5 โมงเย็น ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังสนั่น คานาโกะก้าวลงจากโพเดียมเธอกล่าวปราศรัยไป 2 ชั่วโมงเต็มซึ่งนั้นทำให้เธอหมดแรงเหมือนกัน แต่เป็เื่ดีที่ตอนนี้แฟนๆเริ่มรับฟังอุดมการณ์และความคิดเห็นทางการเมืองของเธอแล้วไม่ใช่เพียงเพราะความชื่นชอบรูปลักษณ์ภายนอกของเธออีกต่อไปพวกเขาเริ่มตระหนักและรับรู้ประเด็นทางการเมืองบ้างแล้ว
“คุณน่าทึ่งมาก! คุณคานาโกะกลายเป็นักการเมืองมากประสบการณ์แล้ว!”อาคิตะก้าวเข้าไปหาเธออย่างตื่นเต้นพร้อมกับยื่นกระติกน้ำและผ้าขนหนูให้
คานาโกะเหนื่อยมากการปาฐกถานั้นเหนื่อยกว่าการโพสต์ท่าถ่ายรูปเป็ไหนๆ
“ชมเกินไปแล้ว ฝึกฝนบ่อยๆ ก็ทำให้เก่งเอง!” คานาโกะยิ้มอย่างเขินอายนับเป็เวลา 10 วันแล้วที่เธอรู้จักเสิ่นิกิจกรรมการเลือกตั้งและคุณภาพแคมเปญของเธอดีขึ้นยกกำลัง N ตอนนี้ไม่มีความแตกต่างระหว่างคะแนนความนิยมของเธอกับนักการเมืองที่โกงกินการเลือกตั้งอีกแล้ว
“เอาล่ะ เอาล่ะ! ในที่สุดงานวันนี้ก็จบลงแล้ว! เลิกงานได้!”ลีอาห์ประกาศอย่างสุขใจ โอบาตะ ทาเคชิยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้างไหมเขาลาบ่ายวันนี้ ทั้งที่รู้ว่าทุกคนไม่ได้พักผ่อนกันเลยกิจกรรมต่อจากนี้ก็ไม่มีอะไรมากแล้ว เป็โอกาสที่ทุกคนจะได้พักหายใจ
แต่ในขณะนั้นเองโทรศัพท์ของคานาโกะก็ดังขึ้น เป็สายจากโอบาตะ ทาเคชิ
“ขอโทษด้วยครับ! ขอโทษ! อยู่ๆ ก็มีคำเชิญให้ไปกล่าวสุนทรพจน์ที่สำคัญมากเป็สายที่โทร.มาจากบ้านพักคนชราอันโซ่วในเขตชานเมืองของโตเกียวมีผู้สูงอายุมากกว่า 500 คนในสถานพยาบาลทุกคนมีทะเบียนบ้านในโตเกียว ส่วนมากแล้วเป็ผู้ไม่มีบุตรธิดา
เนื่องจากบ้านพักคนชรานั้นค่อนข้างมีระดับโดยปกติแล้วจะไม่ยอมให้นักการเมืองเข้าไปหาเสียงแต่ครั้งนี้พวกเขาเป็ผู้ริเริ่มโทร.มาเชิญเราให้ไปกล่าวสุนทรพจน์นั่นถือเป็โอกาสสำคัญยิ่งในชีวิต
ขอแค่ได้ไปการที่จะได้คะแนนเสียง 90% ของ 500 เสียงนั้นก็ไม่ไกลเกินเอื้อมเลย
แต่พวกคนชรามีเวลาว่างแค่หลังอาหารค่ำนี้เท่านั้น...”
“ให้พวกเราทำงานล่วงเวลาเหรอ?” คานาโกะแสร้งทำเป็โกรธพลางกล่าว“นายโอบาตะ ทาเคชินิสัยชักจะแย่เกินไปแล้ว คุณไปออกเดตกับคุณเซี่ยวอี๋แต่กลับให้พวกเราทำงานล่วงเวลา!”
