“ต้องใช้เวลา?”
ซุนเฟยขมวดคิ้ว เมื่อแมซโซลาและลูเซียโนเห็นท่าทางแบบนี้ ทั้งสองก็พลันใจเต้นด้วยความระทึก เมื่อได้ยินซุนเฟยพูดต่อว่า “ต้องใช้เวลานานเท่าไร?”
“นายท่าน หากแลกก้อนหินเวทมนตร์ทั้งสี่ก้อนในมือของท่าน คงแลกก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำได้ล้านกว่าก้อน ด้วยปริมาณจำนวนนี้ แม้ว่าจะเป็ท่านบิชอปเซิร์จเยเรมีแห่งอาสนวิหารนักบุญไอแซคของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่เซนิท ก็ไม่อาจจัดหาให้ได้ในวันสองวัน” แมซโซลาตอบกลับอย่างระมัดระวัง พยายามใช้น้ำเสียงของตัวเองโน้มน้าวใจของซุนเฟย “บวกกับการเดินทางไปกลับแล้วยังจำเป็ต้องใช้อัศวินช้าราชบริพารหรืออัศวินจำนวนมาอารักขา อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาราวๆ สี่ถึงห้าเดือนถึงจะสามารถดำเนินการเสร็จ”
“สี่ถึงห้าเดือน? นานเกินไปแล้ว!" ซุนเฟยส่ายหน้า
“ไม่ทราบว่านายท่านอยากแลกเปลี่ยนก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำเพื่อ...”แมซโซลาถามอย่างระมัดระวัง
สายตาของซุนเฟยพลันเปลี่ยนไป สายตาของเขาราวกับมีดที่พร้อมจะแทงเข้ามาที่หน้าของเขา
แมซโซลารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่พุ่งเข้ามาทำให้เขาแทบหายใจไม่ออก แมซโซลารีบคุกเข่าลงแล้วอธิบาย “นายท่าน ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้คิดจะสอดแนมความลับของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่ หากนายท่านไม่ได้มีความจำเป็ที่จะต้องใช้ก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำจำนวนมากในคราวเดียว ข้าสามารถแบ่งเป็รอบในการแลกเปลี่ยนให้ท่านได้ เช่น ทุกรอบข้าจะแลกเปลี่ยนก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำให้นายท่านหนึ่งพันก้อน แบบนี้จะได้เร็วกว่า นอกจากนี้ยังหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการจัดส่งของเป็จำนวนมากด้วย”
ซุนเฟยได้ยินดังนั้นก็ตาเป็ประกาย
รอบหนึ่งแลกได้หนึ่งพันก้อน ทุกเดือนแลกก้อนหินเวทมนตร์สักสามสี่รอบแบบนี้ก็น่าจะเพียงพอที่ตัวเองจะใช้สอยในโลก Diablo อีกทั้งยังสามารถขายก้อนหินเวทมนตร์เหล่านี้กับ NPC และรับประกันได้เลยว่าอาชีพทั้งเจ็ดนั้นจะไร้ซึ่งอุปสรรคในด้านการจับจ่ายซื้อของแน่ๆ ความเร็วในการอัพเลเวลก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
“ดี เื่นี้ พวกเ้าก็จัดการไปซะ”
ซุนเฟยโยน 'อัญมณีตำหนิ' และ 'อัญมณีทั่วไป' อย่างละก้อนไปทางแมซโซลา “ระดับกลางหนึ่งก้อน ระดับสูงหนึ่งก้อน ทั้งหมดจะได้ก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำหนึ่งหมื่นหนึ่งพันก้อน เ้านำมาให้ข้าหนึ่งหมื่นก้อน ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งพันก้อน ถือว่าเป็สิ่งตอบแทนสำหรับพวกเ้าทั้งสองคนที่ช่วยข้าจัดการเื่นี้”
“นายท่าน การที่ได้รับใช้ท่านถือว่าเป็เกียรติแก่พวกเรา พวกเราทั้งสองคนไม่กล้ารับของตอบแทน” แม้ว่าก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำหนึ่งพันก้อนจะเกินกว่าความมั่งคั่งของพวกเขาที่ได้รับจากการทำงานอย่างหนักเพื่อรับใช้โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ควบคู่กับการรีดไถจากคนอื่นๆ มาหลายปี แต่ตอนนี้ทั้งสองคนกลับไม่กล้าที่จะโลภ
“รางวัลที่ข้าให้ ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ” น้ำเสียงของซุนเฟยเ็าขึ้น
แมซโซลาและลูเซียโนหันมาสบตากัน ในดวงตาพวกเขามองเห็นถึงความดีใจแทบบ้าคลั่งที่ซ่อนไว้ไม่มิด ความโลภเอาชนะความกลัวในหัวใจ ทั้งสองต่างพากันคุกเข่าก้มหัวแสดงความเคารพ “ขอบคุณนายท่านสำหรับของรางวัล”
“อืม แบบนี้สิถึงจะถูก ”ซุนเฟยพูดเสียงอบอุ่นขึ้นว่า “ก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำหนึ่งพันก้อนเป็สิ่งที่พวกเ้าสมควรได้รับมัน แต่ไหนแต่ไรมาข้าก็ไม่เคยปฏิบัติกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่จงรักภักดีต่อข้าด้วยความอยุติธรรม พวกเ้าสองคนทำดีสุดท้ายก็จะมีรางวัลตอบแทน แต่ถ้ากล้าต่อหน้าทำอย่างลับหลังทำอย่าง ฮึๆ...”
