“น้องสี่ ไม้ที่อยู่ข้างนอกนั่นของแกเหรอ” เจี่ยหยวนถามขึ้นพลางถูที่มือ
“อืม ก็ให้พี่จัดการแล้วพี่จัดการไม่ได้นี่ ผมก็ต้องทำเองสิ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ ดวงตาของเจี่ยหยวนจ้องมองไปที่ไม้อันล้ำค่าที่อยู่ด้านนอกนั่นดวงตาเขาเป็ประกายคนที่มีตาก็มองออกทั้งนั้นว่าตาอ้วนนี่คิดจะฮุบวัสดุไม้เหล่านี้
“อะแฮ่มๆๆ น้องสี่ ดูแกพูดเข้า แต่ว่าเื่นี้พี่จัดการไม่ไหวจริงๆทั้งหัวซย่าไม่มีไม้การบูรจื่อจินเยอะขนาดนี้หรอก แกไปเอามาจากที่ไหนเหรอ” เจี่ยหยวนถามขึ้นเบาๆ
“ก็แค่ไม้ไม่กี่ท่อนเอง ถ้าไม่มีอะไร พี่ๆ สองคนกินกันอิ่มแล้วก็ไปเถอะพี่สองไปติดตามเื่ตกแต่ง ส่วนเฟอร์นิเจอร์พวกนั้นเดี๋ยวอีกสองวันผมจะส่งไปให้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เหอะๆ น้องสี่ วัสดุก็มีแล้ว เฟอร์นิเจอร์ในแปลนนั่นพี่ก็ทำให้ได้เอาไม้มาแล้วเดี๋ยวฉันจะให้ช่างไม้ที่ดีที่สุดมาทำเฟอร์นิเจอร์ตามแบบแปลนของแกให้” เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ
“ไม่รบกวนพี่สองแล้วล่ะ เื่นี้ผมจัดการเองได้พี่รีบไปดูเถอะว่าการตกแต่งคลินิกไม่ของผมตอนนี้เป็ยังไงแล้วบ้าง” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เ้าสี่ ฉันไม่อ้อมค้อมแล้วนะ ไม้จันทน์จื่อจินนี่แกให้พี่สักท่อนเถอะยังไงแกก็ไม่ใช้เยอะขนาดนั้นอยู่แล้ว ให้พี่สักท่อน แล้วอยากได้อะไรแกว่ามาถือว่าพี่แลกให้” เจี่ยหยวนพูดเสียงดัง
“พี่สอง พี่ทำแบบนี้ไม่ถูกนะ ไม่ช่วยน้องจัดการเื่เฟอร์นิเจอร์ก็แล้วไปแต่นี่พี่ยังจะมาเอาวัสดุของผมอีกมีพี่แบบนี้ที่ไหนกัน” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เดี๋ยวพี่ช่วยเื่บ้านแกเอง ช่วยแกตกแต่ง ช่วยแกวิ่งวุ่น่นี้ผอมลงไปหลายกิโล แค่ขอท่อนไม้แกก็ทำแบบนี้กับพี่เหรอ ฉันไม่สนล่ะที่บ้านฉันขาดเขียงทำกับข้าว เศษชิ้นที่เหลือชิ้นนี้ฉันจะเอาไป” ขณะที่พูดเจี่ยหยวนก็อุ้มไม้การบูรจื่อจินที่อวี้เอ๋อร์ฟันเมื่อสักครู่เดินออกไปนอกประตู
“พี่สอง พี่ไม่ถามหน่อยเหรอว่าฉันตกลงหรือเปล่า” จู่ๆ อวี้เอ๋อร์ก็พูดขึ้นยิ้มๆ
“น้องสะใภ้ พี่ก็อุ้มของมาแล้วเนี่ย ให้พี่เถอะนะ พี่สัญญาว่าเลยว่าจะช่วยเธอดูแลเ้าสี่ถ้ามันกล้าไปก่อเื่ที่ใต้หล้าอู่เฉิงอีกละก็ พี่จะบอกเธอคนแรกเลย” เจี่ยหยวนมองอวี้เอ๋อร์พร้อมกับพูดประจบ
“งั้นฉันก็ขอบคุณพี่สองมากนะคะ พี่เอาไม้ไปเถอะ พี่อยากแกะสลักอะไรถ้าฉันมีเวลาว่างฉันช่วยพี่ได้นะ” อวี้เอ๋อร์พูดยิ้มๆ
มีดสั้นที่อยู่ในมือเธอไม่ใช่ของธรรมดาคนที่มาจากสำนักลึกลับเดียวกับเ้าสี่ฝีมือก็ย่อมไม่ธรรมดาแน่ทุ่มสุดตัวแกะสลักจนเละก็เป็แค่ไม้ท่อนหนึ่งอยู่ดี เจี่ยหยวนกลอกตาจากนั้นก็อุ้มท่อนไม้เดินไปตรงหน้าอวี้เอ๋อร์