“ผมขอโทษด้วยจริงๆ ครับ ไว้พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ผมจะเลี้ยงอาหารค่ำทุกคนขอโทษครับ!” โอบาตะ ทาเคชิขวยเขิน
“ได้สิ ฉันรู้ว่าคุณก็ทำสุดกำลังเพื่อการเลือกตั้งทำงานล่วงเวลาก็ทำงานล่วงเวลาสิ! แต่มื้อเย็นพรุ่งนี้ต้องเลี้ยงดีๆ นะ!”คานาโกะขู่
“แน่นอนครับ” โอบาตะ ทาเคชิรับคำด้วยความชื่นบาน
“เอาล่ะทุกคน เป็ไปไม่ได้แล้วที่จะเลิกงานก่อนเวลาคงต้องทานอาหารเย็นกันในรถ” คานาโกะวางสายโทรศัพท์แล้วยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“ไอ้โหดโอบาตะ ทาเคชิ! นายจองเวรกับวันหยุดของฉันหรือไง?!” ลีอาห์แทบอยากจะร้องไห้
“คือว่าผมนัดกับเพื่อนสนิทว่าจะไปเที่ยวด้วยกัน เขาบอกว่าจะช่วยหาแฟนให้ผม”อาคิตะกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน
คานาโกะลังเลและกล่าวขึ้นอีกครั้ง“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อย่างไรเสีย ตอนนี้เราก็มีทีมงานเยอะแล้วพวกคุณไปพักกันก่อนเถอะ ฉันจัดการคนเดียวได้”
“จริงเหรอคะ?” ถึงปากลีอาห์จะถามแต่หัวใจก็ได้โบยบินไปแล้ว ช่างเป็เื่บังเอิญวันนี้เพื่อนนักเรียนของเธอก็จะแนะนำเพื่อนผู้ชายให้เธอรู้จักเหมือนกัน
“ไม่ได้ก็ต้องได้ พวกคุณยุ่งกันมาหลายวันแล้ว ถึงเวลาต้องพักสมองบ้างแต่พรุ่งนี้เช้าอย่ามาสายล่ะ เจอกันที่สำนักงานใหญ่ แปดโมงเช้านะ!”คานาโกะอนุมัติวันหยุดให้แล้ว
และนั่นเองก็เป็อันสิ้นสุดงานกล่าวสุนทรพจน์ที่สวนสาธารณะเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหลายคนช่วยกันแพ็คกระเป๋าสัมภาระและขับรถพาคานาโกะไปยังสถานที่ทำงานล่วงเวลาของวันนี้บ้านพักคนชราอันโซ่ว
“แม่คะ คุณลุงยังไม่กลับมาเลย เราจะไปกันแล้วจริงๆ หรือคะ?” อาโออิกอดตุ๊กตาขณะถามอย่างไม่ชอบใจ
คานาโกะมองไปที่โทรศัพท์เธอกดโทร.หาเสิ่นิ แต่โทร.อย่างไรก็ติดต่อไม่ได้
“อาโออิคนดี ความจริงแล้วคุณลุงไม่ใช่บอดี้การ์ดที่แม่จ่ายเงินจ้างมาแม่ไม่มีสิทธิ์ควบคุมเขา ตอนนี้เราไปกันเถอะไว้ขากลับแม่จะซื้อเค้กที่ลูกชอบทานให้” คานาโกะยิ้มขณะอธิบายให้อาโออิฟัง
“แม่คะ พักนี้เกิดอะไรขึ้นระหว่างแม่กับคุณลุง? พวกแม่ไม่เห็นคุยอะไรกันสักคำแม่เมินคุณลุงตลอด อาโออิเห็นแล้วสงสารจัง” อาโออิอายุเพียงแค่ 6 ขวบ แต่กลับพูดจาเหมือนผู้ใหญ่
“แม่บอกไปอาโออิก็ไม่เข้าใจ คุณลุงทำเื่เลวร้ายกับแม่ ไม่น่าให้อภัย”คานาโกะยังโมโหเมื่อนึกถึงเื่นี้
