“ได้ยินมาว่าเวลาคนอื่นนัดเพื่อมีเซ็กซ์กัน ถ้าพวกเขา้า ก็อาจจะไปชอปปิง ออกเดต หรือทำอะไรสักอย่างก่อนที่จะมีอะไรกันได้นะ”
“เธอไปได้ยินมาจากไหน”
"การ์ตูนสาวน้อย[1] ไง"
หลังจากเขาได้ยินคำตอบนั้น เขาก็มองมาที่ฉันด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจสุดๆ
อันที่จริงนอกจากความรู้ที่หาเองใน่สมัยเรียนของฉันแล้ว พวกจินตนาการ หรือเครื่องรางส่วนใหญ่ของฉันก็ล้วนมาจากการอ่านการ์ตูนสาวน้อยแบบที่ผู้ใหญ่เขาอ่านกันทั้งนั้น
ความอยากรู้อยากเห็นของฉันเกี่ยวกับการหลั่งใน ก็มาจากการพรรณนาอันเข้มข้นบางอย่างที่เคยได้อ่านมา แต่ต้องบอกว่าของจริงนั้นทำให้ฉันหลงใหลในระดับที่เกินความคาดหมายมากกว่า
แม้ฉันจะเป็คนอ่อนไหวกว่าที่ตัวเองคิดไว้ แต่ฉันคิดว่าเหตุผลหลักที่รู้สึกแบบนั้น ก็เพราะคนที่ฉันอยู่ด้วยคือโยตะหรือเปล่า?
แน่นอนว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ฉันอยากลอง แต่ตอนนี้อาจไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะบอกเขา เพราะหากความสัมพันธ์นี้ยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ สักวันหนึ่งเขาจะเข้าใจเอง
ขณะที่จิตใจของฉันล่องลอยไปที่อื่น ฉันก็ส่ายหัว และมุ่งความสนใจไปที่การอธิบายมากขึ้นว่า ทำไมฉันถึงแต่งตัวดีขนาดนี้
“ยังไงก็เหอะ ฉันทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว ก็แค่อยากจะออกเดตกับหนุ่มที่ฉันสนใจแค่นั้น ฮึๆ”
ฉันจิบน้ำที่โยตะเอามาให้ กระแอมเล็กน้อย แล้วคอยลอบมองสีหน้าของโยตะ
อยู่ๆ ฉันที่ไม่ได้พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่งนั้น ก็เริ่มหัวเราะแห้งๆ ออกมา ฉันรู้ดีว่าที่เป็แบบนี้ เพราะฉันเลือกอาชีพนี้เอง
ปกติฉันไม่มีสิทธิ์บ่นอะไรมากนัก แต่ตอนนี้ฉันทนไม่ไหว จนต้องระบายมันออกมาหมดในคราวเดียว
“อย่างน้อยถ้าฉันแต่งตัวดีๆ ก็จะได้บรรยากาศการออกเดต… ถึงจะเป็แค่บรรยากาศก็เถอะ”
แต่หลังจากที่ได้ปลดปล่อยความในใจออกมาแล้ว ก็เหมือนจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้อีกเลย
ความรู้สึกที่มาจากก้นบึ้งหัวใจ ทำให้เหตุผลของฉันล้นทะลัก อยู่ๆ น้ำตาที่เอ่อล้นก็แทบจะไหลออกมา
"ฉันอยากไปเดตจริงๆ... ฉันอยากดูหนังกับหนุ่มๆ ไปชอปปิง หรืออะไรก็ได้... อ่า... ฉันอยากไปจริงๆ… "
ฉันทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างไร้ซึ่งเรี่ยวแรง และในเวลานี้สภาพจิตใจของฉันก็ช่างเปราะบางราวแก้วใสๆ ใบหนึ่ง
เมื่อโยตะเห็นท่าทางที่พูดไม่หยุดของฉัน เขาก็ยังคงมีท่าทีเฉยเมย และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ยากจะหยั่งถึง
ฉันละทิ้งซึ่งความคิดทุกอย่าง เพราะในหัวตอนนี้เหลือแต่เพียงความตั้งใจใหม่เท่านั้น
ถ้าไปเดตไม่ได้… ก็สร้างบรรยากาศการออกเดตด้วยตัวเองไม่ได้เหรอ?
