่นี้ที่บริษัทเฉินตงมีข่าวลือยู่สองอย่างก็คือ หนึ่งท่านประธานเลิกกับคุณหนูเจิน ตอนนี้กลับมาโสดแล้ว อีกข่าวก็คือท่านประธานมีรักใหม่แต่เธอคนนั้นดันไม่สนเขาเสียอย่างนั้น
“มีผู้หญิงที่ไม่รับรักท่านประธานด้วยหรือนี่?” สาวๆต่างกำลังนั่งเมาท์กันอยู่ แม้จะเป็เวลาทำงาน พวกเธอไม่เข้าใจว่าผู้ชายที่เพอร์เฟกต์อย่างท่านประธานจะมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธกัน?
“ครั้งที่แล้วเธอไม่ได้ยินเนี่ยเซิงเสี่ยวพูดใส่ท่านประธานเสียงดังว่าเธอแต่งงานแล้วหรือ? ดีไม่ดีอาจจะเป็เธอก็ได้นะ!” มีคนหนึ่งกล้าพูดถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมา
“ท่านประธานกับคุณหนูเจินเลิกกันนี่จริงหรือ? ทำไมถึงไม่เอาคุณหนูเจินแต่ดันไปชอบผู้หญิงที่แต่งงานแล้วล่ะ?”
“แน่นอนสิ ไม่เห็นหรือว่า่นี้คุณหนูเจินไม่ได้มาปรากฏตัวที่นี่เลย?”
“ฉันก็ว่าทำไม่นี้ถึงได้จามบ่อย ที่แท้พวกเธอก็กำลังคิดถึงฉันอยู่นี่เอง” เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นห้องโถงดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเจินเนี้ยนทำให้บรรดาสาวๆ ที่กำลังเมาท์กันอยู่แตกฮือ
“คุณ…คุณหนูเจิน”
่นี้เจินเนี้ยนอารมณ์ไม่ดีมาก ไม่มีความอดทนมาพูดดีๆ ด้วย โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ยินว่าเหยียนจิ่งจื้อกลับไปมีความรู้สึกดีๆ กับเนี่ยเซิงเสี่ยวอีกครั้ง เธอก็รู้สึกว่าควรจะทำอะไรสักอย่าง ในวินาทีนั้นเธอจึงเดินขึ้นลิฟต์พุ่งไปที่ชั้นบนสุดทันที
ทางหน้าเคาน์เตอร์จึงรีบติดต่อไปหาจินเป้ยน่าทันทีเพื่อรายงานเื่ที่เจินเนี้ยนมา
ดังนั้นตอนที่เจินเนี้ยนเดินออกมาจากลิฟต์ก็เห็นจินเป้ยน่ามายืนขวางอยู่
“คุณหนูเจินคะ ตอนนี้ท่านประธานไม่สามารถพบคุณได้ค่ะ”
เจินเนี้ยนหัวเราะเหอะๆ ออกมาเสียงเบา “ผู้ช่วยจิน เมื่อก่อนคุณไม่ได้ปฏิบัติกับฉันแบบนี้นี่คะ”
จินเป้ยน่ากางมือมาขวางตรงหน้าเธอ “ประเทศจีนมีประโยคหนึ่งที่พูดว่า อดีตไม่สามารถสู้ปัจจุบันได้ เื่นี้คุณหนูเจินคงจะเข้าใจดีกว่าฉันนะคะ”
“เธอ!” เจินเนี้ยนถูกทำให้โกรธมาก แต่ก่อนเธอพบว่าผู้ช่วยของเหยียนจิ่งจื้อคนนี้ไม่ได้ดูแลเธอมากเท่าไร ต่อหน้าเหยียนจิ่งจื้อเธอเลยพูดอะไรมากไม่ได้ ถึงแม้จะเป็ตอนนี้เธอก็ไม่อยากจะทำลายภาพลักษณ์ตัวเองในสายตาของเหยียนจิ่งจื้อเพราะมาทะเลาะกับหล่อนหรอก
