ยิ่งไปกว่านั้นทั้งสองคนเป็พี่น้องกัน นับได้ว่าถ้ามีชื่อเสียงก็มีด้วยกันถ้ามีชื่อเสียก็มีด้วยกัน คิดไปคิดมา ถ้าชื่อเสียงของต้วนชิงิถูกทำลายชื่อเสียงของต้วนอวี้หรานจะดีกว่ากันสักเท่าไหร่?
เมื่อคิดได้ดังนั้นเยวี่ยหวาจึงรีบถอยหลังพลางส่ายหัว “คุณหนูทำเช่นนี้ไม่ได้เ้าค่ะ...ถ้าทำเช่นนี้ชื่อเสียงของหญิงสาวจะ...”
ต้วนอวี้หรานขัดอย่างเยือกเย็น “เ้าจะบอกข้าว่า... ชื่อเสียงของหญิงสาวสำคัญที่สุดถ้าเป็เช่นนี้ชื่อเสียงคุณหนูใหญ่ก็หมดสิ้นยิ่งไปกว่านั้นต้วนชิงิกับข้าเป็พี่น้องกัน ชื่อเสียงต้วนชิงิถูกทำลายชื่อเสียงของข้าจะดีกว่ากันสักเท่าไหร่ ใช่หรือไม่?”
เยวี่ยหวาได้ยินแล้วจึงรีบพยักหน้าอย่างรีบร้อนนางหมายความเช่นนั้น คุณหนูก็เข้าใจแต่ทำไมกลับไม่ดีใจ?
หลังจากที่ต้วนอวี้หรานได้เห็นสีหน้าของบ่าวรับใช้ ‘เพียะ’ เสียงดังขึ้นที่หน้าของเยวี่ยหวาแม้ต้วนอวี้หรานจะตัวเล็กแต่กลับมีแรงมาก นางตบไปที่หน้าเยวี่ยหวาหนึ่งที ทำให้หน้าบวมแดงขึ้นมาทันทีบ่าวรับใช้ที่ถูกเ้านายทำโทษไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งสิ้น
“คุณ... หนู” นางพูดพึมพำ เอามือลูบแก้มที่โดนตบนางแค่พูดความจริงเท่านั้น เหตุใดถึงถูกตบเล่า?
ต้วนอวี้หรานยกมือทั้งสองขึ้นเท้าเอวอย่างโกรธจัด “เ้าเป็บ่าวของใครกันแน่ หรือเป็บ่าวของต้วนชิงิ? ข้าไม่เคยเจอบ่าวคนไหนที่ช่วยคนอื่น... ชื่อเสียงของนางหมดสิ้นของข้าก็จะหมดสิ้นด้วยงั้นหรือ... แต่ก่อนชื่อเสียงของนางฉาวโฉ่ไปทั่ว ดูข้าสิยังไม่เป็อะไรสักนิด... ข้าว่าบ่าวอย่างเ้าจะต้องถูกต้วนชิงิซื้อตัวไปแล้วจึงตั้งใจมาขัดขวางข้าใช่หรือไม่?”
เยวี่ยหวาได้ยินรีบส่ายหน้า “ไม่ใช่เ้าค่ะ... บ่าวไม่ได้...”