"ทีวีของโยตะ… ซื้อหนังมาดูได้ไหม?"
"เธอจะทำอะไรล่ะ?"
เขาถามฉันกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และดูเหมือนเขาจะตระหนักได้ว่า ฉันคิดอะไรอยู่
ในเมื่อเขามองออกแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็ต้องปิดบังอีก แล้วเริ่มบอกความคิดของตัวเองทั้งหมดไป
“ดูหนังด้วยกันไหม อีกนานกว่าจะไปเรียน”
“ฉันเลือกที่จะปฏิเสธได้ไหม?”
“ได้โปรดเถอะ... ให้ฉันได้ัักับการออกเดตที่ห่างหายไปนาน และความรู้สึกที่หัวใจเต้นแรงในตอนที่ได้ดูหนังกับผู้ชายอีกครั้ง”
ฉันยืนขึ้น และคว้าชายเสื้อผ้าของโยตะเพื่อขอร้องเขา สีหน้าลำบากใจของเขาในเวลานี้นั้น ตัดกับสีหน้าอันออดอ้อนของฉันไปอย่างสิ้นเชิง
“ฉันรู้แล้ว! ดูด้วยกันก็ดู แล้วเลิกดึงเสื้อฉันที”
“จริงเหรอ! โยตะ นายใจดีจริงๆ!”
“ถ้าเธอพูดแบบนั้นอีก ฉันจะไล่เธอออกไป”
“อ่า... อย่าทำแบบนี้สิ ฉันชอบโยตะที่สุด… จะดูหนังเื่อะไรดีล่ะ…”
หลังจากที่ฉันปล่อยโยตะ ฉันก็หยิบรีโมตบนโต๊ะขึ้นมา ยกเท้า และกอดเข่าพิงพนักทันที
ฉันเลือกที่จะมาดูรายชื่อหนังบนแพลตฟอร์มหนึ่งแทน เพราะในเมื่อเราไม่อาจไปโรงหนังได้ ฉันเลยจะหาหนังที่ฉันสนใจในนี้แทน
“นี่! อย่าจ่ายดูมั่วๆ นะ ปกติฉันไม่ใช้เงินกับอะไรพวกนี้”
“อย่าขี้งกไปหน่อยเลย โยตะ ถ้าจะงกขนาดนี้ ฉันคืนเงินให้นายทีหลังก็ได้”
“นั่นไม่ใช่ปัญหา ถ้าอยากดู ก็ดูหนังที่มันให้ดูฟรีสิ”
โยตะที่นั่งข้างฉันเอามือมาบังรีโมตคอนโทรล ราวว่าเขาไม่้าให้ฉันซื้อจริงๆ แม้ฉันจะบอกว่าจ่ายเองก็ตาม
ในที่สุดฉันก็ไม่สามารถตามใจตัวเองได้มากเกินไปในถิ่นของเขา ทำได้แต่ต้องเชื่อฟังคำพูดเ้าถิ่นไป
ฉันต้องหาหนังฟรีในระยะเวลาอันจำกัด สุดท้ายก็ได้หนังคลาสสิกจำนวนหนึ่งที่ให้ดูฟรีใน่เวลานี้พอดี
เมื่อเห็นลิสต์หนังเก่าๆ ที่เคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ไม่เคยดูมาก่อน ความสนใจของฉันก็กลับมาสูงอีกครั้ง
“อันนี้น่าดูจัง มีอะไรให้ดูเยอะแยะเลย”
“งั้นเธอก็เลือกจากลิสต์พวกนั้นนั่นแหละ”
“อืม… ขอหาก่อนนะ”
เมื่อหาไปเรื่อยๆ ก็เจอพวกหนังขาวดำเกี่ยวกับเศรษฐีชาวเยอรมันที่ช่วยชีวิตชาวยิวเอาไว้ หรือผลงานชิ้นเอกอันยิ่งใหญ่เกี่ยวกับหัวหน้าแก๊งในนิวยอร์ก หรือหนังแห่งปีที่เกี่ยวกับนักโทษผู้บริสุทธิ์ที่พยายามจะหลบหนีออกจากคุก…
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็ผลงานคลาสสิกน่าดู แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากดูหนังที่จริงจังขนาดนั้น
ฉันเลื่อนลงไปหาเรื่อยๆ จนสุดท้ายลิสต์หนังที่ให้ดูฟรีก็ใกล้จะหมด
แต่แล้วดวงตาของฉันก็เบิกกว้างขึ้นมาทันใด เพราะฉันแวบไปเห็นผลงานสุดคลาสสิกชิ้นเอกที่เคยดูเมื่อตอนเด็กๆ แต่ลืมเนื้อหาไปแล้ว และตอนนี้ฉันก็กลับมาสนใจมันมากๆ
“อา! ฉันอยากดูเื่นี้”
“เธออยากดูเื่นี้เหรอ?”
