เพราะรู้ดีว่าอวี้ฉู่จาวเอาใจใส่หลินหร่านเป็อย่างมาก ลุงตงจึงได้เลือกที่จะเงียบ
ก่อนที่เขาจะถามต่อ “แม้ว่าตอนนี้คุณชายน้อยจะเป็พระชายา แต่ก็นับว่าเป็คนของวังหลังเช่นกัน การที่ต้องทำความรู้จักกับเหล่าฟูเหรินนั้นเป็เื่ที่ยากจะหลีกเลี่ยง ท่านอ๋องขับไล่ผู้คนเ่าั้ออกไปเช่นนี้ เกรงว่าคนเ่าั้จะคิดว่าพระชายาเป็พวกไม่คบหาสมาคม ดีไม่ดีพวกนางอาจกีดกันพระชายาออกจากวงใน เช่นงานเลี้ยงหรือพิธีบวงสรวงต่างๆ ในวังหลวง พระชายาต้องถูกแบ่งแยกเป็แน่ ท่านอ๋องไม่อาจยืนอยู่ข้างกายพระชายาและคอยปกป้องพระชายาได้ตลอดเวลา หากถึงตอนที่พระองค์ปกป้องไม่ได้ละพ่ะย่ะคะ”
ลุงตงเลื่อนชารสเลิศไปตรงหน้าอวี้ฉู่จาว พร้อมเอ่ยโน้มน้าวจิตใจ
อวี้ฉู่จาวใช้มือยกชาขึ้นมาจิบเล็กน้อย ยังคงกล่าวดังเดิม “มีเปิ่นหวังอยู่ด้วยตลอดอย่าได้กังวล”
ไม่ว่าถ้อยคำเ่าั้ของลุงตงจะเป็ความจริงหรือไม่ แต่อวี้ฉู่จาวไม่คิดทำให้หลินหร่านรู้สึกเศร้าใจแน่
เวลาคล้อยมาจนเย็น หลินหร่านเพิ่งตื่นนอน หลังจากลืมตาขึ้นมาก็พบกับอวี้ฉู่จาวที่อยู่ข้างกาย
“ท่านอ๋อง…” หลินหร่านมองออกไปด้านนอกเตียงผ่านช่องว่างของผ้าม่าน
สีของท้องฟ้าเป็สีเหลืองสลัว เห็นได้ชัดว่าตอนนี้คล้อยเย็นแล้ว นี่เขาหลับไปสามชั่วยามเลยหรือ!
“ข้าหลับไปนานใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ” หลินหร่านพลิกตัวเข้าไปซุกในอ้อมกอด
อวี้ฉู่จาวโอบกอดเขาไว้ “อืม เป็ความผิดของข้าเอง เมื่อคืนข้าทำให้เ้าเหนื่อย”
ใบหน้าของหลินหร่านขึ้นสีแดงระเรื่อ เขามุดศีรษะไปกับแผ่นอกของอวี้ฉู่จาว ฝ่ามือกอดเอวอีกฝ่ายไว้แน่นแล้วเอ่ยเสียงเบา “...ข้าไม่ได้กลัวเหนื่อย”
อวี้ฉู่จาวระบายยิ้ม “จริงหรือ? หากเ้าไม่เหนื่อย คืนนี้พวกเรามาฝึกฝนกันต่อดีไหม อย่างไรเสีย่สองวันนี้ก็ยังไม่มีอะไร เพราะเ้ายังมีเวลาให้พักผ่อน”
อวี้ฉู่จาวกล่าวพร้อมรอยยิ้ม แต่ไม่คาดคิดว่าหลินหร่านที่อยู่ในอ้อมกอดกลับพยักหน้า นั่นก็เท่ากับว่าอีกคนเห็นด้วย
อวี้ฉู่จาวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
สำหรับหลินหร่าน เขารู้สึกว่า หากตนเองทำให้ท่านอ๋องมีความสุขได้เช่นนี้ เท่ากับว่าเขาทำถูกต้องแล้ว
และแล้ว ความถี่ในการทำกิจกรรมยามค่ำคืนของทั้งคู่ก็มากขึ้นเรื่อยๆ อวี้ฉู่จาวสงสารหลินหร่านจึงคิดจะปล่อยเขาไป
ทว่า คนที่ไม่ยอมปล่อยเขาไปน่าจะเป็หลินหร่านเสียมากกว่า ตอนอยู่บนเตียงตัวติดกับอวี้ฉู่จาวอย่างกับอะไรดี ร่างกายแนบชิดอยู่บนร่างของอวี้ฉู่จาวตลอดเวลา ยกเว้นแค่่ที่เพลียจนหลับไปเท่านั้นถึงจะยอมห่างกาย ไม่อย่างนั้นก็คงจะปีนขึ้นมาบนตัวเขาพร้อมส่งตัวเองประเคนให้เต็มที่
หลายต่อหลายครั้งผ่านไป อวี้ฉู่จาวโอบกอดหลินหร่านนอนอยู่บนเตียง พยายามกดหลินหร่านเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน
หากเป็เช่นนี้ ร่างกายของหลินหร่านจะรับไหวหรือ?
