“หน็อย...ไอ้เด็กเวรกล้ากัดข้าเชียวรึ ข้าจะฉีกปากเ้าเป็ชิ้น ๆ เลยคอยดู!” พอเห็นโต้วเซียงหลันวิ่งตรงเข้ามาซูมู่จื่อรีบรั้งตัวเหยาอวี้มากอดไว้แนบอก ไม่ว่าจะถูกเตะถูกทุบตีอย่างไร นางก็พยายามปกป้องบุตรชายสุดชีวิต
“อวี้จือมัวยืนบื้ออะไรอยู่ รีบมาดึงตัวพวกมันแยกออกจากกันสิ” โต้วเซียงหลันหันไปถลึงตาตะคอกสาวใช้คนสนิทอย่างหัวเสียเดิมทีอวี้จือคิดจะวางตัวเป็คนนอก แต่เ้านายออกคำสั่งมาเช่นนี้ นางย่อมไม่อาจนิ่งดูดายครั้นแล้วก็เดินเข้ามากระชากตัวเหยาอวี้ออกไป
“อย่านะ...ขอร้องล่ะได้โปรดปล่อยอวี้เอ๋อร์ไปเถิด เขายังเป็แค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น...” โต้วเซียงหลันสะบัดฝ่ามือลงมาอีกครั้งอย่างรุนแรงตบจนซูมู่จื่อเืกบมุมปาก ขณะที่ซูมู่จื่อไร้แรงจะต้านทาน พลันได้ยินเสียงตะคอกดังลั่นผ่านเข้ามาจากประตูจวน
“หยุดนะ!”ทันทีที่เห็นภาพซึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าสุขุมคัมภีรภาพของเหยาเจิ้นถิงพลันอาบย้อมด้วยโทสะเปลี่ยนเป็กราดเกรี้ยวในบัดดลขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงงัน เขาก็ปราดเข้ามาถึงตัวอวี้จือ ยกเท้าถีบนางจนล้มคว่ำ แล้วคว้าตัวเหยาอวี้มากอดในอ้อมแขน
“โต้วเซียงหลันเ้าบ้าพอหรือยัง” เหยาเจิ้นถิงกดเสียงต่ำตวาดใส่โต้วเซียงหลัน ขณะย่างเท้าเข้าหาทีละก้าว
“ท่านพี่ถึงกับถามข้าว่าบ้าพอหรือยัง?ทีข้าภรรยายังไม่ได้ซักไซ้สักนิดว่าเกิดอะไรขึ้น ไฉนอยู่ดี ๆ ท่านพี่ถึงมีฟูเหรินสามเพิ่มขึ้นมาได้ไหนจะมีไอ้เืชั่วนี่อีกคน” โต้วเซียงหลันโกรธจัด มือสั่นระริกชี้หน้าซูมู่จื่ออย่างคับแค้นแสดงความเกรี้ยวกราดทางสีหน้าเฉกเช่นภูตผีก็ยังมิปาน
ขณะที่โต้วเซียงหลันยังไม่ทันตั้งตัวเสียง “เพียะ!” ดังกังวาน ที่แก้มซ้ายของนางบวมแดงขึ้นมาทันที ปรากฏรอยนิ้วมือทั้งห้าอย่างเด่นชัด
“ทะ...ท่านพี่!เพื่อนางไพร่ชั้นต่ำแพศยาคนหนึ่ง ท่านถึงกับตบข้า! สารเลว ข้าขอสู้ตายกับท่าน!” โต้วเซียงหลันอึ้งงันไปชั่วครู่ก่อนพุ่งตัวเข้ามาอาละวาดใส่เหยาเจิ้นถิงอย่างบ้าคลั่ง เคราะห์ดีที่อวี้จือซึ่งอยู่ด้านข้างคว้าตัวไว้ทัน
“โต้วเซียงหลันเ้าฟังให้ดี เหยาอวี้ไม่ใช่เืชั่วของใครที่ไหน เขาคือสายเืของเหล่าฟู ซึ่งเป็ทั้งบุตรชายคนโตและมีฐานะเป็ทายาทผู้สืบทอดสกุลเหยาของข้าคนต่อไป” เหยาเจิ้นถิงดวงตาแทบลุกเป็ไฟเอ่ยวาจาตัดรอนอย่างเ็า อ้อมแขนที่โอบกอดบุตรชายตัวน้อยยิ่งกระชับแน่นขึ้นเรื่อยๆ
“ถุย!หากข้าภรรยาไม่ผงกศีรษะรับเสียอย่าง นังแพศยาผู้นี้ก็อย่าฝันจะเข้าประตูใหญ่จวนอัครเสนาบดีได้เลยส่วนเด็กที่นางเบ่งออกมา ย่อมต้องเป็แค่สายเืชั้นต่ำที่ไร้ชื่อไร้สถานะเท่านั้น”เมื่อเห็นสามีะเิโทสะ โต้วเซียงหลันก็ถ่มน้ำลายลงพื้น แต่มิได้พุ่งเข้าชนเหมือนเช่นตอนแรก