“เจินเนี้ยน?” เหยียนจิ่งจื้อที่เดินออกมาพอดี ทันทีที่เห็นเจินเนี้ยนเข้าก็เกิดอาการใขึ้นมา แต่ก็เป็เพียงครู่เดียวเท่านั้น เมื่อครู่มีข่าวว่าเจอเบาะแสของเนี่ยเซิงเสี่ยวแล้ว ตอนนี้เขาจำเป็ต้องรีบไป
“คุณหาเธอไม่เจอหรอก” เจินเนี้ยนสะบัดจินเป้ยน่าออกแล้วหันไปพูดกับเหยียนจิ่งจื้ออย่างมั่นใจมาก
เหยียนจิ่งจื้อเดินเข้าไปหาเธอทันที ใช่ หลังจากเจอกันที่โรงเรียนอนุบาลวันนั้น เนี่ยเซิงเสี่ยวก็เหมือนกับหายสาบสูญไปเลย ถึงเขาจะใช้อำนาจทั้งด้านดีหรือด้านมืดก็ไม่สามารถตามหาเธอออกมาได้ จนกระทั่งวันนี้มีเบาะแสโผล่มานิดหน่อย
ได้เผชิญหน้ากับเนี่ยเซิงเสี่ยวที่ยิ่งคุ้นเคยขึ้นเรื่อยๆ เหยียนจิ่งจื้อก็รู้สึกบางอย่างในสมองเหมือนจะพุ่งออกมาจากกรง เขาเข้าไปกระชากคอเสื้อของเจินเนี้ยนเอาไว้แล้วถามว่า “เธอรู้อะไร?” จนถึงวันนี้เขายังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเนี่ยเซิงเสี่ยวถึงได้หนีเขาไป ไม่คิดจะให้โอกาสเขาได้ฟื้นความทรงจำ
“ฉันรู้ทั้งหมดแหละ” เจินเนี้ยนเองก็ถูกสีหน้าร้อนรนของเขายั่วให้โมโหจนไม่สามารถควบคุมริมฝีปากที่สั่นได้ “รู้ว่าเมื่อหกปีก่อนเธอทิ้งคุณไปอย่างโหดร้าย รวมถึงยาที่ทำให้คุณความจำเสื่อมก็เป็เธอเองที่ป้อน!”
“ยังคิดที่จะไปหาเธออีกไหม? ฉันกล้ายืนยันนะจิ่งจื้อ ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้ เธอก็จะทิ้งนายและทำร้ายนายอีก คุณไม่ควรไปรักผู้หญิงแบบนั้นนะ!”
เสื้อของเจินเนี้ยนที่อยู่ในมือของเหยียนจิ่งจื้อเกือบจะถูกกระชากขาด เห็นท่าทางเม้มปากด้วยความเ็ปอย่างรุนแรงของเขา ในใจของเจินเนี้ยนก็เ็ป เธอถอนหายใจออกมา “จิ่งจื้อ ชีวิตคนเราน่ะต้องมีสักครั้งหนึ่งที่รักคนผิด คุณไม่ผิดหรอกนะ แต่อย่าไปหาเธออีกเลยได้ไหม? พวกเรา...” เธอพูดโน้มน้าว จากนั้นยังไม่ทันได้แตะโดนเหยียนจิ่งจื้อ เขาก็ผละออกแล้วเข้าไปในลิฟต์ที่จินเป้ยน่าได้กดเปิดรอเอาไว้ก่อนแล้ว
เื่บางเื่ ถ้าคุณไม่ไปพิสูจน์ก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าตัวเองจะรู้สึกเสียใจภายหลังได้มากเพียงใด
เหยียนจิ่งจื้อรีบไปที่ร้านอาหารเด็กบริเวณชานเมือง H ก็พบเพียงแค่กองอาหารที่กินเสร็จแล้ว จากนั้นยังมีพนักงานบริการของร้านอาหารยืนต่อแถวกันอยู่ รวมถึงบอดี้การ์ดที่กำลังยืนสอบถามพวกเขา
“พวกเขาไปเมื่อไหร่?”
