เกี้ยวรักท่านอ๋อง ฉบับชายาข้ามมิติ [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        เมื่อตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น ที่จวนครึกครื้นกว่าปกติ


        อวิ๋นอี้เรียกเซียงเหอให้มาอาบน้ำ ฟังดูจากสถานการณ์ ถึงได้รู้ว่าหรงซิวไปทำงาน แต่จะมีงานเลี้ยงหลังจากกลับถึงจวน


        “งานเลี้ยงกระไร?” นางเริ่มสงสัยอีกครา


        “ได้ยินว่าจะมีแขกมาเยอะเพคะ ก่อนที่องค์ชายจะออกไป เขาสั่งให้ไปเตรียมของที่สวนด้านหลังเพคะ” เซียงเหอตอบพร้อมติดปิ่นผมสีทองให้นาง


        อวิ๋นอี้ได้ยินว่านางรู้ไม่ชัดเจน จึงไม่ถามกระไรอีก


        เมื่อถึงตอนเที่ยงครึ่ง หรงซิวพาแขกสองสามคนกลับมาที่จวน หลังจากที่เซียงเหอมารายงาน อวิ๋นอี้ก็ออกไปทันที จึงเห็นบุรุษผู้หนึ่งเดินเข้ามาหานางด้วยอารมณ์แจ่มใส


        เขายิ้มแล้วถามนางว่า “นอนหลับสบายดีหรือไม่?”


        อวิ๋นอี้พยักหน้า มองไปข้างหลัง ก็เห็นหรงหลิน นางทักทายอย่างสุภาพว่า “เหตุใดจึงมิเห็นซือฝานเล่าเพคะ?”


        “อีกสักครู่นางจะมา บอกว่าจะไปรับพระชายาเอกองค์รัชทายาทน่ะพ่ะย่ะค่ะ” หรงหลินตอบอย่างอ่อนโยน


        “พระชายาเอกจะมาด้วยหรือ?” อวิ๋นอี้ประหลาดใจมาก


        หลังจากออกกลับมาจากสำนักซืออี๋แล้ว นางมิได้ติดต่อกับตู้ซือโหรวนัก คราสุดท้ายที่พบกันก็เป็๲งานเลี้ยงคืนนั้น ทว่ามีคนเยอะ จึงมิได้คุยกัน


        หรงหลินไม่แน่ใจนัก ยักไหล่แล้วพูดว่า “ซือฝานบอกเพียงว่าจะไปชวนพ่ะย่ะค่ะ ทว่าจะมาได้หรือไม่เป็๲อีกเ๱ื่๵๹หนึ่ง”


        อย่างไรเสียคนที่พระราชวังตะวันออกล้วนเป็๲ผู้สูงศักดิ์ ในวันธรรมดาจะมิได้เห็นพวกเขานั้นเป็๲เ๱ื่๵๹ปกติมาก


        หลังจากทักทายกันพอเป็๲พิธีแล้ว หรงซิวก็พาทุกคนไปที่สวนหลังจวน


        สวนในฤดูกาลนี้มีทัศนียภาพอันเป็๲เอกลักษณ์


        ภายในสวนเต็มไปด้วยไม้ดอกและพืชพันธุ์ต่างถิ่นนานาพันธุ์ ดอกไม้หลากสีสัน บานอย่างคึกคัก แย่งชิงกันบานสะพรั่ง และมีทะเลสาบสีเขียวอยู่ไม่ไกล มีใบบัวลอยอยู่ในทะเลสาบ สีเขียวมรกตและสีเขียวเข้มหลากหลาย ดูแวววาวสวยงามยิ่งนัก


        หรงซิวสั่งให้คนจัดสถานที่ไว้แล้ว กลุ่มคนนั่งอยู่ใต้หิ้งดอกไม้ รู้สึกราวถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวขจีทำให้ร่างกายและจิตใจสงบลง


        นอกจากอวิ๋นอี้ ที่เหลืออีกห้าคนในกลุ่มเป็๲บุรุษร่างใหญ่


        นางนั่งหน้าแห้ง มิรู้จะพูดกระไรดี ทว่าโชคดีที่มีหรงซิว เขารู้ใจพวกบุรุษ เมื่อพาคุยเ๱ื่๵๹ต่างๆ ทุกคนก็พากันเห็นด้วย


        ในเวลาไม่นานบรรยากาศพลันมีชีวิตชีวาขึ้นมา


        คนใช้นำขนม ชา และผลไม้ที่เตรียมไว้มาให้


        เวลาบุรุษคุยกันจะใส่ใจมาก แทบจะไม่กะพริบตาเลย อวิ๋นอี้เบื่อจนปากแทบจะมีนกออกมา เลยต้องทานอาหารไปเรื่อยๆ


        เมื่อทานจนได้ที่ พ่อบ้านก็มารายงานว่ากู่ซือฝานและพระชายาเอกมาแล้ว


        ทันทีที่กู่ซือฝานปรากฏตัว เสียงก็พลันดังขึ้น “ว้าว! ท่านพี่! สวนของท่านสวยมากเพคะ! พระเ๽้า! นี่คือดอกพลับพลึงแดงที่ประเมินค่ามิได้ใช่หรือไม่เพคะ!”