“เป็แค่บ่าวยังกล้าเถียงข้า...จงฟังให้ดี! ถ้าเ้ายังไม่ฟังพรุ่งนี้ข้าจะให้ท่านแม่ขายบ่าวอย่างเ้าให้หอนางโลม...”ต้วนอวี้หรานจึงพูดเสียงขึ้นไปอีก
เยวี่ยหวาหน้าซีดขึ้นจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
แต่ไหนแต่ไรต้วนอวี้หรานเป็เ้านายที่พูดคำไหนคำนั้น ถ้านางไม่ทำตามคำสั่ง ต้วนอวี้หรานคงขายนางออกไปอย่างแน่นอน
ช่างเถอะ! เยวี่ยหวารู้ว่าตนเองเป็แค่บ่าวรับใช้คนหนึ่งที่สามารถทำผิดพลาดได้เื่ของเ้านาย หรือนางจะไม่ทำแล้วปล่อยให้ตัวเองลำบาก? ต้วนอวี้หรานให้นางทำอะไร นางก็ต้องทำตามนั้น
นางก้มหน้าลง “คุณหนูใจเย็นๆ เ้าค่ะ บ่าวรับทราบแล้ว จะไปทำเดี๋ยวนี้เ้าค่ะ...”พูดจบเยวี่ยหวาจึงรีบร้อนเดินออกไป
“ใช้ไม่ได้! หากไม่โดนสั่งสอนก็คงไม่ยอมทำสินะ...”ต้วนอวี้หรานมองตามหลังบ่าวรับใช้ คลี่ยิ้มออกมา
หากทำสำเร็จนางก็แค่รอฟังข่าวดีจากเยวี่ยหวานางสะบัดผ้าเช็ดหน้าอย่างสบายอารมณ์มองไปยังไป๋หย่วนฮ่าวคล้ายจะบอกว่านางช่วยเขาจัดการต้วนชิงิให้แล้วแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือไป๋หย่วนฮ่าวไม่ได้อยู่ที่นี่ไกลออกไปต้วนชิงิยืนคุยกับต้วนอวี้ ไม่มีวี่แววของไป๋หย่วนฮ่าวอยู่ดี
ต้วนอวี้หรานมองไปทางซ้ายทีขวาทีเมื่อพบว่าไป๋หย่วนฮ่าวไปแล้ว จึงรู้สึกว่าทุกสิ่งช่างน่าเบื่อ
หากให้นางแบกหน้าไปขอให้ต้วนชิงิพานางไปเที่ยวล่ะก็ไม่มีวัน!ทว่าเสียงหัวเราะของนางช่างขัดหูขัดตาเสียจนนางทนดูทนฟังต่อไปไม่ได้ในเมื่อทำอะไรไม่ได้จึงหันหลังกลับไปยังเรือนของนาง
แม้ไป๋หย่วนฮ่าวจะไม่ได้มีท่าทีต่อนางแต่ก็ไม่ถึงกับแย่เพียงแต่เห็นไป๋หย่วนฮ่าวมีใจให้ต้วนชิงิผู้เดียวจุดนี้เป็จุดที่ลำบากอยู่บ้าง
แต่นางไม่กลัวหากนางไม่ไหวยังมีท่านแม่ที่จะซื้อใจของไป๋หย่วนฮ่าวได้
ต้วนชิงิหวนคิดถึงวิธีมัดใจชายที่หลิวหรงเคยสอนไว้นางเดินไปพลางขบคิด... ความสามารถของท่านแม่ยอดเยี่ยมที่สุดแม้แต่ท่านพ่อก็ยังเชื่อฟังคำพูดของท่านแม่เห็นได้ชัดว่าวิธีการของท่านแม่ยอดเยี่ยมแค่ไหนแต่ทำไมนางยังไม่ถึงหนึ่งในสิบของท่านแม่เลย
ต้วนอวี้หรานคิดได้เท่านี้ก็ส่ายหัวด้วยความเสียใจ
นางเคยได้ยินมาว่าตอนแรกที่ท่านพ่อรับท่านแม่เข้ามาก็ไม่ได้ชอบมากแต่ท่านแม่ใช้มารยาหญิงถึงได้ชนะใจท่านพ่อ จนมีนางและฐานะเช่นทุกวันนี้
ใช่แล้ว! จะต้องให้ท่านแม่สอนวิธีมัดใจชายเสียแล้ว
ทางด้านไป๋หย่วนฮ่าวที่ทิ้งต้วนอวี้หรานไว้เร่งเดินตามไปต้วนชิงิอย่างเร็ว ตามทางดอกไม้ขึ้นเต็มไปหมดกระทั่งเห็นเงาของคนสองคนข้างหน้าจึงหยุดลงสวนด้านหลังมีดอกไม้สวยงามขึ้นเต็มพื้นที่ ไป๋หย่วนฮ่าวเดินตามหลังของต้วนชิงิเห็นนางพูดคุยกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
หนุ่มน้อยคนนั้นอายุราวๆสิบสามปี ใบหน้าหล่อเหลา มีลักษณะคงแก่เรียนอย่างไม่สามารถอธิบายได้
ไป๋หย่วนฮ่าวได้ยินเสียงต้วนชิงิ “คุณชายหลิว ข้ากำลังจะออกจากจวนท่านช่วยกลับไปพาต้วนอวี้ไปเที่ยวกับพวกเราเถอะ!”
