กู้เจิงส่งหวังซู่เหนียงกลับเข้าไปในห้องของตัวเองแล้วพูดคุยอยู่พักใหญ่นางถึงได้ยอมไม่ไปหานายหญิงเว่ยซื่อที่เรือนหลักร่างกายของหวังซู่เหนียงยังไม่หายดี หลังจากพูดคุยได้ไม่นานนางก็หลับไป
สายตาของกู้เจิงหันไปจับจ้องที่กองหีบขนาดย่อมข้างเตียงภายในหีบทั้งสี่นี้ใส่สมบัติเดิมของฝ่ายเ้าสาวที่หวังซู่เหนียงจะมอบให้นางซึ่งมีผ้าไหมผ้าแพร ที่นอนผ้าฝ้าย ชุดเสื้อผ้าที่ทำอย่างดี แล้วยังมีกล่องเล็กๆที่ใส่ทองแท่งกับตั๋วเงิน รวมถึงเครื่องประดับเครื่องหยก
กู้เจิงเปิดหีบออกดูหีบนั้นไม่ใหญ่นักทว่าเต็มไปด้วยเครื่องประดับและตั๋วเงิน นี่เป็สมบัติทั้งหมดของหวังซู่เหนียงที่เก็บสะสมจนถึงตอนนี้เมื่อมองดูของพวกนี้ กู้เจิงก็ปวดใจสมบัติของซู่เหนียงที่สะสมเก็บไว้ทีละเล็กทีละน้อยก็เพื่อให้เป็สมบัติติดตัวของนางไป
ความรักของซู่เหนียงที่มีต่อบุตรสาวช่างมากมายจริงๆหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง กู้เจิงก็หยิบเครื่องประดับและตั๋วเงินออกมาจากหีบใบเล็กแล้ววางลงในหีบไม้ที่หวังซู่เหนียงใส่เสื้อผ้าก่อนจะค่อยๆ ย่องเดินออกจากประตูไป
มีสาวใช้หลายคนกำลังกวาดใบไม้ร่วงอยู่ในลานบ้าน
ภายนอกลานบ้านล้วนเต็มไปด้วยใบไม้สีเหลืองที่ลอยละลิ่วตกลงมาจากต้นปลายฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาถึง
“คุณหนูใหญ่ ซู่เหนียงหลับไปแล้วหรือเ้าคะ?” ชุนหงเข้ามาถาม
กู้เจิงพยักหน้า “าเ็ที่เอ็นกระดูกร้อยวันอาการาเ็ของซู่เหนียงเพิ่งจะเริ่มดีขึ้น แต่ถ้านางยังเคลื่อนไหวเช่นนี้ต่อไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหายสนิท”
“เราเชิญท่านหมอมาตรวจดูอีกดีไหมเ้าคะ?"
“มาก็ไร้ประโยชน์สิ่งที่สำคัญที่สุดคือซู่เหนียงต้องควบคุมตนเองให้ได้”
ชุนหงคิดแล้วก็เห็นด้วยเช่นกัน
ก่อนวันพิธีแต่งงาน กู้เจิงคิดไม่ถึงว่าท่านพ่อจะมาหานางในความทรงจำ นี่เป็ครั้งแรกที่เขามาที่เรือนเล็กของนางเมื่อก่อนเขาจะมาที่นี่ก็ต่อเมื่อเขารำคาญใจเท่านั้น
กู้หงหย่งมองบุตรสาวคนโตของตนด้วยความประหลาดใจเขานั่งลงอย่างไม่สบายใจ ก่อนจะหยิบกระดาษสองแผ่นออกมาจากอกเสื้อแล้ววางลงบนโต๊ะชี้ไปยังกระดาษแผ่นหนึ่งแล้วพูดว่า “นี่คือโฉนดร้านค้าในเยว่เฉิง เป็สินเดิมที่พ่อมอบให้เ้า”
กู้เจิงอึ้งไปครู่หนึ่ง “ท่านพ่อให้ข้าหรือ?”
“อย่างน้อยเ้าก็เป็คุณหนูใหญ่แห่งจวนป๋อเจวี๋ยแต่งงานออกไปย่อมไม่อาจเสียหน้าได้ ในทุกปีร้านนี้ทำกำไรได้ไม่น้อยก็เลยยกให้เ้า” ลูกอนุผู้นี้เขาให้สมบัติกลับยังนิ่งเฉย ไม่ดีใจ และยังมองเขาด้วยสีหน้างุนงง กู้หงหย่งใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ทำไม ไม่เอาหรือ?”