        หรงซิวตอบว่าใช่ นางพลันเอามือปิดปาก รู้สึกประหลาดใจ พูดไม่ออกด้วยความตื่นเต้น


        มีต้นไม้ราคาแพงมากมายที่ปลูกในสวน อวิ๋นอี้รู้ไม่มาก นางไม่ค่อยศึกษาเกี่ยวกับดอกไม้และพืชพันธุ์มากนัก มองดูสีดอกไม้แห่งฤดูร้อนทว่ามองพันธุ์มิออก


        เพราะว่ามองพันธุ์ไม่ออก จึงมิรู้ว่ามันมีค่าหรือไม่


        ในทางกลับกัน กู่ซือฝานกลับประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนหรงหลินทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาจึงเดินไปหานาง พานางไปที่โต๊ะแล้วนั่งลง


        นางจึงสงบลงได้


        หรงซิวจิบชาแล้วเคาะนิ้วลงบนโต๊ะ “ทุกคนมาพร้อมแล้ว นั่งเฉยๆ ก็น่าเบื่อ เรามาเล่นเกมปาลูกดอกกันเถิด?”


        “ดีเพคะ ดี!” กู่ซือฝานชอบความครื้นเครง รีบเห็นด้วยทันที


        ทุกคนมาที่นี่เพื่อสนุกกัน คนอื่นๆ ย่อมเห็นด้วย


        เกมที่เรียกว่าปาลูกดอกนี้ ผู้เข้าร่วมจะต้องโยนลูกดอกในมือของพวกเขาลงในขวดปากกว้างทีละคน ในเวลาเดียวกัน ผู้เล่นที่ขว้างลูกดอกได้มากที่สุดจะเป็๲ผู้ชนะ


        หลังจากหรงซิวอธิบายกฎเสร็จแล้ว เขาก็หยุดพูดและขยิบตาอย่างเ๽้าเล่ห์ “วันนี้เราจะเล่นกันเป็๲คู่”


        มีขั้นตอนพิเศษในการเล่นเป็๲คู่คือ จะต้องให้ผู้เข้าร่วมมัดมือติดกัน ปาลูกดอกออกไปพร้อมกัน เป็๲การวัดความสามัคคีและใจที่ตรงกันของทั้งคู่


        ตามกฎแล้ว คู่สามีภรรยาสองคู่จับเป็๲คู่ องค์ชายคนโตของเป่ย๮๬ิ๹เผยยวนอี้กับพระชายาเอกองค์รัชทายาทต้าอวี่ตู้ซือโหรวอยู่ด้วยกัน ที่เหลือคือเผยหลางเย่และหลี่ซูซวนอยู่ด้วยกัน


        อวิ๋นอี้มีความสุขในใจ มิรู้ว่าเพราะเหตุใด เมื่อเห็นหลี่ซูซวนดูไม่สบายใจ นางกลับรู้สึกตื่นเต้นมาก


        “เหตุใดเ๽้าจึงยิ้มมีความสุขเช่นนี้?” นางแอบยิ้มเยาะ พลันโดนหรงซิวแตะที่ฝ่ามือ เสียงของเขาก็ดังขึ้น "ทำเ๱ื่๵๹ไม่ดีกระไรอีกหรือ?"


        "เปล่าสักหน่อย" อวิ๋นอี้จ้องไปที่เขา “อย่ามาใส่ร้ายข้า”


        หรงซิวเพียงแค่หยอกล้อนาง เมื่อเห็นว่าสาวน้อยจริงจังมากก็อดหัวเราะออกมามิได้และเกลี้ยกล่อมว่า “ได้ ได้ ข้าผิดเอง”


        “ฮึ่ม!” ยิ่งกล่อมนางยิ่งได้ใจ “รู้ว่าผิดแล้ว อีกเดี๋ยวตั้งใจเล่นให้ดีนะเพคะ"


        “ทำได้ดีจะมีรางวัลหรือไม่?” หรงซิวรีบพูดเพื่อหาผลประโยชน์ให้ตนเอง แต่กลับถูกอวิ๋นอี้ตบ “มิมีเพคะ!”


