ค่ำคืนใน่กลางฤดูร้อน ภายในเมืองล้วนมืดมิดมีเพียงแสงไฟสลัวของหลอดไฟเท่านั้นที่พอจะทำให้เห็นใบหน้าของแต่ละคน
ตามทางถนนแปดเลน คับคั่งไปด้วยรถ บ้างขับเข้าเมืองบ้างขับออกนอกเมือง เป็อย่างนี้วนเวียนไม่สิ้นสุด ต้นไม้ริมทางด้านเหนือของเมืองทอดยาวตลอดแม่น้ำแยงซีเกียง เหล่าแมลงต่างเชยชมรอบๆ แสงไฟที่เจิดจ้า ภาพที่เห็นนั้นยากที่จะบอกได้ว่าเป็กลางวันหรือกลางคืน ใกล้ๆ เป็แม่น้ำที่คดเคี้ยวจนดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุด คล้ายกับทางช้างเผือกที่สะท้อนกลับมาบนโลก
ที่นี่คือโรงพยาบาลที่แพงที่สุดในเมืองจงไห่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เพื่อให้ผู้ป่วยได้ผ่อนคลายกับทิวทัศน์ที่สวยสดงดงามนี้ แต่ค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายก็สูงจนคนธรรมดาไม่มีทางเหยียบย่ำเข้ามาที่นี่ได้
ภายในห้องโถงของแผนกผู้ป่วยพิเศษหยางเฉินกับป้าหวังนั่งอยู่บนม้านั่ง กำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
หยางเฉินเงียบสงบผิดปกติ แต่ในที่สุดเขาก็อดรนทนไม่ได้ ล้วงมือเข้าไปหยิบบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่านี่เป็เขตห้ามสูบ เขาพลันเก็บบุหรี่กลับไปด้วยความหงุดหงิด พร้อมลุกขึ้นเดินไปเดินมาอยู่รอบๆ
"คุณชาย..." ป้าหวังดวงตาแดงก่ำ เธอร้องไห้มามากก่อนหน้านี้ พูดขึ้นด้วยความกังวลว่า
"คุณชายคะ ทำไมหมอและพยาบาลยังไม่ออกมาอีก คุณหนูจะไม่เป็อะไรใช่ไหมคะ"
"ไม่ต้องกังวลหรอกครับป้าหวัง ถึงผมจะไม่ใช่หมอ แต่ผมก็รู้เื่พวกนี้มาบ้าง รั่วซีจะไม่เป็อะไรแน่ๆ" หยางเฉินกล่าวปลอบโยนเธอ เหตุการณ์ขณะส่งตัวหลินรั่วซีเข้าโรงพยาบาลวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ยากนักที่จะเอามันออกไปในทันที
หลังจากหยางเฉินโยนหลินคุนลงถังขยะแล้ว เขาเห็นหลินรั่วซีเข่าอ่อน และล้มลงสู่พื้น ทันใดนั้นหยางเฉินเคลื่อนตัวดั่งะุปืน
รับตัวเธอไว้ได้ทัน เขาสังเกตว่าเธอหมดสติไปแล้ว
ประสบการณ์ในอดีตสอนให้เขาสุขุมเยือกเย็น ไม่เหมือนกับป้าหวัง เขาหยิบโทรศัพท์โทรเรียกรถพยาบาลทันที และแบกหลินรั่วซีกลับเข้าบ้าน
หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว ปรากฏว่าหลินรั่วซีมีไข้ขึ้นสูง เขาบอกให้ป้าหวังเอาผ้าชุบน้ำมาให้และปฐมพยาบาลเบื้องต้น รอจนกระทั่งรถพยาบาลมาถึง
หยางเฉินรู้สึกสับสน แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเ็าเหมือนน้ำแข็ง แต่เมื่อเกิดอะไรขึ้นกับเธอ หยางเฉินรู้สึกเป็กังวลอย่างมาก หรือเป็เพราะเธอคล้ายกับคนคนนั้น หรือไม่ก็เพราะว่าเธอเป็ภรรยาตามกฎหมายของเขา หรือบางทีอาจเป็เพราะว่านี่คือเธอ
ขณะที่หยางเฉินกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก ป้าหวังเคลื่อนตัวเข้าไปหาคุณหมอด้วยความรวดเร็วจนเห็นเพียงภาพติดตา พร้อมเอ่ยถามอย่างเร่งรีบว่า
"คุณหมอคะ คุณหนูเป็ยังไงบ้าง"
หมอยิ้มกว้างกล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลครับ คนไข้ปลอดภัย แล้วตอนนี้ไข้ก็เริ่มลดลงแล้ว"
"ดีจริง..." ป้าหวังพูดขึ้นด้วยน้ำตา "ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะ"
ในขณะที่หมอกำลังพิมพ์โทรศัพท์ตอบแชทอยู่นั้น เขาก็นึกขึ้นได้ และหันมาถามป้าหวังว่า
