ซูเจินวางไหสุราลงบนโต๊ะ จากนั้นก็รินสุราใส่จอกให้เย่เช่อ
เย่เช่อดันจอกสุรากลับไปและกล่าวว่า “คงไม่ดีนักที่จะดื่มสุราในตอนเช้า เ้าดื่มเถิด”
ซูเจินผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มและกล่าวว่า “เมื่อสักครู่เ้าบอกว่าจะรอไม่ใช่หรือ?”
เย่เช่อส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้อวิ๋นจื่อ “อดีตจะเปรียบเทียบกับปัจจุบันได้อย่างไร ตอนนี้ย่อมไม่เหมือนเดิมแล้ว”
จู่ๆ ซูเจินก็รู้สึกราวกับได้ทานอาหารสุนัขโดยไม่ทันตั้งตัว
ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อย
ความมีชีวิตชีวาของซูเจินหายไปทันที เขาทานอาหารเงียบๆ และเดินจากไปด้วยใบหน้าราบเรียบ
เย่เช่อมองไปยังแผ่นหลังของซูเจิน จากนั้นก็หัวเราะและกล่าวว่า “ซูเจินมักเป็แบบนี้เสมอ เขาชอบโกรธโดยไม่มีเหตุผล นิสัยเช่นนี้เหมือนสตรีไม่มีผิด!”
หลังจากได้ยินคำพูดนี้อวิ๋นจื่อก็ผงะเล็กน้อย
เหมือนสตรีไม่มีผิด?
ซูเจินเป็สตรี
ปรากฏว่าเย่เช่อไม่รู้เื่นี้ด้วยซ้ำ!
นางไอแห้งๆ และแสร้งทำท่าทีเคร่งขรึม “คุณชายเย่ ได้โปรดอย่าพูดเช่นนั้นกับพี่ชายของข้า”
เย่เช่อหัวเราะ “เอาล่ะ ซูเจินก็เป็เหมือนพี่น้องของข้า เ้าไม่ต้องกลัวว่าเขาจะไม่พอใจ”
ทั้งสองพูดคุยเื่ไร้สาระอย่างอารมณ์ดีและทานอาหารเช้าอย่างมีความสุข
เมื่อทานเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่เช่อก็เรียกสาวใช้เข้ามาเก็บกวาด จากนั้นเขาก็ถามอวิ๋นจื่อว่า “เอาล่ะ แม่นางน้อยของข้า ตอนนี้เรามาพูดคุยกันถึงเื่ที่ทำให้เ้าไม่มีความสุขดีกว่า เมื่อเช้านี้เกิดอะไรขึ้นหรือ?”
อวิ๋นจื่อก้มหน้าลงและกระซิบเื่ที่เกิดขึ้นในตอนเช้าให้เย่เช่อฟัง นางเล่าว่าสาวใช้หักหลังนางอย่างไรและลักลอบติดต่อเ้านายเก่าอย่างไร
อวิ๋นจื่อพยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมน้ำเสียงให้ราบเรียบ เพื่อไม่ให้เขาััได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของนาง
แต่เย่เช่อคือใครกัน? ดวงตาของเขาเปลี่ยนสีเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “คนแบบนี้ควรกำจัดทิ้ง”
อวิ๋นจื่อพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “แต่ข้าไม่้าทำเช่นนั้น”
และแล้วบรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
อวิ๋นจื่อมองดูทิวทัศน์ด้วยความเศร้าโศก “ข้าให้ความสำคัญกับคนรอบตัวมาก และสิ่งสุดท้ายที่ข้า้าคือการลดทอนความสุขในหัวใจของตนเอง”
หลังจากพูดจบ ดวงตาของนางก็จ้องไปที่เย่เช่ออย่างลึกซึ้ง
‘เย่เช่อ อันที่จริงข้าคือเหวินฮวา’ อวิ๋นจื่อรู้สึกกระวนกระวาย นาง้าพูดประโยคนี้ออกไปแต่สุดท้ายก็ทำได้เพียงนิ่งเงียบ
เย่เช่อจะไม่มีวันรู้ถึงอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายใต้ท่าทีอันอ่อนโยนของนาง
และนางก็จะไม่มีวันรู้ว่าเขาห่วงใยนางมากเพียงใด
เย่เช่อเปลี่ยนเื่และถามว่า “แล้วคนของข้าล่ะ? เ้าพึงพอใจพวกนางหรือไม่?”
อวิ๋นจื่อตอบเบาๆ “พวกนางดีมาก เหตุใดท่านจึงถามเช่นนี้? หรือท่านจะให้พวกนางกลับไปกับท่าน?”
เย่เช่อส่ายหัว “เป็ไปได้อย่างไร ในเมื่อพวกนางถูกมอบให้เ้าแล้วก็ย่อมเป็คนของเ้า”
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างกลมเกลียว ไม่นานในสวนก็เหลือเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้น สวนที่อยู่หลังจวนตระกูลซูมีอาณาเขตกว้างสุดลูกหูลูกตา แต่กลับไม่มีบ่าวรับใช้อยู่ในบริเวณนั้นแม้แต่คนเดียว
เย่เช่อมองไปรอบๆ และกล่าวว่า “น่าแปลก มีเื่ผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่?”