“แม่คะ ถึงอาโออิจะยังเด็ก แต่อาโออิก็รู้ว่าใครมาดีใครมาร้ายคุณลุงที่มาบ้านเราตอนกลางคืนและไม่ยอมกลับไปเป็คนไม่ดีคุณลุงเสิ่นิที่ไม่ยอมเข้าบ้านเราแล้วกลับไปนอนในรถเป็คนดีคุณลุงเสิ่นิไม่เหมือนพวกคุณลุงที่คอยมาเกาะแกะแม่ คุณลุงเสิ่นิเก่งมากคุณลุงมักจะคิดแทนแม่เสมอ จริงๆ แล้วอาโออิคิดว่า ถ้าแม่อยากหาพ่อให้อาโออิแบบคุณลุงเสิ่นินี่แหละที่อาโออิชอบ” อาโออิกล่าวหน้าตาจริงจัง
“เด็กโง่ ลูกพูดเื่อะไรกัน!คุณลุงเสิ่นิกับแม่เป็แค่เพื่อนกันธรรมดา ไม่ใช่สิตอนนี้ไม่ได้เป็เพื่อนกันด้วยซ้ำ!” คานาโกะถูกอาโออิทำให้หน้าแดงเพราะในหัวของเธอก็เคยคิดถึงภาพเช่นนั้นไว้จริงๆ
“แม่อย่ามาโกหกอาโออิเลย อาโออิบอกได้เลย แม่ชอบคุณลุงเสิ่นิจริงๆแล้วมีคืนหนึ่งที่แม่ละเมอเรียกหาคุณลุงเสิ่นิด้วย!”อาโออิพูดจนใบหน้าของคานาโกะกลายเป็สีแดงแจ๋
สิ่งจำเป็ทั้งหมดถูกเก็บเข้าที่แล้วเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกำลังจะเคลื่อนรถออกไป
บนรถนั้นคานาโกะทานอาหารเย็นพลางคิดถึงคำพูดของอาโออิ เธอถามใจตัวเองที่จริงแล้วเสิ่นิเป็คนดีที่จริงแล้วเขาเป็เพียงแค่บอดี้การ์ดหัวดื้อที่คุ้มครองตนเองโดยไม่รับเงินด้วยซ้ำถ้าไม่ใช่เพราะเขาออกหน้าช่วยเหลือหลายต่อหลายครั้ง เธอคงได้อยู่คนละภพภูมิกับอาโออิไปแล้ว
บางทีเขาอาจจะเห็นแก่ตัวที่หลอกใช้เธอแต่ลูกธนูที่เขาเอาตัวเองบังไว้ให้เธอนั้นก็เกือบจะฆ่าเขาไปแล้วจริงๆ
พอคิดทบทวนแล้วคานาโกะก็ส่งข้อความหาเสิ่นิ แค่เพียงไม่กี่ตัวอักษร “โกเมนนาไซ”
ที่ปลายทางของข้อความเสิ่นินั่งอยู่กับหวั่นเอ๋อร์ที่ข้างหน้าต่างร้าน KFC เพื่อทานอาหารเย็น เขาอ่านข้อความบนโทรศัพท์ แต่ไม่ได้ตอบกลับ
“วันนี้หวั่นมีความสุขมาก นานแล้วที่หวั่นไม่ได้ออกมาเที่ยวเล่นอย่างอิสระ”เสินหวั่นยิ้มในขณะที่ทานไอศกรีมซันเดย์
“หวั่นเอ๋อร์ กลับบ้านกับพี่เถอะ” ในที่สุดเสิ่นิก็เอ่ยออกมา
“พี่ชาย อยากฟังฉันเล่านิทานไหม?” เสินหวั่นหัวเราะเบาๆกับคำขอของเสิ่นิก่อนจะกระซิบ
“23 ปีก่อนทหารผู้ซึ่งเพิ่งปลดประจำการจากหน่วยรบพิเศษ้าใช้กำปั้นเหล็กคู่ผจญภัยไปในโตเกียวเขาโลดแล่นอยู่บนเวทีมวยใต้ดิน ต้องใช้คำพูดที่ว่า สามารถเอาชนะภูตผีญี่ปุ่นได้อย่างบ้าคลั่งหนำซ้ำยังได้เงินอีกต่างหาก บนโลกใบนี้ไม่มีงานไหนที่ดีงามไปกว่านี้แล้ว
เขาแข็งแรงแต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดความเย่อหยิ่งเกินไปของเขาถูกชายชราที่อายุกว่าครึ่งร้อยทำให้ต้องพบกับความอัปยศ
ชายชราเป็แขกวีไอพีของเวทีมวยในคืนนั้นเขาแค่อยากจะขยับแข้งขาเพื่อที่จะสั่งสอนเด็กน้อยชาวจีนคนนั้น
