ซ่งหลิงซิวขมวดคิ้วน้อยๆ ซูเต๋อเหยียนกับอวี้เสวียนจีล้วนเป็บุคคลที่สุดโต่งคนละด้าน หากมีการต่อสู้เกิดขึ้น ก็เกรงว่าจะตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้ง่ายๆ ทว่าหากทั้งสองคนนี้ร่วมมือกันละก็ เช่นนั้นแผ่นดินของเขาก็ล่อแหลมต่ออันตรายแล้ว
ซูเฟยซื่อรู้สึกอบอุ่นในใจทันที เมื่อครู่นางเพียงไม่คิดอยากให้ซ่งหลิงซิวตายในน้ำมือของผู้อื่น ไม่ได้คำนึงถึงปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง ตอนนี้อวี้เสวียนจีกล่าวเช่นนี้ ซ่งหลิงซิวไม่เพียงต้องเกิดใจระแวงต่อจวนอัครมหาเสนาบดีเท่านั้น ยังไม่้านำนางเข้าพระราชวังเด็ดขาดด้วย
“พระเก้าพันปีกล่าวไว้ไม่ผิด คุณหนูสามมีผลงานช่วยอารักขา คุณูปการชดเชยความบกพร่อง เื่นี้ก็แล้วไปเช่นนี้เถิด” ซ่งหลิงซิวเอ่ยปากอย่างเ็า
เดิมเขาคิดหยิบยืมเื่นี้ให้ซูเฟยซื่อเข้าวังเพื่อสังเกตนางอย่างใกล้ชิด แต่ปฏิกิริยาตอบโต้ของอวี้เสวียนจีทำให้เขาสงสัยในซูเฟยซื่อบางส่วน
กู้ชิงตายแล้วแน่นอน เป็เขาเองที่เห็นกับตา
แต่ซูเฟยซื่อกลับเหมือนนางทุกอย่าง ทั้งยังแสดงความโดดเด่นซ้ำๆ อีก
ถ้าเื่ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เหตุบังเอิญเล่า แต่เป็การเลียนแบบโดยเจตนา มีคนคิดวางหมากไว้ข้างกายเขา...
ดูไปแล้ว เขาคงต้องตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างจวนอัครมหาเสนาบดีกับอวี้เสวียนจีเสียแล้ว
“ขอบพระทัยฝ่าาพ่ะย่ะค่ะ” ซูเต๋อเหยียนถอนหายใจโล่งอก
เกิดเื่แบบนี้ ซ่งหลิงซิวไม่กล่าวโทษก็ดี เขาไม่กล้าคาดหวังว่าจะมีสิ่งใดตอบแทน
แต่โชคดีที่มีซูเฟยซื่อช่วยต้านกระบี่ให้ซ่งหลิงซิว มิฉะนั้นเขากับคนทั้งจวนอัครมหาเสนาบดีคงหนีจากภัยพิบัติเลวร้ายที่สุดได้ยากยิ่ง
คิดถึงตรงนี้ ซูเต๋อเหยียนก็รีบทอดสายตาพอใจคราหนึ่งไปทางซูเฟยซื่อ
“พระเก้าพันปี มือสังหารทั้งหมดถูกปราบลงแล้ว รอท่านสอบปากคำเอง” องครักษ์คนหนึ่งก้าวมารายงาน
ประกายดุร้ายในดวงตาของอวี้เสวียนจีวาบผ่าน เดินพลิ้วราวกับไม่มีใครในที่แห่งนี้ แล้วนั่งลงยังที่ประธาน “นำตัวเข้ามา”
ซ่งหลิงซิวเห็นแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหน้าดำแล้วดำอีก แต่ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่นั่งลงตำแหน่งข้างๆ ส่วนซูจิ้งโหยวรีบนั่งข้างเขา ทุกคนต่างพากันหาที่นั่งเพื่อดูว่าอวี้เสวียนจีจะไต่สวนได้อะไร
มือสังหารถูกองครักษ์หิ้วร่างเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้งมือและเท้าถูกตัดทิ้งแล้วใช้ขี้ผึ้งปิดปากแผล เพื่อห้ามเื ส่วนยาพิษที่ซ่อนอยู่ในฟันก็ถูกคนฝืนบังคับงัดแงะออกมา กระทั่งฟันยังถูกตีหักไปหลายซี่
วิธีของอวี้เสวียนจี ทุกคนในที่นี้ต่างก็เคยได้ยิน ตอนนี้เมื่อได้เห็นกับตาของตนก็ยังอดสั่นเทิ้มไม่ได้ ยิ่งเป็ซูจิ้งโหยวแล้ว หัวใจของนางตุบเต้นจนแทบจะหลุดออกจากอก ดูเหมือนคนต่อไปที่จะถูกตัดแขนขาก็คือนาง
“บอกมา เป็ใครที่สั่งเ้ากันแน่” อวี้เสวียนจีจิบชาน้อยๆ คำหนึ่งพลางถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทว่าแววตากลับมองไปทางซูจิ้งโหยวทำทีราวกับไม่ได้สนใจเช่นนั้น
