ถอนหมั้น?นางชาเขียวคิดเช่นนี้จริงหรือ?ใจดีขนาดนั้นเชียว?เมื่อนางถอนหมั้นกับซ่งจื่อเฉินแล้ว ต้องให้นางแต่งกับคนอื่นเป็แน่ แทนที่จะอยู่ให้พวกเขาใช้งาน มิสู้แต่งกับซ่งจื่อเฉินไปเสีย ขอแค่นางดูแลซ่งจื่อเฉินดีๆ เชื่อว่าซ่งผิงไม่มีทางทำนางลำบากใจแน่
“เซวียนเซวียน พวกเราถอนหมั้นกับบ้านซ่งกันเถิด” เกาซื่อเห็นแก่ผลประโยชน์มาแต่ไหนแต่ไร พอได้ยินเสี่ยวเกาซื่อแนะนำนางเลยคล้อยตาม นางคิดว่ารูปโฉมเช่นจิ่นเซวียนต่อให้ไม่ได้แต่งเป็ฮูหยินตระกูลคหบดีก็พอเป็อนุภรรยาได้!ขอเพียงนางได้เงิน แต่งเข้าไปแล้วหลานจะอยู่ดีหรือไม่นางไม่สนใจหรอก
“ท่านย่า บ้านซ่งมิได้หลอกง่ายนะเ้าคะ หากข้าเป็ฝ่ายถอนหมั้นคนไม่หัวเราะเยาะเราที่ไม่รักษาสัจจะหรือเ้าคะ เฮ้อ ตัวข้าไม่กลัวหรอกเ้าค่ะ แต่กังวลเื่อนาคตของท่านพ่อกับชื่อเสียงท่านปู่เ้าค่ะ” ความคิดต่ำช้าของเกาซื่อกับเสี่ยวเกาซื่อจิ่นเซวียนรู้ดี นางมองออกว่าย่าชั่วร้ายห่วงใยท่านพ่อเฮงซวยที่สุด เมื่อเกี่ยวข้องกับท่านพ่อ เกาซื่อจะให้ท่านพ่อมาก่อนเสมอ
“เ้าดีเลิศถึงเพียงนี้ ข้าทนไม่ได้หรอกที่เ้าจะต้องแต่งกับซ่งจื่อเฉิน” เกาซื่อเกลี้ยกล่อมจิ่นเซวียนต่อ หน้าตาอย่างนางเข้าวังเป็สนมในวังได้สบาย ยิ่งกว่านั้นนางอายุยังไม่สิบห้าเต็ม แต่งออกเช่นนี้มิน่าเสียดายหรือ
“ท่านย่า แต่งให้ซ่งจื่อเฉินก็ดีแล้วเ้าค่ะ อย่าเกลี้ยกล่อมข้าอีกเลย” ชีวิตใหม่นี้ นางจะไม่ปล่อยให้ใครมากลั่นแกล้งอีก แต่งให้ซ่งจื่อเฉินเป็แค่แผนรับมือชั่วคราวเท่านั้น เมื่อใดที่นางมีกำลังพอปกป้องตัวเอง นางจะไม่อยู่เฉยให้ใครมารังแกแน่
“ท่านแม่ เซวียนเซวียนกับซ่งจื่อเฉินผูกดวงชะตากันแล้ว จะถอนหมั้นต้องผ่านจวนว่าการด้วย ช่างมันเถิดขอรับ พวกเรารีบไปเตรียมของจัดงานแต่งกัน” ซย่าหลี่จวินขัดคำพูดเกาซื่อ ให้เริ่มเตรียมของจัดงาน บ้านซ่งมิใช่ตระกูลธรรมดาเขามิกล้าล่วงเกิน
“สามี เื่นี้ให้ข้าจัดการเถิด ข้ารับรองว่าจะทำให้สำเร็จเรียบร้อยแน่เ้าค่ะ” เสี่ยวเกาซื่ออยากทวงความโปรดปรานของสามีกลับคืนมาเลยขอจัดงานแต่งให้จิ่นเซวียนเอง
“ข้าคิดคร่าวๆ ไว้แล้ว ต้องเตรียมโต๊ะหกสิบตัวถึงจะพอ งานแต่งชุนอวิ๋นครั้งนั้นก็มีแขกมามากกว่าห้าสิบโต๊ะ” ซย่าหลี่จวินวางแผนตามมาตรฐานงานแต่งของน้องสาว อย่างไรเขาก็ไม่เสียหาย
“ท่านพ่อ บุตรสาวบ้านไหนแต่งงานล้วนต้องเตรียมผ้านวมสี่ผืนไว้ทั้งสิ้น ข้าไม่มีแม้แต่ผืนเดียว ดังนั้นควรเตรียมไว้หรือไม่เ้าคะ” จิ่นเซวียนไม่อยากโดนคนบ้านสามีดูแคลน สินสมรสที่พึงมีนางก็ต้องมี ผ้านวมเพียงสี่ผืนท่านพ่อเฮงซวยจะเสียเงินเท่าใดกันเชียว
