เมื่อเห็นเรือนร่างเย้ายวนอ่อนระทวยอยู่บนเตียงเย่หงอี้ก็ข่มความปรารถนาไว้ไม่ได้อีกต่อไป ริมฝีปากบางเลื่อนไปที่ใบหูของเหยาโม่หว่านใช้ปลายลิ้นร้อนที่เปียกชื้นไล้เลียดูดดึงติ่งหูอ่อนนุ่มพลางขบเบา ๆ แล้วพรมจุมพิตอย่างเร่าร้อนจากใบหูไล่เรื่อยลงมาฝากฝังรอยจ้ำสีแดงจาง ๆ ไว้ที่ซอกคอขาวเนียน สองมือฟอนเฟ้นเคล้นคลึงทรวงอกอิ่มอย่างอุกอาจอวัยวะบางส่วนเริ่มผงาดง้ำอยากสำแดงฤทธาขึ้นมาแล้ว
เหยาโม่หว่านแสร้งทำเป็เคลิบเคลิ้มแอ่นกายตอบสนองรสััอย่างเร่าร้อนนิ้วมือเรียวดังแท่งหยกลูบไล้สะเปะสะปะไปบนแผ่นหลังของเย่หงอี้ ทว่าแท้จริงแล้วยามนี้นางอยากจะฝังคมเล็บไว้บนแผ่นหลังของเขาใจจะขาดอยากจะกรีดแล้วควักเอาหัวใจดวงนั้นมาบีบดูว่าโลหิตที่หลั่งออกมาเป็สีอะไรกันแน่
“เจิ้นชอบเ้า...เชื่อหรือไม่?”เมื่อรับรู้ถึงความเร่าร้อนบนแผ่นหลัง เย่หงอี้ก็ยิ่งเคลื่อนไหวอย่างดิบเถื่อนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยามนี้อาภรณ์ชิ้นสุดท้ายบนเรือนกายของเหยาโม่หว่านถูกกระชากหลุดออกไปแล้ว
“โม่หว่านใช้สมองไม่เป็ฝ่าาตรัสว่าอย่างไร โม่หว่านก็เชื่อทั้งนั้นแหละเพคะ...” เมื่อเห็นเย่หงอี้ทั้งบีบเคล้น ทั้งใช้ริมฝีปากอิงเถาน้อยบนเนินอวบอิ่มทั้งสองของนางอย่างหื่นกระหาย ประกายคมกล้าอันเยียบเย็นพลันฉายวูบออกมาจากก้นบึ้งดวงตา
“เ้าช่างงดงามเหลือเกิน...”กลิ่นกายสาวที่แผ่กำจายจากเรือนร่างอ่อนเยาว์ย่อมมีเสน่ห์กระตุ้นกำหนัดของบุรุษได้เป็อย่างดีเหยาโม่หว่านกระดกมุมปากยิ้มเยาะ ในที่สุดปิศาจตนนี้ก็กระโจนลงมาในหลุมพรางที่นางขุดไว้และกำลังจะจมดิ่งลงไปอย่างช้า ๆ ดังนั้น...เหยาโม่หว่าน เ้าต้องยิ้ม ยิ้มให้หวานหยาดเยิ้มยิ่งกว่านี้
“ความงามของโม่หว่านมีไว้ให้ฝ่าาเชยชมเท่านั้นเพคะ อ๊า...” หัวคิ้วพลันมุ่นขมวด ร้องครางออกมาเบา ๆอวัยวะบางส่วนเจ็บเหมือนถูกฉีกขาด ทว่ารอยยิ้มบนริมฝีปากกลับยิ่งผลิบานตระการตา ยามส่วนที่คับแน่นโอบรัดความแข็งขึง ดูราวกับผีเสื้อที่พยายามจะเจาะรังไหมออกมาความรู้สึกนี้กระตุ้นความปรารถนาอันร้อนแรงของเย่หงอี้จนถึงขีดสุด
สัญชาตญาณดิบราวสัตว์ป่าของบุรุษแผ่กำจายออกมาจากดวงเนตรสีดำเข้มฝ่ามือทั้งสองของเย่หงอี้จับยึดหัวไหล่ขาวกระจ่างดุจหิมะตรึงไว้ ก่อนขยับสะโพกจ้วงทะยานตักตวงรสััอันหวานหอมจากกายนางอย่างสุดชีวิตสตรีในวังหลังมีมากมาย กลับไม่มีผู้ใดทำให้เขารู้สึกหลงใหลจนแทบคลั่งได้เหมือนกับสาวน้อยที่อยู่ใต้ร่างของตนเองเพลานี้เย่หงอี้ลุ่มหลงเรือนร่างงดงามไร้ที่ติของนางไปแล้ว ความกลัดกลุ้มและความรู้สึกหงุดหงิดในหัวใจตลอดหลายวันที่ผ่านมาจึงได้รับการปลดปล่อยในที่สุด