ก่อนหน้านั้นขณะที่ซูจิ้งโหยวซื้อมือสังหารแต่เนิ่นๆ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์อย่างวันนี้แน่
เดิมไม่คิดลงมือ แต่ตอนนี้ซูจิ้งโหยวได้ทำร้ายคนของเขา ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษว่าเขาไม่เกรงใจแล้ว
ซูจิ้งโหยวสังเกตถึงแววตาของอวี้เสวียนจี รีบก้มศีรษะลง
นางกุมมือของซ่งหลิงซิวไว้แน่น เหมือนคิดจะรับพลังจากอีกฝ่ายเช่นนั้น
มือสังหารได้ยินเสียงของอวี้เสวียนจี ก็เงยหน้าขึ้นอย่างยากลำบาก “ช่างน่าขัน ฝ่าาอยู่ที่นี่แท้ๆ แต่เ้าขันทีน่าตายนี่กลับนั่งอยู่ตรงที่นั่งประธานเสียได้”
เขาถูกตัดแขนขา สภาพดุจคนที่อยู่ไม่สู้ตาย เทียบกับการสารภาพออกไปด้วยความขลาดกลัวแล้ว มิสู้ยั่วอวี้เสวียนจีให้โกรธจนลงมือให้สะใจไปเลยไม่ดีกว่าหรือ
“เ้าขันทีน่าตาย?” อวี้เสวียนจีใช้นิ้วเรียวม้วนเส้นผมกลุ่มหนึ่งเล่น ท่าทางดูงดงามสูงส่งทั้งที่ซ่อนเจตนาสังหารไว้เื้ั “ในเมื่อเ้าดูถูกขันที ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้เ้าได้ลิ้มรสรสชาติของการเป็ขันที ทหาร ถอดเสื้อผ้าของเขาออก ทาน้ำผึ้งที่ตรงนั้นแล้วปล่อยสัตว์บางชนิดที่ชอบกินน้ำหวานเข้ามา เช่น มด หนู แมลงสาบ จำเป็ต้องให้สิ่งมีชีวิตเล็กจ้อยที่น่ารักเหล่านี้ได้กินอาหารดีๆ จนอิ่มสักมื้อ”
ทุกคนได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็พลันอยากคลื่นไส้อาเจียน ทาน้ำผึ้งที่อวัยวะนั้น ให้มดหนูกินมันทีละนิดๆ เพียงคิดตามเท่านั้น ผู้คนต่างรู้สึกหนังศีรษะชาไปตามๆ กัน
อวี้เสวียนจีกลับเรียกพวกมันว่าสิ่งมีชีวิตเล็กจ้อยที่น่ารัก นั่นย่อมทำให้คนขนพองสยองเกล้าได้ไม่ยาก
แม้แต่ซูเฟยซื่อก็อดเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้ วิธีการโเี้แบบนี้เกรงว่าคงมีเพียงอวี้เสวียนจีคิดออกมาได้
มือสังหารเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ใจนหน้าถอดสี “อย่า ไม่เอา อวี้เสวียนจี ไอ้สุนัขนี้ เ้าต้องไม่ตายดี หลังจากเ้าตายย่อมต้องตกนรกสิบแปดชั้น ไอ้ปีศาจชั่วคนนี้...”
เสียงคำสาปแช่งของมือสังหารค่อยๆ ไกลไป ก่อนจะแทนที่ด้วยเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช
เสียงร้องโหยหวนจนแม้แต่ผู้ที่ได้ยินต่างเสียวสันหลังวาบอย่างอดไม่ได้
ไม่ดีแน่ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็วเกรงว่ามือสังหารคงไม่อาจแบกรับต่อไปไหว หากมือสังหารหลุดปากสารภาพออกมา เช่นนั้นนางควรทำอย่างไร?
ซูจิ้งโหยวร้อนใจจนหน้าซีด แผ่นหลังชุ่มเหงื่อเย็นไหลซึมไม่หยุดหย่อน
“โหยวเอ๋อร์ นี่เ้าเป็อะไร?” เมื่อรู้สึกได้ว่ามือที่ซูจิ้งโหยวจับเขาไว้ยิ่งออกแรงบีบแน่น ซ่งหลิงซิวถึงกับต้องหันศีรษะกลับมาถาม
“หม่อมฉัน... ฝ่าา มีบางอย่างผิดปกติกับร่างกายของหม่อมฉัน ขอไปพักผ่อนที่ด้านข้างก่อนได้ไหมเพคะ?” ซูจิ้งโหยวกล่าวจบก็ไม่ได้ลืมแกล้งทำท่าโซซัดโซเซให้ดูน่าสงสาร
ซ่งหลิงซิวคิดว่านางถูกทำให้กลัวก็พยักหน้า “นางกำนัล ช่วยพยุงพระสนมลงไป”
สายตาชั่วร้ายคมกริบของอวี้เสวียนจีหรี่ลงน้อยๆ คิดหนีงั้นหรือ?