“ท่านแม่ ข้าคิดว่าพวกเราเตรียมผ้าห่มหกผืนให้เซวียนเซวียนกันเถิดขอรับ สามผืนห่มตอนหน้าร้อน อีกสามผืนห่มตอนหน้าหนาว ท่านคิดเห็นเช่นไรขอรับ?” ซย่าหลี่จวินใจกว้าง ถามความเห็นเกาซื่อว่าทำผ้านวมเพิ่มให้จิ่นเซวียนอีกสองผืนดีหรือไม่
“ลูกสาวคนโตบ้านซย่าจะแต่งงานทั้งที จะจัดงานกระจอกๆ ได้อย่างไร เช่นนั้นก็ให้ผ้านวมหกผืน โต๊ะเครื่องแป้งหนึ่งตัวและตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่หนึ่งหลังแล้วกัน” เกาซื่อเพิ่มสินสมรสให้อีกสองรายการจนจิ่นเซวียนประหลาดใจ
“เซวียนเซวียน ไม่ขอบคุณท่านย่าเ้าหรือ” หายากที่ท่านแม่จะเปิดใจเช่นนี้ ซย่าหลี่จวินพอใจมาก ก่อนหน้านี้ที่จิ่นเซวียนเสียงดังเอะอะโวยวาย คนในหมู่บ้านเลยรอเยาะเย้ย เช่นนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้งานแต่งจิ่นเซวียนกู้ชื่อเสียงตนเอง
“เซวียนเซวียนขอบคุณท่านย่า ขอบคุณท่านพ่อเ้าค่ะ” จิ่นเซวียนโค้งคำนับเกาซื่อแม่ลูก นางมิได้ซาบซึ้งอะไรนัก ของเหล่านี้เมื่อเทียบกับสินสอดทองหมั้นแล้ว เทียบไม่ติดเสียด้วยซ้ำ เครื่องเรือนพวกนี้มีทั้งถูกและแพง อย่างโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้าที่พูดถึงเมื่อครู่ราคารวมกันเพียงห้าหกตำลึง จากนิสัยของเกาซื่อต้องซื้อของคุณภาพแย่ให้นางเป็แน่
เฮอะ พวกเขาอยากเล่นงิ้วนางก็จะเล่นด้วย อย่างไรเสียนางก็ไม่ขาดทุน และหากพวกเขามิให้อะไรสักอย่างเดียว นางก็ทำสิ่งใดไม่ได้อยู่ดี
จิ่นเซวียนหูดีเลยได้ยินเสียงเปรี๊ยะๆ คล้ายเสียงฝนตก เมื่อเงยหน้ามองจึงเห็นควันหนาทึบลอยมาจากทางครัว ซย่าจิ่นอวิ๋นเห็นควันดำเช่นกันเลยกรีดร้องจนคนอื่นหันไปทางห้องครัว
“ยัยลูกสะใภ้ไม่เอาไหน เ้ายังไม่รีบไปดับไฟอีก” เกาซื่อเห็นเสี่ยวเกาซื่อยืนนิ่งเลยยกขาถีบ นางกระทืบเท้าเจ็บใจแล้ววิ่งไปทางครัว โชคดีที่ไหม้เพียงหม้อข้าว ไม่เช่นนั้นทั้งห้องคงไม่เหลือซาก
จิ่นเซวียนตามพ่อชั่วร้ายมาถึงห้องครัวจนแน่ใจว่าจะไม่เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นมาอีกจึงค่อยไปบ้านท่านอาเล็ก
บ้านท่านอาเล็กอยู่ในหมู่บ้านซย่า ห่างบ้านนางไปไม่กี่ลี้ [1] จิ่นเซวียนเดินตามถนนในหมู่บ้าน ผ่านดินลูกรังจนพบแม่หญิงออกเรือนเก็บถั่วฝักยาวในสวน นางกล่าวทักทายอย่างสุภาพ