“น้องสะใภ้ เธอพูดแบบนี้พี่ก็ไม่เกรงใจแล้วนะเอาของเธอมาแล้วยังจะให้เธอลงมือแกะสลักอีกแต่ก็ได้ยินเ้าสี่พูดมานานแล้วเหมือนกันว่าน้องสะใภ้เป็พวกเก็บซ่อนความจริงใจฉะนั้นไม้ท่อนนี้ฉันให้เธอแกะสลักนะ” เจี่ยหยวนพูดพลางส่งไม้จันทน์จื่อจินไปให้อวี้เอ๋อร์
“ที่รักอยู่เป็เพื่อนพี่ๆ สองคนคุยกันเถอะเดี๋ยวฉันไปช่วยพี่สองแกะสลักของก่อนนะ” ขณะที่อวี้เอ๋อร์พูดพลางเอาไม้ที่เจี่ยหยวนอุ้มไว้เดินเข้าไปในห้อง
“เ้าสี่ น้องสะใภ้ไม่ธรรมดาเลยนะเนี่ย” หลี่เย่าที่อยู่เงียบๆมาตลอดมองอวี้เอ๋อร์เอาไม้เดินเข้าไปในห้องก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
“ฮ่าๆ ขายหน้าพวกพี่แล้วล่ะ พูดเื่ตระกูลกู่กันดีกว่าถ้ามีเวลาผมไปเยี่ยมพวกมันแน่” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“เ้าสี่ เื่ของฉันให้ฉันจัดการเองเถอะ ถึงแกจะเป็ศิษย์สำนักสันโดษแต่ว่าตระกูลกู่แกร่งจนแกจะมาเอาผิดไม่ได้นะถึงขนาดที่ว่าตอนนี้ฉันเสียเปรียบยังปริปากพูดไม่ได้เลยถ้าเป็ไปได้อย่าไปหาเื่ตระกูลกู่เลยดีกว่า” หลี่เย่าสงบสติอารมณ์ตนเองพูดขึ้นเบาๆ
“เ้าสอง อานุภาพตระกูลกู่ที่แกเจอน่าจะเป็แค่ตระกูลรองที่ใช้นามตระกูลกู่เท่านั้นตระกูลกู่จริงๆ ทำไม่ได้หรอก แล้วก็ไม่สนเื่เงินด้วยถ้าอยากจะได้เงินพวกเขาได้มาได้ง่ายๆของที่บรรพบุรุษเหลือทิ้งไว้ให้มากพอที่พวกเขาจะใช้ไปตลอดชีวิตกู่เอ้าคนที่มีเื่กับฉันน่ะ ไว้ฉันคิดวิธีจัดการมันเอง” หลี่เย่าพูดต่อ
“พี่เย่า ไม่ว่าพวกเขาจะเป็ตัวหลักหรือว่าจะตัวรองยังไงผมก็จะยุติธุรกิจกับตระกูลกู่พวกนั้น” เจี่ยหยวนพูดยิ้มๆ “ว่าแต่เ้าสี่ แกมีเื่อะไรกับตระกูลกู่เหรอเมื่อก่อนฉันได้ยินมู่หรงเฟยพูดแต่ก็ไม่ได้ถามให้ละเอียด”
“ไม่มีเื่อะไรร้ายแรงหรอก แค่จะแย่งผู้หญิงของนายน้อยตระกูลกู่มาน่ะ” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ “พี่หยวนพี่น่าจะรู้นะว่าหลินซวงเป็คู่หมั้นของนายน้อยตระกูลกู่”
“เ้าสี่ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น พี่นับถือแกอย่างท่วมท้นไม่ขาดสายเลยต่อไปพี่จะอยู่กับแกแล้วล่ะ” ครั้งนี้เจี่ยหยวนอึ้งตะลึงไปจริงๆหลินซวงเป็ลูกสาวสุดที่รักของตระกูลหลินเขาเองก็รู้เบื้องลึกเื้ัของตระกูลหลินมานิดหน่อยเื่ของหลินซวงกับนายน้อยตระกูลกู่เขาเองก็เคยได้ยินมาไม่คิดเลยว่าน้องสี่ของตนจะล้มเธอได้ สุดยอดไปเลย