พระหนีไปได้ แต่ยกอารามหนีไปไม่ได้ ซูจิ้งโหยว เ้าจะสามารถหนีไปได้หรือ?
เสียงกรีดร้องสุดสยองของมือสังหารดังต่อเนื่องเป็เวลานาน ความอดทนของอวี้เสวียนจีก็นับว่าเป็เลิศ ถึงกับสั่งให้คนรับใช้นำของว่างและน้ำชามารับประทานระหว่างรอไอ้ตรงนั้นของมือสังหารถูกกินทิ้งไปทีละน้อยๆ แล้วจึงให้คนนำเขากลับมาอีกครั้ง
มองสภาพมือสังหารที่ร่อแร่ลมหายใจรวยริน หลังจากผ่านการทรมานที่ผิดวิสัยมนุษย์แบบนี้ อวี้เสวียนจีบิขนมกุ้ยฮวาชิ้นหนึ่งเบาๆ ใส่ปากอย่างไม่ยี่หระ “บอกมา เป็ใครที่สั่งเ้า”
“เป็... เป็...” มือสังหารอาเจียนเอาเืออกมาคำหนึ่งอย่างรุนแรง พูดจาตะกุกตะกัก ทำให้คนใจกระตุกวูบไปตามๆ กัน
ทุกคนต่างแปลกใจว่ามือสังหารจะเอ่ยนามของผู้ใด บางคนก็สุขสันต์บนความทุกข์ของผู้อื่น จุดจบของเ้าของนามที่มือสังหารจะพูดออกมานั้นยิ่งต้องน่าสลดกว่ามือสังหารไม่ผิดแน่
ยามนี้องครักษ์คนหนึ่งก้าวมาข้างหน้ากะทันหัน กระซิบพูดบางอย่างข้างหูอวี้เสวียนจี เพียงเห็นอวี้เสวียนจีเลิกคิ้วเบาๆ สีหน้าเปลี่ยนไป ดูอันตรายไม่มีที่สิ้นสุด
เขายกฝ่ามือขึ้นอย่างฉับพลันก็สับใส่มือสังหารที่ปางตาย เศษร่างของมือสังหาระเิออกในชั่วพริบตา เนื้อกระดูกแยกชิ้นส่วน
เืเนื้อของมือสังหารสาดกระเซ็น ข่มขู่จนสตรีเพศในที่เกิดเหตุกรีดร้องเสียงแหลม บางคนถึงกับเป็ลมหมดสติ
มีแต่ซูเฟยซื่อที่หยิบเศษเนื้อที่กระเซ็นใส่ร่างโยนทิ้งไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น บนใบหน้านอกจากความสงสัยก็ไม่มีสีหน้าอื่นใดอีก
องครักษ์คนนั้นเพิ่งพูดกับอวี้เสวียนจีว่าอะไรกันแน่? ถึงทำให้เขามีปฏิกิริยาแบบนี้!
“ท่านอ๋องเก้าพันปี นี่ท่านกำลังทำอะไร?” ซูเต๋อเหยียนขมวดคิ้วถามราวกับถูกข่มขู่ให้ใด้วย
แต่ซ่งหลิงซิวที่ลอบสังเกตสีหน้าของอวี้เสวียนจีมาตลอด เห็นแบบนี้จึงรีบเอ่ยปาก “ท่านอ๋องเก้าพันปีสืบพบผู้บงการเื้ัออกมาแล้ว?”
อวี้เสวียนจีที่ม้วนปอยผมน้อยๆ กลุ่มนั้นเล่น ในที่สุดเอ่ยปากเบาๆ “ข้าไม่ได้สืบหาผู้บงการเื้ัออกมาได้ ทว่า... ผู้บงการเื้ัมามอบตัวแล้วต่างหาก”
มอบตัวหรือ? เป็ไปได้อย่างไร มอบตัวเท่ากับรนหาที่ตาย ในโลกยังมีคนโง่แบบนี้อีกหรือ?
ไม่ ตกอยู่ในมือของผู้อื่นเป็การรนหาที่ตาย ทว่าตกอยู่ในมือของอวี้เสวียนจีก็เป็มีชีวิตอยู่มิสู้ตายยังดีกว่า