“ก่อนที่พวกคุณจะมาได้ประมาณยี่สิบนาที”
“พวกเขาสวมเสื้ออะไร?”
“ผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีแดง เด็กใส่เสื้อคอกลมสีขาวกับกางเกงยีนส์ อ่อ ใช่แล้ว เขายังสวมหมวกใบเล็กด้วย”
เหยียนจิ่งจื้อฟังจนจบเงียบๆ ก่อนจะเดินเข้าไปพร้อมหยิบภาพออกมาจากกระเป๋า บอดี้การ์ดหลีกทางให้โดยอัตโนมัติ เขายกรูปขึ้นมา “พวกเธอแน่ใจใช่ไหมว่าเป็ผู้หญิงคนนี้?”
ทั้งสองคนพยักหน้า จากนั้นคนอื่นๆ ก็พากันพยักหน้าไปด้วย
เหยียนจิ่งจื้อเดินไปเดินมาตรงหน้าพวกเขาอยู่หลายก้าว จากนั้นจู่ๆ ก็เดินไปที่หน้าโต๊ะแล้วกวาดจานทั้งหมดตกลงไปที่พื้น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่ทำให้คนไม่กล้ามองสบตาตรงๆ
“ฉันให้เวลาพวกนายมากสุดสามวัน ถ้าหาไม่เจอก็ไสหัวออกไปให้หมด!” ทันใดนั้นเหยียนจิ่งจื้อก็นั่งลง มือกุมหัวตัวเองไว้ อาการปวดรุนแรงทำให้ความน่ากลัวตอนที่เขาพูดออกมาลดลงไปมาก
“ท่านประธานครับ ท่านไม่เป็อะไรใช่ไหมครับ? ต้องเรียกหมอมาไหมครับ?” มีบอดี้การ์ดกังวลถึงร่างกายของเขา
เหยียนจิ่งจื้ออยากจะร้องไห้ แม้แต่บอดี้การ์ดที่ถูกเขาด่ายังมีแก่ใจมาห่วงเขา หลายปีก่อนเขาทำอะไรไม่ดีกับเนี่ยเซิงเสี่ยวไปมากแค่ไหนกันถึงได้ทำให้เธอต้องใจร้ายกับเขาขนาดนี้!
“ท่านประธาน โทรศัพท์ของคุณดังครับ” เหยียนจิ่งจื้อที่ถูกเตือนถึงพบว่าโทรศัพท์ในมือของตัวเองสั่นมาตลอด ทั้งยังเป็เบอร์แปลกหน้า เขาพยายามอดกลั้นความรู้สึกที่อยากจะปามือถือทิ้งไปหลายร้อยครั้ง แต่สุดท้ายก็กดรับสาย
เขารอคอยอย่างมีความหวังว่าจะเป็เนี่ยเซิงเสี่ยวที่อาจจะโทรผิดมา จากนั้นก็บอกเื่ราวสมัยก่อนให้กับเขา และคอยอยู่ข้างกายรอจนกว่าเขาจำเื่ราวทั้งหมดได้
และลางสังหรณ์ของเขาถูกต้อง ตอนที่ปลายสายปรากฏเสียงอ่อนหวานสำเนียงเจียงหนานคุ้นเคยดังขึ้น เหยียนจิ่งจื้อก็ไม่สนใจอาการปวดหัวแล้วดีดตัวลุกขึ้นจากที่นั่งทันที “เนี่ยเซิงเสี่ยว กลับมาเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวนี้เลย!”