แต่ว่า…
ถึงร่างกายไม่ขยับ ฝ่ามือเล็กของหลินหร่านกลับเริ่มกระทำบางอย่างใต้ผืนผ้าห่ม เขายังคงเขินอายอยู่มากเลยหลับตาสนิท นอนหน้าแดงทำเป็ว่าไม่รู้เื่อะไรทั้งสิ้น กระทั่งฝ่ามือทั้งสองข้างลูบไล้ร่างกายของอวี้ฉู่จาว
ในตอนนี้ อวี้ฉู่จ้าวคว้ามือแสนซุกซนของหลินหร่านไว้ “อวิ๋นซี ตอนกลางวันเ้านอนเยอะ ตอนนี้นอนไม่หลับหรือ?”
เมื่อโดนจับมือทั้ง หลินหร่านพลันรู้สึกอึดอัดใจจึงได้แสร้งทำเป็นอนหลับ ไม่ตอบคำถาม
“ข้ารู้ว่าเ้ายังไม่หลับ” อวี้ฉู่จาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงราวกับ้ากลั่นแกล้ง
เขาจุมพิตที่หน้าผากของหลินหร่านหลายต่อหลายครั้ง
ในที่สุดหลินหร่านก็ค่อยๆ ลืมตาแล้วยิ้มด้วยท่าทีซุกซน “ฮี่ๆ~” ก่อนจะแลบลิ้นด้วยท่าทีทะเล้น
อวี้ฉู่จาวเห็นหลินหร่านที่ซุกซนและหัวเราะอย่างร่าเริงเช่นนี้ก็รู้สึกมีความสุข
อวิ๋นซีของเขากำลังออดอ้อนอยู่สินะ
หลินหร่านเหล่มองพร้อมรอยยิ้ม ก่อนตอบกลับอย่างเขินอาย “ไม่ใช่นะพ่ะย่ะค่ะ”
“หรือว่า...เ้ายังไม่พอ” แม้อวี้ฉู่จาวจะเอ่ยถามไปอย่างนั้น แต่ในใจก็คิดว่าคงไม่ได้เป็เช่นนั้นอย่างแน่นอน
หลินหร่านอายุแค่นี้ ยังอยู่ใน่ปรับตัวสำหรับครั้งแรก เขาจะรู้สึกไม่พอได้อย่างไร
“ไม่ใช่...ข้า...ข้าควบคุมไม่ได้...”
