่งกันยังไงราคาขั้นต่ำก็ร้อยล้านแล้ว ยังต้องให้คนประมูลอีกเหรอ?”
ชายชาวพม่าส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดออกมาอย่างหนักแน่น “ล้านเดียว”
ล้านเดียว?
เสียงฮือฮาดังขึ้นทั่วบริเวณหากเป็ร้อยล้านอย่างที่คิดในตอนแรก ก็คงมีแต่บริษัทั์ใหญ่ที่จะสามารถประมูลได้แต่เมื่อตอนนี้ชายชาวพม่ากลับบอกว่า ราคาเริ่มต้นคือล้านเดียวเท่านั้นก็เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเรียกความสนใจจากทุกคน
หลิ่วเจิงถามออกมาเบาๆ “จะเริ่มลงมือตอนไหน?”
หลินลั่วหรานส่ายหน้า “รอดูเอาไว้ก่อนอย่าเพิ่งทำให้เธอใไปค่ะ”
เมื่อได้ยินว่าราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งล้านไอลี่ก็ยกยิ้มขึ้นมา พร้อมทั้งขานราคาสูงถึง “สิบล้าน” ออกมาจึงทำให้บรรดาคนที่ยังไม่ทันได้เริ่มขานราคาต้องเงียบไป
หวังเมี่ยวเอ๋อขัดใจกับเธอมานานแล้วเธอจึงพูดออกมาโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา “ยี่สิบล้าน”
ถึงแม้จะเป็หินแร่ก้อนใหญ่ที่หาได้ยากแต่ก็ไม่ได้ถูกผ่าให้เห็นภายใน การขายราคาของมาราวกับเป็บ้าแบบนั้นจึงเป็เื่ที่พบเห็นได้น้อย
นักธุรกิจชาวฝูเจี้ยนไม่อาจทนให้หญิงสาวทั้งสองมีดีกว่าได้ก็เอ่ยปากร่วมสนุกขึ้นมาด้วย “ฉันคงสู้อะไรไม่ได้มาก ขอเพิ่มอีกสักห้าล้าน เป็ ยี่สิบห้าล้าน”
ชายชาวกว่างโจวพูดต่อ “สามสิบห้าล้าน!” เขามองเห็นถึงความไม่ลงรอยกันของไอลี่และหวังเมี่ยวเอ๋อจึงพยายามใส่ไฟเข้าไปอีก จึงเปิดปากเพิ่มราคาไปอีกสิบล้าน
ชายชาวพม่าที่มีประสบการณ์มากยังเห็นว่าน้อยครั้งที่ในการประมูลจะเพิ่มราคากันทีละกว่าสิบล้านแบบนี้พวกคนเหล่านี้จะต้องกำลังทำาจิตวิทยากันอยู่เป็แน่เพียงเปิดปากออกก็เพิ่มราคามากว่าสิบล้าน เพื่อสร้างความกดดันให้กับอีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายเองก็รู้จักการทำแบบนั้น จึงกลายเป็ไม่มีใครสามารถกดดันใครได้เมื่อชายชาวพม่าได้ยินการประมูลของพวกเขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าอย่างปิดไม่มิด
“เสียวหลิ่วถ้าเราอยากจะซื้อหินแร่ก้อนนี้ ก็ควรจะเข้าร่วมได้แล้ว หากรอไปเรื่อยๆ คงฉุดราคาไว้ไม่อยู่คนที่จะลำบากก็คือหลิ่วชื่อนะ”
คุณลุงเห็นว่าทั้งหลิ่วเจิงและหลินลั่วหรานต่างก็กำลังใส่ใจกับการประมูลตรงหน้าแต่กลับไม่เข้าร่วมด้วย จึงคิดว่าพวกเขากำลังรอโอกาสอยู่จึงพูดออกมา
หลินลั่วหรานไม่รู้จะพูดอย่างไรหลิ่วเจิงจึงอธิบายออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ดูบรรยากาศด้านในสิครับหลิ่วชื่อรับไหวแน่นอน รออีกสักหน่อยเถอะครับ!”
สายตาของไอลี่ที่ถูกซ่อนเอาไว้หลังแว่นกันแดดใครก็ต่างมองไม่ชัดนัก เมื่อได้ยินว่าราคาของก้อนแร่สูงขึ้นกว่าสิบล้านเธอก็ไม่ได้รู้สึกโมโหอะไร แต่กลับรู้สึกสนุกขึ้นมา “ห้าสิบล้าน”
เงินห้าสิบล้าน...ฟังดูแล้วมันดูเป็จำนวนที่ได้แต่จินตนาการ หากนำมันมาเปลี่ยนเป็ธนบัตรหนึ่งร้อยหยวน ก็คงจะสามารถทับคนให้ตายได้
หลี่อันผิงรู้ดีว่าไอลี่รวยมากแต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะรวยได้ถึงขนาดนี้ เงินห้าสิบล้าน ไม่แม้แต่จะกะพริบตาก็จ่ายออกไปได้แล้ว...เมื่อนึกถึงตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนเธอมักจะขี้เหนียวกับเขาอยู่เสมอ หลี่อันผิงก็รู้สึกโมโหขึ้นมาเล็กน้อย
ในระหว่างที่หลี่อันผิงกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยไอลี่ก็ดึงตัวเขาเข้ามาถามอย่างอดไม่ได้ “ไม่ได้บอกว่ายัยหลินนั่นเล็งแร่ก้อนนี้ไว้หรอกเหรอทำไมตอนนี้ยังไม่เห็นหลิ่วชื่อลงสนามเลย? ไม่ใช่ว่าพวกเธอสองคนรวมหัวกันหลอกฉันหรอกนะ?”
ประโยคนั้นทำเอาเหงื่อไหลรินลงมาตามกายของเขาหากว่าหลินลั่วหรานโกหกจริง ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็คงจะรับผิดชอบเงินจำนวนห้าสิบล้าน เอาไว้ไม่ไหวแล้วในเวลานี้เขาจะกล้าบอกว่าไม่ใช่ได้อย่างไร เขาจึงได้แค่เอ่ยคำว่า “ที่รัก”ออกมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ถึงได้ลบล้างความสงสัยของไอลี่ไปได้
“ฮึ ถ้ากลัวคงไม่กล้าทำแบบนี้หรอก!”
หวังเมี่ยวเอ๋อเพิ่มราคาไปอีกสิบล้านจนเมื่อตอนที่ราคาการประมูลหมุนกลับมาไอลี่อีก ราคาก็พุ่งสูงขึ้นถึงเก้าสิบล้าน...
อีกแค่นิดเดียวราคาก็จะทะลุร้อยล้านไปแล้ว! อากาศที่รุยลี่ออกจะเย็นสบายตอนหน้าหนาวก็ออกจะมีอุณหภูมิที่สบายตัวแต่หลี่อันผิงกลับรู้สึกว่าแผ่นหลังของเขานั้นเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
ราคาประมูลขึ้นมาถึงเก้าสิบล้านแล้วแต่หลิ่วชื่อก็ยังคงไม่เริ่มประมูล หรือว่าในการพนันครั้งใหญ่ครั้งนี้จะเป็เื่ที่หลินลั่วหรานหลอกเขาเข้าจริงๆ?