“เอาแน่นอนเ้าค่ะ” กู้เจิงรีบหยิบโฉนดที่ดินมามองอย่างละเอียด“ขอบคุณท่านพ่อเ้าค่ะ”
กู้หงหย่งส่งกระดาษอีกแผ่นให้กู้เจิง “นี่คือโฉนดบ้านในเขตผิงเหยา ที่ท่านแม่มอบให้เ้าผิงเหยาอยู่ห่างจากเยว่เฉิงไปครึ่งวัน ที่นั่นเป็พื้นที่เพาะปลูกที่ดีทีเดียว"
“ลูกฝากขอบคุณท่านแม่ด้วยเ้าค่ะ” กู้เจิงถือโฉนดที่ดินสองใบไว้ในมือแม้นางจะรู้ว่าบิดาและนายหญิงจะมอบสมบัติติดตัวให้นางอยู่บ้างแต่คิดไม่ถึงว่าจะมากมายขนาดนี้ ช่างน่าประหลาดใจเสียจริง
กู้หงหย่งมองดูบุตรสาวคนโต ในงานล่าสัตว์ครั้งก่อน จู่ๆเขาก็พบว่าบุตรีอนุคนโตผู้นี้กับเจิ้งชิน อิงเอ๋อร์และเหยาเอ๋อร์มีรูปคิ้วคล้ายคลึงกันมากพวกเขาเป็พี่น้องกันย่อมต้องมีความคล้ายคลึงกันโดยธรรมชาติแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยสังเกตดูบุตรสาวคนนี้อย่างจริงจังมาก่อนและไม่เคยรู้สึกถึงความผูกพันทางสายเืนี้ด้วยสรุปแล้ว อารมณ์เขาในตอนนี้ค่อนข้างซับซ้อน
“อวี๋เอ๋อร์”
“เ้าคะ?” กู้เจิงเงยหน้ามองไปยังบิดา
“เ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมองค์ชายห้าถึงได้หมั้นหมายกับน้องสามของเ้า?”
ทำไมจู่ๆถึงถามเื่นี้กัน? กู้เจิงแปลกใจ “เพราะน้องสามช่วยองค์ชายห้าไว้เ้าค่ะ”
“ช่วยชีวิตองค์ชายห้าไว้ครั้งหนึ่งแค่พระราชทานรางวัลให้มากหน่อยก็พอแล้ว ไม่จำเป็ถึงกับต้องหมั้นหมาย"
กู้เจิงส่ายหน้า นางไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ
“เป็เพราะท่านแม่ของเ้าข้างนอกนั้นเว่ยซื่อขึ้นชื่อว่าเปี่ยมด้วยคุณธรรมไม่เคยปฏิบัติต่ออนุและบุตรสาวไม่ดีมาก่อน” กู้หงหย่งชี้ไปยังโฉนดที่ดินที่เว่ยซื่อมอบให้ “หลักการถูกผิด นางทำอย่างชัดเจนมาตลอด เ้าจะออกเรือนนางย่อมต้องใจกว้างเช่นกัน สิ่งที่คนภายนอกเห็นก็คือการอบรมสั่งสอนเลี้ยงดูของนางลูกที่นางสั่งสอนมาจะไม่ดีได้อย่างไร?"
คำพูดนี้กู้เจิงเห็นด้วย แต่สิ่งที่ทำให้นางประหลาดใจคือการที่จู่ๆบิดาก็มาพูดเื่พวกนี้กับนาง มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?
กู้หงหย่งถามต่อ “เ้ารู้ไหมว่าเหตุใดฝ่าาถึงได้ให้ตระกูลฟู่หมั้นหมายกับตระกูลหนิงอย่างกะทันหัน? คำติฉินนินทาเ่าั้ด้วยคำสั่งของฮ่องเต้จะไม่สามารถระงับไว้ได้จริงๆ น่ะหรือ?”
กู้เจิงส่ายหน้าอีกครั้ง นางจะรู้ความคิดของฮ่องเต้ได้อย่างไร
“เพราะแม่ทัพเยี่ยนผู้นั้นเดิมทีตั้งใจจะให้หลานสาวของเขาแต่งกับบุตรชายคนโตของตระกูลเซี่ยกงเจวี๋ย ฝ่าาทรงหวั่นเกรงว่าตระกูลเยี่ยนและตระกูลเซี่ยเมื่อรวมกันจะมีอำนาจใหญ่โต เมื่อเกิดเื่เช่นนี้ขึ้น ฝ่าาจึงย่อมต้องคว้าโอกาสนี้ไว้”
เซี่ยกงเจวี๋ย? กู้เจิงได้ยินชื่อเรียกนี้เป็ครั้งที่สองครั้งแรกเป็ตอนร่วมมื้ออาหารในงานล่าสัตว์ ที่นางคิดจะเข้าไปหาเสิ่นเยี่ยนเพื่อพูดคุยแต่คิดไม่ถึงว่าเสิ่นเยี่ยนจะถูกองค์ชายห้าลากไปทำความรู้จักกับบุตรชายของตระกูลเซี่ยกงเจวี๋ย