ประโยคหลังพูดไม่ทันจบ พลังศักดิ์สิทธิ์สีทองที่พวยพุ่งออกมาจากร่างของซุนเฟยลูกหนึ่ง ราวกับลูกไฟศักดิ์สิทธิ์กำลังลุกไหม้ในอากาศ แสงไฟกะพริบเล็กน้อย ก่อนที่วินาทีต่อมามันจะเผาเก้าอี้หินอย่างเงียบๆ จนกลายเป็ฝุ่นสลายไปในอากาศ ราวกับไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน
ทักษะพาลาดิน ทักษะ 'คบเพลิงศักดิ์สิทธิ์'
แต่ในโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดินอาเซรอท เรียกทักษะอีกอย่างว่า 'เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ชำระปีศาจ' เป็ทักษะป้องกันระดับสูง มีเพียงเหล่านายท่านของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีคุณสมบัติที่จะควบคุมพลังนี้ได้ และแมซโซลาที่เป็เพียงนักบวชระดับสามดาวของอาณาจักรเล็กๆ ที่ห่างไกล สามารถควบคุมได้แค่ทักษะที่เรียบง่ายอย่างทักษะ 'ลำแสงทำลายล้าง' ที่เหมือนทักษะ 'เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์' ของพาลาดิน
ฉากนี้ทำให้ทั้งสองคนต่างเหงื่อแตกพลั่ก รู้สึกเย็นะเืั้แ่หัวจรดหางเหมือนอยู่ในน้ำแข็ง ไม่กล้าที่จะหายใจออกมาแรงๆ
“หากกล้าต่อหน้าทำอย่างลับหลังทำอย่าง มันก็จะเป็เหมือนเก้าอี้ตัวนี้”
ซุนเฟยพูดจบก็เดินออกไปจากโบสถ์
ไม่ช้าก็เหลือเพียงแมซโซลาและลูเซียโน
ทั้งสองคงพากันลุกขึ้นยืนอย่างกระอักกระอ่วนแล้วสบตากัน ใบหน้าที่ดูอวบอิ่มสมบูรณ์พยายามปกปิดความกลัวของตัวเอง
“ไม่ผิดแน่ๆ เขาคือ 'บุตรคนโปรดของพระเ้า'” งูหางกระดิ่งแมซโซลาเหม่อมองไปที่จุดที่เคยวางเก้าอี้หินที่ตอนนี้มีเพียงผงสีขาวๆ เล็กน้อยเหลืออยู่ เขาสูดลมหานยใจเข้าแล้วพูดว่า “ไม่อย่างนั้นทำไมถึงสามารถควบคุม 'เปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ชำระปีศาจ' ที่เป็ทักษะระดับสูงได้ แม้แต่หยิบก้อนหินเวทมนตร์ระดับสูงออกมาได้แบบสบายๆ นอกจากนายท่านแล้ว ใครจะทำได้? โชคดีที่พวกเราฉลาด ตอนนี้พวกเรามีขาใหญ่ให้เลียแล้ว”
“แต่ทำไมนายท่านคนนี้ถึงอยากแลกก้อนหินเวทมนตร์ระดับสูงเป็ก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำจำนวนมากล่ะ? ดูเหมือนจะเป็การซื้อขายที่ขาดทุนนะ?” ลูเซียโนถามอย่างสงสัย