ควบคุมไม่ได้? มันก็คือรู้สึกไม่พอไม่ใช่หรือ
อวี้ฉู่จาวครุ่นคิด ในใจพยายามตีความ
หากเป็เช่นนี้ นับว่าเขาไม่อาจสนองความ้าให้พระชายาได้อย่างเพียงพอ แบบนี้ได้ขายหน้าผู้คนเป็แน่
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ฝ่ามือของอวี้ฉู่จาวก็ลูบไล้ไปที่เอวบาง
ใครจะไปคาดคิดว่าหลินหร่านจะเอ่ยออกมา “ข้าควบคุมไม่ได้...อยากให้ท่านอ๋องรักข้ามากๆ ”
หลินหร่านเอ่ยจบก็ซุกเข้าไปในอ้อมกอดของอวี้ฉู่จาวด้วยความเขินอาย ราวกับตนเองกำลังรู้สึกละอายใจ
แต่ประโยคสุดท้ายของหลินหร่านราวกับจุดไฟลงบนตัวของเขา
อวิ๋นซีของเขาอดทนไม่ไหว ปรารถนาให้เขารักมากๆ เมื่อพูดมาเช่นนี้แล้ว เขาจะไม่มอบความรักให้ได้อย่างไร
เมื่อเป็เช่นนั้น อวี้ฉู่จาวจึงให้หลินหร่านนอนพักผ่อน่กลางวันในวันต่อมา
.........
อีกฝั่งหนึ่ง ภายหลังเข้าสู่วันที่สอง ฮองเฮาได้มีรับสั่งให้อวี้ฉู่เฉิงเข้าเฝ้าที่พระราชวังเฟิงอี้
ในห้องบรรทมของฮองเฮา อวี้ฉู่ซวนนั่งลงหน้าโต๊ะ คิ้วขมวดจนเป็ปม
เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหลินหร่านจะเป็ชายที่ให้กำเนิดได้ เขามีหลอดเืดำสองเส้นและเป็คนจากเผ่าจือเม่ย
ด้วยความศักดิ์สิทธิ์กับความลึกลับของเผ่าจือเม่ย นับว่าเปลี่ยนแปลงงานอภิเษกครั้งนี้ไปในชั่วพริบตา หากไม่นับเื่ที่หลินหร่านให้กำเนิดทายาทได้ละก็ ตอนนี้พวกเขาก็ไม่อาจตัดคุณสมบัติในการ่ชิงตำแหน่งของอวี้ฉู่จาวออกไปได้ แล้วเมื่อกล่าวถึงเผ่าจือเม่ย นี่ก็ทำให้อวี้ฉู่จาวกลับมามีคุณสมบัติเพิ่ม ซึ่งดูจากท่าทางของฮ่องเต้ฉงเต๋อแล้ว พระองค์เหมือนจะให้ความสนใจเื่ของเผ่าจือเม่ยอยู่ไม่น้อยทีเดียว
“เคยได้ยินตำนาน ไม่คิดเลยว่าเผ่าจือเม่ยจะมีตัวตนอยู่จริง” อวี้ฉู่ซวนยิ่งพูดยิ่งรู้สึกหดหู่ใจ
“ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน หากไม่ใช่เพราะเสด็จพ่อของเ้าแสดงท่าทีเชื่อขนาดนั้นออกมาละก็ ข้าคงคิดว่าเด็กนั่นเป็แค่ตัวประหลาด บนโลกนี้มีชายที่ให้กำเนิดได้ที่ไหนกันล่ะ ทั้งน่าขยะแขยงและน่ากลัว” ฮองเฮายังคงเลิกคิดเื่นี้ไม่ได้ ราวกับเมื่อวานนี้ได้เปิดโลกใหม่
อวี้ฉู่ซวนตะลึงงันไปชั่วขณะ
หลังจากนั้นไม่นาน รอยยิ้มแปลกประหลาดที่ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดเื่ชั่วร้ายบางอย่างก็ผุดขึ้นมา โดยที่ฮองเฮาไม่ได้สังเกตว่าตอนนี้อวี้ฉู่ซวนมีท่าทีเปลี่ยนไป
ภายหลังที่อวี้ฉู่ซวนจัดการกับความตกตะลึงเื่ที่ได้รับรู้มาเป็ที่เรียบร้อย เขาจึงถามถึงเื่อื่นขึ้นมาโดยพลัน “เื่ของฉินฉือเป็อย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”