"ขอโทษนะครับ คุณหลินได้รับความกดดันจากงานมาก่อนหรือเปล่าครับ"
ป้าหวังหยุดไปชั่วครู่ก่อนตอบว่า
"ใช่แล้วค่ะหมอ คุณหนูทำงานหนักมาก จนเลยเวลาพักผ่อนอยู่บ่อยๆ"
"คุณหลินร่างกายอ่อนแอมากครับ จากการตรวจสอบเบื้องต้นของเรา คิดว่าสาเหตุอาจเกิดมาจากความกดดันจากการทำงาน และการโดนทำร้ายจิตใจน่ะครับ"
หมอขมวดคิ้วถามต่อไปว่า
"ตอนนี้ไข้สูงนั้นเกิดจากการที่ร่างกายอ่อนแอและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ถ้าหากเป็แบบนี้ต่อไป ถึงเธอจะหายในครั้งนี้แต่ครั้งหน้าก็จะเป็อีก"
"คุณหมอคะ เราจะทำอย่างไรกันดี คุณหลินจะต้องหายนะคะ"
คุณหมอได้ยินดังนั้น จึงแย้มยิ้มพลางกล่าวว่า
"ไม่ต้องกังวลไปครับ โรคนี้ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่พักผ่อนสักครึ่งเดือนอยู่ที่โรงพยาบาล อาการทั้งหมดก็น่าจะหายไปครับ"
"ครึ่งเดือน... ฉันเกรงว่าคุณหนูจะไม่ยอม"
"เธอต้องยอมแน่ๆ" หยางเฉินแทรกขึ้นมา
"นอกจากกินยาแล้ว มีวิธีอื่นอีกไหมหมอ"
"คุณคือ..."
"ผมเป็สามีของเธอ หยางเฉิน"
หมออึ้งไปเล็กน้อยก่อนเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว และยิ้มกล่าวว่า
"ขอโทษที่เสียมารยาทนะครับ ผมไม่คิดว่าคุณหลินจะแต่งงานแล้ว ถ้าคุณหยางมีเวลาล่ะก็ ผมแนะนำให้คุณพาคุณหลินออกไปสูดอากาศข้างนอก ฝึกรำไท่เก๊ก เพื่อให้เธอผ่อนคลาย และอาการป่วยก็จะหายเร็วขึ้นครับ"
หยางเฉินพยักหน้าเป็เชิงรับรู้
ในการบริหารบริษัทอันดับหนึ่งของวงการแฟชั่นั้แ่อายุยังน้อย ช่างเป็ภาระที่หนักหนา ต้องเผชิญคู่แข่งที่เ้าเล่ห์ ครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวนอกจากไม่ช่วยเหลืออะไรแล้ว ยังคอยแต่สร้างปัญหา อีกทั้งยังถูกก่อกวนโดยซูจื้อหง การที่เธออดทนมาได้ถึงขนาดนี้นั้น เป็ที่น่ายกย่องอย่างมาก
ป้าหวังถอนหายใจกล่าวว่า "คุณชาย ฉันจะกลับไปเอาของใช้ที่จำเป็ให้คุณหนู"
"ลำบากป้าแล้วครับ"
อันที่จริง หลินรั่วซีไม่ได้อยู่คนเดียว อย่างน้อยเธอยังมีป้าหวังที่คอยห่วงใยเธออยู่ตลอด
ป้าหวังส่ายหัว
"สิ่งที่ฉันทำนั้นเล็กน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับคุณชายแล้ว คุณหนูอาจถูกทำร้ายจนตายโดยนายท่าน การที่คุณหนูตัดสินใจแต่งงานกับคุณ แน่นอนว่ามันเป็การตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้วค่ะ"
หยางเฉินหัวเราะขึ้นในใจ ถ้าไม่ใช่เพราะเขามีวิชาติดตัวอยู่ท่าสองท่า หลินรั่วซีจะเป็อย่างไรบ้างนั้นยากที่จะตอบได้ และการที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับเขานั้นเหมือนเธอบังเอิญถูกรางวัลที่หนึ่งนั่นเอง
หลังจากที่ป้าหวังจากไป หยางเฉินเปิดประตูไม้อย่างช้าๆ เดินเข้าไปในห้องมืดสลัวที่มีแสงจากโคมไฟส่องอ่อนๆ
หลินรั่วซีนอนอย่างสงบ ใบหน้ายังคงเ็าหากแต่ว่าอ่อนแอ คิ้วขมวดเล็กน้อยเหมือนว่ากำลังฝันร้ายอยู่
หยางเฉินนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ เตียง เขาเหม่อมองสาวสวยตรงหน้าด้วยความคิดจมลึก ทั้งรูปร่าง หน้าตา และลักษณะนิสัย ช่างคล้ายคลึงกับคนผู้นั้น หยางเฉินจมดิ่งสู่การไหลเวียนของเวลา
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่ก่อนที่หยางเฉินจะเดินไปดู ประตูก็เปิดออกช้าๆ ปรากฏร่างใครบางคนเดินเข้ามาในห้อง!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้