“ความคิดของพวกนายท่านเป็สิ่งที่พวกเราคาดเดาได้ด้วยหรือ?” แมซโซลาลูบขมับ ดวงตาจับจ้องไปที่ก้อนหินเวทมนตร์สองก้อนในมือแล้วพูดว่า “พวกเรามาคิดหาวิธีทำอย่างไรถึงจะแลกเปลี่ยนก้อนหินเวทมนตร์ระดับสูงสองก้อนนี้ให้กลายเป็ก้อนหินเวทมนตร์ระดับต่ำดีกว่า เื่นี้เ้าต้องไปทำด้วยตัวเอง ต้องรักษาความลับนี้ไว้ให้ดี อย่าให้พวกคนใหญ่คนโตที่อยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กรู้เื่นายท่านจะดีที่สุด”
……
“อา พวกมันน่ารักจัง”
เหล่าโร้กสาวพากันฝ่าฝูงชนไปด้านหน้า ในที่สุดก็แทรกตัวมาอยู่ด้านหน้า ท่ามกลางฝูงชนมีแผงลอยเล็กๆ อยู่ตรงกลาง โดยมีพวกหนุ่มสาวที่ดูเหมือนจะเป็ทหารรับจ้างหลายคนกำลังะโเรียกลูกค้าและมีกรงเหล็กเล็กๆ กะทัดรัดหลายสิบกรงตรงเท้าของพวกเขา ซึ่งเต็มไปด้วยลูกสัตว์น่ารักหลายตัว
“เฮ้ๆ รีบมาดูสิ ลูกของหนูั์เพิ่งหย่านม นิสัยเรียบร้อย เลี้ยงง่ายมากๆ เลยล่ะ...”
“นกแก้วอายุหนึ่งปี มันสามารถเรียนรู้ภาษาพูดได้ด้วยนะ!”
“ฮ่าๆๆ รีบๆ มาดูเ้าตัวนี้สิ พวกท่านต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ ว่ามันเป็ลูกของโห่ว1ขนทอง สัตว์อสูรระดับหก ข้ากับสหายของข้าพยายามแทบตายกว่าจะเอามาได้ หลังจากที่มันโตเต็มที่ก็จะมีปีกงอกออกมาจากด้านหลังหกปีก ทั้งยังบินเร็วด้วยนะ...”
“ฮิๆ นี่เป็เสือขาวทายาทของจักรพรรดิแห่งแสงเชียวนะ!”
พวกทหารรับจ้างพยายามอย่างหนักที่จะเชิญชวนลูกค้าด้วยการแนะนำเหยื่อที่พวกเขาล่ามา เหล่าลูกสัตว์อสูรพวกนี้ถูกเสียงของฝูงชนทำเอาใกลัวจนตัวสั่น บางตัวแยกเขี้ยวขู่ บางตัวหลับตาซ่อนตัวอยู่ในกรงอย่างเกียจคร้าน ดูน่ารักราวกับสัตว์ในเทพนิยาย ราคาที่พวกทหารรับจ้างติดไว้ค่อนข้างสูง ดังนั้นมีคนน้อยมากที่จะยอมควักเงินซื้อพวกมัน ส่วนใหญ่แค่ล้อมวงดูอย่างคึกคัก
เหล่าโร้กสาวต่างเบียดไปด้านหน้า ดวงตาแต่ละคนเป็ประกาย
ั้แ่เกิดมา พวกนางรู้จักแต่การจัดการกับพวกมอนสเตอร์ที่ดุร้ายในโลก Diablo เมื่อได้มาเห็นลูกสัตว์อสูรตัวเล็กๆ น่ารักพวกนี้ที่อยู่ในกรงตรงหน้า พวกมันก็สามารถเอาชนะใจพวกนางได้แทบจะทันที เอเลน่าอุ้มเสือปลาอวบอ้วนน่ารักที่กำลังงีบหลับในกรงออกมาอุ้มไว้ในอ้อมกอดแล้วลูบขนมันเบาๆ พวกโร้กสาวคนอื่นๆก็ทำเช่นเดียวกัน พวกนางต่างยิ้มน้อยๆ ก่อนจะอุ้มเ้าตัวเล็กขนปุกปุยขึ้นมา แม้แต่แม่ชีอคาร่าก็ยังชอบ สายตาของนางจ้องมองไปที่นกฮูกขนสีขาวบริสุทธิ์อย่างไม่ละสายตา
“ซื้อพวกเถอะ พวกมันน่ารักมาก”
ทหารรับจ้างหญิงที่แสนฉลาดเมื่อมองเห็นความหวังที่จะหาเงินได้จึงรีบพูดยุขึ้นมา