อย่างที่ว่ากันว่าถ้าไม่ได้แลกหมัดกันก็คงไม่รู้ใจชายชราชื่นชมจิติญญาแห่งการต่อสู้ในสายตาของคนหนุ่มเขาพาชายหนุ่มผู้นั้นกลับบ้าน แต่งตั้งให้เขาเป็ผู้คุ้มกันลูกสาวตัวน้อยของเขา
ผู้คุ้มกันคนนั้นมีนามว่าเสิ่นฉงหยางส่วนลูกสาวของชายชรานามว่า...ฮัตโตริ ยูริ”
“พ่อกับแม่?” เมื่อได้ยินเื่นี้เสิ่นิก็ใในทันใด เป็เื่ที่พ่อแม่ไม่เคยพูดถึงมาก่อน
“เช่นเดียวกันกับเื่ราวความรักสมัยโบราณทั้งหมด นั่นเป็วิธีที่พ่อและแม่รักกันมารดาเป็บุตรสาวของประธานพรรคซากุระร่วงโรย แต่เนื่องด้วยตัวตนอันพิเศษนี้เธอจึงไม่สามารถออกไปจากญี่ปุ่นได้ ไม่สามารถแม้กระทั่งออกห่างจากบ้านเธอไม่มีเพื่อน ไม่มีหน้าที่การงาน ไม่มีอนาคต เหมือนนกคีรีบูนที่อยู่ในกรงแม้จะสูงส่ง แต่ก็น่าเศร้า ตอนที่พ่อหนุ่มๆ พ่อเป็บุรุษใจกล้า เพื่อความรักแล้วเขาไม่ลังเลที่จะออกแบบฉากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่ตกจากหน้าผาก่อนจะลักลอบพาแม่เข้าเมืองจีน ตั้งรกรากที่เมืองเล็กๆ อย่างหลินไห่ใน่เวลานั้น พวกเขาแทบจะรอไม่ไหวที่จะมีลูก ดังนั้นพ่อจึงรับพี่มาอุปการะ หลังจากนั้นไม่กี่ปีหวั่นก็เกิดตามมา” สิ่งที่เสิ่นหวั่นพูดเหมือนคำบรรยาย บอกเล่าเื่ราวของผู้อื่น“แต่กระดาษไม่สามารถกันไฟได้
หลังจากที่ประธานพรรครู้ว่าบุตรสาวของตนหนีไปกับชายป่าเถื่อนเขาก็โกรธมาก ชายชราส่งมือสังหารระดับสูงมาสังหารพวกเขาและส่งไปประตูแห่ง์เขาไม่อาจยอมรับว่ายูริหลอกลวงตนเองได้ ต่อให้เป็ลูกสาวในไส้ เขาก็ฆ่าได้เช่นกัน
แต่หลังจากที่เขารู้ว่าหวั่นได้รับการช่วยเหลือท่านประธานก็เปลี่ยนใจ ให้คนพาหวั่นกลับมาที่นี่รับการฝึกฝนจนกลายเป็นักฆ่าอันดับต้นๆ ของซากุระร่วงโรย
ท่านประธานไม่ได้คิดว่าหวั่นเป็หลานสาวของเขาเลยการฝึกสำหรับหวั่นนั้นเข้มงวดที่สุด พี่รู้ไหมว่าตอนนั้นหวั่นเพิ่งจะอายุแค่ 6 ขวบ แต่เพื่อฝึกความกล้าหาญหวั่นจะต้องฆ่าคนคนหนึ่งด้วยวิธีการใดวิธีหนึ่งทุกวัน บางครั้งก็เป็ผู้สูงอายุบางครั้งก็เป็เด็ก บางครั้งก็หญิงตั้งครรภ์
หวั่นไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธพวกเขามีหลายวิธีเหลือเกินที่จะทำให้หวั่นเข้าใจว่าความเ็ปคืออะไร
ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของหวั่นสูญสิ้นไปก่อนที่หวั่นจะอายุได้7ขวบ หวั่นมีชีวิตอยู่เพื่อการฝึกและการเข่นฆ่า”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นมือของเสิ่นิที่กุมอยู่ที่มุมโต๊ะไม้เนื้อแข็งเอาไว้ก็เกิดเสียงดังแกรกมุมโต๊ะแตกเป็ขี้เลื่อย!