ขณะที่พูดเขาก็ดึงตัวอวิ๋นจื่อเข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “ปี้เหยียน กลับไปที่เรือนของเ้ากันเถอะ ข้าเกรงว่าจะมีบางอย่างผิดปกติ”
อวิ๋นจื่อตกอยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
ทั้งสองรีบกลับไปที่เรือนของอวิ๋นจื่อ
เมื่อไปถึงเย่เช่อก็กำชับให้นางอยู่แต่ในเรือน
อวิ๋นจื่อพยักหน้า นางมองเขาด้วยความรักและกล่าวว่า “คุณชายจะกลับมาหาปี้เหยียนเมื่อใดเ้าคะ?”
สายตาของเย่เช่ออ่อนโยนเป็พิเศษ เขากล่าวว่า “ไม่ต้องกังวล สักวันข้าจะให้เ้าใช้แซ่ของข้า”
หลังจากที่เย่เช่อพูดจบ เขาก็กอดอวิ๋นจื่ออย่างแแ่ก่อนจะจากไป
ทันทีที่อวิ๋นจื่อก้าวเข้าไปในเรือนของตนเอง นางก็ตระหนักว่าอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
ท่าทางของไป๋จื่อและหงหลิงดูราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัว มีเพียงหงจินที่ยังคงมีท่าทีหดหู่และเงียบงัน อาหารจากตอนเช้ายังวางอยู่บนโต๊ะ
เดิมทีอวิ๋นจื่อ้าปฏิบัติต่อหงจินด้วยความเมตตา
แต่ท้ายที่สุดนางก็หวนนึกถึงการทรยศที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
เมื่อนางมองดูหงจินอีกครั้ง คำพูดของเย่เช่อก็ดังขึ้นในใจนาง
ทันใดนั้นหัวใจของนางก็แปรเปลี่ยนเป็แข็งกระด้าง
อวิ๋นจื่อคิดว่าในเมื่อหงจินเคยทรยศนางแล้วครั้งหนึ่ง จะแน่ใจได้อย่างไรว่าวันข้างหน้าอีกฝ่ายจะไม่ทำเช่นนี้อีก? เหตุใดนางจึงไม่ผลักไสหงจินออกไป?
สีหน้าของอวิ๋นจื่อดูเคร่งขรึมเล็กน้อย นางกล่าวว่า “หงจิน เก็บอาหารเหล่านี้เสีย ส่วนไป๋จื่อและหงหลิงตามข้าไปที่ห้องด้านใน”
หงจินไม่พูดอะไรสักคำและเริ่มลงมือเก็บกวาดเงียบๆ
เมื่ออวิ๋นจื่อมองหงจินนางก็รู้สึกะเืใจเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งนางนึกสงสารสาวใช้ผู้นี้ แต่แล้วนางก็คิดว่าหากเป็เสด็จอาคงจะจัดการอย่างเด็ดขาดกว่ามาก ครั้งหนึ่งนางก็เคยไว้ใจชางอู๋หลิงและถูกทรยศ จากนั้นนางก็ให้อภัยพวกเขาจนต้องมาลงเอยในหอคณิกา
นางไม่สามารถลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้
อวิ๋นจื่อเดินนำสาวใช้สองคนไปที่ห้องด้านในแล้วกระซิบว่า “ตอนข้าไม่อยู่เกิดอะไรขึ้น?”
ไป๋จื่อกระซิบ “ดูเหมือนว่าคนจากวังหลวงจะมาที่นี่เ้าค่ะ พวกเขาไม่เป็มิตรเอาเสียเลย”
อวิ๋นจื่อถามด้วยเสียงต่ำว่า “พวกเขามาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้กับเย่เช่อหรือ?”
ไป๋จื่อตอบว่า “ยังไม่ชัดเจนนักเ้าค่ะ แต่คุณชายกำชับให้เราอยู่แต่ในเรือนไปก่อน”
ด้านนอกลมแรงมาก ไม่นานฝนก็ตกหนักและดูเหมือนจะตกแรงขึ้นเรื่อยๆ
หน้าต่างห้องด้านในถูกเปิดไว้รับลมเป็บางจุด ลมกระโชกแรงพัดพาเอาความเย็นเข้ามา อวิ๋นจื่อห่อตัวด้วยความหนาว เมื่อเห็นเช่นนั้นหงหลิงจึงรีบปิดหน้าต่าง หยิบเสื้อคลุมสวมให้อวิ๋นจื่อแล้วกล่าวว่า “อากาศเย็นนัก คุณหนูทำตัวให้อบอุ่นเข้าไว้ดีกว่าเ้าค่ะ”
อวิ๋นจื่อยิ้ม “ความเอาใจใส่ของพวกเ้าช่างดีจริงๆ เ้าสองคนมีประโยชน์มากทีเดียว”
ไป๋จื่อหัวเราะและกล่าวว่า “คุณหนูล้อพวกข้าเล่นแล้วเ้าค่ะ”
อวิ๋นจื่อกล่าวเบาๆ “ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก เอากู่ฉินมาให้ข้าที”
สาวใช้ทั้งสองรีบออกไปนำกู่ฉินเข้ามาและจัดเตรียมที่นั่งให้นาง
อวิ๋นจื่อลูบไล้ไปตามสายกู่ฉิน
จากนั้นนางก็เล่นเพลงเมฆหมอกเหนือลำน้ำเซียวเซียง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้