“โต้วเซียงหลันอย่านึกว่าเหล่าฟูไม่รู้ว่าเ้าไปทำเื่งามหน้าอันใดไว้ข้างนอกบ้าง ต่างคนต่างไว้หน้ากันย่อมดีต่อทั้งสองฝ่ายรีบไสหัวกลับไปซะ ั้แ่นี้ต่อไปอย่าได้มารบกวนพวกนางสองแม่ลูกอีก และไม่อนุญาตให้เหยียบเข้าจวนสกุลซูแม้แต่ครึ่งก้าว”เหยาเจิ้นถิงพูดปรามเตือนสติด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก แต่ไม่พูดกลับยังดีเสียกว่า เพราะพอพาดพิงขึ้นมาก็ทำให้โต้วเซียงหลันนึกถึงการตายอย่างน่าอนาถของโหลวอวี้ซิน ความเ็ปพลันบีบรัดในหัวใจไฟโทสะลุกโชนขึ้นสมองอีกครา
“ท่านฆ่าอวี้ซินข้าก็จะเอาชีวิตไอ้เืชั่วคนนี้เหมือนกัน” แม้ว่าอวี้จือจะพยายามยื้อยุดเ้านายตนเองอย่างสุดชีวิตแต่ในที่สุดก็มิอาจต้านทานความบ้าคลั่งของโต้วเซียงหลันได้ แต่นางลืมไปว่าสตรีต่อให้มีฤทธิ์เดชมากแค่ไหนก็ไม่มีทางสู้กำลังของบุรุษ
“โต้วเซียงหลันอย่านึกว่าเหล่าฟูไม่กล้าสังหารเ้า” เหยาเจิ้นถิงดวงตาแดงก่ำ ยื่นมือเข้ามาบีบคอโต้วเซียงหลันอย่างแรงห้านิ้วค่อย ๆ รัดแน่นขึ้น...แน่นขึ้น
“อึก...จะ...เ้าปล่อยข้านะ ปล่อย...” มือทั้งสองข้างของโต้วเซียงหลันพยายามแกะนิ้วมือของเหยาเจิ้นถิงออกหน้าเปลี่ยนสีจากแดงเป็ม่วงคล้ำ ดวงตาเหลือกถลน อวี้จือรีบวิ่งเข้ามาคุกเข่าขอร้องให้ไว้ชีวิตเ้านายแต่เหยาเจิ้นถิงโมโหจนขาดสติไปแล้ว แค่นึกถึงเื่ที่ภรรยาไปเล่นชู้กับนักแสดงงิ้วคนนั้นมิหนำซ้ำยังปากกล้าด่าบุตรชายสุดที่รักของเขาอย่างสาดเสียเทเสีย จึงยิ่งไม่อาจยั้งมือ
“ท่านพ่อจะสังหารมารดาของเปิ่นกงเพื่อนังหญิงชั้นต่ำผู้นี้จริงๆ หรือ?” น้ำเสียงเย็นเยียบชวนให้รู้สึกเหน็บหนาวลอยเข้ามา ชั่วขณะที่โต้วเซียงหลันกำลังจะขาดใจเหยาซู่หลวนก็เข้ามาในจวนสกุลซูอย่างกะทันหัน ด้านหลังมีไฉ่อิ๋งตามมาด้วยอีกคน
การปรากฏตัวของเหยาซู่หลวนในสถานที่แห่งนี้สร้างความลังเลใจให้เหยาเจิ้นถิง ท้ายที่สุดก็ยอมปล่อยโต้วเซียงหลัน แล้วเดินเข้าไปดึงซูมู่จื่อให้ลุกขึ้นมา
“หญิงสามัญชนซูมู่จื่อถวายบังคมลี่กุ้ยเฟยเพคะ...”เมื่อก่อนซูมู่จื่อเคยเป็สาวใช้ในจวนอัครเสนาบดี เนื่องจากมีรูปโฉมงดงามจึงเป็ที่อิจฉาริษยาของโต้วเซียงหลันต่อมายังจับได้ว่าเหยาเจิ้นถิงมีใจต่อสาวใช้คนนี้ จึงหาเหตุผลโบยนางอย่างหนักแล้วขับไล่ออกจากจวนดังนั้นซูมู่จื่อจึงรู้จักทั้งคนและสถานการณ์ความเป็ไปต่าง ๆ ภายในจวนสกุลเหยาเป็อย่างดี
“บุตรสาวเอ๋ย...เ้าต้องช่วยจัดการให้มารดาด้วยบิดาอำมหิตของเ้าผู้นี้ถึงกับจะฆ่าแกงมารดาเพื่อนังหญิงร่านชั้นต่ำคนนี้...” ทันใดนั้นโต้วเซียงหลันที่เพิ่งหายใจหายคอคล่องขึ้นก็ถลาเข้าไปอยู่ข้างกายเหยาซู่หลวน พลางโอดครวญร้องทุกข์ออกมาสุดเสียง