“ที่จริงยิ่งเสียใจก็ยิ่งเป็ทุกข์ สิ่งเ่าั้เป็อดีตไปแล้วความแค้นที่สังหารพ่อแม่ของหวั่น หวั่นขอเปลี่ยนเป็ซูชิสองม้วนหลังจากอดอาหารอยู่7 วัน อย่างที่พี่เห็น เสิ่นหวั่นไม่ได้มีตัวตนอีกต่อไปแล้วตอนนี้คนที่กำลังนั่งอยู่ตรงหน้าพี่ตอนนี้ก็คือนักฆ่าชั้นสูงเหยี่ยวแห่งซากุระร่วงโรย หวั่นมีชีวิตอยู่เพื่อการฆ่าก็ไม่ได้ต่างจากพี่ชายเท่าไรนะ” เสิ่นหวั่นยิ้ม
“ไม่ใช่! ที่นิรวาน พี่ฆ่าเพื่อที่จะหลุดพ้นจากขุมนรกนั่นแต่เธอ...เธอกำลังดำดิ่งอยู่ท่ามกลางขุมนรก” เสิ่นิปฏิเสธเสียงแข็ง
“แล้วยังไงล่ะ? พี่ชาย พี่ก็ไม่เด็กแล้วพี่เชื่อจริงๆ หรือว่าพี่สามารถเอาชนะคนทั้งโลกได้? ประธานซากุระร่วงโรยน่ากลัวกว่าที่พี่คิดมากนักฆ่าระดับสูงในปัจจุบันแข็งแกร่งพอๆ กับซูเปอร์แมนประธานเป็ดั่งเช่นพระเ้าบนพื้นพิภพ” เสิ่นหวั่นเอื้อมมือไปกุมฝ่ามือของเสิ่นิที่วางอยู่บนโต๊ะ“พี่ชาย หวั่นเรียกพี่ว่าพี่ชายตลอดทั้งชีวิต พี่เป็พี่ของหวั่นไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ หวั่นไม่อยากให้พี่ตายตอนนี้พี่มีโอกาสแล้ว เป็โอกาสที่หวั่นแย่งชิงมาให้พี่ด้วยความยากลำบากพี่เข้าร่วมกับซากุระร่วงโรย มาเป็นักฆ่าระดับสูงอย่างหวั่นเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง เหมือนแต่ก่อน”
“หวั่นเอ๋อร์ เธอไม่ได้ยินที่พี่เพิ่งจะพูดเหรอ?” เป็ครั้งแรกที่เสิ่นิดึงมือออกจากน้องสาว“หวั่นเอ๋อร์ พี่บอกว่าพี่อยากพาหวั่นกลับบ้าน ซากุระร่วงโรยใช่ ‘บ้าน’ หรือเปล่า?พี่ไม่สนใจว่าประธานที่หวั่นพูดถึงจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนพี่ไม่สนใจว่าซากุระร่วงโรยจะใหญ่โตมากแค่ไหนประธานต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เขาทำให้หวั่นเป็อยู่ทุกวันนี้ พี่้าให้เขาตายและต้องตายด้วยน้ำมือของพี่”
“เฮ้อ พี่ยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิม สิ่งที่ยึดมั่นแล้วไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้พี่ถูกพ่อตีเพราะความดื้อด้านแบบนี้มาไม่รู้ตั้งกี่หนแล้ว ไม่รู้จักจำ”เสิ่นหวั่นถอนหายใจแล้วดื่มโค้ก “ก็ดี แบบนี้ค่อยเหมือนพี่ชายของหวั่นหน่อยหวั่นมีอะไรจะแอบบอกพี่ให้นะ ตอนที่พี่กำลังคุยกับหวั่นอยู่นี้ซากุระร่วงโรยกำลังจัดการกับนายจ้างของพี่อยู่”
เสิ่นิลุกขึ้นยืนด้วยความใและทำท่าจะรีบไป
“พี่ชาย อย่าหาว่าหวั่นไม่เตือนพี่นะ ถ้าพี่รั้งที่จะอยู่ที่นี่เรามาหวนคุยถึงเื่ในอดีตกันได้อย่างมีความสุขแต่ถ้าพี่จากไปตอนนี้...ถ้าได้เจอกันอีกครั้งบางทีหวั่นอาจจะต้องเป็คนลงมือสังหารพี่ด้วยตัวเอง…” เสินหวั่นยังพูดไม่ทันจบศีรษะข้างหนึ่งของเสิ่นิก็กระแทกไปที่หน้าผากของเธอ
“ยายตัวแสบ กล้าขู่พี่ชายเหรอ ลองดูสิ ถ้าเธอจะฆ่าพี่พี่จะจับมาตีให้ก้นบวม!” เสิ่นิพูดจบก็หันหลังกลับแล้วรีบพุ่งตัวออกไปจาก KFCโดยที่ไม่หันกลับไปมอง ดูเหมือนว่าเืบอดี้การ์ดในกายของเขาจะยังไม่ขึ้นสนิม