พวกโร้กสาวได้ยินก็ต่างพากันมองไปที่เอเลน่า เอเลน่ามองไปทางแม่ชีอาคาร่า อาคาร่าดูเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่าง นางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากระโปรง ก่อนจะหน้าแดงอย่างไม่มีสาเหตุ เพราะว่านางไม่ได้พกเงินมาด้วย อีกอย่างนางไม่รู้ว่าเหรียญทองของโลก Diablo จะสามารถนำมาใช้ในโลกนี้ได้หรือไม่
เหล่าบุรุษที่แอบตามหลังพวกโร้กสาวมาตลอดทางได้เห็นฉากนี้ ในใจก็พลันตื่นเต้น ผู้นำนักรบร่างกำยำคนหนึ่งที่มีผมยาวสีบลอนด์ทองก็ขยิบตาครั้งหนึ่ง ชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา ทว่ามีท่าทางมืดมนเล็กน้อยที่อยู่ข้างเขาก็เดินแหวกฝูงชนเข้าไปก่อนจะพูดเสียงดังว่า “เ้าสัตว์ตัวน้อยพวกนี้ ฝ่าาของข้า้าซื้อมันทั้งหมด…”
พูดจบชายหนุ่มที่หล่อเหลาก็เทเหรียญทองจำนวนไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยเหรียญทอง จากนั้นก็หันไปมองเอเลน่าแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ฝ่าาของข้ามีรับสั่งให้ข้ามาที่นี่ เพื่อซื้อเ้าพวกนี้มอบให้แก่พวกท่านทุกคนเป็ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ฝ่าาตั้งใจที่จะเป็สหายกับพวกท่านทุกคน ไม่รู้ว่าพวกท่านจะยินดีหรือไม่?”
เอเลน่ารู้สึกประหลาดใจเมื่อมองตามสายตาของชายหนุ่มผู้หล่อเหลาตรงหน้าออกไปนอกกลุ่มคนที่ยืนล้อมรอบ ก็เห็นเพียงร่างของนักรบรูปร่างสูงโปร่งกำยำคนหนึ่งที่มีผู้อารักขาคอยปกป้องล้อมรอบกายและกำลังส่งรอยยิ้มน้อยๆ มาให้ คนที่เรียกว่าฝ่าาคาดว่าน่าจะเป็คนนี้
นี้นักรบผมสีทองมีลักษณะสง่างาม ร่างของเขายังมีกลิ่นอายความองอาจ ดวงตาเป็ประกายสดใส จมูกของเขางุ้มลง ทำให้เขาดูเป็คนโหดร้ายและรุนแรง นั่นเป็จุดที่ทำลายความประทับใจของผู้คน
แม้ว่าตอนที่เอเลน่าอยู่ในโลก Diablo จะไม่เคยัักับคนแปลกหน้านอกค่าย แต่ทุกๆ วันที่ต้องเผชิญหน้ากับพวกมอนสเตอร์ทำให้พวกนางมีประสาทััที่ไวมาก นักรบผมสีทองคนนี้แข็งแกร่ง แม้ว่าจะซ่อนพลังไว้ แต่พวกนางก็สามารถรับรู้มันได้ พลังของคนคนนี้เกรงว่าอาจไม่ได้ด้อยไปกว่านายท่านซุนเฟย ถ้าวัดตามมาตรฐานความแข็งแกร่งของที่นี่ ตามที่ซุนเฟยพูดก็น่าจะเป็นักรบสี่ดาว
เมื่อนึกขึ้นได้ว่านายท่านซุนเฟยใกล้จะได้ขึ้นครองบัลลังก์กลายเป็าา คงจะมีแขกจากอาณาจักรอื่นๆ มาร่วมอวยพรไม่น้อย เอเลน่าไม่อยากก่อเื่ให้ซุนเฟย นางจึงยิ้มให้นักรบผมทองเล็กน้อย “ขอบใจฝ่าาท่านนั้นมาก แต่ทั้งเขาและข้าไม่ได้รู้จักกัน เงินนี้ควรจะเป็เงินของพวกเราที่ต้องจ่าย”