“ท่านย่าเล็กเ้าคะ ถั่วฝักยาวบ้านท่านโตดีนักเ้าค่ะ”
“……ถั่วพวกนี้โตไว หากไม่เก็บจะแห้งเอา เซวียนเซวียนจะไปไหนหรือ?” สตรีออกเรือนที่จิ่นเซวียนเรียกท่านย่าเล็ก นางมีนามว่าสวี่ติ้งหรง อายุประมาณสี่สิบปี สามีนางคือซย่าเม่าหลิน ญาติรุ่นเดียวกับท่านปู่ จิ่นเซวียนเลยเรียกนางว่าท่านย่าเล็ก
ว่ากันว่านางเป็สหายที่ดีที่สุดของแม่จิ่นเซวียน เพราะเมื่อยี่สิบปีก่อนท่านแม่เคยช่วยชีวิตนางไว้
สวี่ติ้งหรงกับซย่าเม่าหลินมีลูกทั้งหมดสามคน ลูกสาวคนโตและลูกสาวคนรองแต่งงานมีลูกแล้ว ส่วนลูกชายคนเล็กนามว่าซย่าหลี่เจ๋อควรแก่การกล่าวถึงยิ่งนัก เขาโตกว่าจิ่นเซวียนสองปี เอ็นดูจิ่นเซวียนเหมือนหลานตัวเองมาั้แ่เล็ก แม้เขากับจิ่นเซวียนจะเป็ญาติคนละรุ่นกันแต่คุยถูกคอยิ่งนัก อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็สหายเพียงคนเดียวของจิ่นเซวียนในหมู่บ้านซย่า
“เซวียนเซวียนเมื่อไม่กี่วันก่อน อาน้อย [2] ฝากคนเอาผ้าไหมดอกไม้มาให้เ้าดอกหนึ่ง เดี๋ยวข้าไปหยิบมาให้” สวี่ติ้งหรงวางถั่วฝักยาวลงตะกร้า แล้วยิ้มให้กับจิ่นเซวียน “ช่างดียิ่งนักที่เ้าฟื้นขึ้นมา”
“ท่านย่าเล็ก ข้าฝากขอบคุณท่านอาน้อยด้วยเ้าค่ะ” คนนอกคิดถึงนางเช่นนี้ จิ่นเซวียนซาบซึ้งใจนัก พอกลับมามองท่านพ่อกับท่านย่าผู้ชั่วร้ายแล้ว ช่างน่าหดหู่นัก ท่านอาน้อยออกไปเป็หน่วยคุ้มกันภัยด้านนอกตลอดทั้งปี พอมีของแปลกใหม่น่าสนใจก็จะนำกลับมาให้นางเสมอ
“เด็กโง่ เกรงใจอะไรกัน หากปีนั้นแม่เ้าไม่เสี่ยงชีวิตดูดพิษให้ข้า ข้าคงโดนงูพิษกัดตายไปนานแล้ว” สวี่ติ้งหรงรู้จักบุญคุณคน จนถึงตอนนี้นางยังจำความใจดีที่แม่จิ่นเซวียนมีต่อนางได้ อาจเพราะเช่นนี้นางถึงใส่ใจจิ่นเซวียนเป็พิเศษ
“ท่านย่าเล็ก ข้าอยู่คุยกับท่านไม่ได้แล้ว ข้าต้องไปบ้านท่านอาเล็กหารือเื่บางอย่างกับนางเ้าค่ะ” พอจิ่นเซวียนนึกเื่ที่ย่าชั่วร้ายมอบหมายมาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“จริงสิ เซวียนเซวียน วันมะรืนบ้านซ่งจะส่งเกี้ยวมารับ เ้าจะทำอย่างไรหรือ?” สวี่ติ้งหรงรั้งจิ่นเซวียนเพื่อถามเื่แต่งงาน จิ่นเซวียนบอกว่านางทำอะไรไม่ได้ ใครให้พ่อเฮงซวยรับเงินสินสอดหกสิบแปดตำลึงของบ้านซ่งมาไว้แล้วเล่า
เกาซื่อปฏิบัติกับเซวียนเซวียนเช่นนี้โหดร้ายนัก นางแก่เลอะเลือนหรือไร ซ่งจื่อเฉินคนนั้นต่อให้หน้าตาดีเพียงใดก็เป็คนพิการ นางอยากให้เซวียนเซวียนปรนนิบัติซ่งจื่อเฉินไปตลอดชีวิตหรือ?