        ทั้งสองทะเลาะกันจบ ก็เตรียมตัว ทุกคนในกลุ่มมัดมือไว้ด้วยกัน คนใช้วางขวดปากกว้างห่างไปสามเมตร


        เพื่อให้การเล่นเกมน่าสนใจยิ่งขึ้น หรงซิวได้กำหนดกฎเพิ่มเป็๲พิเศษ


        การแข่งขันจะแบ่งออกเป็๲สองขั้น ระยะแรกจะอยู่ห่างออกไปสามเมตร สองกลุ่มแรกที่ชนะในด่านนี้ เข้าสู่ด่านที่สองห่างออกไปห้าเมตร จากนั้นถึงการแข่งสุดท้าย


        เมื่อรู้กฎอย่างชัดเจน ฆ้องดังขึ้น ภายในเวลาหนึ่งกำยาน สองกลุ่มแรกที่มีปาได้มากที่สุดจะเป็๲ผู้ชนะ


        การแข่งขันเริ่มขึ้นทันที


        แม้แต่อวิ๋นอี้ที่กำลังยิ้มแฉ่ง ยังจดจ่ออยู่กับการแข่งขัน


        หรงซิวได้นำทัพมาตลอด มีดปืนดาบง้าวของพวกนี้ มิมีกระไรที่เขาไม่ชำนาญ หลังจากลูกศรสองอันแรกตกลงสู่พื้น สิ่งต่อมากล่าวได้ว่าก็ไม่พลาดเลยสักลูก ลงหมดทุกดอก


        อีกสามกลุ่มมีเ๱ื่๵๹ที่น่าขันของตนเอง


        หรงหลินและกู่ซือฝานปาลูกดอกอยู่ดีๆ ก็เริ่มทะเลาะกัน กู่ซือฝานบ่นอยู่นาน ปากของนางไม่หยุดนิ่ง หรงหลินถูกบ่นจนทำกระไรไม่ถูก มือของเขาไม่นิ่ง ไม่ต้องพูดถึงเ๱ื่๵๹ว่าจะปาลงหรือไม่ลง


        การร่วมมือกันของหลี่ซูซวนกับเผยหลางเย่ ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก


        ทั้งสองมีนิสัยเอาแต่ใจ ทั้งสองหงุดหงิดฝ่ายตรงข้าม ราวกับปืนใหญ่ที่จุดติด พวกเขาร่วมมือกันปาพลาดหมด จากนั้นหันมามองหน้ากัน ยอมแพ้ และไม่แข่งไปเสียเลย


        กลุ่มที่เข้ารอบถัดไปจึงเป็๲กลุ่มของหรงซิวและเผยยวนอี้กับพระชายาเอก


        คนใช้มาขยับขวดให้ห่างออกไปห้าเมตร ฆ้องดังขึ้นอีกครา อวิ๋นอี้ถูกหรงซิวนำทางคว้าชัยชนะมาอย่างง่ายดาย


        เดิมทีในเกมแรก กลุ่มของเผยยวนอี้ถูกนำโด่ง ผลลัพธ์เป็๲ไปตามที่ทุกคนคาดไว้


        “เราใจตรงกัน” หรงซิวพูดชื่นชมที่ข้างหูนาง “ใช่หรือไม่ เมียจ๋า?”


        อวิ๋นอี้ถูกเขาหยอกล้อจนขนลุกไปทั้งตัว จนต้องหดคอเดินออกไปไกล


        จุดประสงค์ของเกมคือเพื่อสร้างความบันเทิง แพ้ชนะนั้นเป็๲เ๱ื่๵๹รอง


        หรงซิวให้คนใช้ขนของออก บอกว่าจะพาพวกบุรุษไปคุยกัน ให้สตรีได้มีเวลาคุยกัน ต่างคนต่างคิดไม่เหมือนกันทว่าตกลงกันได้โดยปริยาย


        พวกเขาลุกขึ้นจากไป ทันใดนั้นบริเวณโดยรอบพลันเงียบลง


        อวิ๋นอี้นั่งลงข้างตู้ซือโหรว ถามว่า "มาได้อย่างไรเพคะ?"


        "กระไรกัน จวนเ๽้ามิต้อนรับข้าเช่นนั้นหรือ?" ตู้ซือโหรวจงใจพูดให้นางพูดไม่ออก ทำเอาอวิ๋นอี้อยากจะตบนาง "ข้าเพียงแค่เกรงว่าจวนเล็กๆ ของข้านี้จะไม่เหมาะสมกับพระชายาเอกน่ะเพคะ!"


        "ไร้สาระ!" นางขัดขึ้น "จริงสิ องค์ชายเป่ย๮๬ิ๹ทั้งสองคนมาทำกระไร?"


        "มาเที่ยวเล่นนะสิ" อวิ๋นอี้ตอบกลับ


        ตู้ซือโหรวยิ้มและขยิบตา “หลอกข้าหรือ? แต่กระนั้นในเมื่อเ๽้าไม่อยากพูดข้าก็ไม่ถามแล้ว เรามิได้เจอกันเสียนาน คุยเ๱ื่๵๹สนุกๆ กันเถิด”


        “เ๱ื่๵๹สนุกกระไร?” อวิ๋นอี้กับกู่ซือฝานพูดพร้อมกันอย่างไม่เคยเป็๲มาก่อน “ซูเมี่ยวเออร์หรือเพคะ?”


        ตู้ซือโหรวแสดงท่าทีดูถูกในสายตา “นางจะเป็๲ตายอย่างไรมิมีกระไรให้น่าพูดถึงหรอก ที่ข้าจะพูดคือ สตรีผู้มากความสามารถอันดับหนึ่งคนก่อน ได้ยินว่ากลับมาที่เมืองหลวงแล้ว”

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้