“ให้ตาย ยังคิดว่าแกจะเปลี่ยนไปซะอีก สันดานเดิมไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดในเมื่อเื่มันเป็แบบนี้แล้วทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาใช้ดินต้าน[1] ใครจะไปสนกันล่ะว่าจะเป็ตระกูลกู่หรือเปล่า” หลี่เย่าพูดด้วยเสียงดังไม่พูดเช่นนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว ในเมื่อล้มคู่หมั้นของเขาไปแล้วช้าเร็วตระกูลกู่ก็ต้องทราบเื่อยู่ดี ไม่มีทางที่จะดีกันได้อยู่แล้วเช่นนั้นก็เตรียมรับศึกไว้ให้ดีเถอะ
“คุยอะไรกัน คุยกันคึกคักเชียว” เป็เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงอวี้เอ๋อร์เดินออกมาจากในห้อง “พี่สองไม่รู้ว่าพี่ชอบอะไร แต่ว่ามีอย่างหนึ่งที่พี่ชอบแน่ นั่นก็คือคนสวย พี่ดูสิว่าพอใจหรือเปล่า” ขณะที่พูดอวี้เอ๋อร์ก็เอาของออกมาจากด้านหลัง
“น้องสะใภ้ ไม่สิ อาจารย์อวี้เอ๋อร์ ธะ...เธอแกะสลักเองจริงๆ เหรอเธอไม่ได้แกะสลักมาก่อนหน้านี้หรอกใช่ไหม” เจี่ยหยวนตะลึงงันกับชิ้นงานแกะสลักที่อยู่ตรงหน้าเขาเองรู้จักปรมาจารย์ด้านแกะสลักอยู่ไม่น้อยในบ้านเขาก็มีของชิ้นงานแกะสลักอยู่ไม่น้อยทว่าไม่มีชิ้นไหนที่เหมือนกับชิ้นงานแกะสลักที่อยู่ตรงหน้านี้ให้เขารู้สึกราวกับว่ามีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
“ห้ามไม่เคารพชิ้นงานนี่นะ ไม่งั้นพี่ได้มีเื่แน่” อวี้เอ๋อร์พูดอย่างเข้มงวด
“อวี้เอ๋อร์ที่รักรูปลักษณ์ที่เธอแกะสลักออกมาไม่ใช่ท่านที่อยู่บน์หรอกเหรอ” ไม่เพียงเจี่ยหยวนที่ใอึ้งเท่านั้นกัวไฮว่เองก็ใกับชิ้นงานแกะสลักที่อยู่ตรงหน้านี้เช่นกันถ้าว่าอวี้เอ๋อร์งานล่มเมืองแล้วสตรีบนงานแกะสลักผู้นั้นงามเกินกว่าที่จะบรรยายได้ งดงาม ไร้ที่ติ
“ไม่เคารพ? ถึงฉันจะเป็คนเ้าเล่ห์แต่ว่ามองงานชิ้นนี้แล้วก็รู้สึกแต่จะชื่นชม น้องสะใภ้เธอแกะสลักคนสวยแบบนี้ออกมาได้ แบบนี้ฉันจะไปมองคนอื่นว่าสวยได้ยังไงกันไม่เอาแล้ว ฉันจะเอาของนี่ไปไม่ได้ เก็บไว้ที่พวกเธอเถอะ” เจี่ยหยวนส่ายศีรษะ เขาไม่ได้เอางานแกะสลักนั้นจริงๆจากนั้นก็หันหลังเดินออกไปยังประตู
“เ้าสี่แกจัดการเฟอร์นิเจอร์ ส่วนเื่ตกแต่งเดี๋ยวฉันดูเองในโอ่งเหล้าฉันเหลือเหล้าน้อยเต็มทีแล้ว รอให้แกจัดการเื่นี้เสร็จก่อนฉันจะเอาเหล้า ฉันจะเอาเหล้า” เจี่ยหยวนะโเสียงดังสองครั้ง
“ไม่คิดเลยว่าน้องสะใภ้จะมีฝีมือแบบนี้” หลี่เย่าค่อยๆเรียกสติกลับคืนมา “บนโลกมนุษย์จะไปมีผู้หญิงที่สวยแบบนี้ได้ยังไงกลัวว่าจะมีแค่ฉางเอ๋อบน์เท่านั้นแหละที่จะสวยแบบนี้” หลี่เย่าพูดทอดถอนหายใจ
“พะ...พี่รู้ได้ยังไง” อวี้เอ๋อร์กับกัวไฮว่ชะงักไปทั้งสองถามขึ้นด้วยความใพร้อมๆ กัน
[1] อุปมาว่าไม่ว่าจะมีอุบสรรคขวางหนามเช่นไรก็สามารถรับมือได้หมด
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้