เื่ที่พวกเขาเลือกให้หลินหร่านมาเป็พระชายาของอวี้ฉู่จาว เป็เื่ที่พวกเขาไม่ทันระวังเอง อยากจะอวดฉลาดแต่ก็เป็ฝ่ายโง่เง่าเสียเอง ตอนนี้ก็ทำอะไรกับเื่นี้ไม่ได้แล้ว หากเป็เช่นนั้นก็ควรไปให้ความสนใจกับเื่อื่น
แม้ว่าการติดสินบนกับการฉ้อโกงของฉินฉือจะถูกแจ้งต่อฮ่องเต้ไปแล้ว แต่หากคอยจับตาดูก็อาจกำจัดูเาลูกใหญ่อย่างอวี้ฉู่หลิงออกไปได้
“เสด็จพ่อมีรับสั่งให้ขุนนางาุโของหน่วยงานต้าหลี่ลงมือตรวจสอบด้วยตนเอง เสด็จแม่ไม่รู้หรือว่าตาเฒ่าเปี้ยนฉุนนั่น แม้จะดูเป็ข้าราชการดีมีความเที่ยงธรรม แต่อันที่จริงก็เป็แค่เ้าหินโสโครก หากเจตนาหลบเลี่ยงน้ำมือของเ้านั่นย่อมไม่ใช่เื่ยาก แต่ถ้าหากฉินฉือคิดหาทางหลบหนี ก็เป็ไปได้ที่เขาอาจทำสำเร็จและลบล้าง่ชีวิตอันเลวร้ายที่ผ่านมาได้"
เปี้ยนฉุนคือขุนนางาุโของหน่วยงานต้าหลี่ เป็คนเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ที่สุดในต้าอวี้ นับเป็ข้าราชการที่ดีที่สุด
เมื่อก่อนเปี้ยนฉุนทำหน้าที่เสมือนเป็ผู้นำและที่ปรึกษาในราชสำนัก แต่ฮ่องเต้มิอาจทนต่อนิสัยเย่อหยิ่งของเขาได้ จึงได้ออกคำสั่งให้เขาไปทำหน้าที่อยู่ที่หน่วยงานต้าหลี่
หลายปีมานี้ เปี้ยนฉุนได้รับคดีใหญ่มากมาย โดยเฉพาะการช่วยฮ่องเต้กำจัดเหล่าขุนนางทุจริตจำนวนมาก
วันนี้ ฉินฉือตกอยู่ในมือของเปี้ยนฉุนแล้ว ดูท่าคงจะโชคไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
่ที่ฮ่องเต้ฉงเต๋อเพิ่งขึ้นครองราชย์ พระองค์้าที่จะมีอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวาคอยสนับสนุนและช่วยเหลือในราชสำนัก ใน่เวลานั้น พระองค์คงคิดจะเก็บอัครเสนาบดีฝั่งขวาคนนี้ไว้เป็แน่
ทว่า ั้แ่เ้าอัครเสนาบดีฝ่ายขวานั่นส่งบุตรสาวของตนเข้าวัง กระทั่งมีอวี้ฉู่หลิงเป็หลานชาย ในราชสำนักก็กลายเป็สถานที่แย่งชิงอำนาจกันของเหล่าองค์ชาย ฮ่องเต้ฉงเต๋อก็ไม่ได้เข้มงวดกับเหล่าอัครเสนาบดีอย่างแต่ก่อน
หากเป็คนที่ตนเองหย่าร้างไปแล้ว องค์ชายเ่าั้จะยิ่งไม่เป็ที่สนใจ
ดังนั้นครั้งนี้ ฮ่องเต้ฉงเต๋อก็คงไม่ยื่นมือเข้ามาจัดการ อาจดำเนินการไปตามกฎหมายของต้าอวี้
“เป็เช่นนั้นก็ดี หากไม่มีเสนาบดีฝ่ายขวาคอยสนับสนุน สนมลี่กับโอรสก็ไร้ค่า” ฮองเฮาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ หากเป็เช่นนั้นก็สมดั่งใจตนเองเสียที
------------------------------------------
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้