“ใช่ ฉันลืมเนื้อหาไปหมดแล้ว”
ฉันชี้ไปที่เด็กชายตัวเล็กที่มีผิวสีฟ้าและรูม่านตาสีดำบนหน้าปก ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะกดปุ่มเล่น เพื่อดูหนังผีสุดคลาสสิกเื่นี้
แต่โยตะกลับยกมือขึ้นมาบังเซนเซอร์รีโมตไม่ให้ฉันกดปุ่มเล่นเสียอย่างนั้น
“หนังเื่เรือสำราญชนูเาน้ำแข็งไม่สนุกเหรอ?”
"หนังเื่นั้นยาวเกินไป และฉันไม่อยากดูตอนนี้"
“เดี๋ยวสิ รอก่อน!”
ฉันไม่รู้ว่าโยตะพยายามจะหยุดอะไร แต่ฉันคิดว่าเขาขวางทางอยู่ ฉันก็เลยปัดมือเขาออก และเริ่มกดเล่น ก่อนจะะโออกจากโซฟา
เพราะแน่นอนว่าถ้าดูหนังผี ก็ต้องปิดไฟก่อน
"เธอจะทำอะไร?"
“ปิดไฟไง ดูหนังแนวนี้ต้องปิดไฟสิ?”
“อย่าคิดเองเออเอง”
ขณะที่ฉากเปิดเื่กำลังเล่นอยู่ ฉันก็รีบปิดไฟ แล้วะโกลับไปที่ข้างโยตะอีกครั้ง
ฉันเริ่มหดขาตัวเองเข้า แล้วเริ่มขยับขึ้นไปด้านข้าง เพื่อพิงต้นแขนของเขา
แม้จะอยู่ในสภาวะผ่อนคลาย แต่ก็ยังััได้ถึงกล้ามเนื้อที่ออกกำลังกายมาอย่างขันแข็งของเขา
“อืม รู้สึกเหมือนกำลังเดตอยู่จริงๆ เลย”
“อืม… เอาที่สบายใจ”
เมื่อฉันได้รับการตอบโต้ที่ไม่ค่อยเต็มใจของเขานั้น ก็ทำให้ฉันรู้สึกว่ายังขาดความอบอุ่นอยู่บ้าง
เมื่อภาพขาวดำอันน่าสะพรึงกลัวในตอนต้นเื่เริ่มขึ้น ฉันก็รู้สึกหนาวขึ้นมาแปลกๆ ฉันเลยรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพุ่งเป้าหมายไปที่การอ้อนโยตะมากขึ้น
[1] การ์ตูนสาวน้อย การ์ตูนตาหวาน หรือการ์ตูนโชโจะ (少女漫画) เป็การ์ตูนที่มีเอกลักษณืจากฝั่งญี่ปุ่น ซึ่งมีเป้าหมายหลักไปที่กลุ่มวัยรุ่นหญิง