“คุณเหยียนคะ…” เนี่ยเซิงเสี่ยวที่อยู่ปลายสายครุ่นคิดอยู่นานถึงจะพูดออกมา “ฉันมีเื่ที่จะพูดกับคุณแค่ไม่กี่ประโยค มันเกี่ยวกับเื่ของพวกเราเมื่อสิบปีก่อนที่คุณอยากรู้”
เหยียนจิ่งจื้อสงบลง คอยฟังปลายสายพูดทุกคำอย่างเงียบๆ แม้แต่ลมหายใจก็ยังถี่ขึ้น
“เื่แรก อุบัติเหตุรถชนของแม่คุณเมื่อตอนนั้นมันเกี่ยวข้องกับฉัน”
เหยียนจิ่งจื้อตาโตขึ้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เธอว่าอะไรนะ?” ตอนที่ออกมาจากห้องผ่าตัด ไม่เพียงแต่จะความจำเสื่อมเท่านั้น เหยียนจิ่งจื้อยังพบว่าตัวเองไม่มีแม่แล้ว ตอนนั้นมีคนบอกว่าแม่ของเขาตายเพราะถูกรถชน ที่แท้เป็เพราะเธอ!
เนี่ยเซิงเสี่ยวไม่ได้ตอบเขา “เื่ที่สอง สำหรับเด็กผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดา ฉันอดยอมรับไม่ได้ว่าฉันก็คาดหวังกับชื่อเสียงเงินทอง อยากที่จะเข้าสังคมชั้นสูง ขอโทษนะ ตอนนั้นคุณจึงกลายเป็ใบเบิกทางให้ฉันพอดี คุณคิดว่าเหนี่ยวเหนี่ยวคือลูกของคุณหรือ? คุณก็แค่หน้าตาเหมือนพ่อของเขาก็เท่านั้นแหละ ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้คุณกลายเป็ตัวแทนพ่อของเขา”
“เื่ที่สาม ฉันไม่ได้รักคุณ ถ้าคุณไม่ปรากฏตัวออกมาฉันก็คงลืมคุณไปแล้ว จู่ๆ คุณก็โผล่มาทำเื่บ้าบอพวกนี้ขึ้น ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็โรคขาดความรักหรือเปล่า คุณเหยียนคะ ถ้าหากคุณเป็ล่ะก็….”
ปัง! โทรศัพท์ถูกโยนไปทางประตูกระจกร้านอาหารเด็ก โทรศัพท์เครื่องนั้นถูกสร้างเพื่อเหยียนจิ่งจื้อโดยเฉพาะจึงมีความทนทานมาก เหยียนจิ่งจื้อมองประตูกระจกที่ส่งเสียงเพล้งออกมา ในใจรู้สึกดีใจมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกเศษกระจาดบาดจนมีเืสดๆ ไหลออกมา
เขาเป็ลูกชายไฮโซ ไม่เคยได้รับการดูถูกเหยียดหยามแบบนี้มาก่อน ความทรงจำผุพังนั่นทำให้เขาหวั่นไหวกับเนี่ยเซิงเสี่ยว แต่ว่าคำพูดที่เธอเมื่อครู่กลับทำให้เขารู้สึกเกลียด
ในวันนั้นเหล่าลูกน้องในบริษัทเฉินตงทุกคนก็ได้รับประกาศแจ้งว่า ให้กันคนที่ชื่อเนี่ยเซิงเสี่ยวกับเนี่ยเหนี่ยวเหนี่ยวออกจากกิจการของเฉินตง!
เงินทุนของเฉินตงมีอยู่ไปทั่วจนแทบจะกุมหุ้นเอาไว้ รวมถึงตลาด โรงเรียนห้างสรรพสินค้า…ในเมื่อมีความสามารถที่จะหลบเขา เหยียนจิ่งจื้อจะทำให้เธอรู้ว่า ภายใต้กิจการของเฉินตงที่แผ่ไปทั่วประเทศแบบนี้ เธอจะต้องตกอยู่ในความลำบาก จะไปไหนก็ไปไม่ได้!