่นี้หวงเทารู้สึกหงุดหงิดมากเป็พิเศษ เพราะว่าตอนนั้นเนี่ยเซิงเสี่ยวเป็ผู้ช่วยที่เขารับสมัครเข้ามา แต่ตอนนี้ดันกลายเป็ “บุคคลต้องห้าม” ของเฉินตง ทำให้แม้แต่เขาเองก็ถูกเหยียนจิ่งจื้อเมิน
เมื่อขับผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่งเขาจึงจอดรถ คิดจะลงไปเดินสงบใจเสียหน่อย
ั้แ่เริ่มจนถึงตอนนี้เขาคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้หญิงที่เพิ่งจะเข้ามาที่บริษัทถึงได้ทำให้ท่านประธานโกรธถึงขนาดนั้น
พลั่ก! ในขณะที่คิดถึงเื่นี้มากเกินไปหน่อยก็บังเอิญเดินไปชนกับคนเข้า หวงเทาเงยหน้าขึ้นถึงพบว่าเป็ผู้หญิงที่มีแววตาตื่นตระหนก “ขอโทษครับ” เขาขอโทษด้วยท่าทางที่เป็สุภาพบุรุษมาก เพราะว่าอีกฝ่ายดูเหมือนไม่ได้ถูกชนจนมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น เขาจึงคิดจะเดินอ้อมเธอไป
“คุณคะ เดี๋ยวก่อนค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยปากเรียกเขาเอาไว้ “ฉันชื่อว่าถงซิน เป็…เป็เพื่อนกันได้ไหมคะ?”
หวงเทาเข้าใจทันทีว่าที่แท้ตัวเองไม่ได้ไปชนเธอ แต่เป็เธอที่เข้ามาชนเอง สำหรับผู้หญิงที่เข้าหาเขาเองแบบนี้เขาไม่เคยสนใจอยู่แล้ว จึงส่ายหน้าปฏิเสธไป แล้วเดินผ่านไหล่คนที่เป็ “เพื่อน” ไป
“คุณลุงรอเดี๋ยว!” จู่ๆ ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามา เสียงแหลมๆ ชี้มาที่หัวของเขา “ทำไมลุงถึงได้โง่แบบนี้ พี่ซินซินเขาชอบลุงนะ”
หวงเทามุมปากกระตุก มองเด็กน้อยอย่างละเอียดก็รู้สึกว่าหน้าตาคุ้นๆ แต่ว่าคิดไม่ออก จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นไปมองทางถงซินก็รู้สึกว่าตัวเองเจอปัญหาเข้าเสียแล้ว
“ปีนี้ซินซินอายุยี่สิบห้าปีแล้ว บ้านก็อาศัยอยู่บ้านใกล้ๆ นี่ ลุงชื่ออะไร มีแฟนหรือยัง?” เด็กน้อยเงยหน้าพูดกับหวงเทาต่อ
ใครเป็คนสอนเด็กนี่กันแน่ อายุแค่หกเจ็ดขวบเท่านั้นก็มีความสามารถในการจับคู่แล้ว หวงเทาหมดคำจะพูด ในตอนที่กำลังคิดว่าจะแยกตัวออกไป จู่ๆ เด็กน้อยก็เข้ามาจับขากางเกงของเขาเอาไว้ก่อนที่ตัวของเด็กน้อยจะหงายท้องล้มลงไป
“เหนี่ยวเหนี่ยว!” เขาได้ยินเสียงถงชินร้องเรียกพร้อมวิ่งเข้ามา หวงเถาใช้มือพยุงเขาเอาไว้ ร่างกายเล็กๆ ในมือของเขาบอบบางมาก หวงเทาถอนหายใจก่อนจะเงยหน้ามองถงซินอีกครั้ง สายตานั่นเหมือนกำลังบอกว่า น้องของเธอร่างกายอ่อนแอขนาดนี้ ยังชอบมายุ่งเื่คนอื่นเขาอีก