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาพร่างพรมไปด้วยหยาดเหงื่ออารมณ์เหยียดเยาะวาบผ่านแววตาของเหยาโม่หว่านอย่างปิดไม่มิด นางมองออกว่าเขาติดเนื้อพึงใจในรสชาติของเรือนกายนี้เข้าแล้วทั้งยังโปรดปรานมากเสียด้วย
“ฝ่าา...เบาหน่อยเพคะ...หม่อมฉันเจ็บ...”เหยาโม่หว่านครางเสียงเบาหวิว หยาดน้ำตาคลอเต็มสองเบ้ามองเย่หงอี้อย่างเอียงอาย แลดูน่ารักเย้ายวนชวนหลงใหลสติสัมปชัญญะของเย่หงอี้เหมือนถูกตีรวนจนระส่ำระสายอีกครา
“เจ็บก็ร้องซี...อย่าฝืนกลั้นเอาไว้...”เย่หงอี้หอบหายใจหนักหน่วง น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนล่างยังคงกระแทกกระทั้นเข้าจุดยุทธศาสตร์อย่างไม่หยุดยั้งเขาไม่ใช่พวกรักหยกถนอมบุปผา สนใจแต่จะตักตวงความสุขของตนเอง ความหวาดกลัวและการยอมจำนนของทุกคนทั่วใต้หล้าต่างหากคือสิ่งที่เขา้า
“อา...เจ็บจังเลย...”เหยาโม่หว่านย่อมคล้อยตาม ครางเสียงหวานปลุกเร้าอารมณ์รัญจวนเพื่อตอบสนองความเห็นแก่ตัวของบุรุษใจทมิฬครั้นแล้วเย่หงอี้ก็ควบคุมตนเองไม่อยู่ ขยับสะโพกเร่งจังหวะจ้วงโจนอย่างรุนแรงจนกระทั่งพุ่งทะยานแตะขอบ์ไปเพียงลำพัง...
...
พยับเมฆสีตะกั่วคล้อยต่ำเสียงฟ้าคำรามครืน ๆ ในอากาศตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นฝนที่พัดโชยมาพร้อมกับสายลมจากูเา
ณ จวนสกุลซูฝั่งตะวันออกของเมืองหลวง เสียงกรีดร้องโหยหวนทำลายความเงียบสงบที่มีอยู่เดิมโดยสิ้นเชิงภายในเรือนหลัก โต้วเซียงหลันกำลังจิกทึ้งกระชากผมของซูมู่จื่อราวกับสุนัขบ้า ก่อนผลักกลิ้งไปบนพื้นแล้วยกเท้าเตะซ้ำเข้าร่างของสตรีที่ใบหน้าถูกข่วนเป็แผลยับ พลางะโด่าอย่างสาดเสียเทเสีย
“ข้าน่าจะเดาออกนานแล้วว่าต้องเป็เ้านังหญิงแพศยา ห้าปีก่อนถูกตีแทบตายยังรอดมาได้นับว่าเ้าดวงแข็ง แต่วันนี้คอยดูเถิดว่าข้าจะถลกหนังของเ้าออกมาอย่างไรนังแพศยาชั้นต่ำ นางปิศาจจิ้งจอก รู้จักแต่จะหลอกล่อบุรุษเพียงอย่างเดียว” ใบหน้าของโต้วเซียงหลันเผยความร้ายกาจออกมาอย่างเต็มเปี่ยมถลึงดวงตาแดงก่ำใส่ซูมู่จื่อปานจะพ่นไฟออกมา ทั้งออกแรงถีบอีกฝ่ายด้วยขาข้างเดียวซ้ำๆ ระบายอารมณ์ สลับกับใช้สองมือทั้งหยิกทั้งข่วนจนอีกฝ่ายเขียวช้ำไปทั้งตัว
“นางหญิงชั่วปล่อยมารดาข้าเดี๋ยวนี้นะ” ทันใดนั้นเด็กชายตัวน้อยอายุราวสี่ห้าขวบไม่รู้ว่าวิ่งมาจากไหนเข้ามาชักสีหน้าใส่ด้วยความขุ่นเคือง ก่อนพุ่งเข้าไปกัดแขนโต้วเซียงหลันอย่างแรงจนร้องลั่น
“อวี้เอ๋อร์รีบกลับไป อย่าเข้ามา” ซูมู่จื่อซึ่งนอนพังพาบอยู่บนพื้นพยายามข่มกลั้นความเ็ปเงยหน้าขึ้นใช้สองมือผลักร่างของเหยาอวี้ที่วิ่งตรงเข้ามาหาให้ออกไป