สวี่ติ้งหรงเมื่อเห็นว่าไม่มีหนทางช่วยจิ่นเซวียนก็กระทืบเท้าโกรธเคือง
“พวกนางทำกับเ้าเช่นนี้ สักวันกรรมจะตามสนองไม่ช้าก็เร็ว”
“ท่านย่าเล็ก บางทีบ้านซ่งอาจน่าอยู่ก็ได้เ้าค่ะ ท่านไม่ต้องห่วงข้านะเ้าคะ” สำหรับจิ่นเซวียนแล้ว การแต่งเข้าบ้านซ่งก็เป็เพียงแค่การเปลี่ยนที่อยู่เท่านั้น
“บ้านซย่าหาคนส่งตัวให้เ้าหรือยัง?ท่านย่าเ้าให้สินสมรสเท่าใด?” สวี่ติ้งหรงอยากช่วยเหลือจิ่นเซวียนแต่นางมีกำลังจำกัด เลยได้แต่เป็เดือดเป็ร้อนแทนในใจ
“เื่สินสมรสคลี่คลายแล้วเ้าค่ะ ไม่ด้อยไปกว่าสินสมรสของลูกสะใภ้บ้านซ่งคนอื่น ส่วนคนส่งตัวยังไม่ได้กำหนด หากท่านย่าเล็กไม่รังเกียจ ท่านก็มาส่งข้าออกเรือนพร้อมท่านอาน้อย และท่านปู่เล็ก [4] ดีหรือไม่เ้าคะ”
สวี่ติ้งหรงเมื่อได้ยินว่าสินสมรสของจิ่นเซวียนไม่ด้อยไปกว่าลูกสะใภ้บ้านซ่งคนอื่นก็วางใจ ส่วนเื่ส่งตัวนางยินดีทำยิ่งนัก
“อาน้อยเ้าเพิ่งกลับมาจากคุ้มกัน วันพรุ่งข้าจะให้ปู่เล็กเรียกเขากลับมา” เชิญคนส่งตัวควรเป็หน้าที่พ่อ แต่นางไม่อยากให้พ่อเฮงซวยเชิญพวกคนโอหังไปบ้านซ่ง นางเลยเลือกคนส่งตัวเอง
“เ้ามีธุระก็รีบไปจัดการก่อนเถิด พวกเราค่อยคุยกันคราวหลัง” สวี่ติ้งหรงโบกมือลาจิ่นเซวียนอย่างรักใคร่เอ็นดู
จิ่นเซวียนเดินใกล้จะถึงบ้านท่านอาเล็กแล้ว ขณะเดียวกับที่ซ่งผิงเดินทางถึงบ้านซ่ง เมื่ออยู่หน้าประตูก็ได้ยินภรรยากับเฉินซื่อ ลูกสะใภ้คนโตนินทาลูกชายคนเล็กในลานบ้าน ซ่งผิงได้ยินคำพูดน่าขยะแขยงจนเขาอยากทุบตีคน
เชิงอรรถ
[1] ลี้ หมายถึง มาตราวัดระยะทางของจีน 1 ลี้ ยาวประมาณครึ่งกิโลเมตร
[2] อาน้อย หมายถึง ลูกพี่ลูกน้องของพ่อซึ่งก็คือซย่าหลี่เจ๋อในตอนนี้
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้