“คุณลุง ผมอยากกินลูกอม”
“สีหน้าแย่ขนาดนี้ ตอนนี้ก็อย่าเพิ่งคิดที่จะกินลูกอมเลย” หวงเทาลูบหัวของเขา ไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเขา
ในตอนที่กำลังจะส่งเด็กคนนี้คืนให้ถงซินเสื้อก็ถูกดึงเอาไว้ มีมือของผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแย่งเด็กในอ้อมกอดของเขาไปไว้ในอ้อมกอดของตัวเอง เพราะรูปร่างที่ค่อนข้างสูง ทำให้ตอนที่ผู้หญิงคนนี้มีทีท่าร้อนรนเขาก็รู้สึกได้ถึงความกดดัน ถึงจะเพียงแค่แวบเดียวก็ตาม
จากนั้นก็เห็นผู้หญิงคนนั้นป้อนลูกอมให้เด็กเสร็จเรียบร้อยใบหน้าด้านข้างนั้นก็สบายใจขึ้น แต่หวงเทาได้ชะงักค้างไปแล้วเรียบร้อย
คนคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็เนี่ยเซิงเสี่ยวที่เขาเป็คนสัมภาษณ์เข้ามาเอง เป็เนี่ยเซิงเสี่ยวที่ในตอนนี้มีชื่อเสียงมากในเฉินตง
และเนี่ยเซิงเสี่ยวในตอนนี้ไม่ได้มีเวลาว่างมาสนใจหวงเทา จู่ๆ อาการเป็ลมของลูกชายในอ้อมกอดไม่เหมือนกับอาการน้ำตาลในเืต่ำเหมือนทุกที แถมสีหน้ายังซีดขึ้นเรื่อยๆ
“แม่ มาแล้ว ผมทรมานมากเลย” เด็กน้อยเหมือนหมีโคอาล่าที่เกาะเนี่ยเซิงเสี่ยวแน่น
หวงเทาในตอนนี้ได้กลายเป็หินไปแล้ว เขามาผ่อนคลายอารมณ์นะ ทำไมถึงมาเจอแต่เื่ที่ทำใไม่หยุดไปซะได้
“ไม่เป็ไร แม่จะพาลูกไปที่โรงพยาบาลนะ” ในตอนนี้เนี่ยเซิงเสี่ยวถึงคิดที่จะเงยหน้าไปขอความช่วยเหลือ เมื่อเห็นหวงเทาก็ชะงักไป “ผู้จัดการหวง คุณ…”
ถงซินที่อยู่ด้านข้างเองก็ใ “เซิงเสี่ยว พวกเธอ…รู้จักกัน?” กว่าจะได้เจอกับเ้าชายขี่ม้าขาวที่รอมานานมาที่สวนสาธารณะได้ ก็ดันเป็คนที่เนี่ยเซิงเสี่ยวรู้จักซะได้ โลกนี้มันเล็กขนาดไหนกัน
หวงเทาในตอนนี้เพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวซีดขึ้นเรื่อยๆ เขาก็อุ้มเหนี่ยวเหนี่ยวขึ้นมาแบบไม่พูดไม่จาก่อนจะพูดกับเนี่ยเซิงเสี่ยวว่า “รถของฉันอยู่ทางนั้น”
เนี่ยเซิงเสี่ยวเดินตามไป “รอเดี๋ยวผู้จัดการ พวกเราไปที่คลินิกก็ได้”
หวงเทาพาเหนี่ยวเหนี่ยวเข้าไปในรถก่อนจะจ้องเขาดีๆ หลังจากที่เข้ามานั่งตรงที่นั่งคนขับแล้วถึงจะพูดออกมา “คุณเนี่ย ผมเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าทำไมท่านประธานถึงได้ออกคำสั่งห้ามคุณ” ครั้งแรกที่เจอเขาก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้หน้าตาคุ้นๆ ที่แท้ก็เหมือนกับเหยียนจิ่งจื้อราวกับแกะออกมา