พูดจบ เอเลน่าก็หันไปมองพัศดีโอเลเกร์
เ้าอ้วนเป็คนฉลาดทำไมจะไม่เข้าใจความหมายนี้ ในใจของเขาคิดว่าเหล่าโร้กสาวแสนสวยกลุ่มนี้จะต้องเป็ฮาเร็มของซุนเฟยในอนาคตแน่ๆ เมื่อเห็นฉากที่ไอ้เด็กนี่พูด ในใจก็ก่นด่าไอ้พวกโง่สมควรตายพวกนี้ คิดจะมาแย่งผู้หญิงขององค์าาอเล็กซานเดอร์ นี่มันสุนัขกัดช่างหินวอนโดนตีใช่ไหม? ในฐานะเป็ภูติตูดม้าที่ยังไม่ทิ้งลายเขารีบควักเงินออกมาจากกระเป๋า และจงใจมองยั่วยุชายหนุ่มหน้าหล่อและนักรบผมทองด้วยการพูดเสียงดังกับเหล่าทหารรับจ้างกลุ่มนี้ว่า “ลูกสัตว์อสูรพวกนี้ พวกข้าจะซื้อพวกมันทั้งหมดเพิ่มจากราคาเดิมเป็สองเท่า”
สีหน้าของชายหน้าหล่อพลันเปลี่ยนไป
ส่วนนักรบผมสีทองที่อยู่ห่างออกไป ดวงตาเป็ประกายร่องรอยมืดครึ้มแล่นผ่าน แต่เขากลับกลบซ่อนได้ดี เขายังคงยิ้มแล้วพูดว่า “ในเมื่อเป็แบบนี้ ถ้าอย่างงั้นเ้าตัวน้อยพวกนั้นก็ให้เ้า ข้าชื่อโอบินนา สองสามวันนี้ข้ายังคงอยู่ที่เมืองแซมบอร์ด หวังว่าพวกเราจะได้พบกัน”
พูดจบก็ไม่ได้วอแวอีก เขาพาผู้คุ้มกันหันหลังเดินจากไป
ระดับความอดทนของนักรบผมบลอนด์ทอง ทำให้คนส่วนใหญ่ที่อยู่รอบๆ อดไม่ได้ที่จะชื่นชม ท่าทางของเขาไม่ร้อนไม่เย็นกำลังพอดี ไม่กระตุ้นความรู้สึกรังเกียจของพวกเอเลน่าขึ้นมา นอกจากนี้ยังทิ้งความประทับใจที่ดีไว้กับพวกผู้หญิงอีกด้วย เผื่อครั้งหน้า ‘บังเอิญ’ เจอกันอีกครั้งจะได้ทักทายกันโดยไม่ตะขิดตะขวงใจ
มีเพียงชายน้าหล่อเท่านั้นที่ดูเหมือนว่าไม่เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น
เขารู้สึกว่าตัวเองถูกลูบคม ในดวงตาประกายชั่วร้ายมองไปที่โอเลเกร์ยืนโอ้อวดอยู่ด้านข้าง แล้วกวาดสายตามองผ่านเอเลน่าและคนอื่นๆ สุดท้านก็มาหยุดอยู่ที่ธนูสีทองบนหลังของเอเลน่า รูม่านตาพลันหดลงราวกับนึกอะไรได้บางอย่าง จากนั้นก็หยิบเหรียญทองบนพื้นที่เทลงเมื่อกี้ขึ้นมา ก่อนจะรีบเดินตามนักรบผมสีทองไปแล้วกระซิบอะไรบางอย่างข้างหู...
นักรบผมสีทองพลันหยุดเดิน ดวงตาของเขาเลื่อนไปดูที่ธนูที่เปล่งประกายสีทองของเอเลน่า กวาดสายตามองชั่วครู่...
จากนั้นสีหน้าของเขาก็พลันเปลี่ยนไป
-----------------------
1 โห่ว ชื่อเต็มๆ คือ เฉาเทียนโห่ว เป็หนึ่งในโอรสทั้งเก้าของั มีรูปร่างคล้ายสุนัข
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้