เพราะฐานะของหลิวยวนต้วนชิงิจึงต้องรักษาจิตใจที่เคารพไว้บ้าง แต่จิตใจที่เคารพนั้นช่างน้อยนิดเหลือเกินถ้าในสายตาของคนอื่นคงหาเื่ไม่ได้เต็มที่คงคิดว่าเป็เพียงความเคารพเลื่อมใสในความสามารถของผู้คงแก่เรียนเท่านั้นยกเว้นคนที่มีเจตนาร้ายแอบแฝงอย่างต้วนอวี้หราน
สำหรับคำแนะนำของต้วนชิงิหลิวยวนเหมือนจะไม่ค่อยดีใจเท่าไร เขาฟังนางพูดเงียบๆ นิ่งไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมา “คุณหนูต้วนรอสักครู่ ข้าไปถามคุณชายก่อนว่าจะไปด้วยกันหรือไม่!”
น้ำเสียงของหลิวยวนเยือกเย็นดูห่างเหินแสดงออกชัดเจนว่าชายหญิงแตกต่างกันเพราะหลิวยวนเป็เช่นนี้จึงสมควรได้รับความเคารพจากผู้คนนิสัยที่ตรงไปตรงมายังรู้จักธรรมเนียมกาลเทศะเนื่องจากนางรู้ว่าชาติที่แล้วหลิวยวนเป็คนดีจึงไม่ได้โกรธกับท่าทีของเขากลับกันนางมองไปยังหลิวยวน แย้มยิ้มบาง “เช่นนั้นรบกวนคุณชายหลิวด้วย!”
คำเรียก ‘คุณชาย’ จากปากของต้วนชิงิทำให้หลิวยวนอดหน้าแดงขึ้นมาไม่ได้เขาหมุนตัวเดินจากไป
ผ่านไปครู่เดียวต้วนอวี้ก็วิ่งเข้ามาในสวนดอกไม้ โผกอดต้วนชิงิ ะโอย่างดีใจ “พี่สาวพาต้วนอวี้ออกไปนอกจวนด้วยๆ”
วันนี้ต้วนอวี้สวมชุดยาวสีแดงที่เอวผูกหยกเล็กๆ ผมยาวที่อ่อนนุ่มถูกหวีและเกล้าเรียบร้อย ภายใต้แสงอาทิตย์ต้วนอวี้วิ่งเข้ามาประหนึ่งเมฆแดงที่ลอยต่ำระพื้นหญ้าเขียวขจีต้วนชิงิยืนอยู่ตรงนั้นมองน้องชายคนเดียวอย่างมีความสุข
เมื่อเห็นต้วนอวี้โผยิ้มเข้ามาใบหน้าสีแดงระเรื่อเหมือนกับผิงกั่วลูกใหญ่ ต้วนชิงิได้เห็นก็ดีใจนางกางแขนรอให้เขาวิ่งโผเข้ามาเพื่อจะได้สวมกอด “ช้าหน่อยๆไม่ใช่ว่าจะไม่รอเ้า...”
ต้วนอวี้หัวเราะ“ฮี่ๆ” หอมแก้มพี่สาวพลางพูดขึ้น “ขอบคุณพี่สาว ต้วนอวี้รู้ว่าพี่สาวใจดีที่สุด!”
เด็กสาวถูกหอมแก้มก็หน้าแดงในทันที “เ้านี่ ถ้าอยู่ต่อหน้าบ่าวรับใช้ จะเสียมารยาทแบบนี้ไม่ได้”
ต้วนอวี้ได้ฟังก็นิ่งไปทันทีน้องชายหอมพี่สาวจะเป็อะไรไป พี่สาวไม่ดีใจหรือ?
ต้วนชิงิพูดเสริมอย่างรวดเร็ว “ดูก็รู้ว่าเ้าเห็นแก่เล่น วันนี้ไม่เป็ไร ถือว่าออกไปเที่ยวพวกเราไปกันเถอะ!”
ในที่สุดเขาก็ได้ไปเที่ยวแล้ว...
ความรู้สึกไม่สบายใจหายวับไปกับตาบนหน้าเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ เขาลากมือของต้วนชิงิ หัวเราะออกมา “ได้ไปเที่ยวแล้วๆๆๆ ...”
ต้วนชิงิก้มหน้าลงเห็นเพียงใบหน้าซีดขาวของต้วนอวี้แดงเรื่อขึ้นมาเมื่อมองไปที่รอยยิ้มบนหน้าของน้องชายที่เบ่งบานเหมือนดอกไม้นางอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างดีใจ กุมมือต้วนอวี้ไว้แน่น