“ไม่ค่ะผู้จัดการหวง เด็กคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับคุณเหยียน” จู่ๆ เนี่ยเซิงเสี่ยวก็แย่งหวงเทาพูด ทำเอาเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวที่อยู่ในอ้อมกอดใจนคว้ามือมาจับ
ถงซินที่อยู่ด้านข้างตบบ่าของเนี่ยเซิงเสี่ยว มองไปทางหวงเทาที่กำลังขับรถอยู่ด้านหน้าที่ไม่รู้ว่าเขากำลังขับไปที่ไหน
ถ้าหากผู้หญิงคนนี้สามารถพูดดีๆ ได้ก็ยังดี แต่ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักโกหก ไม่ใช่แค่พูดออกมาหนึ่งประโยคแล้วไม่ต่างอะไรกับการยอมรับ หวงเทาในตอนนี้เริ่มจะปวดหัวนิดหน่อยแล้ว นี่มันอะไรกัน? เขาไม่เคยคิดเลยว่าเื่น้ำเน่าแบบนี้จะอยู่ใกล้ตัวเขาแค่นี้
หวงเทามาจอดรถที่หน้าประตูโรงพยาบาลฉางเจียง หมัดทุบลงไปที่พวงมาลัยรถอย่างแรง ในตอนที่เนี่ยเซิงเสี่ยวกำลังใอยู่นั้นเขาก็เปิดประตูหลังแล้วอุ้มเหนี่ยวเหนี่ยวออกไป
ตอนนี้เขาช่วยเด็กคนนี้ ถ้าหากเหยียนจิ่งจื้อรู้เข้า เกรงว่าจะเสี่ยงถูกไล่ออกจากงาน แต่ว่าถ้าหากทิ้งเอาไว้ที่ห้องฉุกเฉินธรรมดาแล้วสุดท้ายหากเกิดปัญหาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตขึ้นมา แล้วในตอนหลังเหยียนจิ่งจื้อมาตามตรวจสอบขึ้นมาอาจจะไม่จบแค่ไล่ออกก็ได้
อย่างไรเด็กที่เขาอุ้มอยู่ก็บอบบางจนทำให้ใจของเขาเองก็รู้สึกกังวล มองไปที่ใบหน้าร้อนใจของเนี่ยเซิงเสี่ยวที่อยู่ด้านข้างแล้ว ความรักของแม่ที่เธอแสดงออกมาในตอนนี้ทำให้เธอสวยจนน่าใ เขาพูดปลอบเธอเสียงเบา “เขาจะไม่เป็ไร”
จู่ๆ ถงซินก็หยุดฝีเท้าลงมองแผ่นหลังของหวงเทา พลันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้คงจะจีบยากมาก
“หลอดเืหัวใจอุดตันจะต้องผ่าตัดด่วน” หลังจากหมอตรวจสอบเสร็จก็เริ่มสวมถุงมือ สั่งงานพยาบาลไป พลางเตรียมเดินเข้าไปในห้องไอซียูด้วย
“พวกเธอไปลงชื่อคนไข้ฉุกเฉินเอาไว้ก่อน แล้วก็ขอสอบถามว่าลูกของคุณเคยมีอาการนี้มาก่อนหรือไม่?” พยาบาลเริ่มทำงาน
ถงซินเห็นสถานการณ์แล้วก็กุมมือของเนี่ยเซิงเสี่ยวเอาไว้ “เธออยู่เฝ้าเหนี่ยวเหนี่ยวไว้ ฉันจะไปคิดหาวิธีลงทะเบียนชื่อคนไข้ให้” มีคำสั่งห้ามของเหยียนจิ่งจื้ออยู่ทำให้ตอนนี้จะไปเขียนประวัติของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวเป็อะไรที่ยากกว่าไป์เสียอีก ถงฉินแอบภาวนาว่าโรงพยาบาลนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับเฉินตงเลย
“นี่คือโรงพยาบาลเอกชนที่บริษัทเฉินตงของพวกเราเป็เ้าของ” ประโยคที่หวงเทาพูดออกมาได้ทำลายความหวังของเธอลง
“เฉินตงของพวกคุณ?” ทันใดนั้นถงซินก็ดึงหวงเทาลงจากตำแหน่งเทพบุตร “คุณหวง คุณจะช่วยพวกเราหรือว่ามาทำลายพวกเรากันแน่!” ถงซินคือเพื่อนร่วมหอในมหาลัยคนที่สองนอกจากเจินเนี้ยนของเนี่ยเซิงเสี่ยว ความรู้สึกที่มีต่อเหยียนจิ่งจื้อจากทั้งเกลียดทั้งร้อนรนตอนนี้ได้เปลี่ยนมาเป็ความแค้น พูดตามจริงแล้วของที่มีความเกี่ยวข้องกับเหยียนจิ่งจื้อเธอล้วนไม่ชอบ
ในตอนที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทันใดนั้นตรงทางเดินก็มีเสียงคนหนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นหวงเทาก็รีบพุ่งเข้ามาด้วยสภาพหืดหอบ “ผู้จัดการหวง ตราประทับของเฉินตงที่คุณให้เอามา ผมเอามาแล้วครับ”
วินาทีนั้นถงซินก็ไม่พูดอะไรแล้ว สีหน้าแดงเรื่อเล็กน้อย ตราประทับของเฉินตงได้เอามาแล้ว อย่างนั้นการลงทะเบียนมันก็ลงได้ง่ายแล้วไม่ใช่หรือ
“ใครเป็ครอบครัวของเด็กคนนี้?” หมอที่อยู่ระหว่างการผ่าตัดเดินออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
“ฉันเป็แม่ของเขาค่ะ” เนี่ยเซิงเสี่ยวเห็นท่าทางของหมอแล้ว ตอนที่ยืนขึ้นจึงเซไปหน่อยๆ
หวงเทาเดินเข้าไปอยากจะฟังผลสรุป แต่โทรศัพท์กลับดังขึ้นมา พอเขาหยิบออกมาดูก็ปรากฏชื่อสามคำว่า ประธานเหยียน
“ฮัลโหล สวัสดีครับประธานเหยียน”
ความสนใจของเนี่ยเซิงเสี่ยวกับถงซินไปอยู่ที่ตัวของหมอจึงไม่มีใครได้ยินเสียงโทรศัพท์ของเขา ซึ่งหวงเทาโชคดีมาก เพียงแต่ว่าต้องฟังเสียงของเหยียนจิ่งจื้อทางโทรศัพท์ไปและก็อยากฟังว่าหมอพูดอะไรไปด้วย ท่าทางที่หวงเทาแสดงออกมาค่อนข้างร้อนใจ สุดท้ายเขาก็ฟังใครไม่รู้เื่เลย
“หวงเทา!” ทางด้านเหยียนจิ่งจื้อโมโหขึ้นมาหน่อยๆ “คุณได้ฟังที่ผมพูดหรือเปล่า?”
“ขอโทษครับท่านประธาน ตอนนี้ผมอยู่ที่โรงพยาบาล รบกวนท่านช่วยพูดอีกครั้งได้ไหมครับ”
“มีเพื่อนไม่สบายหรือ?” เหยียนจิ่งจื้อรับรู้ได้ว่าลูกน้องอาจจะเจอกับเื่ลำบากใจอยู่ น้ำเสียงจึงผ่อนคลายลงมาหน่อย
“ครับ ไม่สบาย” ในที่สุดหวงเทาก็ได้ยินผลสรุปสุดท้ายอาการของเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยว จึงพูดกับปลายสายด้วยน้ำเสียงกังวล “เหมือนจะป่วยหนักด้วยครับ”